สื่อญี่ปุ่น หวั่น ตลาดรถยนต์ในไทยจะถูกรถจีน แทนที่

Cafe1n



สื่อญี่ปุ่น ลงสกู๊ปข่าว ตลาดรถยนต์ในไทย กำลังถูกกลืนโดยรถยนต์ไฟฟ้าราคาไม่แพงจากจีน

- โดยจากการสำรวจ พบจำนวน BEV (รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่) ที่ผลิตโดยผู้ผลิตในจีน ก่อนโควิด เช่น แบรนด์ MG ของ SAIC Motor ได้ขาย ZS EV ไปแล้ว ยังมีรถสเตชั่นแวกอน EP ซึ่งเปิดตัวในเมืองในปี 2565 นอกจากนี้ GWM (Great Wall Motor) ยังเข้าสู่ตลาดประเทศไทย และกลุ่มผลิตภัณฑ์ BEV "ORA" ขนาดกะทัดรัด เริ่มวิ่งมากขึ้นบนถนนในไทย

- ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น มีการสั่งซื้อรถยนต์จากจีนมากถล่มทลาย สังเกตุได้จากแค่ดูตามสี่แยก จะพบว่าเต็มไปด้วยรถยนต์จากจีน ไม่เพียงแค่ MG เท่านั้น แต่ BEV ของ GWM ก็เริ่มมีมากขึ้นในกรุงเทพ

- ในฤดูใบไม้ร่วงปี 2565 NETA แบรนด์รถยนต์พลังงานใหม่ของจีนในสหรัฐอเมริกา ก็มาทำตลาด รับจองรถยนต์ BEV คอมแพคแฮทช์แบคระดับล่างที่เรียกว่า NETA V ในประเทศไทย ราคา 760,000 บาท (ประมาณ 2.89 ล้านเยน) แต่ตามรายงานในท้องถิ่น ขายในราคา 549,000 บาท (ประมาณ 2.09 ล้านเยน) สำหรับการจองเท่านั้น การผลิตในประเทศมีกำหนดจะเริ่มในไทยตั้งแต่ปี 2567

- ORA ของ GWM จะเป็น BEV แฮทช์แบคขนาดกะทัดรัด แต่ไม่ใช่ BEV ระดับล่าง แต่มีราคาแพงกว่า MG "ZS EV" และ BYD "At 3" และดูเหมือนว่าจะตอบสนองความต้องการของรถคันที่ 2 และ 3 สำหรับลูกสาวของคนมีเงินเป็นหลัก

- นอกจาก NETA V แล้ว BYD ยังเปิดตัว Dolphin อย่างเป็นทางการซึ่งมีกำหนดจะเปิดตัวในญี่ปุ่นในตลาดประเทศไทยในงานแถลงข่าวที่จัดขึ้นที่งาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 44 ในฤดูใบไม้ผลิปีนี้ และราคาอยู่ที่ประมาณ 3 ล้านเยน โดย "NETA V" จัดเป็น BEV ระดับล่างในช่วง 3 ล้านเยนในไทย

- ไม่เพียงแต่ BEV ที่มีราคาใกล้เคียงกับรถยนต์ไฮบริด (HEV) ของผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นเท่านั้นที่ขายดีในไทย แต่ผู้ผลิตจีนก็พยายามที่จะเป็นผู้นำในรถยนต์ BEV ระดับล่างด้วยราคาที่ถูกลงกว่าเดิม

- ผู้ผลิตญี่ปุ่นโดนเปิดเกมบุกอย่างหนัก ในประเทศอาเซียน ตลาดรถยนต์ในอาเซียน ได้รับการกล่าวขานว่าเป็น "สวรรค์แห่งสุดท้ายของรถยนต์ญี่ปุ่น" แต่อาจจะเป็นตำนานในไม่ช้า หากรถยนต์จากจีนเปิดเกมบุกหนักขนาดนี้ต่อไป


https://www.facebook.com/KrobkruengJAPAN/photos/pb.100044191668273.-2207520000./3074346849372029/?type=3



๑ ๒ ๓

แน่นอนอยู่แล้ว

Eco Car คันละเกือบ 7 แสน มีแต่แพงขึ้นๆ งานก็แย่ลงๆ
EV มีแต่ถูกลงๆ งานประกอบบางรายก็ดีขึ้นเรื่อยๆ

สวนทางกัน

รับซื้อ ขาย ซ่อม แลกเปลี่ยนคอมพิวเตอร์,โน้ตบุ๊ค และอุปกรณ์



Stp

ค่ายญี่ปุ่นไม่มีสินค้าขาย จะหวั่นอะไรพ่อคู้ณณณณ

อยากให้เกาหลีเปิดเกมมาลงตลาด EV แข่งกับจีน ฝั่งยุโรปเริ่มเดินเกมนำเข้าจากโรงงานจีน Volvo, BMW สบายละ Audi กำลังมองช่องทาง แต่ Benz ยังหยิ่งอยู่
:D ;D ร่วมรณรงค์รักการอ่านหนังสือ แทนการถามตลอดเวลา ;D :D



เนื้อน่องไม่หนัง

มันก็เป็นสิ่งที่ควรจะกังวลคร้บ
ในมุมของผมก็มองว่ามันก็ไม่ค่อยแฟร์ กับฝั่ง ยุโรป/ยี่ปุ่นเท่าไร่
แต่ยังรถไฟฟ้าเองก็คงมาแทนรถน้ำมันไมไ่ด้ 100%

คิดว่าคนซื้อเองไม่ได้อยากลองซื้อรถแบรนใหม่ๆอยู๋แล้ว แต่ตอนนี้ BEV ในเรทราคานั้น มีแต่รถจีนเท่านั้น
จะเจอแต่รถจีนมันก็ไม่แปลกหรอก ไม่ต้องไปโจทตีค่ายจีน
เขาไม่ได้ห้ามคุณขายแต่พวกคุณเลือกที่จะไม่ทำมาขายเอง..
จริงๆแล้ว พวกเขาก็เอารถที่ผลิตจากโรงงานจีน ที่ได้สิทธิ FTA มาขายก็ได้(หรือเปล่า)
หรืออย่างน้อยปรับไลน์อัฟตัวเอง ให้น่าดึงดูดมาขึ้น คนก็มาหาเอง





Devil13

ถ้าญี่ปุ่นทำขาย มันก็ขายได้ แต่เลือกไม่ทำ
จ้องจะยัดสิ่งที่ตัวเองอยากขาย ไม่ใช่สิ่งที่ลูกค้าอยากได้
วันนี้ผู้บริโภคเป็นคนตัดสินแล้ว ที่เหลือก็ต้องยอมรับความจริง



Aleister TJ

รอระเบิดลูกต่อไปที่ชื่อ volvo ex30,byd seal ครับ น่าจะกลบฝังแบบสนิท
My Car History ~

Honda City ZX
Toyota Yaris 1.2E
Mazda3 Skyactive 2.0S
Mazda 2 SkyActiv 1.5 High Plus L
Mitsubishi Pajero Sport 2.4 Elite



baramon

 ;)อยากได้ มินิเอ็มพีวี แบบ ที่ ญี่ปุ่น ให้ มาขายมั่งครับ ราคาแบบไม่แรง



baramon

ถ้าญี่ปุ่นทำขาย มันก็ขายได้ แต่เลือกไม่ทำ
จ้องจะยัดสิ่งที่ตัวเองอยากขาย ไม่ใช่สิ่งที่ลูกค้าอยากได้
วันนี้ผู้บริโภคเป็นคนตัดสินแล้ว ที่เหลือก็ต้องยอมรับความจริง
เห็นด้วยหนึ่งเสียงครับ



GT3

ปัญหาคือญี่ปุ่นไม่ยอมทำรถ EV มาขายไง
เพราะรถ EV มันเสียภาษีน้อยกว่า ทำให้ใส่ออฟชั่นมาได้เยอะ
แถมออกแบบมาสวยกว่า
ปกติคนไทยซื้อรถก็เน้นออฟชั่น ความแรง ความสวย อยู่แล้วด้วย
รถ EV จีนมันเลยตอบโจทย์ความต้องการมากกว่า



deertesla

แน่นอนอยู่แล้ว

Eco Car คันละเกือบ 7 แสน มีแต่แพงขึ้นๆ งานก็แย่ลงๆ
EV มีแต่ถูกลงๆ งานประกอบบางรายก็ดีขึ้นเรื่อยๆ

สวนทางกัน
่ใช่ครับ 93 แรงม้า 4สูบขาย 7แสน บางยี่ห้อได้ถุงลม2ลูก บางยี่ห้อได้ 6 ลูก หลายยยี่ห้ออกแบบได้งั้นๆไม่สวย บางยี่ห้อรถเกรดเอารถจากยี่ห้อในเครือที่คุณภาพไม่เท่าของตัวเองมาขาย แถมมาเรื่องตาน้ำ  แผงประตูโครงสร้างความแข็งแรง บางยี่ห้อก็เครื่องแรงเทอร์โบแต่ออพชั่นโล้นและแพง ไม่แปลกที่เตรียมจะล้มนะครับ  เล่นขายรถแบบเล่นตัวแบบนี้



mongolias

เรื่องคุณภาพความคงทน ฝั่งญี่ปุ่นยังดูดีกว่าจีนอยู่
และผมเชื่อว่า ถ้าฝั่งญี่ปุ่นทำรถ EV ในราคาที่ต่างจากจีนไม่มา คนก็ยังจะเลือกไปทางค่ายญี่ปุ่นอยู่นะ
ปัญหาคือ ไม่มีสินค้าจะมาขาย



Newhang

ผมรอ HBD ค่ายญี่ปุ่นอยู่นะ  ;D

จริงๆไม่อ่านข่าวก็คิดเองได้อยู่แล้วถ้าเราไม่ใช่คนไบแอสเกินไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 02, 2023, 16:27:02 โดย Newhang »



HLRx

คงไม่เฉพาะในไทย แต่จะโดนทั่วโลกเลย
วิสัยทัศน์ไม่มี ก็ลำบากในบั้นปลายแบบนี้แหละ



kiwiwi

เรื่องคุณภาพความคงทน ฝั่งญี่ปุ่นยังดูดีกว่าจีนอยู่
และผมเชื่อว่า ถ้าฝั่งญี่ปุ่นทำรถ EV ในราคาที่ต่างจากจีนไม่มา คนก็ยังจะเลือกไปทางค่ายญี่ปุ่นอยู่นะ
ปัญหาคือ ไม่มีสินค้าจะมาขาย

ผมก็หวังว่าอย่างนั้น แต่เหนื่อยแทนญุี่ปุ่นครับ

พลังงานฟอสซิล ต.กลาง ถือเป็นตรงกลาง

แต่แบตเตอรี่ จีนคุมอยู่ จะบีบก็ตาย จะคายก็ทรงๆ
จีนไม่ขายแบตเตอรี่ให้ ญี่ปุ่นไปไม่เป็นเลยนะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 02, 2023, 17:13:36 โดย kiwiwi »



Songrit

ไม่มีใครอยู่คำ้ฟ้า
เจอลูกพี่ใหญ่จีน
มึนงง เลยคราวนี้



Mp4_007

แน่นอนอยู่แล้ว

Eco Car คันละเกือบ 7 แสน มีแต่แพงขึ้นๆ งานก็แย่ลงๆ
EV มีแต่ถูกลงๆ งานประกอบบางรายก็ดีขึ้นเรื่อยๆ

สวนทางกัน
ผมไม่เห็นราคา รถ ev  มันจะถูกลงนะ  นี้ขนาดได้ภาษี 0% แล้วรัฐช่วยอุดหนุนราคาด้วยนะ  ทั้งๆที่ควรจะถูกกว่านี้ atto  3   คันละ1.4 ล้านงี้ถูกเหรอ  neta  คันละ8แสน dolphin คันละ 9แสนกว่า(ราคาก่อนรัฐสนับสนุน)     ราคาไม่ได้ถูกเลยนะ 



apinui

อ่าวข่าวแล้วผมก็ถามตัวเองว่า จะเปลี่ยนไปใช้รถจีนไหม ไม่ว่าจะตอนนี้ หรือ ในอนาคต .. ??

ในใจผมก็ยังคงปฏิเสธอยู่ เพราะยังไม่เชื่อมั่น ในหลายๆเรื่องเช่นอะไหล่ทดแทน

อัตราส่วนรถจีนในไทยก็คงเพิ่มขึ้นจริงแหละ แต่ผมไม่คิดว่า รถญี่ปุ่นจะหายไปแล้วรถจีนเข้ามาแทนที่ได้

การที่ค่ายญี่ปุ่นยังไม่โดดมา EV แบบเต็มตัว เค้าอาจจะเห็นอะไร แบบที่เราไม่เห็นอยู่ก็ได้นะ



deertesla

อ่าวข่าวแล้วผมก็ถามตัวเองว่า จะเปลี่ยนไปใช้รถจีนไหม ไม่ว่าจะตอนนี้ หรือ ในอนาคต .. ??

ในใจผมก็ยังคงปฏิเสธอยู่ เพราะยังไม่เชื่อมั่น ในหลายๆเรื่องเช่นอะไหล่ทดแทน

อัตราส่วนรถจีนในไทยก็คงเพิ่มขึ้นจริงแหละ แต่ผมไม่คิดว่า รถญี่ปุ่นจะหายไปแล้วรถจีนเข้ามาแทนที่ได้

การที่ค่ายญี่ปุ่นยังไม่โดดมา EV แบบเต็มตัว เค้าอาจจะเห็นอะไร แบบที่เราไม่เห็นอยู่ก็ได้นะ
ผมก็ไม่ซื้อนะครับพี่ รถจีนสวยแต่รูปจูบไม่หอม แมออร่าแมวดีจะสวยน่ารักแต่มันแพงไร้สาระครับ กับคุณภาพทั้งหลายมันไม่ถึง ถ้า 550,000 บาทผมคงจะซื้อแน่ๆครับ



เต๋า AV

ตั้งราคาถูกลง เอากำไรน้อยลง แพงกว่ารถจีนนิดหน่อย ก็ขายได้เพราะความเชื่อมั้น
แต่ตอนนี้รถค่าย ญ ตั้งราคา โนสน โนแคร์ ก็เป็นไปตามกลไกทางการตลาด

จะยอมหัก หรือ ยอมงอ ก็เลือกเอาเอง



MyName

ถ้าคิดเป็นสัดส่วนจริงๆ มันก็เพิ่มมาเรื่อยๆ ในยุค EV นี้แล้วจริงๆ ครับ มันอาจจะยังไม่เป็น % มากพอที่จะปรับแผนระยะสั้นกันหรอก แต่กระทบแผนระยะยาวแน่
แต่ก็เข้าใจในระบบการทำงานของญี่ปุ่นนะว่า ทุกอย่างมีขั้นตอน ช้าแต่ชัวร์ รถญี่ปุ่นก็เลยยังครองใจคนที่ยังเชื่อมั่นตรงนี้ได้ เพราะอย่างผมที่รถคันนึงไม่เคยคิดจะขายในระดับต่ำกว่า 20 ปี การเปิดใจให้รถจีนมันก็ยังต้องใช้เวลาพิสูจน์ แต่ยอมรับว่าในยุค EV นี่รถจีนหลายรุ่นก็ทำให้ผมลบภาพจำเดิมๆ ได้ แต่ในเวลานี้ขอแค่ได้ขับแต่ยังไม่ขอครอบครองก่อนแล้วกันครับ
2022 - Nissan Almera 1.0 Turbo VL
2016 - Mazda 2 1.5XD High Plus L
2008 - Mitsubishi Space Wagon 2.4 GLS Ltd. !User'Review Click here!
1997 - Daihatsu Mira Mint 850cc AT



I-PULSE

ไม่ต้องหวั่นครับ มันมาแน่นอน และจะเป็นทั่วโลกด้วย



whoami

คงมีผลแค่กับบางค่าย หรือบางรุ่น

ตลาดรถกระบะยังไงจีนก็ยังสู้ไม่ได้

Yaris ativ ยังคงรอคิวกันหลายเดือน

Yaris Cross ถ้าเปิดราคามาดี ก็รอคิวกันข้ามปีอีกแหละ




XMSL

ไม่ใช่แค่จีนหรอกที่ต้องกลัว สวีเดน อเมริกัน เยอรมัน เขาทุ่มเต็มกำลังไปทางนี้หมด ญี่ปุ่นมัวแต่เสียดายบุญเก่าหวังจะเก็บกินยาวๆ ระวังจะกลับตัวไม่ทัน...



อีกนิดก็แรง

รถ ev จีนตอนนี้เหมือนช่วงที่ cruz focus fiesta ที่กำลังมาแรงๆ ถ้าไม่สะดุดขาตัวเอง product มีความน่าเชื่อถือและราคาเข้าถึงได้เชื่อว่าในระยะยาวจะส่งผลต่อแบรนด์ญี่ปุ่นไม่มากก็น้อย ลองคิดดูว่าถ้าวันนี้ไม่มี byd atto3 ที่ขายเดือนละ 2000 คัน HRV และ cross จะขายดีขึ้นขนาดไหน แต่ทั้งนี้ต้องยกเว้นกระบะกับ ppv ไว้หน่อยละกัน ที่อาจจะไม่มีวันทำอะไรค่ายญี่ปุ่นได้



sk-non

tesla ก็เยอะนะ
ปีนี้ที่บ้านมีจีน 3 ยี่ห้อ
MG BYD GWM
ประทับใจโชว์รูม GWM มาก



pladaek

ตามสภาพ ก็ญี่ปุ่นปรับตัวช้า
มันคงโทษใครไม่ได้นอกจากตัวเอง

แต่มองภาพรวมๆมันก็ยังไม่ได้แย่ขนาดนั้นหรอก
เพราะรถน้ำมันก็ยังจำเป็นมากกว่า และก็ยังขายดีอยู่

รถจีนก็ตีตลาดรถไฟฟ้าแตกไปแล้ว
รถน้ำมันยังมีพื้นที่ให้ญี่ปุ่นอีกเยอะ..
ไม่ได้ขับรถเพื่อทำเวลาที่ดีที่สุด.. แต่ขับรถเพื่อเจอช่วงเวลาที่ดีที่สุด..



Fragile

ไม่ใช่เฉพาะรถยนต์นะ
สินค้าญี่ปุ่นโดนตีตลาดหลายอย่างแล้ว
เมื่อก่อนเครื่องใช้ไฟฟ้าต้องแบรนด์ญี่ปุ่นเท่านั้น
เดี๋ยวนี้กลายเป็นสินค้าจีน เกาหลี เกือบหมดแล้ว
เพราะขายแพง ไม่สนโลก
กลัวว่ารถยนต์ก็จะเป็นแบบเดียวกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 03, 2023, 09:08:37 โดย Fragile »



Maj.Worakrit

กลไกตลาดมันแน่นอนอยู่แล้ว
คนรุ่นใหม่ๆ หลายคน เค้าไม่ได้ยึดติดฝังรากหยั่งลึกแบบคนยุคก่อน ว่าซื้อรถต้อง Toyota Honda Isuzu เท่านั้น
ต่อให้จะจัดออฟชั่น จะด้อยค่าตลาดไทยยังไง ก็ขายได้เรื่อย

ในเมื่อปัจจุบัน มีทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้น หลายคนมีรถญี่ปุ่นเป็นคันแรกของบ้านอยู่แล้ว แต่ในชีวิตประจำวัน หลายครอบครัวต้องใช้รถมากกว่า 1 คัน การมองหารถไฟฟ้า ที่ราคาย่อมเยาว์จึงตอบโจทย์พอๆกับการหา Ecocars มาใช้  ส่วนตัวผมมองว่า ตลาด Eco Cars ต้องต่อสู้กับ BEV ที่ราคาต่ำกว่า 8 แสนบาท ไม่ว่าจะเป็น Dolphin NetaV ZS
หรือแม้แต่การมองหา B SUV มาใช้เป็นรถคันหลักของบ้านเอง ที่การแข่งขันดุเดือดมาก ถ้าจะซื้อ B SUV ซักคัน ATTO3 จะถูกเข้ามาเป็นตัวเลือกลำดับแรกๆเลย แล้วมองคู่แข่งจากค่ายญ๊่ปุ่นตอนนี้ มีอะไรน่าสนใจ Cross ก็ไม่ Minor ซะที ลากขายเครื่อง 1.8โบราณๆต่อไป HRVก็ลดต้นทุน ขายญี่ปุ่นได้จออีกแบบ ในไทยยกจอCity มาใส่



tswift

เอื้อภาษีให้ขนาดนี้ ในขณะที่รถน้ำมันแบกภาษีไว้กี่ % ที่สื่อญี่ปุ่นหวั่นเพราะนโยบายเอื้อรถ EV จากจีนของรบ.ไทยมากกว่านะครับ (โอเคมี Tesla ที่มาจากเมกา เลยดูไม่เอนเอียง แต่คุณเห็นยี่ห้อรถ EV จากที่อื่นอีกไหมนอกจากจีน ที่ตอนนี้มี BYD GWM และแบรนด์อื่นๆที่กำลังตามมาอีก)

รถญี่ปุ่นยังไงมันก็ขายได้ อย่าง Yaris ยอดรอส่งมอบยันปีหน้า การแข่งขันแค่มีผู้เล่นมากขึ้นครับ ซึ่งผมมองว่าก็ดีเพราะเพิ่มความหลากหลายในตลาด แต่ให้มาแช่งชักหักกระดูกเจ้าตลาด แบบ "เป็นไงล่ะ ก็ไม่ยอมปรับตัว ฯลฯ" ผมว่าเกมจะเป็นอีกรูปนึงเลยถ้ารัฐไม่อุดหนุนภาษีรถ EV



lexus

เป็นไปตามการแข่งขันทางการค้าครับ
ถ้าถูกและดี คนก็ซื้ออันนั้นแหละ
แต่หลายๆอย่างก็ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าจะดีในระยะยาวรึเปล่า รถญี่ปุ่นก็เลยยังดูมั่นใจกว่าและก็ยังขายได้เรือยๆ
ยอดขายหลายรุ่นก็ยังต้องรอกันหลายเดือนนะครับ HRV Ativ CRV นี่รอกันหลายเดือนเลย

แต่ผมชอบนะ มีคู่แข่งซะบ้างก็ดี ผู้บริโภคจะได้ประโยชน์ด้วย