ผู้เขียน หัวข้อ: ขอสอบถามเป็นความรู้ครับ รถ plug-in hev มัน self charging ได้มากน้อยแค่ไหน  (อ่าน 3010 ครั้ง)

ออฟไลน์ DapKnihtHD

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 173
ถ้าเทียบกับ hybrid ญี่ปุ่นอย่าง cross , chr ที่ระบบจะจัดการเรื่องชาร์จไฟกลับแทบตลอดเวลา
แต่นั่นคือแบตก้อนเล็ก

ถ้ามองแบบคนไม่เคยสัมผัสรถ hev , plug-in hev
สมมติเป็น  nx450h+ แบต 18 kwh ที่เคลมว่า 8x km  ถ้าเกิดว่าชาร์จเต็มแล้วออกไปวิ่ง ev ในเมืองซัก 30 โล แล้วซัดยาว 300-400 โล
พอไปถึงปลายทางมีขับธุระในเมืองอีก 20-30 โล 

ช่วงที่เราซัดยาวมันปั่นไฟกลับเข้าแบบไหนครับ  ดูรีวิว 450h+ เข้าใจว่ามันมี 3 mode คือ auto , hybrid , ev
ถ้าตอนเราวิ่งในเมืองเลือก  ev  ช่วงยิงยาว เลือก hybrid  พอจะวิ่งในเมืองปลายทางก็เลือกกลับมา ev อีก แบตที่วิ่งไปแล้ว 30 โล มันจะเพิ่มหรือลดมากน้อยแค่ไหนครับ

คือถ้าเรา maintain ดี ๆ  เราจะได้ขับ ev ในเมือง  วิ่งยาวได้ใช้ประโยชน์จากการเป็น hybrid self charging เพื่อได้ไฟกลับมาวิ่ง ev ในเมืองอีก
หรือถ้าเทียบกับ plug-in เยอรมันอย่าง 330e ,530e  จะมีภาพรวมเป็นแบบไหนครับ

คำถามอาจจะกว้าง ๆ หน่อย แต่ไม่รู้จะถามยังไงให้กระชับได้ใจความ 
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ



ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,705
คำถามมุ่งประเด็นไปที่การชาร์จไฟกลับด้วยตัวรถนะครับ

อันนี้ต้องตอบก่อนว่า

1. มันขึ้นกับระบบ HEV ของ รถรุ่นนั้นๆ
เช่น Nissan และ Honda  ใช้วิธีเอาเครื่องไปปั่นไฟใส่แบต แล้วมอเตอร์ก็ดูดไฟ
จากแบตไปใช้อีกที เครื่องไม่ได้ไปหมุนล้อโดยตรง ยกเว้น Honda ที่ให้เครื่องไปหมุนล้อ
โดยตรงที่ความเร็วสูงแล้ว ซึ่งตอนนั้นตัวรถก็ตัดระบบไฟฟ้าออกไปเหมือนรถน้ำมันธรรมดาคันนึง
พอเป็น PHEV ก็เลยเสียบปลั๊กเติมไฟเข้าแบตได้ตรงๆ ก็ชาร์จจากบ้านรอไว้ก่อนได้เลย 
ส่วนToyota จะซับซ้อนมาก เพราะทั้งเครื่อง ทั้งมอเตอร์ ทั้งแบต มันทำงานรวมกัน
ตามแต่จังหวะที่ ECU สั่งงาน บางทีก็วิ่งไฟฟ้าล้วน บางทีเครื่องก็ปั่นไฟเข้ามอเตอร์
บางทีเครื่องก็ทั้งปั่นไฟ ทั้งวิ่ง ทั้งชาร์จ ในเวลาเดียวกัน วุ่นวายไปหมด การเพิ่มระบบ
PHEV เข้ามาก็แค่เติมไฟจากบ้านมาก่อนได้และระบบจะตัดสินใจเองว่าจะใช้พลังงานอะไร
ในการวิ่งครับ

2. จริงๆ แล้ว Mode ต่างๆ ที่มีให้เลือกนั้น สุดท้ายแล้วระบบมันจะตัดสินใจเองอยู่ดีครับ
ว่าจะใช้พลังงานอะไรในการวิ่ง แต่โดยพื้นฐานแล้วมันจะพยายามใช้ไฟฟ้าให้ได้มากที่สุด
อยู่แล้วเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนครับ

เท่าที่ใช้รถ HEV มา มันเอาพลังงานที่เราเบรคทิ้งในแต่ละครั้งนี่แหละกลับมาใช้ใหม่
พี่เคยสังเกตมั้ยว่ารถรุ่นเดียวกันที่วิ่งไปบนสภาพจราจรเดียวกัน คันที่เป็น ICE อาจทำได้แค่
11-12 กม/ลิตร แต่ HEV มันทำได้ถึง 21-21 กม/ลิตร  ซึ่งมันคือเอาแรงเบรคมาชาร์จไฟ
เก็บแล้วเอามาจ่ายกลับให้มอเตอร์วิ่งตอนแตะคันเร่งออกไปไงครับ  ดังนั้นเรื่องชาร์จจึง
ไม่ใช่แต่ชาร์จด้วยเครื่องเท่านั้น แต่การเบรคในแต่ละครั้งเนี่ยได้ไฟกลับมาเยอะเลยครับ





ออฟไลน์ bestjita

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 53
    • อีเมล์
330e ที่ผมใช้นะครับ
จะมี 3 โหมด
1. HEV ทั่วไป ขับด้วยไฟฟ้า ถ้าความเร็วเกิน 60กม./ชม. จะตัดเป็นเครื่องยนต์ มีการชาร์จไฟตลอดขณะเบรก เหมือน ไฮบริดจทั่วไป
2.EV ขับด้วยไฟฟ้า ถ้าความเร็วเกิน 120กม./ชม จะตัดเป็นเครื่องยนต์ มีการชาร์จไฟตลอดขณะเบรก อันนี้ถ้าวิ่งจนแบตหมด จะกลายเป็นโหมด1 โดยอัติโนมัต เหมาะกับวิ่งใกล้ในระยะแบต เพราะจะได้ไม่ต้องใช้น้ำมันเลย
3. Save Batt  อันนี่วิ่งเครื่องยนต์ล้วน  วิ่งไปชาร์จแบตไปด้วย สามารถชาร์จแบตได้ถึง 90% แต่กินน้ำมันสุด

เท่าที่ลอง ถ้าขับเกินระยะแบต ใช้โหมด 1
ถ้าขับใกล้ๆ ใช้โหมด 2

ปล. วิ่งทางไกล แบตหมดเมื่อไหร่ กินน้ำมันมากกกว่า 320d อีกครับ

ออฟไลน์ solo

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 525
    • อีเมล์
-รถ plug-in hev มัน self charging ได้มากน้อยแค่ไหน
น้อยมาก เพราะการใช้น้ำมันไปปั่นไฟมันแพง ใช้ไฟบ้านดีกว่า รถ PHEV จะพยายามใช้ไฟในแบตก่อน พอแบตหมดค่อย Self Charge

- cross , chr ระบบจะจัดการเรื่องชาร์จไฟกลับแทบตลอดเวลา
แต่นั่นคือแบตก้อนเล็ก แต่ PHEVแบตก้อนใหญ่ มันจะไม่ Charge ตลอดเวลา มัน Charge พอให้มีค้างบ้างเล็กน้อย ลองคิดดูหาก Charge จนเต็มพอคุณไปถึงจุดหมายปลายทางจะCharge ไฟบ้านปรากฎว่าแบตเต็ม อดCharge เปลืองค่าน้ำมัน
 



ออฟไลน์ tadto

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 309
น้อยมากครับ

ในกรณีของ xc60 ที่ผมใช้อยู่ ถ้าไม่ hold batt ไว้ รถจะพยายามใช้ไฟให้หมดก่อนครับ

วิธีที่ผมใช้จะคล้ายๆที่ จขกท. พิมพ์มา คือวิ่งไประยะนึงแล้ว hold แบตไว้ไปใช้ในเมือง
ต่ออะไรแบบนี้ แต่ถ้าให้พูดตรงๆกรณีของรถผมคือแทบไม่ปั่นกลับเลยครับ เวลา hold ไว้
ยังไงเมื่อรถติดไฟแดง รถมันจะดึงไฟฟ้ามาใช้แทบจะทันทีครับ

ถามว่าชาร์จกลับเยอะมั้ย ตอบเลยว่าไม่เยอะครับ ยิ่งกดโหมดที่ปั่นไฟกลับเข้าแบตยิ่งกินน้ำมันเยอะ

จะมีชาร์จเข้าไวหน่อยเวลาลงเขาครับ ผมเคยใช้จนแบตหมดแล้วขับข้ามเขาใหญ่กลับมาได้แบตคืน
มา 5กม.จากระยะเต็มที่ของแบตที่ 35 กม.

จุดนี้อาจจะต้องทำความเข้าใจกับตัวรถให้ดีๆก่อนครับ phev คงไม่สามารถรีเจนแบตกลับได้ขนาดนั้น
สิ่งที่ทำได้คือทำแบบที่ผมบอกครับ วิ่งทางไกลเราก็ hold batt ให้มากที่สุดเพื่อเอาไว้ใช้ในเมืองรถติดๆครับ

สิ่งแปลกๆอีกอย่างนึงของ xc60 คือเมื่อใช้กับ navigator ของรถแล้ว จะประหยัดน้ำมันขึ้นมากโขเลยครับ
รถจะจัดการการใช้พลังงานได้ดีมากๆ แบตจะไปหมดใกล้ๆกับเราถึงจุดหมายพอดีๆเลย แต่ถ้าไม่ใช้ navi
รถจะดึงไฟไปใช้ก่อนเป็นอันดับแรกเลยครับ

ลองอ่านไว้เป็นกรณีศึกษาละกันครับ

ปล.ถ้าเคินทางไกลๆเช่นไป 200 โลแล้วไม่มีที่ชาร์จแล้วต้องขับรถกลับ ส่วนตัวผมแนะนำว่าสงวนแบตไว้ใช้ขา
กลับจะดีกว่ามาก ไม่งั้นอาจจะมีความตกใจกับเครื่องที่ติดขึ้นบ่อยๆครับ กล่าว พยายามสงวนแบตให้มากที่สุดจะ
ดีที่สุดครับ จาก ปสก ส่วนตัว

ออฟไลน์ Carrera

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,340
รถปลั้กอินไฮบริดโดยทั่วไป ออกแบบระบบให้ชาร์จไฟจากภายนอกครับ  ตัวเครื่องยนต์จะต่อกับมอเตอร์ไฟฟ้าตรงตำแหน่งทอร์คคอนเวอร์เตอร์ครับ  และต่อกับชุดเกียร์เพื่อส่งกำลังไปที่ล้อ เพราะแบบนั้น การออกแบบระบบ ไม่ได้ดีไซน์มาเพื่อประสิทธิการชาร์จไฟกลับแต่ดีไซน์เพื่อใช้ที่ความเร็วต่ำในเมืองเป็นหลักครับ
ดังนั้น การติดเครื่องเพื่อให้ชาร์จไฟ จึงมีประสิทธิภาพต่ำกว่า และกินแรงเครื่องมาก ในการใช้มอเตอร์ปั่นไฟครับ ประกอบกับเครื่องยนต์ทำงานปกติแบบ Otto Cycle + Turbo มันทำความประหยัดสู้เครื่อง NA+ Adkinson Cycle ของพวก Toyota ไม่ได้ ดังนั้นถ้าถามว่าชาร์ตกลับไหม  แค่ตอนเบรค กับใช้ Charge โหมด ซึ่งกระแสไฟที่ได้ กับอัตราการกินน้ำมันที่เพิ่มขึ้นไม่คุ้มครับ  วิ่งน้ำมันล้วนตอนเดินทางไกล ประหยัดกว่าชาร์จเพื่อใช้ไฟฟ้าครับ




ทีนี้ เท่าที่เคยค้นๆ PHEV Toyota แตกต่างจากเจ้าอื่นครับ  มันเหมือนลูกครึ่ง ระหว่าง Hybrid ปกติ แต่ PHEV  มันทำงานแบบ Toyota hybrid Synergy Drive
ปกติ ที่มีมอเตอร์สองตัวทั้งในส่วน Motor generator/ กับอีกมอเตอร์ที่เป็น Motor Drive Unit ต่อกับชุดเฟือง Planetary ไปยังล้อ (เป็นสาเหตุที่เรียก ECVT เพราะมันทดเกียร์ได้แบบ CVT แต่ไม่มีสายพาน ใช้มอเตอร์ส่งกำลัง)  และตัวMotor Generator นั้นมันกินกำลังเครื่องน้อยครับ  หมุนชาร์จไฟได้ตลอดเวลาที่เครื่องติด เพราะแบบนั้น จะเห็นแบตไฮบริด แทบจะเต็มตลอด เวลาขับรถทางไกลที่ความเร็วสูงๆ



แต่ทีนี้ Toyota PHEV มีการติดตั้งมอเตอร์ชุดหลังเพิ่มเติม + แบตเตอรี่ลิเทียมลูกใหญ่ ไว้ในสำหรับการใช้งานในรูปแบบปลั้กอิน

แต่ที่ผมไม่มั่นใจและยังหาข้อมูลไม่ได้เท่าไหร่คือ Toyota THS ในเจนหลังๆ มีการอัพเกรดตัว Motor Generator ทำให้การชาร์จไฟกลับได้เร็วมากกว่าเจนแรกค่อนข้างเยอะ และไฟเต็มจนล้นในกรณีที่ใช้เครื่องยนต์เดินทางไกล ถ้าแบบนั้น กระแสไฟส่วนเกินนี้จะถูกชาร์จกลับไปยังแบตเพื่อใช้งานระบบไฮบริดสลับกับ EV ได้แค่ไหนยังไง อันนี้ ผมไม่ได้ลองใช้ NX450h+ ยาวๆ ผม ก็ไม่ทราบอัตราสิ้นเปลืองจริงๆ ครับ 

แต่ถ้าตามที่ผมคิด คือได้ข้อดีของไฮบริดปกติ ที่ชาร์จไฟกลับได้ดี และมีพละกำลังสูงซึ่งเน้นจากมอเตอร์ไฟฟ้ามากกว่าเครื่องยนต์  และความประหยัดของเครื่องยนต์น้ำมันที่ทำงานแบบ Atkinson Cycle ตอนเดินทางไกล ก็จะได้เปรียบเครื่องยนต์ Turbo + Otto Cycle ครับ แต่การแบกน้ำหนักแบตเพิ่ม อาจจะทำให้ความประหยัดดรอปลงนิดนึง  ถ้าตามที่ผมสันนิษฐานนะ

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 17, 2022, 02:32:43 โดย Carrera »

ออฟไลน์ wsonpee

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 385
    • อีเมล์
ใช้ phev สองคันครับ
Xc60 ดีที่ hold batt ไว้ จะช่วยเลี้ยงแบตไว้ไม่ให้ลดลง ทำให้เราเหลือแบตไว้เผื่อไว้วิ่งในเมือง แต่เวลา กด mode charge จะชาร์จกลับเข้าช้าหน่อย ถ้าปล่อยให้ regen เอง ได้น้อยมากรถปี 19

530e mlci คันนี้ กดโหมดชาร์จจะได้ไฟกลับมาเร็วกว่า ผมใช้โหมดนี้ตอนขับเร็วๆ ส่วนใหญ่ผมจะใช้ mode adaptive ให้รถจัดการให้ จะเห็นว่าไฟกลับเข้ามา 2-3 กม.

ออฟไลน์ Mos37257

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 682
    • อีเมล์
ของเเบรนด์อื่นผมไม่ทราบการทำงาน เเต่ถ้าเป็น NX450h+ต้องเเยกว่าถ้าจะใช้EV ช่วงเเรก30โล
เเละซัดยาวต่อ ตอนที่ซัดคุณต้องไปใช้โหมด HV นะครับ ถ้าคุณใช้โหมด Autohv/ev นั่นหมายความว่า
พลังงานของระยะทางวิ่ง EV จะถูกเอามาใช้ด้วยครับ
ในคำถามว่า self charging ได้ขนาดไหนต้องตอบว่ามันมากกว่าการ self chraging ใน NX350h อีกคับ
อาจเนีองด้วยพื้นฐานมันเป็นรถ hybrid ไม่ใช่แบบ330e หรือ c300ที่เอาเครื่อเบนซินมาทำ
สังเกตุจากการหน่วงของNX450h ในขณะปล่อยคันเร่งนั้นหน่วงมากกว่า350h ชัดเจน
เเละหากคุณขับในเมืองในโหมด hv mode ระยะทางของ ev mode จะเพิ่มอัตโนมัติจากการปล่อยคันเร่งเเละเบรคครับ ซึ่งจากที่ผมเคยลองระยะสั้นๆครึ่งชั่วโมงก็สามารถเพิ่มระยะทางได้2-3กิโลเมตรเหมือนกันครับ

หรือถ้าใช้โหมด charging เลยผมขับในระยะเวลาประมาณ50นาที ก็ได้ระยะทางวิ่งกลับคืนมาประมาณ40กว่ากิโลเมตรครับ อันนี้ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 17, 2022, 11:32:21 โดย Mos37257 »

ออฟไลน์ imvile

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 623
c350e w205 mode :

Hybrid เท่าที่สังเกต ถ้าไม่ได้ชาร์จแบตเลย จะมีแบตราวๆ 5-20% ไม่ได้ชาร์จเกินนี้ เหมือนถ้าเกินรถมันจะตัดมาใช้พลังงานจากไฟฟ้ามากขึ้น เข้าใจว่าเหลือเพื่อกดแซง
EV ล้วน โฆษณาว่า 33 โล ของจริงถอดปลั๊กตอนซื้อใหม่ ev range ขึ้นแค่ 31 (ไม่เคยเห็น 33 เลย) ขับจริงถ้าวิ่งทางด่วน/ความเร็วค่อนสูงได้ 10 ปลายๆ
E-save จะไม่ใข้พลังงานไฟเลย ส่วนมากจะกดก่อนขึ้นวิ่งทางด่วน แล้วไปใช้ EV ในเมือง ทำ combo เป็นจะประหยัดมาก
E-charge เครื่องติดปั่นไฟ รอบประมาณ warm เครื่อง เคยได้สูงสุด 90% แต่ไม่รู้ว่าทำไมทำไม เปลืองน้ำมัน ถ้าไม่มีปลั๊ก ก็จะใช้ mode อื่น นึกออกอย่างเดียวคือชาร์จไว้เผื่อเปิดแอร์รอลูกเลิกเรียน (แต่ยังไม่มีลูก  :-X )

efficacy self chage ไม่แน่ใจ แต่ถ้าไม่ได้เสียบปลั๊ก ทางไกลก็ได้ 13-14km/L ก็เหมือนรถเครื่อง 2 พันทั่วไป แต่ก็กินกว่า 320i f30 ที่ปีเก่ากว่า และกินกว่า camry hybrid
J32 since 2011
F30 since 2014
W205 since 2019
ACV70 since 2021

ออฟไลน์ iPeck

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 60
ใช้ 330e G20 อยู่ ชาร์จไฟเต็มวิ่งได้ 38-60 Km.
โหมด Hybrid , Adeptive รถจะใช้ไฟก่อนเสมอ จนความเร็วเกิน 110 เครื่องถึงติดขึ้นมา ยกเว้นโหมด Electric จะใช้ไฟฟ้าได้ถึง 140 Km/h

เวลาไฟหมด รถจะชาร์จกลับน้อยมาก ตัวเลขระยะทางที่รถชาร์จกลับคือ 1 Km. แค่นั้น
 BMW ตระกูล PHEV แบตจะไม่บอก % บนหน้าจอ จะบอกแค่ระยะทางที่วิ่งได้ อยากรู้ %แบต ต้องเข้าไปดูใน App บนมือถือ

ไฟหมด กด โหมด Battery control จะใช้เครื่องยนต์มาปั้นไฟเข้าแบต ตั้งได้ตั้งแต่ 30-100% หรือชาร์จไฟมาเต็ม ล็อค %แบตไว้ที่เท่าไหร่ รถจะล็อคไฟไว้ที่ระดับนั้น ส่วนใหญ่ไม่ค่อยใช้กันเปลืองน้ำมันมาก

ไฟหมด กด โหมด Sport / Xtraboots ได้ไฟกลับมาเรื่อยๆ คล้ายๆ Battery Control

จากโหมดที่มีทั้งหมด ถ้า โหมด Hybrid คือรถชาร์จกลับมาน้อยมาก หรือชาร์จเพื่อให้ได้ไฟไว้ออกตัวความเร็วต่ำๆ และไฟไว้เลี้ยงระบบแอร์แค่นั้น

ออฟไลน์ PaPaMan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,185
ขอตอบในฐานะคนใช้ 530e รุ่นแบต 12kWh มาปีเศษนะครับ


คุณต้องวางแผนการเดินทางถึงจะประหยัดครับ เอาแบบไฟหมดตอนขับถึงบ้านได้ดีที่สุด (เข้าบ้านก็ชาร์จเลย)
ผมจะใช้ EV โหมดถ้าขับอยู่ใน range ไม่เกิน 50 กม.


ถ้าขับความเร็วสูงหรือขับนอกเมืองลอยตัวก็กดโหมด battery save เพื่อสงวนแบตและชาร์จกลับเวลาชะลอหรือเบรค ซึ่งเคยตั้งไว้ 90 - 100% (ปกติผมจะตั้งทิ้งไว้ที่ 90%) มันก็ทำได้ถึงจริงครับ(แต่ต้องใช้ระยะทางเยอะมาก เหมาะกับเดินทางไกล) มันจะไม่ใช่เอาเครื่องยนต์มาตั้งหน้าตั้งตาปั่นไฟเข้าแบตนะครับแบบนั้นมันเปลืองน้ำมัน มันจะชาร์จตอนชะลอหรือเบรคเท่านั้น และมันยังจะใช้เครื่องยนต์อยู่หากความเร็วมันต่ำกว่า 90 (ไม่เหมือนโหมด auto ที่ความเร็วต่ำกว่า 90 จะใช้แบต) ที่ทำแบบนี้ก็เพื่อเก็บไฟในแบตไว้ใช้ขับความเร็วต่ำหรือเจอรถติดในเมืองก็จะประหยัดกว่าปล่อยให้ไฟหมดตอนเข้าเมืองครับ หรือกะว่าจะจอดเปิดแอร์รอในรถโดยเครื่องยนต์ไม่ติด


ถ้านึกอะไรไม่ออกก็โหมด auto ไปเลยครับให้รถมันคิดแทน ดีบ้างไม่ดีบ้างก็ว่ากันไป


ปล. ถ้าคิดจะให้รถเปิดแอร์รอเวลาที่ต้องจอดรถตากแดดนานๆก่อนที่เราจะเข้ารถควรให้รถมันมีแบตอย่างน้อยพอให้วิ่งได้สัก 10 กม.เผื่อไว้ตอนที่จอดรถนะครับ ไม่อย่างนั้นรถมันจะไม่ยอมเปิดแอร์โดยไม่ติดเครื่องให้ครับ