ในยุคที่รถไฟฟ้าเป็นคู่แข่งของรถน้ำมันอย่างมีนัยสำคัญ ปรับตัวแบบไหนถูกใจกว่า

[BIGGIGGOG]

ตามหัวข้อครับ พึ่งอ่านเพจนึงวิเคราะห์ต้นทุนรถทั้ง 2 แบบมา เลยมานั่งคิดว่า
- รถน้ำมัน ลดราคา Option เท่าเดิม
- รถน้ำมัน เพิ่ม Option ราคาเท่าเดิม
แบบไหนผู้บริโภคจะชอบกว่ากัน และมี Impact กับตลาดรถมากกว่ากัน ไล่ตั้งแต่ Supplier ของค่ายรถลงมาเลย

[Ruksadindan]

พีเห็บฟ์ครับ

[เนื้อน่องไม่หนัง]

หลักๆคือปรับราคาลง
การยัด option ที่คนต้องการไว้รุ่นบนๆ ตัวแพงๆ แล้ว markup เยอะๆ และใช้ option บีบให้คนซื้อผมคิดว่าควรพอได้แล้ว
ตัวแพงควรจะลดราคา ให้สัมพันกับ option มากกว่านี้

กลุ่มคนที่ใช้รถน้อย หรือไม่สะดวกชาร์จ
ถ้าเทียบ ev / ice ที่ราคาใกล้ๆกันจะได้ยังสนใจรถน้ำมันบ้าง

คิดว่ามันยังมีกลุ่มคนที่ยังไม่อยากได้ bev แต่พอเจอราคาที่มันสะท้อนต้นทุกมากกว่า เลยซื้อและยอมปรับตัวให้เข้ากับรถแทน

[Symphonic]

ให้รถไฟฟ้าหมดมาตรการสนับสนุนด้านภาษีนำเข้า
และแจกเงินอุดหนุนคันละแสนห้าก่อนสิครับ

ค่อยว่ากัน

[off_033]

ลดราคามีผลทางจิตใจมากกว่า

option ทีเพิ่มขึ้น บางอย่างอาจจะไม่ได้ใช้หรือไม่ต้องการใช้

แต่ option พื้นฐานที่ควรจะมีก็ต้องมี  ส่วนของเล่นจะใส่มาหรือไม่ใส่ก็แล้วแต่ครับ

..แต่ต้องระวังคนซื้อก่อนเสียความรู้สึก  อาจจะต้องมีอะไรเยียวยาบ้างอย่าให้รู้สึกถูกทิ้งไว้กลางทาง เพราะเค้าคงไม่ได้ซื้อรถคันเดียวในชีวิต

[Fong]

ผมอยากให้ทำรถไฟฟ้าที่แบตวิ่งได้ 200km เพื่อใช้แบบ Working Daily Use ชาร์จแบตที่บ้านทุกคืน

และมีเครื่องยนต์ขนาดเล็กประสิทธิภาพสูง เอาไว้ปั่นไฟเวลาที่จะต้องเดินทางไกล และสามารถสั่งให้ทำงานปั่นไฟชาร์จแบตหากจอดในที่โล่งแจ้งได้

จะเรียก BEV แบบขยายระยะทาง หรือจะเรียก PHEV ก็แล้วแต่เลยครับ

เอาจริงผมจะนึกถึง Kicks แบตใหญ่ เสียบชาร์จได้ รองรับเฉพาะชาร์จ AC ก็ได้ครับ แบตจะได้อยู่นานๆ

[solo]

https://www.thairath.co.th/news/auto/evcar/2731253

[DiKiBoyZ]

ต้องเข้าใจให้ถูกก่อนนะครับ

รถไฟฟ้า มันมาแทน รถน้ำมัน แน่นอน ถึงแม้วันนี้จะเป็นแค่ส่วนหนึ่ง หรือ ตัวเลือก ก็ตาม

ดังนั้น ต่อให้อีก 10ปี 20ปี รถน้ำมันจะเพิ่มออฟชั่น หรือ ลดราคา มันก็คงไม่ได้ช่วยอะไร

แค่ทุกวันนี้ประคองตัวให้เจ็บน้อยที่สุด คือ ทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว

เพราะหลายคนชอบพูดว่า มันคนละตลาด รถน้ำมัน กับ รถไฟฟ้า มันคนละ segment กัน คนละแบบกัน เทียบกันไม่ได้

ผมบอกเลยว่า ไอ้คนที่พูดแบบนั้น หนีไปซื้อรถไฟฟ้า เยอะแล้วครับ

เพราะรถมันก็คือรถ เงินในกำมือ มันไม่ได้สนใจหรอกว่า จะน้ำมันหรือไฟฟ้า ขอแค่มันเป็นรถ และ ค่าใช้จ่ายมันคุ้มกว่า ชอบกว่า ตามสมัยนิยม ก็ต้องเลือกคันนั้น