ผู้เขียน หัวข้อ: Modify Review : ผ้าเบรก Nexzter Pro Spec ใน HR-V 2017 กับประสบการณ์ของคนที่ไม่เคยลองผ้า  (อ่าน 9552 ครั้ง)

ออฟไลน์ ToRToNGPaT

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,939
    • Wongnai : ติดตามต้อง
Modify Review : ผ้าเบรก Nexzter Pro Spec ใน HR-V 2017 กับประสบการณ์ของคนที่ไม่เคยลองผ้าเบรกแต่งมากก่อนเลย

กำลังจะหมดปี 2022 แล้ว พอมานั่งนึกๆ ย้อนดู ก็รู้สึกว่า ปีนี้เป็นปีที่ผมจ่ายเงินค่า Maintenance เจ้า HR-V ปี 2017 สุดที่รักของผมไปเยอะมากๆ คิดๆดูแล้วโดนไปร่วมครึ่งแสนได้ ทั้งเช็คระยะ เปลี่ยนยาง ซ่อมช่วงล่าง  ซ่อมแอร์ และรายการล่าสุด หลังจากผ่าน 100,000 K.M. มาหมาดๆ พฤศจิกายน กับอายุรถ 5 ปีครึ่ง ดูแลทุกอย่างตามระยะมาตลอด เคลมก่อนหมด Warrnty ไปหลายอย่าง และก็ Upgrade นู่นนั่นนี้ไปหลายอย่างแล้ว เหลืออยู่อย่างนึง ที่ตั้งแต่ออกรถมา ไม่เคยยุ่งกับมันเลยคือ ระบบเบรก



ตลอดระยะเวลาและระยะทางที่ขับ HR-V คันนี้มา ผมไม่เคยทำอะไรกับเบรกเลย มีแค่เคลม เบรกมือไฟฟ้ามีเสียงดัง ไปตอนปี 2018 แค่นั้น ทุกอย่างยังเป็น Spec เดิมรถโรงงานมาตลอด ซึ่งเวลาเข้าศูนย์แต่ละครั้ง ศูนย์ก็จะตรวจความหนาของผ้าเบรกให้ตาม Checklist ของเขา ซึ่งมันก็ไม่เคยมาอะไรผิดปกติ ล่าสุดไปเช็คระยะ 66 เดือน หรือ 110,000 K.M. มาเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ศูนย์แจ้งความหนาผ้าเบรกเหลือ หน้า 4 มิลลิเมตร : หลัง 6 มิลลิเมตร (จาก หน้า 8 : หลัง 8) ประกอบกับช่วงครึ่งปีหลังมานี้ เวลาขับรถเร็วๆแล้วเบรกชะลอความเร็ว เริ่มได้ยินเสียงเบรกดังจี๊ดๆ บ้าง แล้วก็เริ่มจะบ่อยขึ้นๆ แต่เบรกก็ยังอยู่ปกตินะ พอดีกับเลขไมล์ที่ครบ 100,000 K.M. แล้ว คงจะสมควรแต่เวลาที่ต้องเปลี่ยนเบรกชุดใหม่ให้เจ้า HR-V คันนี้แล้วหละ

ส่วนตัวขับรถมา 10 ปีเต็มๆ ผ่านรถมา 3 คัน เคยมีประสบการณ์เรื่องการเปลี่ยนผ้าเบรกแค่ 2 ครั้งเท่านั้น ซึ่งครั้งแรกเอาคันเก่า (Honda Stream) ไปเปลี่ยนผ้าเบรกที่ ร้าน Quick Service แบรนด์ดังแห่งหนึ่ง ใกล้ๆบ้าน ตอนนั้นเรายังไม่รู้เรื่องการซ่อมรถเท่าไหร่เพราะเป็นปีแรกๆที่ขับรถเอง เขาแนะนำอะไร ก็ตามนั้น พอรับรถกำลัง ก็รู้สึกเลยว่ารถเบรกแล้วไหล เบรกไม่ค่อยอยู่ เอาไปแก้ 2-3 รอบที่เดิม ก็ดีขึ้นนิดเดียว ทนใช้ไปเกือบๆปีมั้ง (เริ่มเผื่อระยะจนชิน) จนเอารถไปเข้าอู่ Honda ตามระยะ แล้วขอให้ช่างดูเรื่องเบรกให้ เจอว่าผ้าจับจานไม่ถึง 50% เกือบทุกล้อ แถมผ้ากินจานทำจานเป็นรอย สุดท้ายก็ต้องเปลี่ยนผ้าเบรกชุดใหม่และเจียรจาน ถึงจะกลับมาเบรกได้มั่นใจเหมือนเดิม พอจะต้องมาเปลี่ยนผ้าเบรกตอนนี้ ผมเลยต้องหาข้อมูลของเบรกและอู่ที่ไว้ใจได้ เพื่อไม่อยากให้เกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ซึ่งก็ได้รับคำแนะนำจากเพื่อนๆพี่ๆใน HLM Webboard แห่งนี้ นี่แหละครับ



หลังจากที่หาข้อมูลมาพอสมควรแล้ว ประกอบกับ มีความเสี้ยนและอยากลองผ้าเบรก Aftermarket ที่ Upgrade ให้ดีขึ้นมาชุดเดิมโรงงาน ท้ายที่สุด ผมมาจบกับผ้าเบรก Nexzter Pro Spec ซึ่งเป็นผ้าเบรกรุ่นที่คนรอบข้างแนะนำและพูดถึงให้ได้ยินอยู่เรื่อยๆ ว่าเอาอยู่เวลาขับเร็วๆและไม่ได้ดังจนน่ารำคาญเวลาใช้ในเมือง เหมาะกับคนบ้านที่ขับรถตีนผีในระดับนึงแบบผมนี่แหละ 555 ส่วนอู่ที่จะเปลี่ยนผ้าเบรกให้ผมนั้น ผมไว้ใจให้อู่นครไทยยนต์ (NKT Brake) ดูแลรถผม ตามที่มีสมาชิกในนี้แนะนำมา ที่สำคัญผมเห็นอู่นี้อยู่บ่อยๆและเปิดมานานมาก แถมไป-มาสะดวกดี เพราะว่าอู่อยู่ปากซอยบ้านตัวเอง 555

สำหรับค่าเสียหายนั้น ประกอบด้วย

1. ผ้าเบรก Nexzter Pro Spec คู่หน้า ราคา 3,100 บาท
2. ผ้าเบรก Nexzter Pro Spec คู่หน้า ราคา 2,500 บาท
3. ค่าแรงติดตั้ง ผ้าเบรกคู่หน้า 200 บาท และคู่หลัง 400 บาท

สิริรวม 6,200 บาท

ซึ่งผมยังโชคดีที่จานเบรกยังสภาพดี ไม่มีรอย เบรกแล้วยังไม่สั่น เลยยังไม่ต้องเจียรจาน ประหยัดไป 1,000 บาท ใช้เวลาเปลี่ยนไม่ถึง 1 ชั่วโมง ก็เรียบร้อย พร้อมหิ้วอะไหล่เก่ากลับบ้าน ซึ่งทางร้านบอกให้ผมเก็บอะไหล่เก่าไว้ เพราะ HR-V รุ่นนี้ มันมีแผ่นรองอะไรหลายติดอยู่กับผ้าเบรก ซึ่งผ้าเบรก Aftermarket บางรุ่น ไม่ได้มีเจ้าแผ่นนี้มาให้ ต้องเอาจากของเดิมไปใช้ อีกเรื่องนึงคือ หลังจากเปลี่ยนผ้าเบรกไปแล้ว จะต้อง Run in ประมาณ 300 K.M. เพื่อให้หน้าผ้าเบรกรับกับจานเบรกเต็มที่ แนะนำให้เผื่อระยะไว้สักหน่อย ไอ้เราก็กะว่า 2-3 วัน ก็ครบแล้ว ยิ่งเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ด้วย เดี๋ยวก็ได้สัมผัส Feeling ของผ้าเบรกใหม่เต็มๆแล้ว  ปรากฎว่ากว่าจะคบ Run in จริงๆ ก็ปาเข้าไปต้นเดือนธันวาคมนี้เอง เพราะว่าคนขับรถติด Covid-19 รถจอดนิ่งๆไป 10 วัน 5555



ปัจจุบัน (18 ธันวาคม 2022) ผมอยู่กลับผ้าเบรกชุดนี้มาเกือบ 1,000 K.M. แล้ว และผ่านสถานการณ์ที่ได้ทดสอบเบรกชุดนี้มาพอสมควรแล้ว คงพอจะสรุป Feeling ของผ้าเบรกชุดนี้แล้วแหละ

สิ่งแรกที่ผมรู้สึกได้ชัดเจนมากๆเลย ก็คือ ระยะเหยียบแป้นแบรก มันเปลี่ยนไปชัดเจนมากๆ ชุดเดิมก่อนจจะเปลี่ยน มันจะมีระยะที่เหยียบแล้วไม่รู้สึกอะไรเลยประมาณนึง ต้องกดลงไปอีกนิดถึงจะรู้สึกถึงแรงเรกของรถ แต่พอมาชุดนี้ แป้นเบรกแข็งขึ้น ระยะโหว่งๆมันแทบไม่มีเลย เหยียบเบาๆนิดเดียวก็รู้สึกแล้วว่ารถเบรก แรกๆก็ต้องปรับตัวสักหน่อย แต่แป๊ปเดียวก็ชินแล้ว จนรู้สึกว่าเราสามารถควบคุมเบรกแป้นเบรกจากน้ำหนักของเท้าได้ง่ายขึ้น และเผอิญว่าก่อนหน้าจะเปลี่ยนผ้าเบรกไม่ถึงสัปดาห์ ผมมีโอกาสขับ Honda City Hatchback e:HEV ของพี่ที่ทำงาน ผมชอบ Feeling แป้นเบรกรุ่นนี้มาก ปรากฏว่าหลังรถตัวเองเปลี่ยนผ้าเบรกชุดนี้มา Feeling แป้นเบรกที่อธิบายไปนั้น มันคล้ายกับผมชอบเลย ผมให้เกิน 80% เลย

สิ่งต่อไปที่สัมผัสได้คือ ระยะเบรกสั่นลง รถหยุดหรือช้าลงได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะความเร็วสูงหรือต่ำ หรือไม่ว่าจะพึ่งเริ่มขับหรือขับมานานๆไกลๆแล้ว ที่สำคัญ อาการเบรกแล้วสั่นขึ้นมาที่พวงมาลัยไม่มีเลย  ทำให้ขับแล้วมั่นใจกว่าเบรกชุดเดิมเยอะพอควร ล่าสุด ผมได้มีโอกาสทดสอบประสิทธิภาพผ้าเบรกชุดนี้ กับสถานการณ์ฉุกเฉิน ไม่คิดไม่ฝันว่าจะเจอและไม่อยากเจอเป็นครั้งที่ 2 ในชีวิต จะเป็นยังไงนั้น เชิญรับชม Clip VDO ด้านล่างได้เลยครับ



ใครจะนึก ว่าจะเจออะไรแบบนี้บนทางหลักของถนนวิภาวดี-รังสิต เดชะบุญที่วันนั้นมีผู้ใหญ่อยู่บนรถ เลยไม่ได้ขับรถมาก แล้วก็โชคดีที่เราทิ้งระยะห่างจากคันหน้าพอสมควร และโชคดีที่คันหลังห่างจาก้รามากๆๆๆๆๆๆๆ เอาเป็นว่า แต้มบุญที่สะสมมาตลอดปี คงจะหมดลงในวันนี้แหละ และที่เจ็บใจและโมโหที่สุดนะ คือ “สะพานลอย สีฟ้าแสนจะแสบตานั้น อยู่เลยไปไม่ถึง 100 เมตร ึงเห็นมั้ย โว้ย”

จบการบ่นมาเข้าเรื่องเบรกกันต่อ เอาจริงๆ ณ ตอนนี้ ผมคิดในใจว่า ยังไม่ก็ไม่รถหยุดไม่ทันแน่ๆ คงไม่ถึงขั้นชนกระเด็นแต่ยังไงก็ต้องไปสกิดโดนชัวร์ๆ เพราะกว่าจะเห็นมันก็ไม่น่าจะถึง 50 เมตรแล้ว กับการหยุดรถจากความเร็ว 60 K.M./H มันเสี่ยงมากๆ ปรากฏว่ามันเอาอยู่เว้ย ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เราขับรถมาเกือบจะ 100 K.M. แถมเจอรถติดแบบหยุดๆไหลๆที่ต้องเบรกอยู่เรื่อยๆมาตลอด แล้วหลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ เบรกรถไม่มีอาการ Fade หรือไหลเลย มันยังคงทำหน้าที่ได้ดีงาม เสมือนได้ได้ผ่านการเบรกฉุกเฉินมาเมื่อกี้ อันนี้ประทับจริงๆ

 

เรื่องต่อไปที่แอบกังวลหลังจากเปลี่ยนผ้าเบรกมา นั่นคือเรื่อง เสียง เพราะบางคนบอกว่า เบรกรุ่นนี้ถ้ายังร้อนไม่ถึงอุณหภูมิ มันจะมีเสียง แล้วลักษณะกิจวัตรการใช้รถของผมนั้น หลัง Start รถตอนเช้าเพื่อขับไปทำงาน สิ่งแรกที่จะต้องผ่านคือ Ramp ทางลงที่จอด ประมาณ 8 อัน ซึ่งจะต้องเบรกให้รถเกือบหยุดทุกปลาย Ramp เพราะต้องเลี้ยวซ้าย 90 องศาทุกครั้ง ตอนใช้ผ้าเบรกชุดเดิม เนื่องจากระยะทางมันสั่นมาก 4 Ramp แรกจะมีเสียงดังจิ๊ดๆ พอ ผ่าน Ramp 5 เสียงเริ่มดังๆหายๆ จนพอลง Ramp 7 8 อันนี้จะเงียบแล้ว แต่ช่วงใกล้ๆจะ  100,000 K.M. บางวันลงมาครบทุก Ramp แล้ว มันยังไม่เงียบเลย พอเป็นผ้าเบรกเป็นชุดนี้แล้ว ขับผ่าน Ramp 1-5 ยังเจอเสียงดัง แล้วจะเงียบไปตอน Ramp 7

ส่วนตอนเย็นขับรถจาก Office กลับบ้าน จะต้องผ่านคือ Ramp ทางลงที่จอด จากชั้น 7 ลงพื้นปกติ ก่อน ซึ่ง 3 ชั้นแรก วนแบบครึ่งวงกลมแล้วมีจุดพัก แต่ 4 ชั้นสุดท้ายก่อนลงพื้นนั้น เป็นเกลียวยาวต่อเนื่อง ไม่มีจุดพักเลย เวลาลงต้องเลียเบรกไว้ตลอด ผ้าเบรกชุดเดิม ผ่าน 2 Ramp แรกยังไงมีเสียงดัง พอ Ramp 3 แรกๆมันก็จะเงียบ หลังๆมาลงถึงพื้นยังไม่เงียบเลย  มาชุดใหม่นี้ Ramp 1 2 3 ยังมีเสียง แต่พอเกลียวสุดท้าย อันนี้เงียบแล้ว แล้วก็รู้สึกว่าเลี้ยงแป้นเบรกเพื่อเลียเบรกได้ง่ายขึ้น

แต่หลังจากผ่าน Ramp ทั้งหมดทั้งมวลไม่ว่าจะเช้าหรือเย็นนั้น เสียงจะเงียบไปตลอดการขับรถครั้งนั้นเลย ในขณะที่ตอนผ้าเบรกชุดเดิมนั้น ตอนใกล้ๆจะครบ 100,000 K.M. ผมจะเจอเสียงดังของเบรกเวลาขับเร็วๆเบรกแตะเบรก ทั้งๆที่รถวิ่งมาสักพักใหญ่แล้ว ก็ยังเจออยู่ สรุปแล้ว สำหรับเรื่องเสียง ผมถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ผมรับได้ และไม่ได้น่ารำคาญ



อีกเรื่องที่ลืมไม่ได้เลยคือ สีสันของตัวผ้าเบรก ซึ่ง ผ้าเบรก Nexzter นั้นจะมีสีสันที่เป็นเอกลักษณ์ และเป็นตัวแบ่างรุ่นด้วย โดย ตัวเริ่มต้น Next Spec เป็นสีน้ำเงิน ขยับขึ้นมาเป็น Mu Spec ตัวยอดนิยม เป็นสีแดง ขยับขึ้นมาอีกเป็น Pro Spec ที่ผมใช้ เป็นสีเขียวอมฟ้า และ Top สุด Race Spec สำหรับสนามแข่ง เป็นสีชมพู ก้ถือว่าเป็นอีกหนึ่ง Gimmic ที่เห็นสีๆแบบนี้รู้เลยว่าเป็น Nexzter



ท้ายที่สุด สำหรับคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์ลองผ้าเบรกแต่งมากก่อนเลยแบบผม พอใจกับผ้าเบรก Nexzter Pro Spec ชุดนี้มากๆ ขับในเมืองก็ไม่ดังหรือเบรกแล้วหัวทิ่มจนหน้าหงุดหงิด ขับนอกเมือหรือทางไกล ใช้ความเร็วสูงกับเบรกได้มั่นใจ และเมื่อเจอสถานการณ์คับขันก็เอาอยู่ และเหมือนกับกับราคาที่ต้องจ่ายไปแล้ว ผมถือว่ามันคุ้มค่า เพราะถ้าเบรกเอาไม่อยู่ อาจจะมีผลถึงชีวิตของเราและคนที่เรารัก ดังนั้นผมอยากจะแนะนำว่า จงเลือกสิ่งที่ดีในราคาที่สมเหตุสมผลและเหมาะกับตัวเรา เพื่อรักษาชีวิตของเราและขับขี่ได้อย่างปลอดภัยครับ
My Car = My Friend

2023 Honda HR-V 1.5 e:HEV RS E-CVT Ignite Red Metallic / Black Roof (น้องหมูแดง)
2023 Honda WR-V 1.5 RS CVT Ignite Red Metallic / Black Roof (น้องถุงแดง)


Review ของกินอร่อยๆ เรียนเชิญที่ Wongnai : ติดตามต้อง

ออฟไลน์ tom46

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,902
ขอบคุณครับ เห็นหลายคนก็แนะนำผ้ารุ่นนี้อยู่เหมือนกัน ว่าใช้ได้ดีราคาไม่แรง
M52TUB30 NA TUNING
STROKER M54B30
SCHRICK CAM 248/248
aa tuning software custom
K&N performance air intake kit
Exhaust systems thailand hand made
Rear exhaust EISENMANN

ออฟไลน์ โบตั๋น

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 486
ใช้ hrv ใส่ผ้าตัวนี้กับจานเดิมหน้าหลังเหมือนกันครับ
ใช้มา 3 หมื่นกว่าโล ช่วงแรกๆถ้าเลียเบรคเบาๆเสียงจะดัง แต่พอวิ่งไปเริ่มกดลึกจะเงียบ เหมือนผ้ามันยังไม่ปรับหน้าให้พอดีกับจาน
ผมเปลี่ยนแบบไม่ได้เจียรจาน กว่าผ้าเบรคหลังจะจับเต็มจานก็เป็นเดือนอยู่นะครับขนาดใช้ทุกวัน พอเข้าที่แล้วเสียงจะเงียบไปเอง
ที่ลองมาคือลงดอยผ้าห่มปก ยาวๆ ไม่มีพัก บรรทุก 3 คน สัมภาระเต็ม ใช้เบรคแทบตลอด เกียร์ cvt ไม่ค่อยหน่วงเท่าไหร่ พอถึงตีนเขาถึงเริ่มรู้สึกว่าต้องกดเบรคลึกขึ้นนิดนึง/ ลงอ่างขาง ทาง อ.ฝาง ที่ว่าชันๆมา 2 รอบเบรคก็ไม่ได้มีอาการอะไร ล่าสุดพึ่งรื้อมาดู ผ้าเบรคแอบกินจานนิดๆ
.
ร้านที่ จขพ ใช้มีจรรยาบรรณดีนะครับ ร้านอื่นโยนแผ่นรองผ้าเบรคทิ้งอย่างเดียว พอจะเบิกแผ่นรองใหม่อย่างแพงเลย

ออฟไลน์ Tien.W

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,329
    • อีเมล์
ผ้านี่ พูดยาก

ผมใส่ Dixcel Type M ในรถ 2 คัน จาน Dixcel Type SD เหมือนกัน
- Pulsar เลียเบรค ตอนเช้า ลั่นมาเลย
- CR-V ยังไงก็ไม่ดัง ตอนหลัง ถอดออก ไปใส่รถ CR-V น้องสาว มันก็ไม่ดัง

ผมใส่ Dixcel ES ใน CR-V ก็ไม่ดัง .. แต่ มีคนเอา ES ใส่รถอีกรุ่น เค้าบอกว่า ดัง ต้องใส่ M ถึงเงียบ

ออฟไลน์ rotaryman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,444
ผมใช้ หน้า Pro Spec หลัง Mu Spec กับ Civic FD จานเดิม ประทับใจมาก หยุ่ดนิ่งหัวไม่ทิ่ม เคยเจอประสบการณ์รถใหญ่เปลี่ยนเลนกระทันหันต้องกดเบรคทันทีก็เอาอยู่ ถ้าผ้าเบรคติดรถชนแน่นอนครับ และคงใช้ต่อกับรถทุกคันครับ