1 กับ 2)
ถ้าตามทฤษฎีแล้ว E20 เผาแล้วเหลือเขม่าน้อยกว่าครับ ตามหลัก C น้อยกว่า เพียงแต่ว่า มันมีปัจจัยอื่ื่นๆที่ทำให้เขม่ามันเกิด เช่นสารปนเปื้อนในตัวน้ำมัน ตั้งแต่ที่โรงกลั่นยันถััังปั๊ม รวมถึงประสิทธิภาพของหัวฉีดในรถ
สั้นๆคือน้อยกว่า แต่อย่าไปเอาเป็นปัจจัยสำคัญ ยกเว้นขับรถเครื่องยุค 80-90 อย่าง 4A หรือ M111 อะไรพวกนี้
3) คำว่าเติม Additive คุณหมายถึงในแง่ไหน? เพราะเท่าที่ผมเคยอยู่โรงกลั่น ของพวกนี้ช่วยในระดับนึง แต่ถามว่าสะอาดในแง่เขม่าติดในเครื่อง พวกโซฮอลล์ยังไงก็ดีกว่า แต่อย่างที่ตอบไปบนๆแล้ว
1-2. แปลว่าการผลิตของE20 ที่มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่าทำให้จะมีโอกาสที่จะมีสารปนเปื้อนมากกว้่า Gas95/Gas95พรีเมี่ยม/เบนซินล้วน หรอครับ
3. Additives ในน้ำมัน Gas95พรีเมี่ยม และ Gold95 Techron(Caltex) นั้น ที่มีการใส่ทั้งสารเร่งและในส่วนสำคัญคือสารชะล้าง สามารถจะไปทำความสะอาดเครื่องยนต์ได้ดีเท่า E20 ไหมครับ
- ต้นทุุนแอลกอฮอลล์สูงกว่านะครับ ทำราคาถูกกว่าเพราะเขาดึงกลับกองทุนน้ำมันน้อยกว่าหรือไม่ก็ชดเชยราคาให้
ผมงงว่าทำไมคุณอ่านแล้วเข้าใจไปในทิศทางที่คุณถามได้ว่า 20 ปนเปื้อนสูงกว่า เพราะผมก็เขียนชัดนะว่ามันเป็นตัวแปรที่คุณคุมไม่ได้
- เรื่อง additive ผมให้คุณลองนึกภาพง่ายๆนะ
มันเหมือนคุณทอดปลาบนกระทะเทฟล่อน กับกระทะเหล็ก
กระทะเหล็กคุณเทน้ำมันลงไปเห็นแบบชัดๆ ขณะที่กระทะเทฟล่อนคุณสเปรย์น้ำมันเอา
คุณว่าอันไหนจะมีเศษปลาติดกระทะมากกว่ากัน?
กระทะเหล็กนั่นคือโซฮอลล์ ส่วนเทฟล่อนนั่นคือเติม Additive
ผมไม่เชื่อว่าการเติมระดับ ppm (1 ในล้านส่วน) ลงในน้ำมัน มันจะช่วยอะไรได้มากขนาดนั้น
ที่อย่างที่ผมบอกชัดเจนนะ ตราบใดที่คุณดูแลสภาพเครื่องยนต์ดีๆ เผาไหม้สมบูรณ์ หัวฉีดไม่ตัน หัวเทียนไม่บอด ด้วยเทคโนโลยีสมัยนี้ เขม่าถ้าคุณเครื่องไม่เน่าจริงๆยังไงก็เกิดยาก
ผมย้ำอีกครั้งสุดท้ายว่า คุณเลิกเอาความกังวลของรถดีเซลมาคิดได้แล้ว ไม่งั้นคุณวันๆจะประสาทกินกับเรื่องเขม่า แทนที่จะห่วงเรื่องอื่นๆที่รถไฮบริดมันจะมีได้เยอะแยะ