Camry Hybridกับ 320DGT

[Koong]

ตอนนี้ใช้ 320D GT  3 ปี 110000 กม แล้ว
เป็นคนใช้รถเยอะ เดินทางแถบชายเมือง
เลยเน้นรถ ประหยัดน้ำมันหน่อย  ซึ่ง 320d ตอบโจทย์มาก

แต่มันนั่งไม่สบายขับแล้วเมื่อย และผมมีปัญหาเกี่ยวกับหลังด้วย ประกอบกับหมด bsi แล้ว  ก็ห่วงเรื่องซ่อมบำรุงเหมือนกัน  เลยอยากจะเปลี่ยนรถ  แต่ก็ยังหารถที่ประหยัดแบบคันเดิมไม่ได้

มอง Camry Hybrid มือ 2 อายุ 2-3 ปี มาทดแทน   

ขอความเห็นสมาชิกว่า มีนจะตอบโจทย์เรื่องประหยัดกับการซ่อมบำรุงในอยาคตไหม   หรือจะใข้คนเดิมต่อไป

ซึ่งกะใช้ยาวๆ อีก 200000 กม up

[เต๋า AV]

แนะนำให้ลองเช่ามาขับก่อนครับ
จะได้รู้ Camry Hybrid รุ่นที่จะซื้อมาแทน ตอบโจทย์ไหม

Toyota เรื่อง ซ่อมบำรุง ไม่ห่วง
ห่วงปัญหาเกี่ยวกับหลัง ต้องเลือกรถที่มีเบาะ ท่านั่งที่เหมาะสม

[Teera]

สำหรับผม ปี ละ 2 หมื่นแก่ๆ  3 หมื่น ผมถือว่า กลางๆ นะครับ ไม่ได้วิ่งเยอะมาก
ผมเคย ออก V40 มาใช้ งานเข้า วิ่ง กทม เขาใหญ่ กทม หัวหิน บ่อย 3 ปี กดไป แสนห้า BSI หมดตั้งแต่ 2 ปีแก่ๆ
คันนั้น ใช้ 7 ปี วิ่ง ไป สองแสนห้า
รถวิ่ง แสนหนึ่งเอง น่าเสียดาย เครื่องตัวนี้ ช่างอู่นอก ซ่อมกันจนปรุ และ ถ้าขายคงได้ไม่ข้าม ล้าน หรือ ล้านไม่เยอะ
คือ ถ้าเหตุผล คือ การปวดหลัง คงต้องหาสาเหตุจริงๆ เพราะ เบาะ BM หน้า มันก็โออยู่นะครับ
ที่รู้สึกแบบนั้น เพราะ ผมก็ปวดหลังครับ ไปหาหมอ ทำกายภาพ ลดนน พอ Core Body มันดี แล้ว หายครับ

ส่วนถ้าตอบคำถาม การซ่อมบำรุง ผมจะไม่มอง Hybrid ครับ หารถน้ำมันล้วน  ระยะยาว น่าจะซ่อมง่ายกว่า

[S6]

เบาะ 320d ก็ดีนะ ไม่เมื่อย ลองเปลี่ยนเบาะ Recaro ดูไหม

[Tien.W]

รถยังไม่มีปัญหา ก็ใช้ต่อเถอะ ขายต่อ ราคาแทบไม่เหลือเลย

ปกติ ไม่ค่อยได้ยินใครบ่นเบาะ bmw นะ ถ้าอยากไป camry ก็ตาม คห.ข้างบนแหละ หาเช่ามาขับก่อน .. ช่วงล่างนุ่ม แต่รับได้ไหมสำหรับคนใช้ BMW มา .. เบาะเค้า ลองนั่งนานๆโอเคไหม ?

[axister]

ตัว GT มันเบาะชันกว่า sedan นิดนึงครับ ส่วนตัวผมไปลองก็ไม่ประทับใจเหมือนกัน พวงมาลัยหนักกว่า เบาะที่ชันกว่านิดนึง + ช่วงล่างแข็งที่ยกสูงเล็กน้อย

รหัส F ช่วงล่างค่อนข้างป่วยทั้ง sedan GT ตัว 3GT จะได้ฟิลขับ model Y มากๆครับ แข็งโยนปวดหลังมึนหัวเล็กๆ

แต่มาเทียบกับ camry XSE บอกเลยว่าสบายขึ้นน้อยมากกกก ตัวที่นั่งสบายเป็น ACV50 ผมก็แอบคิดว่ามันเก่าไปไหม ถ้าไม่ซีก็ไม่เป็นไรครับ

หรือเพิ่มเงินอีกนิดหา ES300h มือสอง อันนี้ผมเฟิมว่านั่งสบายกว่ามากๆ ประหยัดน้ำมันก็พอๆกับ XSE 2.0hv ครับ

ถ้าเทียบเรื่องการบำรุง ผมยืนยันว่ายังไง HV ฝั่งโตต้าก็ถูกกว่าครับทั้ง camry และ es

ตัว รหัส F bmw เครื่องอายุเยอะๆๆมีปัญหาเรื่องสายพานถ้าจำไม่ผิด b47 เป็นโซ่แล้วป่าวนะ เวลาเปลี่ยนทีลำบาก overhaul ทีหลายหมื่น แต่ถ้าตัวเก่า n47 สายพานยางก็หนักไม่แพ้กัน

ส่วนแรคพวงมาลัย ถ้าสั่งศูนย์ก็ 8หมื่นกว่า อันนี้ทะลุแสนโลมีลุ้นกันทุกคัน ของผมโดนที่ 140k

ฝั่งโตต้า camry กับ es แบตสเปคเดียวกัน ราคาสั่งเลยเท่ากัน ประมาณ 12x,xxx +vat แต่ถ้าหามือสองมาประกันไปอีก 10ปี ก็ชิลๆครับ อะไหล่สิ้นเปลือง es ราคาไม่ต่างกัน f30 ถูกกว่านิดนึง ส่วน camry ถูกกว่ามาก

แต่ภาพรวมบอกเลยว่า hybrid toyota ขับนอกเมืองถ้าใช้ความเร็วเกิน 80~120 ประหยัดสู้ diesel bmw ไม่ได้ครับ

[Kanarath]

ถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับหลัง แนะนำ suv ครับ
ผมมีปัญหาหมอนรองกระดูกทับเส้น L4-L5 จะปวดเอว
แต่ก่อนขับ 530e ครึ่งชม ก็ปวดแล้ว ไปตจว แวะปั๊มทุกชม
บังเอิญได้เช่า x3 ขับที่เยอรมัน แล้วเอะใจ ทำไมไม่ปวดเอว ทั้งๆที่เกร็งกว่าปกติเพราะพวงซ้าย

หลังจากทริปนั้นเลยหา suv มาใช้ ตอนนี้ไม่ปวดเอวเลยครับ
เพราะท่านั่งเค้าเหมือนนั่งเก้าอี้ทำงาน ขับทางไกลยาวๆได้เลย

วันไหนต้องเอา 530e ไปนี่กลายเป็นไม่ชอบไปเลย

[chaithawat]

เปลี่ยนเป็น suv อย่าง crv  สบายกว่ามั้งครับเข้าออกก็ง่าย นั่งก็สบายกว่า bmw ตระกูล f 3x เยอะครับเพราะเบาะสูงกว่านั่งห้อยขาได้ไม่เตี้ยติดพื้น นั่งชันขา ขับยาวๆเมื่อยเอวกับส้นเท้าครับ นุ่มกว่าทั้งเบาะและช่วงล่าง

[dht_tubes]

ถ้าปัญหาเกี่ยวกับหลัง ความคิดผมต้องดูว่าแก้ทีหลังหรือแก้ที่รถ

ต้องมองว่าต้นตอปัญหาอยู่ที่ไหนแน่ ท่านั่งปรับเบาะไม่ดีมั้ย หรืออาจจะลองหาที่รองหลังมาแก้ปัญหาดูก่อน

เรื่องประหยัด ผมว่าวิ่งทางยาว hv มันไม่น่าจะประหยัดมากกว่าดีเซลบีเอ็มซักเท่าไหร่นะ

แต่ถ้าเป็นอารมณ์กลัวบีเอ็มเก่าแล้วซ่อมแพงก็อีกเรื่อง

[Jazz Cool]

ปัจจุบันมี 3GT อยู่ เคยคิดจะเปลี่ยนตอน BSI ใกล้หมดตอนปีที่ 6 camry hybrid เป็นตัวเลือกนึง แต่พอไปลองขับแล้ว ฟีลมันไม่ได้แบบที่ได้จาก 3gt ลังเลสักพักว่าเอาไงดี ใจก็กลัวเรื่องหลังหมด BSI แต่ด้วยที่รถวิ่งน้อยมาก เฉลี่ยวิ่งปีละประมาณ 7000-8000 กิโล สุดดท้ายเลยจบที่ ซื้อ extended warranty ต่อไปอีก 3 ปี เดียวพอใกล้ๆ 3 ปีค่อยคิดใหม่ว่าเอาไงต่อ

[PC CK]

รถคนละอารมณ์เลยนะครับ
เอาเป็นว่าถ้าอยากสบายcamryก็ตอบโจทย์อยู่ แต่ไม่ได่สบ่ยอะไรมากมาย
แต่ถ้าเทียบกับ3 sedanหรือGTก็สบายกว่าล่ะครับ
ส่วนตัวไม่เคยมองว่าsereis3นั่งสบายสักรุ่น

แต่ถ้าชอบฟีลลิ่งก็กลับไป320dอีกคันก็น่าจะดีครับ
หรือwanrrantyเพิ่มก็เป็นความคิดที่ดีและประหยัดไปเยอะครับ

[harvard]

Camry xv 70 นั่งไม่สบายเท่า 50 นะครับ
แนะนำ lexus es มือ2 มากกว่า

[S6]

ถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับหลัง แนะนำ suv ครับ
ผมมีปัญหาหมอนรองกระดูกทับเส้น L4-L5 จะปวดเอว
แต่ก่อนขับ 530e ครึ่งชม ก็ปวดแล้ว ไปตจว แวะปั๊มทุกชม
บังเอิญได้เช่า x3 ขับที่เยอรมัน แล้วเอะใจ ทำไมไม่ปวดเอว ทั้งๆที่เกร็งกว่าปกติเพราะพวงซ้าย

หลังจากทริปนั้นเลยหา suv มาใช้ ตอนนี้ไม่ปวดเอวเลยครับ
เพราะท่านั่งเค้าเหมือนนั่งเก้าอี้ทำงาน ขับทางไกลยาวๆได้เลย

วันไหนต้องเอา 530e ไปนี่กลายเป็นไม่ชอบไปเลย

ขอบคุณที่มา confirm อีกท่านนึง เคยมีคนบอก X3 นั่งแล้วไม่ปวดหลังอีกเลย
แต่ถ้าเป็น SUV รุ่นอื่น ที่ผมเคยนั่งขับ อย่าง CRV เมื่อยมาก
ดังนั้น SUV น่าจะเป็นรุ่นๆไป

[demo2]

ผมใช้อยู่ทั้ง 2 คัน f30 320d กับ camry Hybrid ตัวท๊อปโฉมปัจจุบัน
camry ขับยาวๆไกลๆ สบายกว่า ผ่อนคลายกว่า ช่วงล่างนิ่มกว่าชัดเจน ถ้าเดินทางด้วยความเร็วปกตินะครับ ไม่เกิน 120
ประหยัดน้ำมันมากพอๆกัน ขับทางไกลไม่เร็วไม่ซิ่งแบบผมได้ เกือบ 21 กิโลลิตร ซึ่ง F30 320d ผมก็ขับได้ประมาณนี้(เดี๋ยวจะหาว่าผมพูดเกินจริง ผมขับรถค่อนข้างช้าครับ ไปเรื่อยๆ ไม่เร่งแซงบ่อยๆ 20 กิโลลิตร เลยเป็นเรื่องปกติสำหรับผม) 
แต่ถ้าขับดี ช่วงล่างเฟิร์มกว่า ถ้าขับเร็วๆซัก 140 อัพ 320d ขับดีกว่าแบบรู้สึกได้ครับ
ปล ถ้าเป็นผม ถ้า 320d ยังไม่พัง อย่าขายเลยครับ รถมันดี ใช้ได้อีกนานครับ เครื่องตัวนี้ทน อู่นอกทำได้เยอะแยะ ราคาก็ไม่แพงมาก(แต่ก็แพงกว่า camry ยกเว้นแบต) รถผมก็7ปีละ ยังเนี๊ยบ มีแค่มือจับประตูเหนียว ซื้อจากลาซาด้ามาเปลี่ยนไม่กี่ร้อยเองครับ

[wolfpack]

BMW อยู่ที่การปรับเบาะครับ เคยขับ X3 F25 ถ้าจะเอาท่าหล่อๆ นั่งไกล นอนนิดๆ จะปวดเอวมาก พอลองขยับมาใกล้ นั่งหลังฉาก ท่าพร้อมรบ เฮ้ย ขับรวดเดียว 1000โล ก็ไม่เมื่อยเลยสักนิด

Camry Hybrid 41 ของภรรยาที่ใช้อยู่ก็นั่งสบาย ไม่เมื่อยครับ

[spn]

220d วิ่งชานเมือง อยุ่ประมาณ 20 กม/ล
Camry hybrid ตัว 50 วิ่งชานเมือง อยู่ประมาณ 17-18 กม/ล
camry จะกินกว่าหน่อยๆ camry ตัวใหม่น่าจะพอกับ 320d ตามกระทู้ด้านบนครับ

ขอแชร์ camry ตัว 50 ใช้มาแตะ 200,000 กม แบตยังไม่เปลี่ยน ไม่มี major defect
เข้าศูนย์ Toyota service เล็ก รอบละ 2,000 บาท+-
รอบใหญ่ จะมีพวก แอร์ โช้ค ช่วงล่าง เบรก ที่ทะยอยตามกันมา 15,000-20,000 บาท

ตอนปวดหลัง ผมปรับเบาะตั้งหน่อย กับ ให้เทรนเนอร์จัดคอร์สให้ พวกเส้นต่างๆ ก็คลาย หายเลยครับ

แต่แนะนำว่าใช้ 320d ต่อครับ ถ้ามีอู่ service ได้ ราคาในอนาคตตัวนี้น่าจะแข็งอยู่

[ToRToNGPaT]

ถ้านั่งขับรถแล้วเมื่อยหลัง ลองดู Air Lumba ของ Toyota มาใส่ที่เบระก่อนมั้ยครับ ผมซื้อมาใส่รถ 3พันหน่อยๆ ช่วยได้เยอะนะ