ผู้เขียน หัวข้อ: คนไทย ซื้อ BEV จากที่นำเข้าจากจีน FTA 0% ถูกจริงหรือป่าว???  (อ่าน 4561 ครั้ง)

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,190
    • อีเมล์
คนไทย หรือ อาจจะใช้คำว่า เรา หรือ อาจจะใช้คำว่า บางคน ก็ได้นะครับ

กรณี ซื้อ BEV จากที่นำเข้าจากจีน FTA 0% ถูกจริงหรือป่าว???

ผมสังเกตุว่า เอ๊ะ มันใช่จริงๆ เหรอ

สมมุติง่ายๆ

สินค้าขาย 10 บาท (รวม vat ต้นทุน กำไร เราจ่าย 10 บาท ถือว่าปกติ

สินค้าขาย 10 บาท (รวม vat ต้นทุน กำไร) แล้วมีคนช่วยจ่าย 2 บาท เราจ่ายเองเพียง 8 บาท ถือว่า ถูกลง และ ประหยัดเงินได้ 2 บาท

แต่ถ้า สินค้าขาย 10 บาท (รวม vat ต้นทุน กำไร) แล้วผู้ขายเพิ่มราคาเป็น 12 บาท เมื่อรู้ว่าจะมีคนช่วยจ่าย 2 บาท เราจ่ายเอง 10 บาท เท่าเดิม ก็เผลอดีใจว่า มีคนช่วยจ่ายตั้ง 2 บาท แต่เนื้อแท้ เราจ่ายเท่าเดิมเลย มันคืออะไร แทนที่เราควรจะจ่ายถูกลง เหมือนผู้ขายได้กำไรจากทั้งเราผู้ซื้อ และ ได้ส่วนต่าง 2 บาทไปฟรีๆ

เพราะเท่าที่ลองๆ เช็คราคาที่จีน เป็น หยวน เทียบกับบาท รถที่ไม่ควรจะแพง กลับแพงกว่าในจีน เกือบ 2 เท่า ทั้งที่ได้ FTA 0% นำเข้า

บางคนแย้งว่า เขาก็ต้องมีกำไร ไม่ใช่การกุศล นิหน่า แต่ตอนขายเป็นราคาหยวน เขาก็ได้กำไรไปแล้วนิ (ถูกไหม?)

บางคนบอก ค่าขนส่ง เอ๊ะ จริงเหรอ ที่ทำให้มันแพงกว่าขายในจีนเกือบ 1.5-2 เท่า

บางคันน่าจะควรขายราคา 5-6 แสน แต่มาไทยขายเกือบ 8 แสน(ส่วนลดเงินอุดหนุนแล้วนะ ถ้าไม่รวมอุดหนุน ทะลุล้านเลย)

บางคันราคาอยู่ๆแถว 6.5-7.9 แสน แต่บ้านเราก็ทะลุล้านกว่า

ผมไม่เอ่ยยี่ห้อนะครับ หลายท่านน่าจะพอทราบ และไปส่องราคาจีน มาเทียบดู น่าจะพอเห็นภาพอยู่

ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,839
แทนที่จะเอากำไรมาสต๊อกอะไหล่บ้าง นี่อะไร
อะไหล่ตัวถังซักชิ้นยังไม่เอาเข้ามาเลย

ออฟไลน์ เต๋า AV

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,390
บางคันน่าจะควรขายราคา 5-6 แสน แต่มาไทยขายเกือบ 8 แสน(ส่วนลดเงินอุดหนุนแล้วนะ ถ้าไม่รวมอุดหนุน ทะลุล้านเลย)

เดี๋ยวๆ นะ เดี๋ยวๆ
ราคาที่ขายในจีน มันเป็นราคาที่รัฐบาลเขาให้ส่วนลดเงินอุดหนุนแล้วนะ
ตีเป็นเงินไทย คันละ 200,000 - 400,000 บาทต่อคันเลยนะครับ
ต้อง + ส่วนลดของรัฐไปอีก ถึงจะเป็นราคาขายจริงที่นำมาขายบ้านเรา

การคำนวนภาษี นำเข้า รถยนต์ไฟฟ้าจากจีน ภายใต้ FTA 0%

CIF (Cost + Insurance + Freight) = 650,000
ภาษีอากรขาเข้า 0% = 0
ภาษีสรรพสามิต = (((650,000 + 0) x 2%) )/(1 – (1.1×2%) ) = 13,292
ภาษีมหาดไทย 10% ของ ภาษีสรรพสามิต = 1,329.2
ราคารถก่อนภาษีมูลค่าเพิ่ม CIF+อากรขาเข้า+ภาษีสรรพสามิต+ภาษีมหาดไทย
650,000 + 0 + 13,292 + 1,329.2 = 664,621.2
ภาษีมูลค่าเพิ่ม VAT 7% = 711,144.684

ราคารถยนต์ไฟฟ้าจากจีน ราคา 600,000 บาท ราคานำเข้า ยังไม่รวม กำไร และค่าการตลาด จะอยู่ที่ 711,144.684 บาท

ออนไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,896
    • อีเมล์
^
^
รถจีนอาจไม่เสียภาษีนำเข้า แต่ก็โดนภาษีตามด้านบนอีกอยู่ดี

และเวลาออกมาเป็นราคาขาย รัฐก็มีเงินช่วยอีก

ก็ งงๆ เหมือนกันเนอะ ใครอธิบายได้ ลองช่วยอธิบายทีครับ

ออฟไลน์ U9WS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,180
  • slower is better
มีแต่กระบะกับ ppv ประกอบไทยที่ราคาเราถูกกว่าตลาดส่วนใหญ่ของโลก

นอกนั้นพวกรถเก๋งซึ่งก็ประกอบไทยเราแพงกว่า ยิ่งรถพรีเมียม​เราแพงกว่ามาก
Camry Crv ตัวท็อปเค้าซื้อกัน 1ล้าน
Benz Porsche​ ล้านกลางๆก็ซื้อได้แล้ว

ออฟไลน์ เหวินซิ่ว

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 138
ผมเข้าใจคำถามเลยครับ เพราะผมก็ข้องใจเหมือนกันว่าส่วนลดที่เราควรจะได้รถในราคาที่ถูกลงจริงๆ กลับถูกบวกเพิ่มเข้าไปอีกทีนึง แต่มี ora goodcat ที่เปิดตัวมาก่อนนโบายเงินอุดหนุน เลยเป็นโชคดีที่รถรุ่นนี้ขายได้ในราคาต่ำล้าน หลังหักส่วนลดแล้ว ผิดกับ byd ที่มีโอกาสตั้งราคาก่อนหักส่วนลด

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,041
แพงกว่าเขาจ่าย ก็คือแพงครับ แต่ก็มัดมือชกแหละนะ

ออฟไลน์ deertesla

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,245
บางคันน่าจะควรขายราคา 5-6 แสน แต่มาไทยขายเกือบ 8 แสน(ส่วนลดเงินอุดหนุนแล้วนะ ถ้าไม่รวมอุดหนุน ทะลุล้านเลย)

เดี๋ยวๆ นะ เดี๋ยวๆ
ราคาที่ขายในจีน มันเป็นราคาที่รัฐบาลเขาให้ส่วนลดเงินอุดหนุนแล้วนะ
ตีเป็นเงินไทย คันละ 200,000 - 400,000 บาทต่อคันเลยนะครับ
ต้อง + ส่วนลดของรัฐไปอีก ถึงจะเป็นราคาขายจริงที่นำมาขายบ้านเรา

การคำนวนภาษี นำเข้า รถยนต์ไฟฟ้าจากจีน ภายใต้ FTA 0%

CIF (Cost + Insurance + Freight) = 650,000
ภาษีอากรขาเข้า 0% = 0
ภาษีสรรพสามิต = (((650,000 + 0) x 2%) )/(1 – (1.1×2%) ) = 13,292
ภาษีมหาดไทย 10% ของ ภาษีสรรพสามิต = 1,329.2
ราคารถก่อนภาษีมูลค่าเพิ่ม CIF+อากรขาเข้า+ภาษีสรรพสามิต+ภาษีมหาดไทย
650,000 + 0 + 13,292 + 1,329.2 = 664,621.2
ภาษีมูลค่าเพิ่ม VAT 7% = 711,144.684

ราคารถยนต์ไฟฟ้าจากจีน ราคา 600,000 บาท ราคานำเข้า ยังไม่รวม กำไร และค่าการตลาด จะอยู่ที่ 711,144.684 บาท
ไม่แปลกที่รถขายแพงนะครับ ขนาดคนไทยด้วยกันยังปกป้องค่ายรถขนาดนี้

แพงกว่าเขาจ่าย ก็คือแพงครับ แต่ก็มัดมือชกแหละนะ
จริงครับ กะมาแทนญี่ปุ่นครับ

แทนที่จะเอากำไรมาสต๊อกอะไหล่บ้าง นี่อะไร
อะไหล่ตัวถังซักชิ้นยังไม่เอาเข้ามาเลย
ตามนั้นครับ  ผมมองว่าค้าขายกับจีนนี่เหนื่อยครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 29, 2023, 00:22:09 โดย deertesla »

ออฟไลน์ Zephyrs

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 913
เวปนี้ชักแปลกขึ้นทุกวันๆ มีคนอธิบายยาวพรืดว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ราคาแสดงที่จีนมันอะไรบ้างที่หักไป

บอกเขาปกป้องค่ายรถ

คือถ้าคิดว่ากดซื้อราคาจากที่จีนแล้วจะได้ถูกกว่าที่ศูนย์ก็บินไปซื้อได้หนิครับ แล้วขับลงมาจากจีนเอา

คือ FTA มันแค่ไม่เสียภาษี แต่ไม่ได้แปลว่าเขาส่งฟรีนะครับ ไม่ใช่ Shopee/Lazada กดคูปองนะ

ออฟไลน์ deertesla

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,245
เวปนี้ชักแปลกขึ้นทุกวันๆ มีคนอธิบายยาวพรืดว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ราคาแสดงที่จีนมันอะไรบ้างที่หักไป

บอกเขาปกป้องค่ายรถ

คือถ้าคิดว่ากดซื้อราคาจากที่จีนแล้วจะได้ถูกกว่าที่ศูนย์ก็บินไปซื้อได้หนิครับ แล้วขับลงมาจากจีนเอา

คือ FTA มันแค่ไม่เสียภาษี แต่ไม่ได้แปลว่าเขาส่งฟรีนะครับ ไม่ใช่ Shopee/Lazada กดคูปองนะ
รถไฟฟ้าจีนบางยี่ห้อที่เอามาขายในไทยปัญหาอย่างเยอะ จอดพังระหว่างทางรอยานแม่ไม่ใช่แค่คันเดียวแต่ดันขายเกือบล้านมันสมราคามั้ย การออกแบบให้แบตเตอรี่โผล่ออกมาให้ขูดได้ง่ายแถมปกป้องแบตไม่ดีอีก แถมเครือนี้สายเข็มขัดนิรภัยขาดเองระหว่างเกิดอุบัติเหตุอีก มาตรฐานแบบจีนๆ ที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ แต่เอามาขายราคาเดียวกันหรือแพงกว่ายุ่นอีกและด้วยราคาทีในเมืองจีนอีกราคานึงราคาไทยห่างกันมากจะไม่ทำให้มองได้ไงแพงมัดมือชก  พยามอย่างสร้างภาพว่าตัวเองหรู  พรีเมี่ยมทั้งที่มันไม่ถึง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 29, 2023, 03:38:54 โดย deertesla »

ออฟไลน์ off_033

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,259
    • อีเมล์
เวปนี้ชักแปลกขึ้นทุกวันๆ มีคนอธิบายยาวพรืดว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ราคาแสดงที่จีนมันอะไรบ้างที่หักไป

บอกเขาปกป้องค่ายรถ

คือถ้าคิดว่ากดซื้อราคาจากที่จีนแล้วจะได้ถูกกว่าที่ศูนย์ก็บินไปซื้อได้หนิครับ แล้วขับลงมาจากจีนเอา

คือ FTA มันแค่ไม่เสียภาษี แต่ไม่ได้แปลว่าเขาส่งฟรีนะครับ ไม่ใช่ Shopee/Lazada กดคูปองนะ
รถไฟฟ้าจีนบางยี่ห้อที่เอามาขายในไทยปัญหาอย่างเยอะ จอดพังระหว่างทางรอยานแม่ไม่ใช่แค่คันเดียวแต่ดันขายเกือบล้านมันสมราคามั้ย การออกแบบให้แบตเตอรี่โผล่ออกมาให้ขูดได้ง่ายแถมปกป้องแบตไม่ดีอีก แถมเครือนี้สายเข็มขัดนิรภัยขาดเองระหว่างเกิดอุบัติเหตุอีก มาตรฐานแบบจีนๆ ที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ แต่เอามาขายราคาเดียวกันหรือแพงกว่ายุ่นอีกและด้วยราคาทีในเมืองจีนอีกราคานึงราคาไทยห่างกันมากจะไม่ทำให้มองได้ไงแพงมัดมือชก  พยามอย่างสร้างภาพว่าตัวเองหรู  พรีเมี่ยมทั้งที่มันไม่ถึง

อันนี้เราพูดถึงราคาและภาษีไม่ใช่รึครับ

เรื่องคุณภาพก็อีกเรื่องซึ่งมีทั้งคนรับได้และไม่ได้

ออฟไลน์ Floppy-T

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 955
ถึงจะเห็นราคามันถูกกว่ารถน้ำมัน แต่ก็ยังรู้สึกแพงอยู่ดี ไม่รู้สิ มันควรจะถูกได้กว่านี้นะผมว่า

ออฟไลน์ Isomars

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 127
แต่ถ้าให้แบรนด์ญี่ปุ่นทำรถไฟฟ้าระดับเดียวกัน ราคาก็คงไม่ถูกแบบนี้แน่ๆ ครับ

ออฟไลน์ boogie2020

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,037
    • อีเมล์
ก็แค่ยอมรับไปว่า ไม่รุ้ว่า ที่จีนเขาจ่ายชดเชยให้เหมือนกัน เลยมองผิดไปว่าเราใช้แพงกว่าเยอะ ก็แค่นั้นอะคับ คนเราไม่ได้รุ้ทุกอย่าง พอไม่รุ้ ท่านสมาชิกท่านอื่นมาแจงให้ฟัง ก็น่าจะรับฟังและทำความเข้าใจใหม่อะคับ
-----------------------------------------------------------
There is no spoon
-----------------------------------------------------------

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,190
    • อีเมล์
บางคันน่าจะควรขายราคา 5-6 แสน แต่มาไทยขายเกือบ 8 แสน(ส่วนลดเงินอุดหนุนแล้วนะ ถ้าไม่รวมอุดหนุน ทะลุล้านเลย)

เดี๋ยวๆ นะ เดี๋ยวๆ
ราคาที่ขายในจีน มันเป็นราคาที่รัฐบาลเขาให้ส่วนลดเงินอุดหนุนแล้วนะ
ตีเป็นเงินไทย คันละ 200,000 - 400,000 บาทต่อคันเลยนะครับ
ต้อง + ส่วนลดของรัฐไปอีก ถึงจะเป็นราคาขายจริงที่นำมาขายบ้านเรา

การคำนวนภาษี นำเข้า รถยนต์ไฟฟ้าจากจีน ภายใต้ FTA 0%

CIF (Cost + Insurance + Freight) = 650,000
ภาษีอากรขาเข้า 0% = 0
ภาษีสรรพสามิต = (((650,000 + 0) x 2%) )/(1 – (1.1×2%) ) = 13,292
ภาษีมหาดไทย 10% ของ ภาษีสรรพสามิต = 1,329.2
ราคารถก่อนภาษีมูลค่าเพิ่ม CIF+อากรขาเข้า+ภาษีสรรพสามิต+ภาษีมหาดไทย
650,000 + 0 + 13,292 + 1,329.2 = 664,621.2
ภาษีมูลค่าเพิ่ม VAT 7% = 711,144.684

ราคารถยนต์ไฟฟ้าจากจีน ราคา 600,000 บาท ราคานำเข้า ยังไม่รวม กำไร และค่าการตลาด จะอยู่ที่ 711,144.684 บาท

อันนี้ผมพอทราบ

แต่

เวลาคิดราคาขาย มันต้องคิดจากราคาต้นทุน หรือ ราคาสินค้าหรือป่าวครับ

ที่ผมตีราคาตรงๆ จาก หยวน เป็น บาท ก็เพราะว่า

1. ราคาขายที่จีน ก็คือ ราคาที่รวมภาษี รวม vat และ อื่นๆ แล้ว ถูกไหม

2. ราคาขายที่จีน ก็คือ ราคาที่คิดกำไรแล้ว ถูกไหม

3. ราคาขายที่จีน ก็คือ ราคารวมส่วนลดอุดหนุนจากรัฐแล้ว ถูกไหม

ถ้าบอกว่า เอาราคาตั้งจากทั้ง 3 ข้อด้านบน มันกลายเป็นว่า

1. คนไทย ที่ซื้อรถที่นำเข้าจากจีน ต้องเสียภาษีทั้งให้กับจีน และ เสียให้กับไทย อีกรอบเหรอครับ?

2. ราคานำเข้าจากจีน เอาราคาจีนตั้ง แล้วมี บวก กำไร ในราคาขายในไทยอีก มันกลายเป็น เขาได้กำไร 2 รอบ เหรอครับ?

อันนี้ผมไม่มีความข้อมูลราคาที่เป็น cost หรือ ต้นทุนราคา (ที่ยังไม่รวมอย่างอื่น) ในจีน ผมเลยไม่กล้างอ้างอิงราคานั้น

ผมเลยอ้างอิงราคาขายปลีก มันจะได้หาข้อมูลง่ายครับ

ผิดถูกยังไง รบกวนแนะนำด้วยครับ



เวปนี้ชักแปลกขึ้นทุกวันๆ มีคนอธิบายยาวพรืดว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ราคาแสดงที่จีนมันอะไรบ้างที่หักไป

บอกเขาปกป้องค่ายรถ

คือถ้าคิดว่ากดซื้อราคาจากที่จีนแล้วจะได้ถูกกว่าที่ศูนย์ก็บินไปซื้อได้หนิครับ แล้วขับลงมาจากจีนเอา

คือ FTA มันแค่ไม่เสียภาษี แต่ไม่ได้แปลว่าเขาส่งฟรีนะครับ ไม่ใช่ Shopee/Lazada กดคูปองนะ

ลองอ่านดูดีๆ นะครับ

ผมไม่ได้หมายถึงซื้อที่จีน ถูกกว่าที่ซื้อศูนย์ไทย

แต่ผมว่ามันแพงเกินไปหรือป่าว ถ้าเทียบกันบาทต่อบาท หยวนต่อหยวน

และ รถที่นำเข้าไทย ก็ต้องขนส่งมาทุกคัน ถ้าเทียบค่าขนส่ง มันยิ่งง่าย เพราะค่ายไหนนำเข้าก็ต้องจ่ายนิครับ ไม่ได้จ่ายค่ายเดียวนะ

เวปนี้ชักแปลกขึ้นทุกวันๆ มีคนอธิบายยาวพรืดว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ราคาแสดงที่จีนมันอะไรบ้างที่หักไป

บอกเขาปกป้องค่ายรถ

คือถ้าคิดว่ากดซื้อราคาจากที่จีนแล้วจะได้ถูกกว่าที่ศูนย์ก็บินไปซื้อได้หนิครับ แล้วขับลงมาจากจีนเอา

คือ FTA มันแค่ไม่เสียภาษี แต่ไม่ได้แปลว่าเขาส่งฟรีนะครับ ไม่ใช่ Shopee/Lazada กดคูปองนะ
รถไฟฟ้าจีนบางยี่ห้อที่เอามาขายในไทยปัญหาอย่างเยอะ จอดพังระหว่างทางรอยานแม่ไม่ใช่แค่คันเดียวแต่ดันขายเกือบล้านมันสมราคามั้ย การออกแบบให้แบตเตอรี่โผล่ออกมาให้ขูดได้ง่ายแถมปกป้องแบตไม่ดีอีก แถมเครือนี้สายเข็มขัดนิรภัยขาดเองระหว่างเกิดอุบัติเหตุอีก มาตรฐานแบบจีนๆ ที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ แต่เอามาขายราคาเดียวกันหรือแพงกว่ายุ่นอีกและด้วยราคาทีในเมืองจีนอีกราคานึงราคาไทยห่างกันมากจะไม่ทำให้มองได้ไงแพงมัดมือชก  พยามอย่างสร้างภาพว่าตัวเองหรู  พรีเมี่ยมทั้งที่มันไม่ถึง

อันนี้เราพูดถึงราคาและภาษีไม่ใช่รึครับ

เรื่องคุณภาพก็อีกเรื่องซึ่งมีทั้งคนรับได้และไม่ได้

ใช่ครับ ผมยังไม่ได้พูดถึงเรื่องคุณภาพเลย

แต่ถ้าให้แบรนด์ญี่ปุ่นทำรถไฟฟ้าระดับเดียวกัน ราคาก็คงไม่ถูกแบบนี้แน่ๆ ครับ

อันนี้ก็ต้องดูเป็นกรณีๆ ไปครับ ว่านำเข้าจากไหน เพราะในจีนเอง ยี่ห้อยี่ปุ่นก็ไม่ได้แพงนะครับ (ข่าวมาก่อนหน้านี้เร็วๆ นี้เอง ว่าซื้อคันแถมคันแล้วนะ) มาแพงที่ไทยนี่ละ

ก็แค่ยอมรับไปว่า ไม่รุ้ว่า ที่จีนเขาจ่ายชดเชยให้เหมือนกัน เลยมองผิดไปว่าเราใช้แพงกว่าเยอะ ก็แค่นั้นอะคับ คนเราไม่ได้รุ้ทุกอย่าง พอไม่รุ้ ท่านสมาชิกท่านอื่นมาแจงให้ฟัง ก็น่าจะรับฟังและทำความเข้าใจใหม่อะคับ

ครับผม ผมก็พอทราบนโยบายรถไฟฟ้าของจีน อยู่บ้างนิดหน่อย เพราะผมเองก็เคยไปอยู่จีน แฟนก็จบมาจากจีน

ผมเลยอยากขอความรู้ ความคิดเห็น ในมุมอื่นๆ ที่ สมช.หลายท่าน น่าจะมีข้อมูลมากกว่าครับ

ขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำ

ออนไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,896
    • อีเมล์
^
^
มุมนี้ก็น่าคิดนะครับ ต้นทุนรถค่ายจีน ที่ออกจากโรงงานจีนเลย มันเท่าไร

พอผลิตออกมา ขายที่จีน ราคานึงซึ่งมันเป็นราคารวมกำไรแล้ว ..

ทีนี้ส่วนที่นำเข้ามาขายไทย คือที่ออกจากโรงงานจีน ลงเรือแล้วมาไทย ต้นทุน+กำไรตรงนี้เท่าไร ก่อนที่มาถึงเราและเราคิดภาษีต่างๆลงไปจนเป็นราคาขาย

ไม่รู้ว่าค่ายจีนในจีนเค้าขายแล้วมี service แบบไทยหรือเปล่า มีประกันเหมือนบ้านเราหรือเปล่า ตรงนี้อาจจะเป็นต้นทุนสาเหตุที่บ้านเราแพงกว่าเค้าก็ได้

และก็ค่ายจีน เวลาซื้อจริง ส่วนลดโหดกว่าญี่ปุ่นหลายเท่านะครับ เลยทำให้คิดว่า มาจิ้นจริงๆของเค้าเท่าไรกันแน่ถึงลดให้ได้มากมายขนาดนี้

ออฟไลน์ Gunners-headlight

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 444
    • อีเมล์
อย่าไปคิดมากครับ ปวดหัว
สุดท้ายแล้ว รถก็คือ สินค้าที่มีทางเลือกหลากหลาย  ราคาเดียวกัน ได้ของมาไม่เท่ากัน
ผู้ซื้อพิจารณาเองได้เลยครับ  จะรถจีน จะญี่ปุ่น สุดท้ายปลายทาง ผู้ซื้อต้องคำนวนความเสี่ยง
ค่าใช้จ่าย ซ่อมบำรุง ภาษี เองครับ ว่าเหมาะสมกับเงินในประเป๋าหรือไม่
ถ้ารับไหว ก็จัดเลย แต่ถ้าไม่มั่นใจ ก็ใช้ค่ายญี่ปุ่นกันไป ครับ
รถ EV ไม่ได้วิเศษครับ มันแค่ใหม่ และ เรายังต้องพิสูจน์กันอีกยาวไกล
อาจจะเหมาะกับ หลายๆคน แต่ก็ไม่ใช่ทุกบ้าน ครับ

ออฟไลน์ 5ume7h

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 888
จากหัวกระทู้ เหมือนจะถามว่า FTA ช่วยให้รถที่มาากจีนราคาถูกจริงรึเปล่า
ก็ต้องบอกว่าจริง
ถ้าไม่ได้ FTA ที่ขายๆ กันตอนนี้แพงกว่านี้แน่นอน

ออฟไลน์ delete

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,963
    • อีเมล์
เอาแค่รถน้ำมันราคาไทย เทียบราคาประเทศไหนก็ได้ดูก็จะรู้ว่าราคาไทยมันทำให้เท่าเมืองนอกไม่ได้
อย่างแคมรี่ ประเทศอื่นขายไม่ถึงล้าน ขายไทยล้าน5ล้าน7 ก็ไม่เห็นมันจะถูกลงอะไรเลย
ยิ่งรถไฟฟ้า ตลาดที่ยังไม่มีคู่แข่งที่มากพอ จะขายราคาไหน ถ้าคนพอใจ ก็ขายได้ ของแถก็ไม่มี ดอกเบี้ยก็แพง ก็ขายได้

จนกว่า ตลาดจะเกิดการแข่งขันนั่นแหละ ราคาก็จะปรับลงมาเอง

ออฟไลน์ krating

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 89
ถ้าไม่มี FTA รถจีนกะ ล่า ไม่น่าจะเกิดได้เสียงดัง เท่าวันนี้คับ
(ทางกลับกัน Fta นี้ ก็ทำให้ ของMade in Thailand จางหาย เจ๊งตามไป แล้วเราก็เป็นได้แค่ผู้ซื้อ ตลอดกาล)

ส่วนเขาจะขายเท่าไหร่ แล้วแต่เราครับ จะซื้อเขาไหม

เวลามีลูกค้ามาถามผม ทำไมขายของราคานี่ละ
ขายแพงจังซื้อไม่ไหว ขายเท่านี้ได้ไหม กำหนดราคาให้เราเรียบร้อย
เก่งจัง แต่ มั่วไปหมด

ปากบอกกลับไปแบบสุภาพ ขอโทษคร้าบ ขายไม่ได้จริงๆ ต้นทุนเราไม่เท่ากัน
คุณภาพก็ไม่เหมือนกันวัดตรงๆไม่ได้
ส่วนในใจ เชิญท่านไปซื้ออันที่ท่านพอใจเถอะคร้าบบ

ออฟไลน์ Zephyrs

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 913
เวปนี้ชักแปลกขึ้นทุกวันๆ มีคนอธิบายยาวพรืดว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ราคาแสดงที่จีนมันอะไรบ้างที่หักไป

บอกเขาปกป้องค่ายรถ

คือถ้าคิดว่ากดซื้อราคาจากที่จีนแล้วจะได้ถูกกว่าที่ศูนย์ก็บินไปซื้อได้หนิครับ แล้วขับลงมาจากจีนเอา

คือ FTA มันแค่ไม่เสียภาษี แต่ไม่ได้แปลว่าเขาส่งฟรีนะครับ ไม่ใช่ Shopee/Lazada กดคูปองนะ

ลองอ่านดูดีๆ นะครับ

ผมไม่ได้หมายถึงซื้อที่จีน ถูกกว่าที่ซื้อศูนย์ไทย

แต่ผมว่ามันแพงเกินไปหรือป่าว ถ้าเทียบกันบาทต่อบาท หยวนต่อหยวน

และ รถที่นำเข้าไทย ก็ต้องขนส่งมาทุกคัน ถ้าเทียบค่าขนส่ง มันยิ่งง่าย เพราะค่ายไหนนำเข้าก็ต้องจ่ายนิครับ ไม่ได้จ่ายค่ายเดียวนะ

มันก็วกกลับมาเรื่องเดิมอะครับ อะไรที่ทำให้คุณรู้สึกว่ามันแพงเกินไป หรือคุณเทียบกับอะไร เพราะคำว่าถูกแพงมัน Relative

ถ้าให้ผมเดามันมีหลายเรื่องถ้าเทียบกับจีน เพราะ
1. Economic of scale เขาผลิตพวงมาลัยซ้ายขายในจีนก็น่าจะเกิน Demand พวงมาลัยขวาทั้งโลกแล้ว
2. Margin ที่เขาคำนวณจากค่าใช้จ่ายทั้งหมดรวมค่าขนส่งและอื่นๆ เช่น เงินเดือนพนักงานฝั่งไทยตั้งแต่ฝ่ายบริหารยันช่าง (จะปฏิบัติดีไม่ดี ไม่เกี่ยวกัน) ค่าสำรองอะไหล่ในโกดัง (ถ้ามี)
รวมถึงกำไรที่เขาต้องการจะได้

คือถกกันไปไม่มีทางได้คำตอบที่ถูกครับ คนรู้มีแค่ฝ่ายบริหารหรือฝ่ายบัญชีของค่ายรถเท่านั้น
คิดง่ายๆก็ได้ โตโยต้าบ้านเราทำไม Margin เฉพาะตัวรถมันเยอะกว่าค่ายอื่น?
ก็เช่นกัน จ่ายเงินเดือนพนักงาน ค่าไฟค่าน้ำโรงงาน ค่าสำรองอะไหล่ในโกดัง การกระจายอะไหล่ตามศูนย์บริการ ไปจนถึงเรื่องกำไรของบริษัท

ปล. ผมไม่ได้ว่าท่านนะเรื่องเวปนี้แปลกขึ้นทุกวันๆ

เวปนี้ชักแปลกขึ้นทุกวันๆ มีคนอธิบายยาวพรืดว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ราคาแสดงที่จีนมันอะไรบ้างที่หักไป

บอกเขาปกป้องค่ายรถ

คือถ้าคิดว่ากดซื้อราคาจากที่จีนแล้วจะได้ถูกกว่าที่ศูนย์ก็บินไปซื้อได้หนิครับ แล้วขับลงมาจากจีนเอา

คือ FTA มันแค่ไม่เสียภาษี แต่ไม่ได้แปลว่าเขาส่งฟรีนะครับ ไม่ใช่ Shopee/Lazada กดคูปองนะ
รถไฟฟ้าจีนบางยี่ห้อที่เอามาขายในไทยปัญหาอย่างเยอะ จอดพังระหว่างทางรอยานแม่ไม่ใช่แค่คันเดียวแต่ดันขายเกือบล้านมันสมราคามั้ย การออกแบบให้แบตเตอรี่โผล่ออกมาให้ขูดได้ง่ายแถมปกป้องแบตไม่ดีอีก แถมเครือนี้สายเข็มขัดนิรภัยขาดเองระหว่างเกิดอุบัติเหตุอีก มาตรฐานแบบจีนๆ ที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ แต่เอามาขายราคาเดียวกันหรือแพงกว่ายุ่นอีกและด้วยราคาทีในเมืองจีนอีกราคานึงราคาไทยห่างกันมากจะไม่ทำให้มองได้ไงแพงมัดมือชก  พยามอย่างสร้างภาพว่าตัวเองหรู  พรีเมี่ยมทั้งที่มันไม่ถึง

ประเด็นคือเราพูดกันว่าทำไม FTA 0% แล้วราคามันมี Margin ต่างกับที่จีนไม่ใช่หรอครับ?

รถมันจะห่วยเท่า Cherry QQ สมัยก่อนนู้นก็ไม่ได้เกี่ยวกัน นั่นคือเรื่องตัวเนื้องาน นี่เราพูดถึงป้ายราคา

เหมือนคุยเรื่องราคาเป็ปซี่ 7 up ทำไมในห้างกับหน้าโรงงานต่างกัน แล้วคุณมาตอบผมเรื่องรสชาติมันไม่ได้เรื่อง คุยกันชาตินึงก็ไม่รู้เรื่อง

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,190
    • อีเมล์
เวปนี้ชักแปลกขึ้นทุกวันๆ มีคนอธิบายยาวพรืดว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ราคาแสดงที่จีนมันอะไรบ้างที่หักไป

บอกเขาปกป้องค่ายรถ

คือถ้าคิดว่ากดซื้อราคาจากที่จีนแล้วจะได้ถูกกว่าที่ศูนย์ก็บินไปซื้อได้หนิครับ แล้วขับลงมาจากจีนเอา

คือ FTA มันแค่ไม่เสียภาษี แต่ไม่ได้แปลว่าเขาส่งฟรีนะครับ ไม่ใช่ Shopee/Lazada กดคูปองนะ

ลองอ่านดูดีๆ นะครับ

ผมไม่ได้หมายถึงซื้อที่จีน ถูกกว่าที่ซื้อศูนย์ไทย

แต่ผมว่ามันแพงเกินไปหรือป่าว ถ้าเทียบกันบาทต่อบาท หยวนต่อหยวน

และ รถที่นำเข้าไทย ก็ต้องขนส่งมาทุกคัน ถ้าเทียบค่าขนส่ง มันยิ่งง่าย เพราะค่ายไหนนำเข้าก็ต้องจ่ายนิครับ ไม่ได้จ่ายค่ายเดียวนะ

มันก็วกกลับมาเรื่องเดิมอะครับ อะไรที่ทำให้คุณรู้สึกว่ามันแพงเกินไป หรือคุณเทียบกับอะไร เพราะคำว่าถูกแพงมัน Relative

ถ้าให้ผมเดามันมีหลายเรื่องถ้าเทียบกับจีน เพราะ
1. Economic of scale เขาผลิตพวงมาลัยซ้ายขายในจีนก็น่าจะเกิน Demand พวงมาลัยขวาทั้งโลกแล้ว
2. Margin ที่เขาคำนวณจากค่าใช้จ่ายทั้งหมดรวมค่าขนส่งและอื่นๆ เช่น เงินเดือนพนักงานฝั่งไทยตั้งแต่ฝ่ายบริหารยันช่าง (จะปฏิบัติดีไม่ดี ไม่เกี่ยวกัน) ค่าสำรองอะไหล่ในโกดัง (ถ้ามี)
รวมถึงกำไรที่เขาต้องการจะได้

คือถกกันไปไม่มีทางได้คำตอบที่ถูกครับ คนรู้มีแค่ฝ่ายบริหารหรือฝ่ายบัญชีของค่ายรถเท่านั้น
คิดง่ายๆก็ได้ โตโยต้าบ้านเราทำไม Margin เฉพาะตัวรถมันเยอะกว่าค่ายอื่น?
ก็เช่นกัน จ่ายเงินเดือนพนักงาน ค่าไฟค่าน้ำโรงงาน ค่าสำรองอะไหล่ในโกดัง การกระจายอะไหล่ตามศูนย์บริการ ไปจนถึงเรื่องกำไรของบริษัท

ปล. ผมไม่ได้ว่าท่านนะเรื่องเวปนี้แปลกขึ้นทุกวันๆ


ขอบคุณครับสำหรับความเห็น ได้เห็นหลายมุม

สำหรับผม มองว่า แค่มันแพงไปหน่อย แค่นั้นเอง

สมมุติ รถราคาขายที่จีน 150,000 หยวน (เทียบเป็นเงินไทย 1 หยวน = 5 บาท ก็ประมาณ 750,000 บาท)

แต่ในราคา 150,000 หยวนนั้น มันก็มีค่าภาษี ค่าส่วนต่าง ค่ากำไรและอื่นๆ ไปแล้ว เป็นราคาสุทธิที่ขายแล้ว

แต่ถ้าราคาต้นทุนจริง(เหมือนราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่น) มันอาจจะแค่ 100,000 หยวน (ผมสมมุติ เพราะผมเองก็ไม่มีตัวเลขนี้)

ดังนั้น ตอนส่งมาขายที่ไทย ก็ต้องอ้างอิงราคาต้นทุน 100,000 หยวน หรือ 500,000 บาท (ส่วนจะมีภาษีสำหรับส่งออก ภาษีศุลกากรภายในจีนเอง หรือค่าอื่นๆ อันนี้ไม่ทราบนะครับ)

พอมาได้ FTA 0% มันน่าจะมาตั้งต้นราคา 500,000 บาทไทย เป็นต้นทุนหรือป่าว

ซึ่งบางคน บอกว่า ราคาขายที่จีน 150,000 หยวน ราคาไทย มันจะขาย 750,000 บาท เหมือนในจีนได้อย่างไร มันก็ต้องบวกกำไร โน่น นี่ นั้น เข้าไปอีก มันก็ทะลุ 1 ล้านซิ

อย่างที่ผมบอกว่า ราคา 150,000 หยวน  นั้น มันเป็นราคาขายที่จีน เขาก็บวกกำไร ภาษี และ อื่นๆ ในส่วนของเขาไปหมดแล้วนิ

ทำไมต้องอิงราคานี้ละ ถ้าอ้างอิงราคานี้ มันก็เท่ากับว่า เราเสียภาษีและค่าอื่นๆ ให้ทั้งจีนรอบหนึ่ง แล้วมาเสียภาษีและค่าอื่นๆ ในไทยอีกรอบซิ มันไม่น่าใช่

ตอนตั้งราคา (แบบสมเหตุ สมผล) มันก็ควรเริ่มต้นจาก ต้นทุน 100,000 หยวน หรือ 500,000 บาท ส่วนจะบวกค่าขนส่ง ภาษี vat ค่าดำเนินการ หรือ กำไร หรืออะไรๆ ก็ควรจะเริ่มตรงนี้

แล้วราคามันก็ไม่ควรจะไปไกลมาก ขนาดแพงกว่าในจีน เกือบ 2 เท่าตัวนิ

แต่ถ้าตามคุณบอกว่า อ้อ ก็ มาจิ้น ต่างกัน ค่าดำเนินการ ค่าใช้จ่าย ค่าแรง ค่าจ้าง ค่าทำตลาด ค่าโฆษณา และ อื่นๆ ต่างกัน จนราคาต่างกัน(มาก) ขนาดนี้ ผมก็เข้าใจได้ครับ

ในมุมผม แค่บอกว่า มันแพงเกินไปหรือป่าว มันควรจะถูกได้มากกว่านี้ ทั้งที่ FTA ก็ได้สิทธิ์ ส่วนลดจากรัฐก็ได้ แค่นั้นเองครับ

ออฟไลน์ Vanz

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 76
ก่อนอื่นต้องเข้าใจเรื่องหนึ่งก่อนครับ

ราคาสินค้าจะมี 2 แบบ
1. เรียกว่า local price = factory
2. เรียกว่า export price = factory + licence export

licence export คือเงินที่รัฐบาลแต่ละประเทศนั้นเข้าไปลงทุนหรือเข้าไปช่วยในอุตสาหกรรมนั้น มันมีค่าตรงนี้ด้วย เวลาเค้าขายในประเทศเค้าไม่คิด

รถที่จีนขายจะเป็นแบบที่ 1 
รถที่ส่งมาขายที่ไทยจะเป็นแบบ 2

เวลาจีนเค้าขายให้เราเขาขายแบบ 2 นะครับ ไม่ใช่แค่จีนทุกประเทศในโลกที่เป็นเจ้าของเทคโนโลยีต่างๆ เค้าทำกันแบบนี้หมด

ส่วนจะคิดค่าการตลาดหรือกำไรเท่าไหร่ ก็ค่อยบวกเข้าไป

ออฟไลน์ seeker

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,521
ผมว่ามันแปลกนะ คุณลองแยกมองเป็นส่วนๆไป

โรงงาน กข ผลิตรถ 1 คัน เวลาขายก็ต้องมีกำไร จะให้ขายส่งออกแบบเท่าทุนมันเป็นไปได้เหรอ พนักงานรู้คงต้องโวยวายแน่
พอนำเข้ามาไทย กข ในไทยทำหน้าที่ขาย ก็ต้องมีการบริหารจัดการเกิดขึ้น ส่วนนี้ก็ควรอยู่ในต้นทุนรถด้วย
ทั้งนี้ยังไม่รวมดีลเลอร์ กข อีกนะ

อยากให้มองแยกส่วนกันไป
กำไรจากการผลิต
กำไรจากการขาย

และที่พูดมา ก็เกิดจากการไม่รู้ อิงราคาขาย ซึ่งในราคาขายก็มีโครงสร้างที่เราไม่รู้ว่ามีอะไรบ้างอีก

ตัวแปรไม่รุ้เต็มไปหมด แต่เราก็โทษ รถ กข เอากำไรเกินไป

FTA ช่วยได้จริง สินค้านำเข้าจากจีนต้องยื่น form-e เพื่อขอใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี ถ้ามีโอกาสพยายามหาใบขนให้ได้ครับ

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,190
    • อีเมล์
ก่อนอื่นต้องเข้าใจเรื่องหนึ่งก่อนครับ

ราคาสินค้าจะมี 2 แบบ
1. เรียกว่า local price = factory
2. เรียกว่า export price = factory + licence export

licence export คือเงินที่รัฐบาลแต่ละประเทศนั้นเข้าไปลงทุนหรือเข้าไปช่วยในอุตสาหกรรมนั้น มันมีค่าตรงนี้ด้วย เวลาเค้าขายในประเทศเค้าไม่คิด

รถที่จีนขายจะเป็นแบบที่ 1 
รถที่ส่งมาขายที่ไทยจะเป็นแบบ 2

เวลาจีนเค้าขายให้เราเขาขายแบบ 2 นะครับ ไม่ใช่แค่จีนทุกประเทศในโลกที่เป็นเจ้าของเทคโนโลยีต่างๆ เค้าทำกันแบบนี้หมด

ส่วนจะคิดค่าการตลาดหรือกำไรเท่าไหร่ ก็ค่อยบวกเข้าไป

ครับ อันนี้ผมไม่มีตัวเลข เลยไม่รู้ว่ามันมาแบบไหน อาจจะแบบที่ 2 อย่างที่ท่าคิดก็ได้ครับ

ผมว่ามันแปลกนะ คุณลองแยกมองเป็นส่วนๆไป

โรงงาน กข ผลิตรถ 1 คัน เวลาขายก็ต้องมีกำไร จะให้ขายส่งออกแบบเท่าทุนมันเป็นไปได้เหรอ พนักงานรู้คงต้องโวยวายแน่
พอนำเข้ามาไทย กข ในไทยทำหน้าที่ขาย ก็ต้องมีการบริหารจัดการเกิดขึ้น ส่วนนี้ก็ควรอยู่ในต้นทุนรถด้วย
ทั้งนี้ยังไม่รวมดีลเลอร์ กข อีกนะ

อยากให้มองแยกส่วนกันไป
กำไรจากการผลิต
กำไรจากการขาย

และที่พูดมา ก็เกิดจากการไม่รู้ อิงราคาขาย ซึ่งในราคาขายก็มีโครงสร้างที่เราไม่รู้ว่ามีอะไรบ้างอีก

ตัวแปรไม่รุ้เต็มไปหมด แต่เราก็โทษ รถ กข เอากำไรเกินไป

FTA ช่วยได้จริง สินค้านำเข้าจากจีนต้องยื่น form-e เพื่อขอใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี ถ้ามีโอกาสพยายามหาใบขนให้ได้ครับ

ผมยกตัวอย่างให้แล้ว ที่ตรงบอกว่า ราคาหน้าโรงกลั่นของน้ำมัน นั้นละครับ มันไม่ได้หมายความว่า โรงงานผลิตออกมา ไม่มีกำไร ขายเท่าทุนนะ แยกส่วนครับ

ราคาหน้าโรงงาน คือ โรงงานได้กำไรทุนและกำไรไปแล้วส่วนหนึ่งไปแล้วจากกระบวนการผลิต ไม่งั้นเขาจะมี มาจิ้น ของแต่ละคัน แต่ละยี่ห้อ เหรอครับ

รถบางยี่ห้อ จ้างอีกโรงงานผลิตให้ ยังมีเลย เขาก็มีราคาที่กำไรของเขาอยู่แล้ว ถ้าหน้าโรงงานผลิตเขาคิดราคาเท่าขายปลีก อันนี้แปลกนะครับ

แต่ราคาขายที่เพิ่มมาตอนขายปลีก มันเกิดหลังจากนั้นครับ จะโดยปัจจัยของภาษีต่างๆ กำไร ค่าการตลาด และ อื่นๆ ว่าไป

ที่ผมถาม ในมุมว่า ค่าเหล่านั้นมันไม่มี มันมาเริ่มนับ 1 ที่ไทยนิ ราคามันก็ต้องไกล้เคียงกันกับราคาขายปลีกในจีนครับ ผมไม่ได้บอกว่าเขาไม่ได้กำไร หรือ ไม่เอากำไรนะครับ

หรือผมเข้าใจผิดเองเหรอครับ ว่ามันเป็นแบบนั้น

ออฟไลน์ krating

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 89
การตั้งราคาขาย เขาก็ดูตลาดที่ไปลงเล่นด้วยครับ
ตั้งราคาเอากำไรสูงสุด ในตลาดนั้นๆ
อยู่จีน อาจโดนกรอบบน ล่าง ของตำแหน่งสินค้าบล็อคไว้
แพงไปก็ไปชนตัวอื่น รุ่นอื่น ยี่ห้ออื่น
ถูกไปเดี๋ยวไปซํ้า ตัวล่าง คู่แข่ง
ที่จีนรถไฟฟ้าแข่งกันหัวแตก

มาไทย ตัวเล่นในตลาดไม่เยอะ ก็ตั้งราคาให้ได้กำไรสูง แบ่งขั้นตำแหน่งสินค้า รองจากกลุ่มรถหรูในประเทศ
 ไม่จำเป็นต้องเอากำไรน้อยนี่ครับ
ไม่ได้มีกฎ ให้เอากำไรกี่เปอร์เซ็นต์
เขาขายของเขาก็ต้องเลือกกำไรเยอะสุด

และเขาก็ทำสำเร็จ เขาตั้งราคาเท่านั้นแล้วขายได้ เขาจะขายถูกกว่าทำไม

จะมีการเปลี่ยนแปลงก็ต่อเมื่อ มีการปรับราคาแข่งจากกลุ่มบนกว่า นั่นละครับ
ราคาก็เปลี่ยนไปตามตำแหน่งสินค้าในแต่ละตลาดของประเทศนั้นๆ
ตัวบนกว่าปรับขึ้น ตัวล่างก็ขยับตาม
ตัวบนปรับลง ตัวล่างก็จำใจลดตาม

ตัวบนแบนด์บนกว่า จะปรับขึ้นแก๊บห่างจากตัวล่างกว่ามากก็ไม่ได้ เดี๋ยวโดดไป ต้องค่อยๆประคองกัน
บางทีก็อาจมีการคุยกันหลังไมค์อยู่ก็เป็นได้

หรือสินค้าไม่เดิน ขายไม่ออกจริงๆ นั่นละถึงมีปรับราคา
แสดงว่าราคาที่ตั้ง ไม่ใช้ตำแหน่งราคาที่สินค้านั้นควรจะอยู่


เราอาจจะเห็นว่าfta ทำให้เราได้ซื้อของราคาไม่แพง
แต่ในขณะเดียวกัน ก็ง่ายกับคนขายที่จะโกยเงินกลับประเทศได้เยอะ ไวขึ้น

บริษัท รถเขาไม่ได้ทำรถเพื่อ การกุศล เอากำไรน้อย
เขาทำรถเพื่อเอากำไรสูงสุด เอาเงินไปเติมบริษัท
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 30, 2023, 10:09:54 โดย krating »

ออฟไลน์ axister

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,173
จริงอยู่ที่ส่วนลด เหมือนมา support manufacturer แต่เค้าก็มีค่าอื่นๆ ขนส่งและภาษีอีกหลายๆส่วน ที่นำเข้ามา

หลักๆการสนับสนุนเป็น trigger ให้คนไทยได้ใช้ในราคาที่ถูกลงครับ แน่นอนเราได้ประโยชน์จากราคาที่มันไม่ได้ต่างจากรถน้ำมันใน segment เดียวกันมากเพราะในปัจจุบันแบตฯ ยังแพงอยู่ (ถ้าไม่นับ tesla ลองเทียบราคา based ของรุ่นเดียวกันน้ำมันกับไฟฟ้าได้ครับในประเทศที่ฐานภาษีปกติ เพราะไทยเองภาษีมาตามการปล่อยมลพิษที่งงๆ ถึงได้เห็นกระบะซงเอ ซงซ้อ ราคาถูกเพราะถูกคิดในฐานภาษีรถ commercial) แต่กำไรส่วนใหญ่จากส่วนลดภาครัฐไปอยู่ที่ค่ายรถให้ทำราคาออกมาได้ไม่แพงมากและมีกำไรด้วย เพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในประเทศครับ และเมื่อวันที่ผลิตในออกมา ราคาคงไม่ต่างกันมากแต่จะเป็นสิ่งที่ผลิตในไทย สร้างงานและทำให้เกิดการผลิตอะไหล่ cycle เพื่อการส่งออกสร้าง GDP ครับ

อันนี้คือ mechanic ของมันจริงๆ (จริงๆกิมมิกมันเหมือนเปิดคลินิคประกันสังคมอ่ะครับ เปิดไว้แล้วได้เงินสนับสนุนจากรัฐเป็นรายได้อีกทาง เพื่อสร้าง ecosystem ในชุมชุมให้ได้เข้าถึงการรักษาจากภาครัฐครับ)

การเอาราคาทุนของที่นั่นมากำปั้นทุบดินคิด ผมงงนิดๆ มันไม่ตื้นไปหรอ ค่ายรถเค้ามีค่าใช้จ่ายด้านการตลาด / dealer / ความเสี่ยงและอื่นๆนะครับ เค้าไม่ได้ทำการกุศล

ราคาที่เอามานั่งเทียนคำนวนมั่วๆ ไม่ถูกครับ ก่อนคิดภาษี ต่างๆนาๆ ที่ผูกสูตรมา มันไม่ใช่ราคานั้นครับ เช่น i4 ที่ขายกัน 4.5 ล้าน เค้าไม่ได้เอาราคาตั้งขายจากอังกฤษมาบวกเหมือนเกรย์ เค้ามีราคา factory มาคำนวนแล้วก็มา top-up ค่าใช้จ่าย และ margin เพิ่มครับ

ก็ไม่ได้เห็นด้วยที่มันแพงมากถ้าเทียบกับรายได้คนไทย แต่ประเทศเราเน้นเป็นผู้ตามจีน มันก็ต้องเป็นแบบนี้ครับ

มานั่ง breakdown ราคาแล้วบอกไม่แฟร์ ต้องลองนำเข้าเองดูครับจะได้รู้ว่า hidden cost มีเยอะกว่าที่นั่งเทียนเขียน รวมถึงมาในรูปแบบตัวแทนแบบนี้มีค่าใช้จ่ายอีกเยอะมากๆครับ

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,190
    • อีเมล์
จริงอยู่ที่ส่วนลด เหมือนมา support manufacturer แต่เค้าก็มีค่าอื่นๆ ขนส่งและภาษีอีกหลายๆส่วน ที่นำเข้ามา

หลักๆการสนับสนุนเป็น trigger ให้คนไทยได้ใช้ในราคาที่ถูกลงครับ แน่นอนเราได้ประโยชน์จากราคาที่มันไม่ได้ต่างจากรถน้ำมันใน segment เดียวกันมากเพราะในปัจจุบันแบตฯ ยังแพงอยู่ (ถ้าไม่นับ tesla ลองเทียบราคา based ของรุ่นเดียวกันน้ำมันกับไฟฟ้าได้ครับในประเทศที่ฐานภาษีปกติ เพราะไทยเองภาษีมาตามการปล่อยมลพิษที่งงๆ ถึงได้เห็นกระบะซงเอ ซงซ้อ ราคาถูกเพราะถูกคิดในฐานภาษีรถ commercial) แต่กำไรส่วนใหญ่จากส่วนลดภาครัฐไปอยู่ที่ค่ายรถให้ทำราคาออกมาได้ไม่แพงมากและมีกำไรด้วย เพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในประเทศครับ และเมื่อวันที่ผลิตในออกมา ราคาคงไม่ต่างกันมากแต่จะเป็นสิ่งที่ผลิตในไทย สร้างงานและทำให้เกิดการผลิตอะไหล่ cycle เพื่อการส่งออกสร้าง GDP ครับ

อันนี้คือ mechanic ของมันจริงๆ (จริงๆกิมมิกมันเหมือนเปิดคลินิคประกันสังคมอ่ะครับ เปิดไว้แล้วได้เงินสนับสนุนจากรัฐเป็นรายได้อีกทาง เพื่อสร้าง ecosystem ในชุมชุมให้ได้เข้าถึงการรักษาจากภาครัฐครับ)

การเอาราคาทุนของที่นั่นมากำปั้นทุบดินคิด ผมงงนิดๆ มันไม่ตื้นไปหรอ ค่ายรถเค้ามีค่าใช้จ่ายด้านการตลาด / dealer / ความเสี่ยงและอื่นๆนะครับ เค้าไม่ได้ทำการกุศล

ราคาที่เอามานั่งเทียนคำนวนมั่วๆ ไม่ถูกครับ ก่อนคิดภาษี ต่างๆนาๆ ที่ผูกสูตรมา มันไม่ใช่ราคานั้นครับ เช่น i4 ที่ขายกัน 4.5 ล้าน เค้าไม่ได้เอาราคาตั้งขายจากอังกฤษมาบวกเหมือนเกรย์ เค้ามีราคา factory มาคำนวนแล้วก็มา top-up ค่าใช้จ่าย และ margin เพิ่มครับ

ก็ไม่ได้เห็นด้วยที่มันแพงมากถ้าเทียบกับรายได้คนไทย แต่ประเทศเราเน้นเป็นผู้ตามจีน มันก็ต้องเป็นแบบนี้ครับ

มานั่ง breakdown ราคาแล้วบอกไม่แฟร์ ต้องลองนำเข้าเองดูครับจะได้รู้ว่า hidden cost มีเยอะกว่าที่นั่งเทียนเขียน รวมถึงมาในรูปแบบตัวแทนแบบนี้มีค่าใช้จ่ายอีกเยอะมากๆครับ

การตั้งราคาขาย เขาก็ดูตลาดที่ไปลงเล่นด้วยครับ
ตั้งราคาเอากำไรสูงสุด ในตลาดนั้นๆ
อยู่จีน อาจโดนกรอบบน ล่าง ของตำแหน่งสินค้าบล็อคไว้
แพงไปก็ไปชนตัวอื่น รุ่นอื่น ยี่ห้ออื่น
ถูกไปเดี๋ยวไปซํ้า ตัวล่าง คู่แข่ง
ที่จีนรถไฟฟ้าแข่งกันหัวแตก

มาไทย ตัวเล่นในตลาดไม่เยอะ ก็ตั้งราคาให้ได้กำไรสูง แบ่งขั้นตำแหน่งสินค้า รองจากกลุ่มรถหรูในประเทศ
 ไม่จำเป็นต้องเอากำไรน้อยนี่ครับ
ไม่ได้มีกฎ ให้เอากำไรกี่เปอร์เซ็นต์
เขาขายของเขาก็ต้องเลือกกำไรเยอะสุด

และเขาก็ทำสำเร็จ เขาตั้งราคาเท่านั้นแล้วขายได้ เขาจะขายถูกกว่าทำไม

จะมีการเปลี่ยนแปลงก็ต่อเมื่อ มีการปรับราคาแข่งจากกลุ่มบนกว่า นั่นละครับ
ราคาก็เปลี่ยนไปตามตำแหน่งสินค้าในแต่ละตลาดของประเทศนั้นๆ
ตัวบนกว่าปรับขึ้น ตัวล่างก็ขยับตาม
ตัวบนปรับลง ตัวล่างก็จำใจลดตาม

ตัวบนแบนด์บนกว่า จะปรับขึ้นแก๊บห่างจากตัวล่างกว่ามากก็ไม่ได้ เดี๋ยวโดดไป ต้องค่อยๆประคองกัน
บางทีก็อาจมีการคุยกันหลังไมค์อยู่ก็เป็นได้

หรือสินค้าไม่เดิน ขายไม่ออกจริงๆ นั่นละถึงมีปรับราคา
แสดงว่าราคาที่ตั้ง ไม่ใช้ตำแหน่งราคาที่สินค้านั้นควรจะอยู่


เราอาจจะเห็นว่าfta ทำให้เราได้ซื้อของราคาไม่แพง
แต่ในขณะเดียวกัน ก็ง่ายกับคนขายที่จะโกยเงินกลับประเทศได้เยอะ ไวขึ้น

บริษัท รถเขาไม่ได้ทำรถเพื่อ การกุศล เอากำไรน้อย
เขาทำรถเพื่อเอากำไรสูงสุด เอาเงินไปเติมบริษัท

ผมขอตอบรวมทั้ง 2 ท่านเลยนะครับ

ทราบว่า บริษัทเขาไม่ได้ทำการกุศล  คำนี้ได้ยินบ่อยมาก ในกลุ่ม BEV ชอบใช้คำนี้เยอะ

พอมีคนบอกแพง ก็บอกไม่ได้ทำการกุศล

พอมีคนบอกแพง ก็จะให้ไปนำเข้าเอง

ผมขอไม่ต่อความละกันครับ มันคนละเรื่อง

ถ้าบอกว่า ราคาโอเคแล้ว เหมาะสมแล้ว ผมก็โอเค เข้าใจได้ครับ เพราะโดยส่วนตัวแค่คิดว่า มันแพงไป แค่นั้นเอง

เพราะผมบอกไปแล้ว ไม่ได้มีตัวเลขทางต้นทุน กำไร หรือใดๆ แค่เทียบหลายๆ คัน แบบ บัญญัติไตรยางค์ ตามราคาจริง จากราคาจีน(หยวน) มาไทย(บาท) เท่านั้นเอง

ถ้าเขาตั้งราคาแพง และ กำไรเยอะ ก็จะได้รับทราบว่า อ้อ มันก็แพงเกินไป แค่นั้นครับ ผมไม่ได้ไปมีส่วนกำหนดราคาใดๆ อยู่แล้ว

คำถามผม แค่ว่า ราคาขายในบ้านเรา แพงไปไหม ถ้าเทียบกับราคาขายในจีน ถ้าจะให้เทียบกับอังกฤษ เยอรมัน หรือ อเมริกา ผมคงไม่ตั้งคำถามนี้ เพราะมันคนละเงื่อนไขครับ

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,422
    • อีเมล์
FTA  0 % คือ ละเว่นแค่ภาษี สรรพสามิตนำเข้า เข้าใจไหมๆๆๆๆๆๆ

ราคา ที่จีน เค้าอุดหนุนแล้ว 600000
ไม่อุดหนุน 700000
ส่งมา ทางเรื่อ ครั้งละ 50 คัน
ค่าส่ง 50000 ต่อคัน = 750000  ค่าราคา CIF เข้าใจคำนี้ไม่ไม่เข้าใจ ไปเรียน
มาเจอ สรรพากร ละเว้นภาษี นำเข่า แต่ใันก็มีภาษีอื่นๆ อีก
ดอกแรก คือ VAT นำเข้า
750,000 * 1.07  = 802,000

ค่าขนส่งจากท่า ค่าดำเนินการ ไปที่ ดีลเลอร์

802,000 + 20000

822,000

ค่ากำไรดีลเลอร์ในไทย

822,000+  50000
872,000

VAT ค้าปลีก

872,000 *1.07 =  933,040 บาท

รถไม่ได้เหาะ ข้ามาเอง จะได้ขายราคาเท่าจีน

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 30, 2023, 16:19:27 โดย mamaman »

MacH1

  • บุคคลทั่วไป
ยังไงก็ถูกลงกว่าไม่มี FTA แน่นอน ลองคิดดูว่าไม่มี FTA แล้วเกิดอะไรขึ้น? โดนกำแพงภาษีนำเข้าประสาทแดกแบบไทยๆเข้าไปจุกๆ ก้อนอื่นๆก็บวมด้วยเพราะมันเอามาคิดทบกันเป็นขั้นตอนทั้งสรรพสามิต, VAT, มหาดไทย 

ภาษีนำเข้า = %อากรขาเข้า * ราคา CIF

ภาษีสรรพสามิต = %สรรพสามิต * ราคา SRP (ราคา CIF + ภาษีนำเข้า + ค่าบริหารจัดการ + กำไรมาตรฐาน)

ภาษีมหาดไทย = 10% * ภาษีสรรพสามิต

ภาษีมูลค่าเพิ่ม = 7% * (ราคา CIF+ภาษีนำเข้า+ภาษีสรรพสามิต+ภาษีมหาดไทย)

จะเห็นได้ว่ากำแพงภาษีนำเข้าประสาทแดกแบบไทยๆคือตัวแปรสำคัญหลักๆทำให้ก้อนภาษีทั้งหมดมันบวม ตัดไอ้นี้ไปได้ ลดภาระไปเยอะอยู่


ทีนี้มาดูว่าถ้าไม่มี FTA ได้เห็นราคาประมาณไหนสำหรับรถ BEV ที่นำเข้าจากจีน

Neta V คันละ 1.5 ล้าน

ZS EV, EP/ES, Goodcat, Atto 3 คันละ 2 ล้าน - 2 ล้านกว่าๆ

Maxus 9 คันละ 4-5 ล้าน

XC40/C40 คันละ 4-5 ล้าน

iX3 คันละ 5 ล้านกว่า - 6 ล้าน

Model 3 per, Model Y per คันละ 4 ล้านกว่าๆ

Lotus Eletre ได้เห็น 15 ล้าน++


ดังนั้น คนไทยโชคดีที่มี FTA ภาษีนำเข้า 0% แล้ว จงตักตวงโอกาสผลประโยชน์จากการค้าเสรีนี้ให้มากที่สุด

เงินประหยัดได้เป็นเท่าตัว เอาไปต่อยอดธุรกิจ, ลงทุนที่ดิน real estate, กินช้อปปิ้ง หรือถ้าอยากฟินก็ไปขึ้นเรือ ขึ้นเรือบินได้รัวๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 31, 2023, 13:27:00 โดย Skyhunter ขึ้นเรือบิน »