ผู้เขียน หัวข้อ: Disruption ในวงการรถยนต์ในมุมมองของชาวไอที  (อ่าน 2073 ครั้ง)

ออฟไลน์ solo

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 525
    • อีเมล์
ก่อนอื่นขอแยกระหว่าง Car กับ Smart Car มันก็เหมือนกับ Phone กับ Smart Phone

ผมไม่อยากเรียกSmart Car แต่อยากเรียกว่าคอมพิวเตอร์ติดล้อมากกว่า

เหมือนกับที่ไม่อยากใช้คำว่า Smart Phone แต่อยากใช้คำว่าคอมพิวเตอร์แบบพกพามากกว่า เพราะมันสะดวกจนเราใส่ในกระเป๋ากางเกงได้ และเราก็ไม่ค่อยใช้มันโทรเข้าโทรออกเท่าไร

 
การ disruption ครั้งนี้ไม่ใช่การเปลี่ยนจากรถยนต์น้ำมัน ไปเป็น รถยนต์ไฟฟ้า แต่เป็นการเปลี่ยนจาก Car ไปเป็น คอมพิวเตอร์ติดล้อ (Smart Car)

เหมือนกับครั้งหนึ่งคนเคยคิดว่า โทรศัพท์แบบ touch screen จะมาแทนที่ โทรศัพท์แบบปุ่มกด ซึ่งจริงๆไม่ใช่ คอมพิวเตอร์พกพา ต่างหากที่มาแทนที่ โทรศัพท์
•   
ถ้าคุณมองว่า smart phone ในวันนั้นเป็นเพียงแค่ โทรศัพท์และระบบแบบ touch screen นั้นคุณมองว่ามันเป็นเพียงแค่ประเภทหนึ่งของโทรศัพท์ซึ่งแน่นอน ประเภทของโทรศัพท์สามารถถูกแบ่งออกมาได้มากมาย เช่น มีปุ่มกด ไม่มีปุ่มกด พับได้ พับไม่ได้ และอื่นๆ

จึงนำมาซึ่งข้อถกเถียงมากมาย เช่น โทรศัพท์แบบปุ่มกดใช้งานได้สะดวกสบายกว่าเช่น blackberry หรือโทรศัพท์แบบ touch screen นั้นไม่ทนทานเท่าโทรศัพท์แบบเดิมของ Nokia
•   
•   มันเหมือนรถน้ำมันมันดีกว่ารถไฟฟ้าไง
•   ●
ซึ่งมันผิดประเด็น !!!!!!
•   ●
นี่เป็นการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งใหม่
•   ●
หัวใจของมันคือ คอมพิวเตอร์ และ internet
•   ●
smart phone -> smart car -> smart building -> smart city
•   ●
มันคือการเปลี่ยนอุปกรณ์ธรรมดาให้ ฉลาดมากขึ้น หรือก็คือการนำ คอมพิวเตอร์ ไปเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ
•   ●
และ มันคือการนำอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งกลายเป็น smart device ไปแล้วมาเชื่อมต่อกันและกัน
•   ●
ซึ่งท้ายสุดมันจะทำให้เกิดการทำงานร่วมกัน หรือ ที่เราเรียกว่า Collaboration นั้นแหละ
•   ●
ซึ่งโทรศัพท์แบบ touch screen มันตอบโจทย์นี้ที่สุดแค่นั้น
•   ●
ทุกวันนี้เราใช้ smartphone เป็นโทรศัพท์แค่ไหนกันเชียว โทรยังโทร line เลย
•   ●
เห็นไหม ถ้าเรามองว่ามันเป็นประเภทหนึ่งของโทรศัพท์ เรากำลังมองมันผิด แต่ถ้าเรามองว่ามันเป็นคอมพิวเตอร์ที่สามารถโทรได้ โจทย์จะเปลี่ยนไปทันที
•   ●
การมองโจทย์ผิดจะทำให้ล้มแบบเดียวกับที่ Nokia, blackberry … เคยเจอ
•   ●
เช่นเดียวกัน
•   ●
ถ้าเรามองว่า Tesla เป็นเพียง รถยนต์ไฟฟ้า นั้นเท่ากับมันเป็นเพียงประเภทหนึ่งของรถยนต์
•   ●
นั้นจึงมี รถยนต์น้ำมัน รถยนต์ไฮบริด รถยนต์ไฟฟ้า
•   ●
เหมือนกันเรื่องของ smart phone มันเป็นการมองโจทย์ที่ผิด
•   ●
ที่มันต้องเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ใช่เพราะรักโลก แต่การเป็นรถยนต์ไฟฟ้า มันเป็นฐานในการต่อยอดไปเป็น คอมพิวเตอร์ติดล้อ (smart car)
•   ●
คนที่เข้าไปในเกมนี้ก่อน จะเป็นคนกำหนดกฏในโครงสร้างใหม่นี้ เหมือนกับที่ apple กับ google เป็น
•   ●
จุดเปลี่ยนคือการเกิดขึ้นมาของ OS สำหรับ smart car
•   ●
Tesla มีทางเลือก 3 ทางคือ iOS, Android หรือ Window ส่วนตัวเชื่อว่า Tesla จะต้องร่วมมือกับใครซักคน เพราะการพัฒนาระบบขึ้นมาเองเป็นเรื่องที่ยากเกินว่า Tesla จะทำเอง
•   ●
รถยนต์แบรนด์จีนทุกแบรนด์จะใช้ Harmony OS อย่างแน่นอน (รวมถึงโทรศัพท์จีนทุกแบรนด์ด้วย)
•   ●
ส่วนตัวเชื่อว่าเราจะเริ่มเห็นการใช้งาน OS ของ smart car อย่างเป็นรูปเป็นร่างในอีก 4-5 ปี ข้างหน้า มันจะมาพร้อมกับการที่ huawei สามารถผลิตชิปต่ำกว่า 5nm ได้ มันจะเป็นการเข้ามาพร้อมกันของ smart phone และ smart car
•   ●
smart car ไม่เท่ากับ autonomous car
•   ●
การขับเคลื่อนอัตโนมัติ เป็นความสามารถหนึ่งใน smart car ส่วนตัวเชื่อว่าจะยังไม่เกิดขึ้นในเร็วๆนี้ อาจต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 20 ปี
•   ●
แต่สิ่งที่เราจะได้เห็นใน smart car เร็วๆนี้คือ
•   ●
รถยนต์จะสามารถ connect ถึงกันและกันได้ การทำงานของรถยนต์ จะไม่ได้เป็นเอกเทศ แต่จะเป็นองค์รวมมากขึ้น
•   ●
เช่น เมื่อคุณเปิดไฟเลี้ยว รถรอบข้างคุณจะรู้ได้ทันทีว่าคุณจะเลี้ยว ซึ่งอาจส่งผลให้รถที่ตามคุณมาข้างหลังชะลอความเร็วลง หรือ แม้กระทั่ง การเลี้ยวของคุณอาจถูกควบคุม หรือ แจ้งเตือนถึง รถที่กำลังวิ่งมา
•   ●
รถที่ไม่อยู่ในระบบจะค่อยๆ หายไปจากถนนด้วยเรื่องความปลอดภัย เหมือนกับที่คุณจะไม่ได้5ดาวเลยถ้าไม่มี ADAS
•   ●
ถ้าคุณสังเกต คุณจะพบว่ามีเพียง apple, google, microsoft และ huawei เท่านั้นที่จะสร้างระบบพวกนี้
•   ●
มันจะเกิดการร่วมกันของ smart phone และ smart car เป็นระบบเดียว ซึ่งจะต่อยอดไปในเรื่องของ smart building
•   ●
เกมนี้มันเข้าทาง อเมริกา และ จีน
•   ●
เพราะมีเพียงสองคนนี้เท่านั้นที่มีโครงสร้างซึ่งจะเปลี่ยนผ่านไปยังอนาคต
ส่วนเยอรมันและญี่ปุ่นยังเน้นเรื่อง Driving Dynamic อยู่


ออฟไลน์ Zephyrs

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 913
Re: Disruption ในวงการรถยนต์ในมุมมองของชาวไอที
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2023, 20:46:27 »
ก๊อบจากไหนมาให้เครดิตเขาด้วยนะครับ หรือถ้าพิมพ์เองแล้วเอามาจากเวปไหนก็รบกวนใส่ลิ้งค์ให้หน่อย (ถ้าเวปต้องห้ามไม่ต้องก็ได้)

อ่านแล้วตาลาย งงว่าที่พิมพ์มายาวๆนี่เกี่ยวอะไรกับเรื่องชาวไอที เหมือนพิมพ์ลมๆแล้วก็เอามาโยงกับรถเฉย

ออฟไลน์ Nui

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 328
Re: Disruption ในวงการรถยนต์ในมุมมองของชาวไอที
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2023, 21:11:06 »
ก๊อบจากไหนมาให้เครดิตเขาด้วยนะครับ หรือถ้าพิมพ์เองแล้วเอามาจากเวปไหนก็รบกวนใส่ลิ้งค์ให้หน่อย (ถ้าเวปต้องห้ามไม่ต้องก็ได้)

อ่านแล้วตาลาย งงว่าที่พิมพ์มายาวๆนี่เกี่ยวอะไรกับเรื่องชาวไอที เหมือนพิมพ์ลมๆแล้วก็เอามาโยงกับรถเฉย

ปกติมาแนว ๆ นี้จะซ่อนลิ้งค์โฆษณาเว็บพนันหรืออื่น ๆ แต่อันนี้ไม่มีแฮะ อ่านยากฉิบ ผมไม่อ่าน
E12 520, E21 320, Peugeot 504, 505
Citroen CX Prestige
E30 316i, E36 318i
Mazda Lantis V6 2.0, Rover 623 GSi
Mitsubishi Pajero V6 3.5 1998, E46 323i
Mitsubishi Pajero Sport 2011
Volvo V40 T5
F30 Active Hybrid 3
C250 Coupe C205, E300 Coupe C238
G32 630d GT

ออฟไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,953
    • อีเมล์
Re: Disruption ในวงการรถยนต์ในมุมมองของชาวไอที
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2023, 22:21:12 »
เรื่องรถไฟฟ้า หรือเทสล่านี่ เมื่อหลายวันก่อนผมดูหนังใน netflix เรื่องนึง หนังแนววันสิ้นโลก เนื้อเรื่องประมาณโลกนี้ระบบ network internet และระบบสื่อสารถูก hack หมด

มีฉากนึงมีรถ Tesla ในเรื่องด้วยคือรถ Tesla ถูก hack ให้วิ่งเองและมันชนกันเองเละเทะ

ฉากนี้ทำให้ผมสงสัยว่ามัน hack กันได้จริงๆหรือเปล่า  ..  และวันนี้มาเห็นข่าว Elon Musk สั่งลบแอป Disney+ จาก Tesla นั่นหมายความว่า มีบุคคลภายนอกสามารถเข้ามาควบคุม ลบ อะไรหรือเติมอะไร จากรถเราได้เลย

ดังนั้นประเด็นนี้มันน่าคิดนะ กล้องรอบคันใน tesla มันบันทึกและเก็บอะไรไปแล้วบ้าง GPS บันทึกการเดินทางของผู้ใช้ไปมากน้อยเท่าไร และที่สำคัญ มันดักฟังเราพูดด้วยหรือเปล่า มันน่าคิดเหมือนกันนะเนี่ย

ออฟไลน์ เนื้อน่องไม่หนัง

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,737
Re: Disruption ในวงการรถยนต์ในมุมมองของชาวไอที
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2023, 22:56:53 »
เรื่องรถไฟฟ้า หรือเทสล่านี่ เมื่อหลายวันก่อนผมดูหนังใน netflix เรื่องนึง หนังแนววันสิ้นโลก เนื้อเรื่องประมาณโลกนี้ระบบ network internet และระบบสื่อสารถูก hack หมด

มีฉากนึงมีรถ Tesla ในเรื่องด้วยคือรถ Tesla ถูก hack ให้วิ่งเองและมันชนกันเองเละเทะ

ฉากนี้ทำให้ผมสงสัยว่ามัน hack กันได้จริงๆหรือเปล่า  ..  และวันนี้มาเห็นข่าว Elon Musk สั่งลบแอป Disney+ จาก Tesla นั่นหมายความว่า มีบุคคลภายนอกสามารถเข้ามาควบคุม ลบ อะไรหรือเติมอะไร จากรถเราได้เลย

ดังนั้นประเด็นนี้มันน่าคิดนะ กล้องรอบคันใน tesla มันบันทึกและเก็บอะไรไปแล้วบ้าง GPS บันทึกการเดินทางของผู้ใช้ไปมากน้อยเท่าไร และที่สำคัญ มันดักฟังเราพูดด้วยหรือเปล่า มันน่าคิดเหมือนกันนะเนี่ย

เคยมีข่าวว่า ช่วงที่มี Hurricane เข้า Florida ทาง Tesla remote config รถ ปรับให้ Range วิ่งได้ไกลขึ้น ส่วนนึงก็มองว่าดีที่ช่วยในส่วนที่ทำได้
แต่ก็มีอีกส่วนที่กังวลเรื่อง Privacy
และยังมีเรื่องของไฟล์ vdo ที่อัดจาก Dashcam ของ tesla หลุดอีก ครับ..

ส่วนตัวที่ชอบขับรถ ผมไม่ค่อยชอบระบบพวกนี้เท่าไร่ หลายๆอย่างทำให้การขับขี่มันผ่อนคลายและสะดวกขึ้น แต่ก็ทำให้เราโฟกัสกับการขับขี่น้อยลง
รถยนต์ในไทยคงไม่เปลี่ยนเร็วเท่าไหร่ครับ รายได้เราไม่ได้สูง และราคารถก็สูงกว่าราคาโทรศัพท์หลายเท่าตัว หลายคนใช้รถกัน 10-15 ปีเลย
ระบบหลายๆอย่างอย่างเช่นให้รถทุกคนคุยกัน แลกเปลี่ยนข้อมูลกัน มันจะทำได้ก็ต่อเมื่อทุกคันบนถนนและตัวถนนเอง ใช้มาตรฐานเดียวกันครับ
ปัจจุบัน บนถนนนี้เราเจอรถใหม่ ยันรถเก่า มอไซต์ ยังไม่นับเรื่องของถนนเส้นจราจรที่ไม่สมบูรณ์อีก มันเป็นไปได้ แต่ไม่ง่ายครับ


ถึง ขกจท จะดีกว่านี้ถ้ากรองที่จะโพสนิดนึง
ก่อนหน้านี้ก็ แปะลิ้ง youtube ลอยๆ แล้วก็ไป  Content รอบนี้ก็อ่านยากมาก เข้าใจยากแถม มี bullet แปลกๆ ติดมาอีก

ออฟไลน์ Devil13

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,999
Re: Disruption ในวงการรถยนต์ในมุมมองของชาวไอที
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ธันวาคม 23, 2023, 07:06:23 »
เรื่องรถไฟฟ้า หรือเทสล่านี่ เมื่อหลายวันก่อนผมดูหนังใน netflix เรื่องนึง หนังแนววันสิ้นโลก เนื้อเรื่องประมาณโลกนี้ระบบ network internet และระบบสื่อสารถูก hack หมด

มีฉากนึงมีรถ Tesla ในเรื่องด้วยคือรถ Tesla ถูก hack ให้วิ่งเองและมันชนกันเองเละเทะ

ฉากนี้ทำให้ผมสงสัยว่ามัน hack กันได้จริงๆหรือเปล่า  ..  และวันนี้มาเห็นข่าว Elon Musk สั่งลบแอป Disney+ จาก Tesla นั่นหมายความว่า มีบุคคลภายนอกสามารถเข้ามาควบคุม ลบ อะไรหรือเติมอะไร จากรถเราได้เลย

ดังนั้นประเด็นนี้มันน่าคิดนะ กล้องรอบคันใน tesla มันบันทึกและเก็บอะไรไปแล้วบ้าง GPS บันทึกการเดินทางของผู้ใช้ไปมากน้อยเท่าไร และที่สำคัญ มันดักฟังเราพูดด้วยหรือเปล่า มันน่าคิดเหมือนกันนะเนี่ย

เหมือนเคยอ่านข่าว ว่ากล้องภายในเทสล่าโดนแฮก เพื่อแอบดูคนในรถ
ข่าวบอกว่าเป็นคนในของเทสล่าทำเอง จริงหรือเปล่าไม่รู้ ถ้าเป็นคนนอกทำได้นี้บันเทิง

ออฟไลน์ Floppy-T

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 969
Re: Disruption ในวงการรถยนต์ในมุมมองของชาวไอที
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ธันวาคม 23, 2023, 08:13:51 »
ส่วนใหญ่เห็นด้วยนะครับ โลกน่าจะกำลังเปลี่ยนผ่านเป็น Smart cars โดยเฉพาะเรื่องของ Connect และ Communication

ประเทศพัฒนาแล้วน่าจะนไปใช้ได้ ส่วนประเทศกำลังพัฒนา หรือยังไม่พัฒนา น่าจะใช้เวลาเปลี่ยนผ่านพอสมควร

แต่สมัยนี้อะไรก็เปลี่ยนเร็ว ใจคนก็เช่นกัน  :'(

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,053
Re: Disruption ในวงการรถยนต์ในมุมมองของชาวไอที
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ธันวาคม 23, 2023, 08:15:36 »
เรื่องรถไฟฟ้า หรือเทสล่านี่ เมื่อหลายวันก่อนผมดูหนังใน netflix เรื่องนึง หนังแนววันสิ้นโลก เนื้อเรื่องประมาณโลกนี้ระบบ network internet และระบบสื่อสารถูก hack หมด

มีฉากนึงมีรถ Tesla ในเรื่องด้วยคือรถ Tesla ถูก hack ให้วิ่งเองและมันชนกันเองเละเทะ

ฉากนี้ทำให้ผมสงสัยว่ามัน hack กันได้จริงๆหรือเปล่า  ..  และวันนี้มาเห็นข่าว Elon Musk สั่งลบแอป Disney+ จาก Tesla นั่นหมายความว่า มีบุคคลภายนอกสามารถเข้ามาควบคุม ลบ อะไรหรือเติมอะไร จากรถเราได้เลย

ดังนั้นประเด็นนี้มันน่าคิดนะ กล้องรอบคันใน tesla มันบันทึกและเก็บอะไรไปแล้วบ้าง GPS บันทึกการเดินทางของผู้ใช้ไปมากน้อยเท่าไร และที่สำคัญ มันดักฟังเราพูดด้วยหรือเปล่า มันน่าคิดเหมือนกันนะเนี่ย

เหมือนเคยอ่านข่าว ว่ากล้องภายในเทสล่าโดนแฮก เพื่อแอบดูคนในรถ
ข่าวบอกว่าเป็นคนในของเทสล่าทำเอง จริงหรือเปล่าไม่รู้ ถ้าเป็นคนนอกทำได้นี้บันเทิง
ถ้าคนในทำได้ remotely (หมายถึงว่าไม่ได้เอาอุปกรณ์อะไรไปเสียบกับรถ) คนนอกก็มี "โอกาส" ทำได้ เพราะแปลว่าตัวรถเชื่อมต่อกับ network ข้างนอกได้ ขึ้นอยู่กับว่า hardening ระบบกันไว้ดีขนาดไหน

ออฟไลน์ seeker

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,528
Re: Disruption ในวงการรถยนต์ในมุมมองของชาวไอที
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ธันวาคม 24, 2023, 09:16:24 »
ไม่มีอะไรที่ 100% hacker ขั้นเทพผมว่าแฮ็คได้ทุกระบบ แต่คุ้มที่จะทำหรือมีหมายอะไรหรือเปล่า

Microsoft, apple, google ยังต้องคอยอัพ security patch อยู่เป็นประจำเลยครับ

ออฟไลน์ Smith686

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,953
    • อีเมล์
Re: Disruption ในวงการรถยนต์ในมุมมองของชาวไอที
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ธันวาคม 24, 2023, 13:14:02 »
เรื่องรถไฟฟ้า หรือเทสล่านี่ เมื่อหลายวันก่อนผมดูหนังใน netflix เรื่องนึง หนังแนววันสิ้นโลก เนื้อเรื่องประมาณโลกนี้ระบบ network internet และระบบสื่อสารถูก hack หมด

มีฉากนึงมีรถ Tesla ในเรื่องด้วยคือรถ Tesla ถูก hack ให้วิ่งเองและมันชนกันเองเละเทะ

ฉากนี้ทำให้ผมสงสัยว่ามัน hack กันได้จริงๆหรือเปล่า  ..  และวันนี้มาเห็นข่าว Elon Musk สั่งลบแอป Disney+ จาก Tesla นั่นหมายความว่า มีบุคคลภายนอกสามารถเข้ามาควบคุม ลบ อะไรหรือเติมอะไร จากรถเราได้เลย

ดังนั้นประเด็นนี้มันน่าคิดนะ กล้องรอบคันใน tesla มันบันทึกและเก็บอะไรไปแล้วบ้าง GPS บันทึกการเดินทางของผู้ใช้ไปมากน้อยเท่าไร และที่สำคัญ มันดักฟังเราพูดด้วยหรือเปล่า มันน่าคิดเหมือนกันนะเนี่ย

เหมือนเคยอ่านข่าว ว่ากล้องภายในเทสล่าโดนแฮก เพื่อแอบดูคนในรถ
ข่าวบอกว่าเป็นคนในของเทสล่าทำเอง จริงหรือเปล่าไม่รู้ ถ้าเป็นคนนอกทำได้นี้บันเทิง

   โปรแกรมแฮก Pegasus ของอิสราเอลทำได้แน่นอนครับ  รัฐไทยซื้อโปรแกรมนี้มาใช้ในช่วงที่รัฐต้องการควบคุมประชาชน

ออฟไลน์ punn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,596
  • may the force lead your way ...
Re: Disruption ในวงการรถยนต์ในมุมมองของชาวไอที
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ธันวาคม 24, 2023, 13:53:52 »
เรื่องโดนแฮกดูข้อมูลนี่คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่ารถรุ่นไหนในยุคนี้ที่มีระบบแนวพวก car connect นะครับ  :-X
ดังนั้นสบายใจได้ .. ว่าคุณไม่ได้โดนคนเดียวแน่นอน 555

ส่วนเรื่องเป็นสมาร์ทคาร์ เทียบกับ แบบคลาสสิค ผมรู้สึกหละ
อย่างเทสล่าที่มี เปลี่ยนไปเมื่อเทียบกับของเดิมคือการตอบสนองต่อเซนเซอร์ การตัดสินใจของรถมันเร็วมากจนรู้สึกได้เลย
ของโตต้ามันจะให้ฟีลลิ่งแบบคลาสสิคโฟน แบบอึดใจนึงจะตัดสินใจ เทียบลอจิคนิดนึงถึงจะยอมเปลี่ยน

กับเรื่องแฮคขับเองนี่ผมว่าคงยาก เพราะอีลอนโรคจิตเรื่องเอไอครองโลก น่าจะต้องมีระบบแยกกันระดับนึง
เหมือนตอนอัพเดทรถ เหมือนแยกวงจรชัดเจนส่วนขับ ส่วนข้อมูลเพราะอย่างอื่นเราก็ยังจัดการรถได้หมด นอกจากห้ามขับ

จริงๆเรื่องแฮคนี่ก็เป็นปัจจัยเล็กๆที่ผมเคยคิดว่าทำไมต้องซื้อยุคนี้
เนื่องจากอีลอนโรคจิตนี่หละ เลยคิดว่ารถกึ่งสมาร์ท(หรือสมาร์ทแล้ว)ตอนนี้น่าจะป้องกันจุดนี้ระดับนึง
ถ้าผ่านยุคนี้ที่อีลอนไม่ได้มาจริงจังปล่อยให้บริษัทพัฒนาต่อ
ก็อาจจะควบรวมส่วนอัตโนมัติให้สิทธิ์ที่มากขึ้นจนเป็นไปได้แบบเรื่อง I Robot กันเลย
มโนไปให้สุด  ;D
เป็นคนโลกปกติธรรมดา :)
ไม่โลกสวย และไม่โลกมืด อยู่กับความเป็นจริงและพลังงานบวก ..

ปราชญ์สอนสิ่งไหน คนก็จะจำสิ่งนั้น
ประสบการณ์เจอแบบไหน คนก็จะคิดทางนั้น
ต่างคนต่างประสบการณ์เรียนรู้สิ่งเดียวกัน ก็จะออกมาแตกต่างกันไปครับ

ออฟไลน์ Sommerดอยแม่สลอง

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 192
    • อีเมล์
Re: Disruption ในวงการรถยนต์ในมุมมองของชาวไอที
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: ธันวาคม 25, 2023, 14:05:07 »
มี Tesla = ปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 2 เกิดขึ้นแน่ๆ อีกไม่นาน
2019 Mercedes-Benz CLS300d AMG Premium
2024 ORA Good Cat GT

ออฟไลน์ XyteBlaster

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,292
    • อีเมล์
Re: Disruption ในวงการรถยนต์ในมุมมองของชาวไอที
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: ธันวาคม 25, 2023, 15:47:20 »
ตามความคิดของผมนะครับ
- tesla  hack ได้แน่นอน เพราะมี on the air อยู่ที่ว่า os จะมีความปลอดภัยมากแค่ไหน
- ถ้าเราเอามือถือสั่งให้รถของตัวเองวิ่งเดินหน้า ถอยหลังได้  บ. tesla ก็ทำได้แน่ ๆ และ hacker ก็สามารถทำได้ถ้ารู้ช่องทาง
- track การเดินทาง tesla ทำแน่นอน วิเคราะห์การใช้งาน ก็ทำแน่ ๆ

สมัยตอนทำคอมฯ server มันเอ๋อ ๆ แก้ยังไงก็ไม่หาย ต้องซื้อบัตรเติมเงินให้ microsoft service เข้ามาแก้ให้
.. เค้าขอแค่ว่าเครื่องไหน แล้วเข้ามาแก้ให้ แล้วออกไปแบบไม่ได้ขอให้ permission อะไรเลยด้วยซ้ำ