มันก็ทำใจยากอยู่นะ ที่จะไม่มอง V6 แล้วมาจับ 2.0Bi เนี่ย เพราะยังไงซะ คนใช้กลุ่มนี้มันก็ชัดเจนอยู่แล้ว
แต่ผมลองมาทั้ง Raptor ตัวเก่าและตัวใหม่ ตอนปีนป่าน สายออฟโร้ด ผมชอบตัวเก่า 2.0Bi + Fox กระบอกฟ้า มากกว่า V6 + Fox Live Valve กระบอกส้มนะ
เครื่องดีเซล มันแรงบิดดี รอบต่ำ คลานๆ ดี และ โช้ค Fox กระบอกฟ้า มันได้ความแน่น แต่พอลอง V6 Fox Live Valve กระบอกส้ม เหมือนรถมันจูนมาสำหรับวิ่งทางเรียบ วิ่งเร็ว วิ่งทางดำมากกว่า
คือผลจากการสำรวจมันมีไม่น้อยครับ ที่อยากได้ Raptor แล้วใช้งานทุกวัน ใช้งานในชีวิตประจำวัน
พอมาจับกับเครื่อง ดีเซล วิ่งเล่นในเมืองยังพอเห็น 8-11 โล/ลิตร ได้อยู่ครับ
และคนที่ยังคิดว่า เอา Raptor วิ่งไปต่างจังหวัด ยังได้กิโลเมตรละ 3 บาท อยู่
แต่ตัว V6 วิ่งไป กรุงเทพ-พิษณุโลก ไป-กลับ ค่าน้ำมัน 5,000 บาท ครับ ขนาดวิ่ง 110-120
กับ เงื่อนไขเดียวกันแต่เป็น 2.0 Diesel ไปกลับ 2,500 บาท ถ้าใช้งานบ่อยจริงๆ มันก็เห็นความต่างอยู่ครับ
เลยมองว่า ดีเซล ใช้จริงใช้บ่อยๆ เบนซิน ของเล่นจริงๆ
คือ มันก็ชัดเจนอยู่แล้วนะครับ
ผิดตั้งแต่แรก ว่ามันต้องประหยัดแล้วละครับ
V6 vs น้ำหนัก 2 ตัน vs ยาง AT นี่ยากมากที่เห็นความประหยัด ผมกดๆ กับเพื่อน น้ำมันลงเร็วมาก แต่มันก็คือ ความสนุก และ รสชาติ ในแบบของมัน (ไม่อยากนึกสภาพ V8 ใน F150 เลยนะ)
แต่สุดทางแล้ว กลับมองหาความประหยัด โดยเอา 2.0Bi กลับมา มันเลยดูแปลกๆ นั้นละ
เหมือนที่คนเรียกร้อง อยากได้ V6 ว๊าย กรี๊ด กันตอนแรก ก่อนเปิดตัว และ หลังเปิดตัว
แต่พอใช้งานจริง เหมือนเหงาๆ อยากได้ดีเซล เลยต้องคลอด ตัวนี้มา ผมเลยเอ๊ะ มันก็แปลกแต่จริง ไรงี้ครับ ไม่ได้อะไรหรอก
อย่างที่หลายคนบอกว่า อยากได้รถแรง ก็ต้องไม่สนใจเรื่องกินน้ำมัน เพราะคงเป็นของเล่น ของสะสม ของคนซื้อกระบะ 2 ล้าน ผมว่ามันก็จริง