ผู้เขียน หัวข้อ: เราจำเป็นต้อง warm up เครื่องยนต์ สำหรับรถ PHEV หรือไม่ครับ  (อ่าน 2167 ครั้ง)

ออฟไลน์ Odrecranon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 404
    • อีเมล์
ผมใช้รถ PHEV มาประมาณ 2 เดือนแล้ว
เริ่มมีข้อสงสัยเรื่องความถูกต้องในการใช้งานครับ

รถยนต์ ICE เดิมที่บ้าน ปกติผมจะรอให้ความร้อนเครื่องยนต์ขึ้นเต็มที่ก่อน ถึงจะขับออกจากบ้าน
หรือถ้าความร้อนขึ้นช้าก็จะพยายามไม่เร่งรอบเครื่องยนต์ ซึ่งผมเข้าใจว่าเป็นเรื่องที่ควรทำ เพื่อยืดอายุเครื่องยนต์

แต่รถ PHEV ของผมไม่มีมาตรวัดความร้อน และบางครั้งเวลากดคันเร่ง ก็มีการติดเครื่องยนต์ระยะสั้น ๆ ร่วมด้วย
ซึ่งผมก็มีความกังวลว่าควรทำการ warm up หรือไม่

ตอนนี้ที่ผมทำคือพยายามติดเครื่องยนต์ตอนไฟแดง แล้วดูมาตรวัด ถ้าเครื่องยนต์มันทำงานเต็มที่แล้วรอบจะอยู่ที่ 800
แต่ถ้ายังไม่พร้อมรอบจะอยู่ที่ 1200 ซึ่งมันก็ไม่เป็นแบบนั้นทุกครั้ง เพราะบางที่เวลาเปิดเครื่องยนต์บางครั้งก็ 800 บางครั้งก็ 1200

เลยอยากสอบตามข้อเท็จจริง เรื่องการ warm up เครื่องยนต์ PHEV ครับ
ผมอ่านใน reddit ก็เหมือนเสียงไม่ไปทางเดียวกัน

ส่วนคำถามนอกเรื่องครับ
1. Volvo T8 ดูมาตรวัดความร้อน ตรงไหนครับ ผมหาใน help ไม่มี
2. ระหว่างใช้ emergency charger กับ charger ของ Juice ที่มากับตัวรถ ถ้าชาร์จด้วยกำลังต่ำกว่า จะยืดแบตเตอรี่ได้ดีกว่าใช่ไหมครับ

ออนไลน์ kez

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,586

 ถ้าอยู่ในเมือง ก็ไม่ได้อัดรอบสูงอยู่แล้วก้ไม่เปนไร

 ถ้าอยู่นอกเมือง ออกมาเจอถนนใหญ่เลย  ก็อย่ากดคันเร่งลึก ขัลไปเรื่อยๆ   รอบเครื่องยนต์ติดซักพักก็ได้แล้ว ก็อัดได้

 ถ้าขับเรื่อยๆ ไม่ได้ขับเร็ว ขับไปเถอะ

ออฟไลน์ Nuiiii

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 139
    • อีเมล์
ผมใช้ Corolla Cross ตอนเช้ายัง warm up เครื่องยนต์โดยการกดคันเร่งสุด ให้เครื่องติดไม่ว่าแบตเตอรี่จะอยู่ระดับไหน (force start engine) หลังจากนั้นก็จะเดินไปเปิด-ปิดประตูบ้าน แล้วค่อยๆคลานออกจากซอย ถึงถนนใหญ่อัดได้เลย

ออฟไลน์ PREM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,206
ผมเชื่อว่า warm up ก็ดี หมู่บ้านผมติดถนนใหญ่ที่รถขับกัน 80-90 เพราะฉะนั้นถ้าทริปนั้นรู้ตัวว่าจะต้องใช้เครื่องยนต์แน่ๆ เช่น ขับระบะไกลกว่าพิสัยแบตที่เหลือ หรือจะขับเร็ว ผมก็กดโหมด AWD ตอนออกจากบ้านให้เครื่องได้ติด พอออกถึงหน้าหมู่บ้านเครื่องก็วอร์มมาสักพัก พร้อมเร่งเข้าถนนใหญ่แล้วครับ

ตอบคำถามอื่นๆ
1. Volvo T8 ไม่มีมาตรวัดความร้อนครับ คิดว่ารุ่นที่ใช้จอกูเกิ้ลก็ไม่มีเช่นกัน
2. ใช้ Juice box ไปเถิดครับ รถรับกำลังไฟได้แค่ 3.7 kW ไม่ได้เยอะเลยเทียบกับรถ BEV
2014 Mazda CX-5 2.5 S
2016 Volvo XC60 D4 
2019 Honda Jazz RS+
2020 Volvo V60 T8 Inscription
2022 Mazda CX-30 SP

TheRealMeaw

  • บุคคลทั่วไป
รถ ICE ไม่จำเป็นต้องวอร์มเครื่องมานานมากแล้วครับ อย่าว่าแต่ระบบ Hybrid หรือเครื่องยนต์หัวฉีดเลยครับ ว่ากันระดับเกิน 50 ปีครับ ติดเครื่องเดินเบาไว้เฉย ๆ รอวอร์ม 15-30 นาทีเนี่ย ไม่มีบริษัทรถไหน หรือหน่วยงานไหนแนะนำให้ทำครับ แค่เดินเบาเฉย ๆ เกิน 5 นาที ตอนที่ถึง Operating Temp แล้ว ยังไม่มีใครแนะนำเลยครับ

งานวิจัยออกมานานมากแล้วครับ นานระดับมาก่อนอินเตอร์เน็ตครับ วิธีให้เครื่องยนต์สึกหรอน้อยที่สุด สตาร์ทเครื่องยนต์ รอไฟ Oil Pressure Light ดับ (อุณหภูมิอย่างไทย อย่างมากก็ 3 วิ) แล้วขับออกไปเลย ให้ถึงความเร็วระดับทางด่วนให้เร็วที่สุด (90-120km/h) โดยไม่เค้นรอบเครื่อง (ค่อย ๆ เร่งเพิ่มความเร็ว อย่าเพิ่งอัดรอบตัดทันที) ทำแบบนี้เครื่องจะถึง Operating Temp เร็วที่สุด และสึกหรอน้อยที่สุด ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะทำได้ครับ แต่ไม่ว่ายังไงการขับออกไป มันสึกหรอน้อยกว่าการติดเครื่องไว้เฉย ๆ

ในทางเดียวกัน รถ Hybrid ก็ปล่อยให้ระบบของรถมันจัดการเองครับ ขับออกไปเลย ไม่ต้องรอครับ

ออฟไลน์ Odrecranon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 404
    • อีเมล์
จริง ๆ ผมไม่อยากเหยียบเร็วหรอกครับ
แต่หมู่บ้านผมมันออกถนนวงแหวน 6 เลน
เลนในสุด จะมีคนจอดรถซื้ออาหารเช้า
 
พอต้องออกหมู่บ้านแล้วเข้าเลนกลางนี่ ทุกคนขับเร็วมาก 100-120
ตอนเช้าออกมา ต้องรีบเหยียบเลย ไม่งั้นไม่ได้ไปครับ

ตัว T8 เองผมก็ยังกะคันเร่งไม่ถูก บางทีกดแล้วเครื่องติดเลย เลยกังวลว่า
ถ้าเครื่องไม่ได้ warm up แล้วติดรอบ 2-3 พันเลยจะมีปัญหาใหม่ครับ
ผมเองก็อยากออกจากบ้านแบบเงียบ ๆ เหมือนบ้านอื่นเข้าบ้าง

ออฟไลน์ PREM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,206
จริง ๆ ผมไม่อยากเหยียบเร็วหรอกครับ
แต่หมู่บ้านผมมันออกถนนวงแหวน 6 เลน
เลนในสุด จะมีคนจอดรถซื้ออาหารเช้า
 
พอต้องออกหมู่บ้านแล้วเข้าเลนกลางนี่ ทุกคนขับเร็วมาก 100-120
ตอนเช้าออกมา ต้องรีบเหยียบเลย ไม่งั้นไม่ได้ไปครับ

ตัว T8 เองผมก็ยังกะคันเร่งไม่ถูก บางทีกดแล้วเครื่องติดเลย เลยกังวลว่า
ถ้าเครื่องไม่ได้ warm up แล้วติดรอบ 2-3 พันเลยจะมีปัญหาใหม่ครับ
ผมเองก็อยากออกจากบ้านแบบเงียบ ๆ เหมือนบ้านอื่นเข้าบ้าง

งั้นตอนออกจากบ้านลองใช้โหมด Pure ดูมั้ยครับ
จำได้ว่า MY2021 เป็นต้นไป พอใช้โหมด Pure เครื่องจะติดก็ต่อเมื่อเหยียบมิดจนถึงปุ่มคิกดาวน์ ดังนั้นไม่ต้องคอยระวังเรื่องคุมคันเร่ง แต่ไม่แน่ใจว่ากำลังมอเตอร์อย่างเดียวจะแรงพอเร่งไปถึง 100 ได้ทันใจรึเปล่า
2014 Mazda CX-5 2.5 S
2016 Volvo XC60 D4 
2019 Honda Jazz RS+
2020 Volvo V60 T8 Inscription
2022 Mazda CX-30 SP

TheRealMeaw

  • บุคคลทั่วไป
ไม่ต้องห่วงครับ รอบ 2-3,000 ไม่ได้ต่างจาก logic cold start ปกติขนาดนั้นอยู่แล้ว อย่าซัดเต็มเท้าจนรอบดีดไปถึง redline ก็พอครับ

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,495
ไม่รู้ว่าจำเป็นมั๊ย แต่ผม warm ตลอดนะ เพราะต้องต่อมือถือ หรือบางทีเปิด gps ด้วย พยายามทำให้เรียบร้อยก่อนออกรถครับ

ออฟไลน์ เต๋า AV

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,393
ปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องวอร์มเครื่องแล้ว
นอกจากจะจอดมาเป็นอาทิตย์ วอร์มให้ระบบน้ำมันหล่อลื่นได้หมุนเวียนเข้าระบบ 1-2 นาที

สตาร์ดรถ เดินไปเปิดประตูรั้ว ถอยรถออกบ้าน เดินมาปิดประตู ก็ถือว่าเป็นการวอร์มไปในตัวแล้วครับ

ออฟไลน์ Diogo

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 161
    • อีเมล์
เข้าใจว่ารถรุ่นใหม่ๆ จริงๆ แทบไม่จำเป็นต้อง Warm เครื่องก่อนเลยครับ โดยเฉพาะรถ PHEV , HEV นี่ชิ้นส่วน ส่วนประกอบมันดีไซน์ออกมาให้รองรับการทำงานในช่วงอุณหภูมิ 50-90 ได้โดยสึกหรอน้อย (น้อยพอที่จะมีอายุการใช้งานเทียบเท่า ICE ปกติ) ขับไปเลยปกติครับ รถ PHEV ถ้าใช้แต่ไฟเดียวมันก็ขึ้นบังคับให้สตาร์ทเครื่องยนต์มาเองทุกๆ x KM หรือ x Day ครับ

ส่วนตัวผมถ้าใช้คัน Mazda 2.0 นี่ผมรอ ไม่ใช่เรื่องรอ Warm แต่รอบตอนมันทำอุณหภูมิมันสูงจนรถพุ่งๆ เกินไปครับ 555 แต่ถ้าวันไหนรีบๆ ก็ออกเลย ,,ส่วน Civic eHEV ผมนี่แล้วแต่แบตที่เหลือถ้าน้อยมันก็จะติดมาจนถึงอุณภูมิที่เหมาะถึงแม้แบตจะเกิน 3 ขีด (ซึ่งปกติมันจะหยุดเติมไฟแล้ว) ก็จะติดไปจนถึงค่าอุณหภูมิที่กำหนดครับ

ออฟไลน์ PaPaMan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,196

ใช้ PHEV 530e มาจะสองปีแล้วไม่เคยต้องติดเครื่องยนต์วอร์มอะไรเลย เพราะจะขับออกจากบ้านด้วยโหมดออโต้ มันจะไปด้วยไฟฟ้าเสมอครับ


อีกอย่างการวอร์มเครื่องอยู่กับที่เท่ากับเป็นการสร้างมลภาวะเพิ่มขึ้น ยิ่งวอร์มเครื่องก่อนออกจากบ้านก็เหมือนการปล่อยไอเสียให้กับคนในบ้าน ตอนเครื่องเย็นมลภาวะจากไอเสียยิ่งเยอะ แล้วก็เป็นการเผาน้ำมันทิ้งเปล่าๆด้วย วันไหนผมขับคันที่เป็นเครื่องดีเซลพอสตาร์ทรถเสร็จก็ขับออกไปทันทีเลยครับเพราะไอเสียตอนเครื่องเย็นมันเหม็นมาก

เข้าใจว่ารถรุ่นใหม่ๆ จริงๆ แทบไม่จำเป็นต้อง Warm เครื่องก่อนเลยครับ โดยเฉพาะรถ PHEV , HEV นี่ชิ้นส่วน ส่วนประกอบมันดีไซน์ออกมาให้รองรับการทำงานในช่วงอุณหภูมิ 50-90 ได้โดยสึกหรอน้อย (น้อยพอที่จะมีอายุการใช้งานเทียบเท่า ICE ปกติ) ขับไปเลยปกติครับ รถ PHEV ถ้าใช้แต่ไฟเดียวมันก็ขึ้นบังคับให้สตาร์ทเครื่องยนต์มาเองทุกๆ x KM หรือ x Day ครับ

ส่วนตัวผมถ้าใช้คัน Mazda 2.0 นี่ผมรอ ไม่ใช่เรื่องรอ Warm แต่รอบตอนมันทำอุณหภูมิมันสูงจนรถพุ่งๆ เกินไปครับ 555 แต่ถ้าวันไหนรีบๆ ก็ออกเลย ,,ส่วน Civic eHEV ผมนี่แล้วแต่แบตที่เหลือถ้าน้อยมันก็จะติดมาจนถึงอุณภูมิที่เหมาะถึงแม้แบตจะเกิน 3 ขีด (ซึ่งปกติมันจะหยุดเติมไฟแล้ว) ก็จะติดไปจนถึงค่าอุณหภูมิที่กำหนดครับ


มิน่าละครับ ผมก็งงว่ารถผมบางทีสตาร์ทรถตอนเช้ามันบังคับให้เครื่องยนต์ติดขึ้นมาแป๊บนึงทั้งๆที่ปกติจะต้องเป็นโหมดออโต้เสมอ พอมันติดขึ้นมาผมก็ไปกดโหมด MAX e-drive ให้เครื่องมันดับ (แต่ส่วนมากจะติดเงียบ ขับออกไปแบบเงียบๆ) ที่แท้เพราะเครื่องยนต์มันไม่ได้ทำงานมานานเกินนี่เอง

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,263
    • อีเมล์
330e ตอนก่อนจะออกจากบ้าน เปิดโหมด regen แบตเตอรี่ เพื่อให้เครื่องยนต์ติดขึ้นมาทำงานสักแปป ค่อยขับโหมดปกติ ออกจากบ้าน

ไม่ว่าจะเป็นรถ PHEV, HEV ตราบใดที่มีเครื่องยนต์ (ที่มีน้ำมันเครื่องหล่อลื่นอยู่) ยังไงซะ ก็ต้องมีการ warm up ครับ อย่างน้อยๆ ก็เพื่อให้น้ำมันเครื่องมันทำหน้าที่หล่อลื่นส่วนต่างๆ ของเครื่องยนต์ก่อน ปรับปรับอุณหภูมิทั้งกับ coolant และ น้ำมันเครื่องเอง ให้มันอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานมากที่สุด

ออฟไลน์ หมูป่า

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 72
รถ PHEV มีระบบอัดอากาศ (turbo) ผมว่ายังไงก็ควรจะต้องวอร์มนะครับ ไม่ได้หมายถึงให้เครื่องติดแล้วจอดนิ่งๆ 5 นาทีอะไรแบบนั้นนะครับ แต่ขับไล่คันเร่งขึ้นไปเรื่อยๆโดยไม่ให้ turbo ขึ้นบูสต์หนักๆช่วง 2-3 กม.แรกก็พอ เพราะเทคโนโลยีเทอร์โบตอนนี้ยังต้องการน้ำมันเครื่องที่มีอุณหภูมิสูงใกล้เคียง operating temp ถึงจะมีการสึกหรอไม่สูง

หากใช้ volvo ผมก็จะกด charge หรือใช้ mode power ก่อนขึ้นทางด่วนซัก 1 กม. แล้วอย่าเพิ่งอัดแรงๆ ก็คงจะเพียงพอแล้วครับ ไม่ต้องไปคิดอะไรมาก