ผมพึ่งตรวจประเมินงาน ที่ดีเกือบเท่างานของหัวหน้าวิศวกรรถไฟฟ้าสหรัฐชื่อดัง ซึ่งนำเสนอในปี 2022 ที่การประชุม Computer Vision and Pattern Recognition ซึ่งใช้ Occupancy Networks (ON) และ หากเป็นโครงสร้างแบบ Pyramid ก็จะเรียกว่า PON
การใช้กล้องอย่างเดียว (เมื่อเทียบกับรถที่ใช้เรดาร์ร่วมด้วย)
ข้อดี สบายกระเป๋ากว่า ทั้งตอนซื้อ และ ตอนบำรุงรักษา
ข้อเสีย จะตรวจจับวัตถุได้ไม่แม่นพอ โดยเฉพาะตอนกลางคืน ในด้านข้าง หรือ ด้านหลังด้วยกรณีรถคู่กรณีไม่เปิดไฟ
นอกจากนี้ ถึงวิศวกรเก่งขนาดไหน การขับขี่กึ่งอัตโนมัติก็จะได้เพียง Level 2 ในปัจจุบันนี้
จะเห็นได้จากเพจเฟซ EV ของไทย (ซึ่งสมาชิกเฟจรู้สึกว่า เจ้าของเพจเชียร์รถไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในไทยยี่ห้ออังกฤษแล้วจีนนำมารีแบรนด์) แสดงภาพรถสหรัฐดังกล่าวเฉี่ยวรถมอเตอร์ไซค์และรถยนต์ตอนตีสอง แถวเกษตรนวมินทร์
1. บางคนก็ว่าเมา แต่ถึงเมารถก็ควรเบรก หรือ หักหลบ*
2. บางคนที่รู้เรื่องวิศวกรรมวิทัศน์เครื่องจักร อาจวิเคราะห์ได้ว่า
'ในสภาพแสงน้อย การใช้กล้องอย่างเดียว จะด้อยประสิทธิภาพลงกว่าการใช้กล้องร่วมกับเรดาร์ (ซึ่งทั้งกล้องและเรดาร์ อาจมีได้หลายตัว) กล่าวคือ ด้านหน้ารถที่ไฟส่อง จะไม่ค่อยมีปัญหา ปัญหาอยู่ที่ด้านข้างรถ ก็คือ กล้องมองไม่เห็นอะไร ทำให้การเบี่ยงเลนเฉี่ยวชนได้'
* รถ Level 2 เหมือนกันเจ้ายุโรป อย่างน้อยหนึ่งเจ้า ในสถานการณ์นี้ จะไม่ยอมให้มนุษย์เฉี่ยวชน กล่าวคือ จะแทรกแซงมนุษย์ด้วยการ คง / หักเลี้ยว พวงมาลัย ยกเว้นมนุษย์จะกดยกเลิกระบบนี้ไว้ล่วงหน้า
แม้ในสภาพแสงมาก ก็ตรวจจับถูกต้องเพียงประมาณเท่านี้ สำหรับรถที่ใช้กล้องหน้าอย่างเดียว

ทั้งนี้ การใช้ Neural Radiance Fields ร่วมด้วยของรถไฟฟ้าชื่อดัง เป็นซอฟต์แวร์ตัวใหม่ ช่วยให้ผลดีกว่าภาพด้านบน แต่ยังไงก็จะไม่ค่อยเห็นรถด้านข้างตอนกลางคืน
จะเห็นได้ว่า รถขับกึ่งอัตโนมัติยุโรปหลายแบรนด์ จะใช้เรดาร์ร่วมด้วย ซึ่งเรดาร์แบบนึงที่ถูกลงในช่วงปีนี้ คือ LiDAR อันมีประสิทธิภาพสูงกว่าเรดาร์ปกติ หลายเจ้าติดรอบคัน ก็จะทำให้เห็นรถรอบคัน ตอนกลางคืน
จากแหล่งข่าวรถยนต์หลายแหล่งระบุว่า การใช้ เรดาร์ หรือ LiDAR ร่วมด้วย ทำให้เกิดการขับขี่กึ่งอัตโนมัติ มีประสิทธิภาพสูงถึง Level 3 เป็นไปได้หลายแบรนด์แล้ว
ซื้อรถ Level 3 จะเหมือนซื้อรถแถมคนขับรถ ขับอัตโนมัติได้เกือบตลอดเส้นทาง
(Level 4 /5 วิศวกรโปรแกรมกล่าวกันว่า เป็นจริงยากมาก ดังนั้น สิ่งที่ดีที่สุดที่หาได้ในทศวรรษนี้ น่าจะเป็น Level 3)
และนี่คือส่วนหนึ่งในความแตกต่าง ระหว่าง รถขับกึ่งอัตโนมัติที่ใช้กล้องอย่างเดียว กับรถที่ใช้ทั้งกล้องและเรดาร์