Revo โฉมปัจจุบัน ปีหน้าเป็นต้นไป จะมีความหลากหลายทางด้านพลังงานจริงหรือ ..

[Sommerดอยแม่สลอง]

Toyota Hilux Revo โฉมปัจจุบันในปีหน้า จะมี 3 พลังงานทางเลือก?

Hilux Revo Diesel Hybrid แม้จะมี DPF แต่จะมี AdBlue เติมด้วยหรือไม่?
Hilux Revo BEV ไฟฟ้าล้วน วิ่งแค่ 300km กว่าๆนี่ น้อยไปไหม? ถ้าผลิตจริง ระยะวิ่งจะได้มากกว่า 500km มั้ย?
และ Hilux Revo Fuel Cell ถ้าผลิตในไทยจริงๆ กระแสสถานี Hydrogen จะเติบโตแบบก้าวกระโดดเหมือนสถานี DC Fast Charge ในไทยหรือไม่?

[Auto]

    AdBlue  ยังไม่มาแน่  ๆ ในทุกค่ายเพราะต้นทุนสูงรวมถึงต้นทุนของผู้ใช้รถดีเซลบ้านเราจะสูงมากขึ้นด้วย  ไม่คุ้มสำหรับรถกะบะบ้านเราแน่  ๆ   หลายค่ายมีในยุโรปแต่สเปกบ้านเราตัดออกหมด เพราะรู้ว่าทำไปในเวลานี้   ยังไม่พร้อม
 
     ส่วนพลังงานไฟฟ้ามาแน่  ๆ แต่เป็นการลองตลาดก่อนที่ว่า 5,000 คันในปีหน้า isuzu all new Dmax ไฟฟ้าก็กำลังมาเช่นกัน เพราะไลน์ผลิตและชิ้นส่วนยังไม่พร้อม mass  ขนาดนั้น   ระยะทางยังไม่ไกลมากเพราะความจุแบตเตอรี่และน้ำหนักรถยังพัฒนาให้ดีกว่านี้คงยังไม่ได้     

[Zephyrs]

Adblue ไม่จำเป็นสำหรับ Euro 5 อย่างในยุโรปอันนั้นใส่ DPF ก็ลากยาวได้ยาวมากจน Euro 6 นู่นถึงจะเพิ่ม Adblue

BEV น่าจะเหมาะกับวิ่งในตัวเมืองกับชานเมืองมากกว่า แยกเป็น segment เฉพาะของตัวเองไปเลย เพราะ 300 นี่น่าน่าจะยังไม่รวมน้ำหนักบรรทุกอะไรขนาดนั้น

ส่วน Fuel Cell ที่จับมือกับ CP คิดว่าอาการหนักกว่าไฟฟ้าอีก คือการผลิตมันไม่ยากหรอก แต่การเก็บและขนส่ง รวมถึงหัวจ่ายเป็นแบบพิเศษอีกก็ยิ่งลำบากไปอีก น่าจะเป็นเฉพาะไปเลย ไม่ก็น่าจะมีแค่บนเส้นทางประจำของ CP อยู่แล้ว

[Symphonic]

Toyota Hilux Revo โฉมปัจจุบันในปีหน้า จะมี 3 พลังงานทางเลือก?

Hilux Revo Diesel Hybrid แม้จะมี DPF แต่จะมี AdBlue เติมด้วยหรือไม่?
Hilux Revo BEV ไฟฟ้าล้วน วิ่งแค่ 300km กว่าๆนี่ น้อยไปไหม? ถ้าผลิตจริง ระยะวิ่งจะได้มากกว่า 500km มั้ย?
และ Hilux Revo Fuel Cell ถ้าผลิตในไทยจริงๆ กระแสสถานี Hydrogen จะเติบโตแบบก้าวกระโดดเหมือนสถานี DC Fast Charge ในไทยหรือไม่?

เอาตามคำถามพี่นะ "Revo โฉมปัจจุบัน ปีหน้าเป็นต้นไป จะมีความหลากหลายทางด้านพลังงานจริงหรือ….."

ผมคิดว่าสำหรับตลาดบ้านเรา  หรือ Revo ที่จะลงโชว์รูมไทย  คงไม่มีทั้ง 3 รุ่นขายหรอกครับ 
ลูกค้าทั่วไป อย่างพี่  อย่างผม  คงหาซื้อ Revo ทั้ง 3 พลังงานไม่ได้  ด้วยหลาย ๆ เหตุผลครับ
หลัก ๆ เลยคือ ecology ในบ้านเรายังไม่พร้อมสำหรับทั้ง 3 รูปแบบ

1. ตัว Diesel Hybrid ยังแพงไปเมื่อเทียบกับอัตราสิ้นเปลืองที่ประหยัดได้  อันนี้ขอเน้นว่า
    เทียบกับความคาดหวังนะครับ    ส่วนตลาดที่ไปได้น่าจะเป็นประเทศที่ประชาชนรู้ตระหนัก
    เรื่องสิ่งแวดล้อมมาก ๆ  มากกว่าครับ

2. ตัว BEV น่าจะขายกับองค์กรที่เป็นพันธมิตรกัน  เพราะมันยังไม่น่าจะเหมาะกับการขายขาด
    ให้ลูกค้าทั่วไป  หรือง่าย ๆ คือคงยังไม่ตอบโจทย์ความคาดหวัง  และโตโยต้ายังคงต้อง
    เก็บข้อมูล การใช้งาน  ปัญหา ต่าง ๆ มาแก้ไขกันก่อน   ซึ่งอันนี้ผมว่าเป็นเรื่องดีนะ
    ที่ไม่เอาลูกค้าที่เสียเงินซื้อรถเป็นหนูทดลองอ่ะ

3. ตัว Fuel Cell อันนี้ก็รู้กันว่ายังหา H2 เติมกันแบบทั่วไปไม่ได้

ที่ผมคิดไว้ก็คงประมาณนี้   อีกอย่างคือ การจัด event ในครั้งนี้คงไม่ได้มุ่งหวังที่จะสื่อสารกับตลาดไทย
เป็นหลักหรอกครับ  เขาคงต้องการส่ง message ไปยังประเทศที่ตัวตั้งตัวตีเรื่อง Carbon Neutrality
เป็นหลัก  อาศัยว่ามันเป็น model Hilux ที่ประเทศไทยเป็นฐานผลิตหลักเท่านั้นเองครับ

[GOBBS]

ผมกลับคิดว่า BEV เป็นตัวที่น่าจะมียอดขายระดับนึงเลย
..................
ยกตัวอย่าง บ้านผมขายของแล้วรถพวก lazada Shopee มารับของที่บ้านประจำ
รูทของรถกลุ่มนี้จะวนๆมารับ ไปที่ศูนย์ แล้วก็วนมารับใหม่ รูทนึงไม่ถึง 300โล จอดถ่ายของที่ศูนย์ จังหวะนั้นก็ชาร์ทได้
300กม. ที่วิ่งได้กลายเป็นกำลังเหมาะเลย แบตไม่ใหญ่จนเสีย นน.บรรทุกด้วย
และในอนาคตถ้าระบบรางในไทยสมบูรณ์ สถานีรถไฟจะกลายเป็น hub ให้รถกลุ่มนี้มาขนต่อ จะไม่มีการวิ่งรถคอกกันยาวๆอีกสักเท่าไหร่
ดังนั้นระยะทางที่ได้ก็สมเหตุสมผลแล้วครับ จะว่าไป 300กม.มันก็ กทม. ไป นครสวรรค์ ประจวบ จันทบุรี แล้วนะ

[เนื้อน่องไม่หนัง]

Mild Hybrid มองว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ค่อยชัด สมรรถณะก็ไม่ได้ต่างมาก แถมไม่ได้ประหยัดขึ้นมาก
สำหรับกระบะ จะใส่ Rocco ไปลุยก็ไม่ใช่ อาจต้องเอาไปใส่ fortuner แทน ถ้าช่วยเรื่องภาษีได้ อาจอัฟราคานิดนึงกรุบกริบ
คิดว่ามันดูเหมาะกับกระบะตัวท๊อป ชุดแต่งโครเมี่ยมล้อสีบรอน แนว F150 Platinum ซึ่ง Trend กระบะในไทยมันเป็นแนวดุๆ ลุยๆ กระจังหน้าดำ

BEV น่าสนใจครับ อาจเหมาะกับผู้ประกอบการขนส่ง/ไปรษณีย์ ลดค่าขนส่งในระยะยาว ส่วนเจ้าของรถรถวิ่งงาน/ส่งของ เองอาจไม่เหมาะ ทำรอบไม่ได้ และราคาสูง
ปัญหาคือ 300km NEDC(Not Even Damn Close) วิ่งจริงอาจเหลือ 250 ซึ่ง 10%-80% อาจวิ่งได้แค่ 200 มองว่ามันน้อยไป สำหรับรถส่งของ ถ้าคันจริงได้สัก 400-500 NEDC อาจยังพอได้

ส่วน Fuel Cell ไม่น่าเกิดในไทย นอกจาก toyota ทำปั้มเองตามศูนย์บริการอะนะ...

[muzaa]

เออ อ่านบทความคุณ jimmy หรือยังครับ
Bev น่าจะมีแน่แต่คาดว่าเป็นการขาย fleet ใช้ในองค์กรไม่น่าเน้นขายบุคคลทั่วไป มองว่าเป็นการขายที่ยังไม่ mass เต็มที่
Hybrid ก็ต้องลุ้นกันว่าจะมาลยในปีหน้าหรือมาพร้อม next gen hilux
Fuel cell รถที่มายังเป็นรถต้นแบบที่ยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ด้วยซ้ำตามบทความน่าจะมี 5 ปีขึ้นเป็นอย่างน้อยถึงจะสมบูรณ์  แล้วทำไมมันถึงจะมีขายในปีหน้าครับ

[axister]

fuel cell ตัดทิ้งได้เลย infra ไม่พร้อม มาก็เป็นโชว์เคสฟุ้งๆเหมือน mirai ถ้าใช้จริงก็ในวงแคบมากครับ

bev ทุกวันนี้มีแล้วครับ ขาย fleet ในองค์กร ผมเป็น 1 ในนั้นที่ได้มาลองใช้ภายใน ยังบอกทีเทลลึกๆไม่ได้ แต่วิ่งจริงต่ำ 200 ครับ บรรทุกไม่เยอะด้วย ถ้ารุ่นขายจริงแบบ mass ไม่ใช่ ver นี้แน่นอน ทั้งของ jac, nex กระบะไม่รอดซักคนครับ บรรทุกเยอะช่วงล่างก็จะสูงเป็นผีเปรตเอาของขึ้นลงไม่ได้เลยครับต้องปีนบันไดเล็ก ตลาด bev กระบะ commercial คงอีกสักพัก

mild hybrid มาแน่นอนครับ ตอนนี้ออสใช้ชื่อว่า hybrid 48V และยังไม่ต้องเติม adblue มาตรฐานน้ำมันยังเป็น euro5 อยู่เลย

[SM.]

ถ้ามาขายทั้งหมด คงไม่ไหวมั้งครับ ยิ่งตัว fuel cell ยิ่งยากเลย จริงๆ ผมชอบที่สุดเลย แต่มันคงขายยากหน่อยและดีลเลอร์ก็น่าจะ service ยากด้วย

บางทีอาจจะขายแค่เฉพาะกล่มเล็กๆ แบบที่เอา bz4x มาขายก็ได้นะครับ