โพลล์

ควร
ไม่ควร
ควรมีการปรับความเร็วแบบขั้นบันได หรือทวีคูณ หรือไม่ ??

IncarRus

2-3 วันก่อน เพื่อนผมบ่น โดนใบสั่งจับความเร็ว
ทั้งๆ ที่ระวังไม่ให้เกินมาตลอดทาง
แต่น่าจะไปเกินจังหวะเร่งแซง
.
แล้วเรื่องของเรื่อง ก็โดนปรับเท่ากับพวกที่แช่ 130 140 150 มายาวๆ
มันก็รู้สึกถึงความไม่ยุติธรรม
.
ไม่ได้บอกว่าไม่ผิดนะครับ แต่มันก็ไม่ยุติธรรมนะ ว่าไหม ??
.
เลยอยากรู้ว่า มีที่ไหนในโลกไหมครับ ที่ปรับความเร็วแบบขั้นบันได หรือทวีคูณ
เช่นว่า 110 เรทนึง 120 ก็อีกเรทนึง 130 ก็อีกเรทนึง
อาจจะคูณระยะทาง หรือเวลาด้วย
.
และสมาชิกเห็นด้วยหรือไม่ ถ้าจะมีการปรับแบบขั้นบันได หรือทวีคูณ
ผมว่าน่าจะดีนะ อย่างน้อยพวกที่แช่ยาวๆ น่าจะหายไปเยอะ
แต่ในทางปฏิบัติ ก็คิดว่าน่าจะยากอยู่ กับการจะมาวัดค่าต่างๆ เพื่อคำนวณค่าปรับให้ได้ถูกต้อง, คงต้องบังคับติด GPS เนาะ



เนื้อน่องไม่หนัง

เคยได้ยินเพื่อนบ่นว่า ขับ 124 โดนจับที่ 120 รู้งี้กดไป 200 เลยดีกว่า เสียเงินเท่ากัน

ส่วนตัวคิดว่าควรปรับตามความเร็วที่วิ่งเกิน และคนที่โดนข้อหาเดิมบ่อยๆ ควรจะปรับเพิ่ม เพิ่มโทษให้ไปรายงานตัว หรือเรียกอบรมครับ

หลายๆประเทศถ้าเกินมากๆ จะโดน Reckless driving หรือ ขับรถโดยประมาทเพิ่มอีกกระทง
คิดว่าญี่ปุ่น ถ้าขับเร็วมาก 180++ อาจโดนจำคุกเพิ่ม

อยากให้พิจารณาเรื่อง SpeedLimit ใหม่ด้วย บางเส้น Limit มันล้าหลังจริงๆ
แต่ก็เข้าใจเรื่องความปลอดภัยนะ พอถนนมา ร้านค้าตามมา และส่วนใหญ่ก็จอดกันริมถนนนั้นแหละ..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 11, 2023, 23:40:37 โดย Qwerty »



Peet Sayumpoo

เข้าท่าดีครับ แต่น่าจะมีความยุ่งยากในการคำนวนค่าปรับน่าดูนะครับ แล้วกล้องจราจรต้องพร้อมด้วย ห่วงตรงนี้แหละ
คิอถ้าจะทำแบบนี้ กฏหมายจราจรข้ออื่นก็ต้องเอาบรรทัดฐานการปรับแบบเดียวกันไปด้วยน่ะครับ
เช่น เมาแล้วขับ ก็ปรับตามปริมาณแอลกอล์ที่เกินมาเลย เกินมามากๆค่าปรับก็ขึ้นเป็นทวีคูณไปเลย จนไปสุดที่ติดคุกตลอดชีวิต
จอดในที่ห้ามจอด ปรับตามระยะเวลาที่จอดเลย คิดเป็นนาทีไปเลย
ขับรถเหยียบเส้นทึบ คำนวนจากค่าปรับจากระยะทางที่เหยียบเส้น ว่าเหยียบไปกี่ฟุตกี่เมตร แล้วคำนวนตามนั้น
รถสภาพไม่พร้อมใช้งาน เช่น ไฟเลี้ยวไฟเบรกไม่ติด ไม่ติดกี่ดวง คำนวนค่าปรับตามจำนวนดวงที่ไม่ติด
ขับรถคุยโทรศัพท์มือถือ เล่นไลน์ เล่นแชท คำนวนค่าปรับจากระยะทาง หรือระยะเวลาที่ใช้โทรศัพท์หรือเล่นไลน์
ขับรถไม่คาดเข็มขัด คำนวนค่าปรับจากระยะทางที่คนขับเริ่มขับมาโดยที่ไม่ได้คาดเข็มขัด
ฯลฯ และอีกเยอะแยะมากมายครับ ให้เอาบรรทัดฐานคำนวนค่าปรับแบบเดียวกันให้หมดครับ
เพราะอุบัติเหตุไม่ได้เกิดเพราะความเร็วอย่างเดียว ความเร็วเป็นแค่ปัจจัยนึง ถ้ามุ่งเอาแต่เข้มงวดเรื่องกฎหมายความเร็วอย่างเดียว
ก็คงไม่มีอะไรดีขึ้นเท่าไหร่ครับ

สุดท้ายผมว่าก็อย่างที่บอกครับ ผมว่าดีน่ะ แต่ทำจริงๆคงยากน่าดู แล้วน่าจะเกิดดราม่าเรื่องการคำนวนค่าปรับกันเยอะน่าดู 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 11, 2023, 22:13:15 โดย Peet Sayumpoo »



PC CK

เห็นด้วยกับการติดGPSดูความเร็วกัรไปเลยครับ ถึงจะดูละเมิดความเป็นส่วนตัว แต่มีมาตรฐานมากกว่าให้ตำรวจ ถ่ายแล้วเอาเลขมาเติมเยอะครับ
ไม่รู้สิ ผมโดนโดยที่ไม่ได้ขับเร็วแล้วมันหงุดหงิด



TheRealMeaw

ก่อนจะทำเรื่องยาก ๆ ไปทำให้การตั้งการจำกัดความเร็วและการบังคับใช้มันสมเหตุสมผลก่อนครับ อย่าเพิ่งไปคิดอะไรยากกว่านั้นเลยครับ กฎหมายที่มีไว้เพื่อความปลอดภัย กับที่มีไว้เพื่อหาเงิน มันชัดเจนครับ ซึ่งของไทยเป็นแบบไหนก็คงไม่ต้องสืบกัน

เมืองนอกหลายแห่งที่เรามองว่าเขาเข้มงวด เขาก็มี Tolerance เอาไว้ให้คนขับอยู่ 5% บ้าง 10% บ้าง ไม่มีครับเร็วไปแค่ 1-2km/h แล้วจะโดนปรับ มันไร้สาระ ไม่ได้ช่วยให้เกิดความปลอดภัยขึ้นครับ แต่ช่วยหาเงินได้อันนี้มหาศาล แล้วไหนจะการตั้งการจำกัดความเร็วตามสภาพถนนอีก บางประเทศ ถนนบางแห่งจำกัดไว้สูงจนคนทั่วไปไม่กล้าขับถึง แต่พอเป็นที่ที่มันอันตรายจริงเขาก็ตั้งต่ำ วิจัยกันหาคำตอบก่อนว่าตรงไหนอันตราย ตรงไหนไม่ ตั้งให้สมเหตุสมผล ไม่ใช่ว่าตั้งต่ำไว้ก่อนเพราะมองว่ามันปลอดภัย หรือตั้งตามอำเภอใจไปเลยแบบอีกหลายประเทศ

ก่อนที่จะมีความเข้มงวดได้ กฎหมายต้องสมเหตุสมผลก่อนครับ บางทีการคิดนโยบายอะไรมาบางอย่างแล้วโดนคนด่า ก็ไม่ใช่โดนด่าเพราะเสียประโยชน์อย่างเดียวครับ กฎหมายไม่ใช่พระเจ้ากำหนดขึ้น คนเนี่ยแหละครับเขียนขึ้นมา บางทีก็คิดมาดีแล้ว บางทีก็เอาหัวแม่เท้าคิดครับ



Symphonic

ที่ญี่ปุ่นครับ ค่าปรับจะแพงขึ้นทุกๆ 10 kM/hr ครับ
ค่าปรับไม่ flat rate




alpha14

เห็นด้วยมันอาจทำให้พวกซิ่งได้เข็ดหลาบกันบ้าง เริ่มต้นที่2000 ไปสุดที่5000 เงินเข้าหลวงนะ ไม่เข้ากระเป๋าม๋าต๋า



kiwiwi

ปรับตามความเร็วแล้ว ก็ควรจะปรับตามราคารถด้วยนะครับ

รถราคาขาย 5 แสนก็คูณ 0.5
1ล้านก็ 1 แล้วมาบวกค่าปรับ
รถ 10 ล้านนี่ รัฐบาลเอามาทำถนนดีๆได้เลย

หรือไม่ก็คูณจากฐานรายได้ของเจ้าของรถด้วย
แบบนี้ พวกรถบริษัทจะได้เปลี่ยนเป็นบุคคลธรรมดาเยอะอยู่



SM.

ที่ญี่ปุ่นครับ ค่าปรับจะแพงขึ้นทุกๆ 10 kM/hr ครับ
ค่าปรับไม่ flat rate

+1 แบบนี้น่าสนใจดีครับ



ntrix

ที่นิวซีแลนด์น่าจะเป็นแบบอย่างที่ดีครับ ผมโดนตำรวจขับสวนมายิงเลเซอร์วัดความเร็ว ซึ่งแม่นยำและเถียงไม่ได้
จังหวะลงเนินเขายาวๆลิมิต 110 km/h ณ ตอนนั้นผมไหลลงเนินอยู่ที่ความเร็ว 122km/h เลยโดนไป NZ$80

ยิ่งเกินลิมิตไปไกล ยิ่งแพงแบบ exponential
หากวิ่งเกิน 160km/h (มากกว่า 50km/h เหนือลิมิต) ตำรวจมีสิทธิ์ระงับใบขับขี่สากลและจับเข้าคุกเลยครับ
เพราะถือเป็นอันตรายอย่างมากกับผู้ร่วมใช้ถนนอื่น (charged for reckless driving):

ตารางปรับ (จากเว็บไซต์ตำรวจจราจรของ New Zealand Police)
How far over the speed limit   Infringement fine
10km/h or less   $30
11-15km/h   $80
16-20km/h   $120
21-25km/h   $170
26-30km/h   $230
31-35km/h   $300
36-40km/h   $400
41-45km/h   $510
46-50km/h   $630
2022 Audi Q3 35 TFSI
2021 Audi A5 40 TFSI Sportback S-Line
2020 Mazda CX-30 SP - Sold
2017 Accord G9 Hybrid Minor-change - Sold
2004 Honda CRV G2 2.0EL 4WD + LPG - Still running fine :)



sukhontha

ถ้าถามความเห็นก็เห็นด้วย  แต่กฎหมายที่มีมากมายยังทำไม่ได้  ปัญหาอยู่ที่การปฏิบัติ  (ทุกเรื่อง)

ตอนนี้สารพัดเรื่องที่ทำผิด  ไม่ยอมทำตามกฏหมาย  ทำเป็นไฟไหม้ฟางแล้วเลิก  เสียเวลาเสียอุปกรณ์  เสียงบประมาณ

อยากให้เคร่งครัดมากกว่านี้   แล้วการจราจรจะดีขึ้นเองครับ



saran_1st

ผมอยากให้มีการปรับ รถช้าแช่ขวา ตามความเร็วแบบขั้นบันไดด้วยครับ  ;D
(สำหรับถนนที่มีการระบุ ความเร็วขั้นต่ำ สำหรับเลนขวา)
'97 Subaru Impreza WRX Sti Ver.3
'97 Subaru Impreza WRX EJ20 Auto
'95 Subaru Legacy EJ25 NA
'02 Subaru Impreza Bugeye GDB Type UK
'19 Subaru Levorg 1.6 GT-S

Long-term Review: Subaru Levorg 1.6 GT-S



apinui

โดนจับความเร็ว จังหวะแซงอันนี้ผมเคยโดนครับ

ความเร็วเค้าวิ่งกัน 100-120 แต่คันหน้าเรา วิ่ง 110 เราจะแซงแต่ตอนแซงมันเกิน 120 เพราะต้องการให้มันแซงพ้นเร็วเพื่อความปลอดภัย .... ก็ไปเจอด่านโบกอยู่ข้างหน้าบอกความเร็วเกิน

สิ่งที่ทำได้ก็ ถ้ารู้ว่าอยู่ในเขตจำกัดความเร็ว ก็อย่าไปแซงครับ ถ้าขับต่างจังหวัดบ่อยๆให้มองป้ายบอกความเร็วให้ดี ช่วงจับความเร็วจะมีป้ายบอกตัวใหญ่ๆเลยว่าห้ามเกิน 90 หรีอ100 กม/ชม ถ้าเจอป้ายนี้ให้รู้ไว้ นี่คือเขตกำจัดความเร็วดังนั้น ถ้าคันหน้าไม่ช้าจริงๆ หรือมั่นใจว่าจะแซงแต่ความเร็วเราต้องไม่เกินนี้ ก็อย่าแซงเลย

เห็นป้ายจำกัดความเร็ว อย่าคิดว่าป้ายหลอก ป้ายดรัมมี่ ให้ระวังตลอดแล้วจะรอดครับ เสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา ผมขับขึ้นเหนือ ก็รอดทุกด่านครับ เพราะมองป้าย ทำตามป้าย ตรงไหนไม่มีป้าย ก็ใส่ได้เลย แต่ถ้าเจอป้ายความเร็ว รีบยกให้ไวเลยครับ



DiKiBoyZ

ผมอยากให้ปรับตามรายได้ มากกว่า

เพราะสุดท้าย การตั้งค่าปรับ หรือ จำนวนเงิน ต่อการกระทำผิด จำนวน XX,XXX บาท ไอ้ยอดเงินค่าปรับนี้ ใครเป็นนิยาม? เอามาจากไหน? และเอาอะไรเป็นการประเมินค่าปรับ?

กฏหมายค่าปรับความเร็วก็เช่นกัน

คนหาเช้ากินค่ำ ค่าแรงหลักไม่กี่ร้อย แค่เผลอ หรือ เร่งแซง แล้วโดน เงินค่าจ้างทั้งวันจ่ายได้แค่ 1 ข้อหาก็หมดแล้ว

คนที่รวยๆ หน่อย ผมเห็นขับกันยังกะในสนามแข่ง ค่าปรับ 500 เทียบกับรายได้ เขาสามารถผ่ากล้องจับความเร็วได้เป็นร้อยๆ ครั้งเลยมั้ง ตราบใดที่มีเงินจ่าย เขาไม่แคร์อยู่แล้ว

เหมือนข่าวล่าสุดที่ในยุโรป(จำประเทศไม่ได้) ที่มีเศรษฐี ขับผ่าไฟแดง แล้วโดนค่าปรับเป็นล้าน อันนี้ เห็นด้วยมาก

บางประเทศ ค่าปรับไม่ได้แพงมาก แต่ถ้าโดน มันไม่จบแค่ค่าปรับ มันต้องขึ้้นศาล ด้วย อันนี้แรงกว่าโดนค่าปรับอีกนะ มันทำให้คนไม่อยากมาเจอเรื่องนี้

และแทบทุกประเทศ เขาก็จำกัดความเร็ว และ ไม่ได้เพิ่มการกำหนดความเร็วทุก 5 ปี หรือ ตามเทคโนโลยีหรือความแรงของรถที่เพิ่มขึ้น อย่างที่บางคนชอบพูดว่า กฏหมายบ้านเราล้าหลัง จำกัดความเร็วต่ำเกินไป หรือ ขับช้าแล้วง่วง เป็นต้น



Winnie_The_Poom

ถ้าถามความเห็นก็เห็นด้วย  แต่กฎหมายที่มีมากมายยังทำไม่ได้  ปัญหาอยู่ที่การปฏิบัติ  (ทุกเรื่อง)

ตอนนี้สารพัดเรื่องที่ทำผิด  ไม่ยอมทำตามกฏหมาย  ทำเป็นไฟไหม้ฟางแล้วเลิก  เสียเวลาเสียอุปกรณ์  เสียงบประมาณ

อยากให้เคร่งครัดมากกว่านี้   แล้วการจราจรจะดีขึ้นเองครับ

เศร้าครับ คือเรื่องจริง มันคือไฟไหม้ฟาง ไม่จริงจัง สุดท้ายก็วนเหมือนเดิม



REX

กล้องบางที มันก็ไม่ได้ติดทุกที่ตลอดสาย
ต้องเจอคนคุ้นเสันทางวิ่งประจำ รู้ว่ากล้องอยู่จุดไหน
เจอกล้องขับช้า พ้นกล้องเหยียบเกิน limit  ไม่โดนปรับ



salt_kit

อยากให้มีระบบจับความเร็วแบบความเร็วเฉลี่ยคู่กันด้วย คือ ถ่ายเข้าจับเวลา แล้วก็ถ่ายออก แล้วเอาไปคำนวณความเร็ว

ที่เมืองนอก บางโซนจะเป็นแบบนี้เลย กันพวกขับเร็ว ๆ แล้วมาชะลอแค่ตรงกล้อง



Zephyrs

เคยได้ยินของยุโรป (อย่างน้อยๆก็อังกฤษ) ที่ปรับเป็นขั้นบันได
ล่าสุดที่โดนจับของฟินแลนด์อันนั้นก็ปรับตามรายได้เลย คนโดนจับเป็น CEO ของสักบริษัทนึงนี่แหละ โดนปรับอ้วกอยู่เพราะเขานับตามรายได้หรือทรัพย์สินที่มี + ทำผิดนี่รอบที่ 3 แล้วมั้ง

ส่วนตัวผมก็ยืนยันว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่เรื่องระบบ แต่เป็นเรื่องของการปฏิบัติล้วนๆ

ปล. จริงๆผมไม่เคยเห็นด้วยเรื่องจำกัดความเร็วในส่วนทางหลวงออกต่างจังหวัดนะ ทำกฎเข้มๆแบบ Autobahn ไปเลย คือเหยียบเท่าไหร่ก็เหยียบ แต่ถ้าชนหรือเสียบนนั้นก็ปรับอ้วกแตกไป

ส่วนด่วนในเมือง.. จะเหยียบกันเกิน 120 หรอครับ 💦



XyteBlaster

ตามนั้นครับ เรื่อง แอลกอฮอล์ ปริมาณ มาก ๆ ยังมีผลกับการฟ้องศาลเลยครับ



Magl

กล้องควรจะถ่ายพวกรถบรรทุกแช่ขวาด้วย เพราะทำให้ต้องแซงซ้าย ความเร็วมันก็ต้องเกินสิ



spn

ควรครับ แต่ควรปลดล็อกความเร็วเพิ่มตามถนนสายหลัก ของแต่ละภาค เช่น มอเตอร์เวย์บางช่วง สายเอเชียบางช่วง
Revo 2.8 J B-cab 4x4
Kia Jumbo K2700 1JZ GE + LPG
Camry 2.5 HV Premium
E220d w213



choomodify

ผมอยากให้ปรับตามรายได้ มากกว่า

เพราะสุดท้าย การตั้งค่าปรับ หรือ จำนวนเงิน ต่อการกระทำผิด จำนวน XX,XXX บาท ไอ้ยอดเงินค่าปรับนี้ ใครเป็นนิยาม? เอามาจากไหน? และเอาอะไรเป็นการประเมินค่าปรับ?

กฏหมายค่าปรับความเร็วก็เช่นกัน

คนหาเช้ากินค่ำ ค่าแรงหลักไม่กี่ร้อย แค่เผลอ หรือ เร่งแซง แล้วโดน เงินค่าจ้างทั้งวันจ่ายได้แค่ 1 ข้อหาก็หมดแล้ว

คนที่รวยๆ หน่อย ผมเห็นขับกันยังกะในสนามแข่ง ค่าปรับ 500 เทียบกับรายได้ เขาสามารถผ่ากล้องจับความเร็วได้เป็นร้อยๆ ครั้งเลยมั้ง ตราบใดที่มีเงินจ่าย เขาไม่แคร์อยู่แล้ว

เหมือนข่าวล่าสุดที่ในยุโรป(จำประเทศไม่ได้) ที่มีเศรษฐี ขับผ่าไฟแดง แล้วโดนค่าปรับเป็นล้าน อันนี้ เห็นด้วยมาก

บางประเทศ ค่าปรับไม่ได้แพงมาก แต่ถ้าโดน มันไม่จบแค่ค่าปรับ มันต้องขึ้้นศาล ด้วย อันนี้แรงกว่าโดนค่าปรับอีกนะ มันทำให้คนไม่อยากมาเจอเรื่องนี้

และแทบทุกประเทศ เขาก็จำกัดความเร็ว และ ไม่ได้เพิ่มการกำหนดความเร็วทุก 5 ปี หรือ ตามเทคโนโลยีหรือความแรงของรถที่เพิ่มขึ้น อย่างที่บางคนชอบพูดว่า กฏหมายบ้านเราล้าหลัง จำกัดความเร็วต่ำเกินไป หรือ ขับช้าแล้วง่วง เป็นต้น

ผมเห็นด้วยทุกประการ โดยเฉพาะบรรทัดสุดท้ายครับ หลายๆคนคิดแบบนั้นจริงๆๆ



XMSL

เห็นด้วยครับ แต่ดูเจตนาเป็นองค์ประกอบด้วย ที่อยากจริงๆคือให้เปิดให้เอกชนมาประมูลให้สัมปทานระบบบังคับใช้กฎหมายแล้วแบ่งรายได้นำจับครับ สร้างระบบที่โปร่งใสตรวจสอบได้ น่าเชื่อถือ และคงเส้นคงวา พวกตัวตึงอย่างคลิปโดนบีบแตรแล้วออกอาการวันก่อนต้องหมดไปครับ...



seeker

เห็นด้วยครับ ปรับเรททุกๆ 10 กม ที่เร็วขึ้น

เพื่อนไต้หวันเคยบอกว่า เวลาขึ้นทางด่วน ที่มีรับบัตรเข้าและออก ตำรวจเอาระทางที่วิ่งมาหารเวลาที่ใชเ เพื่อหาความเร็วเฉลี่ยเลยครับ
เช่นระยะทาง 150 กม แต่วิ่งแค่ 1 ชม ก็้ถือว่าใช้ความเร็ว 150 กมต่อชมไปเลย

ปล
แค่วิ่ง 120 บนทางหลวงระหว่างเมือง ตั้งกี่ปีมาแล้วไม่รู้ ยังทำไม่ได้เลยครับ
พวกช้าแช่ขวาก็อยากให้จัดการมาก ภาระเพื่อนร่วมทางจริงๆ



MMWC

ควรครับ
ควรปรับตามความเร็วที่เกิน
ปรับตามฐานะด้วย
และควรเชื่อมข้อมูลให้ดีด้วย กรมทางหลวง-ขนส่ง

บางประเทศบางจุดใช้ระบบนับเวลาเข้าออก อย่างเช่นช่วงนี้ ระยะ30กิโลเมตร ถ้าให้ขับไม่เกิน 100กม/ชม
สมมติขับ100เต็มกฎหมายกำหนดตลอด จะต้องใช้เวลา18นาที แปลว่า ถ้าผ่านจุดเข้าและออกในจุดออก"ต่ำกว่า18นาที"คือมีช่วงขับเร็วกว่า 100 เป็นต้น

บางประเทศค่าปรับแต่ละจุดไม่เท่ากัน (สมมติจำนวนเงิน)
ขับเกินบนทางด่วนปรับ 500
ขับเกินในเขตเมืองปรับ 1500
ขับเกินในเขตโรงเรียนปรับ 3000 เป็นต้น

คนรวยถ่ายรูปใบปรับลงโซเชี่ยล ว่ารถฉันแรง เท่มั้ย ขับเร็ว ไลฟ์สไตล์
คนจนเครียด รีบเพื่องานเพื่อรายได้



Floppy-T

เห็นควรครับ ควรมีการปรับแบบขั้นบันได เพราะขับเกินแค่นิดเดียว ก็ปรับเท่ากัน

=======================================

ขออนุญาตนอกเรื่องนะครับ แชร์ประสบการณ์แปลกๆนิดนึง

เคยโดนจดหมายแจ้งเตือนทำผิดกฎจราจรเรื่องความเร็วเกินกำหนด

แต่ป้ายกำหนดความเร็ว กับรถเราอยู่คนละสถานที่

รูปถ่าย ป้ายกำหนดขับไม่เกิน 90 กม/ชม นั้นถ่ายติดป้ายเขียวๆบอกทางจังหวัดสุโขทัย

แต่วันดังกล่าวผมไปจันทบุรีครับ ก็เลยเข้าไปที่ สน ใกล้บ้านเผื่อขอคำชี้แจง

ร้อยเวรก็อธิบายไม่ได้ เลยทำเรื่องยกเลิกใบสั่งนี้ให้ครับ