ผู้เขียน หัวข้อ: ประสบการณ์ลองขับรถยนต์ไฟฟ้า 100% ครั้งแรก  (อ่าน 5373 ครั้ง)

ออฟไลน์ Sommer C350e W205

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 429
    • อีเมล์
ประสบการณ์ลองขับรถยนต์ไฟฟ้า 100% ครั้งแรก
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2024, 14:15:30 »
ในตอนนั้น ผมได้ลองรถยนต์ไฟฟ้าถึง 4 รุ่น มีดังนี้

-MG4
-BYD Dolphin
-BYD Seal
-ORA 07

ในภาพรวม รู้สึกว่าขับสนุกกว่ารถน้ำมันได้อย่างชัดเจน ไม่มีเสียงเครื่องยนต์ให้มากวนใจอีกต่อไป

ทุกท่านเคยลองขับ EV รุ่นไหนมาบ้าง ลองขับ EV มากี่รุ่น เล่าประสบการณ์มาหน่อยครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 02, 2024, 14:30:13 โดย SommerMitsuoka »
My New Cars: 2016 Mercedes-Benz C350e AMG Dynamic W205

2019 Mercedes-Benz CLS220d AMG Premium (ขายแล้ว)
2024 ORA Good Cat GT (ขายแล้ว)

ออฟไลน์ Zephyrs

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 872
Re: ประสบการณ์ลองขับรถยนต์ไฟฟ้า 100% ครั้งแรก
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2024, 14:23:54 »
เล่าเหมือนขับรถกอล์ฟดีอะ

รู้สึกว่าขับสนุกกว่ารถน้ำมันได้อย่างชัดเจน ไม่มีเสียงเครื่องยนต์ให้มากวนใจอีกต่อไป

ตอนแรกเห็นเกริ่นว่ามี 4 รุ่นได้ลอง ไอเราก็นึกว่าจะแยกได้ว่ารุ่นไหนมีข้อดีอะไร ข้อเสียอะไรที่ต้องเอาไปพิจารณา

อ้อ สรุป มาแค่บอกว่าขับสนุกกว่าไม่มีเสียงเครื่องยนต์

จริงๆน่าเปิดหน้าต่างออกมาฟังเสียงมอเตอร์ดังหวีดสักหน่อยเนอะ จะได้รับทราบว่าคนบนถนนเขาได้ยินยังไง

ออนไลน์ ๑ ๒ ๓

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,030
    • ร้าน เอที คอมสำโรง
    • อีเมล์
Re: ประสบการณ์ลองขับรถยนต์ไฟฟ้า 100% ครั้งแรก
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2024, 14:36:53 »
ตอนไปทดสอบ กับตอนใช้งานจริงๆ เขาใช้งานเหมือนกันไหมฮะ

เพราะเห็นแต่ละคันวิ่งบนท้องถนน ขับช้าๆกันทั้งนั้น

ระดับแบตเตอรี่ มีผลกับการเติมคันเร่งมากน้อยแค่ไหนครับ  ไม่เคยขับเลยไม่รู้เลยครับ
รับซื้อ ขาย ซ่อม แลกเปลี่ยนคอมพิวเตอร์,โน้ตบุ๊ค และอุปกรณ์

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,542
Re: ประสบการณ์ลองขับรถยนต์ไฟฟ้า 100% ครั้งแรก
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2024, 15:08:04 »
ในตอนนั้น ผมได้ลองรถยนต์ไฟฟ้าถึง 4 รุ่น มีดังนี้

-MG4
-BYD Dolphin
-BYD Seal
-ORA 07

ในภาพรวม รู้สึกว่าขับสนุกกว่ารถน้ำมันได้อย่างชัดเจน ไม่มีเสียงเครื่องยนต์ให้มากวนใจอีกต่อไป

ทุกท่านเคยลองขับ EV รุ่นไหนมาบ้าง ลองขับ EV มากี่รุ่น เล่าประสบการณ์มาหน่อยครับ

เหมือนเล่น PS5 Grand Turismo มั้ยฮะ

ออฟไลน์ Cheap and cheerful

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 567
    • อีเมล์
Re: ประสบการณ์ลองขับรถยนต์ไฟฟ้า 100% ครั้งแรก
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2024, 15:17:07 »
รับทราบค่ะ แอดมิน EV Club Thailand / EV Alliance Thaialnd

ออฟไลน์ Gunners-headlight

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 421
    • อีเมล์
Re: ประสบการณ์ลองขับรถยนต์ไฟฟ้า 100% ครั้งแรก
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2024, 15:56:36 »
ลอง Seal มา
ผมว่า ไม่ได้ว้าวกับช่วงล่างการขับขี่ ขนาดนั้น นะครับ
Camry Accord ยังขับดี กว่าระดับนึง
รถไฟฟ้า ได้เปรียบอัตราเร่งครับ
แต่ผมแยกกัน ระหว่าง รถไฟฟ้าจีน กับ ยุโรปครับ
นานาจิตตัง แต่ถ้างบสูสีกัน ผมเลือก ญี่ปุ่น , ถ้างบเหลือ ไปยุโรป ครับ จีนรอดูกันยาวๆ ก่อน

ออฟไลน์ sk-non

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 517
Re: ประสบการณ์ลองขับรถยนต์ไฟฟ้า 100% ครั้งแรก
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2024, 17:23:21 »
ผมใช้รถเดือนละเกือบ 4,000 กม
มีจอดเฉยๆ บ้าง 1 ชั่วโมง
บางวันไปส่งลูกที่ รร
เลยไปลอง atto3 แล้วก็ซื้อเลย กับ good cat อีกคัน
ตอนนี้ก็จอง S07 ไว้อีกคัน
รอขายรถน้ำมันที่จอดสำรองไว้ค่อยไปออกครับ
ช่วงนี้ จอดนั่งเล่นนอนเล่นวันละ 2-3 ชม
จากที่ไปลองลูบๆคลำๆ เปรียบเทียบ
S07 L07 ora07
ผมชอบงานประกอบ ora07
รถจีน ช่วงล่างตามงบ ดูจากในคลับ
ส่วนใหญ่ทำเพิ่มครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 02, 2024, 17:31:36 โดย sk-non »

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,299
    • อีเมล์
Re: ประสบการณ์ลองขับรถยนต์ไฟฟ้า 100% ครั้งแรก
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2024, 17:49:48 »
ถ้าเทียบกับ ICE กับ BEV

คาแรคเตอร์รถ เปลี่ยนไปมาก แบบถ้าปรับตัวไม่ได้ ต้องปรับตัวสักพักเลย ไม่ว่าจะเป็น อัตราเร่ง คันเร่ง ยัน เบรค เลย

ความประหยัด ก็ ประหยัดลงมาก ยิ่งถ้าคนใช้รถเยอะ ยิ่งคุ้ม

ใช้จับมาก็ Model 3 / Y , BMW IX3, BYD Seal และ MG Maxsus9

ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,614
Re: ประสบการณ์ลองขับรถยนต์ไฟฟ้า 100% ครั้งแรก
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2024, 17:58:39 »
สำหรับผม รถอะไรก็ขับสนุกได้ครับ

แต่เวลารถมีปัญหาแล้วแก้ได้บ้างไม่ได้บ้าง แก้ช้ามาก รอไปเรื่อย
ส่วนตัวมองว่าไม่สนุกกับชีวิตเลย

ออฟไลน์ Left lane driver

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 682
Re: ประสบการณ์ลองขับรถยนต์ไฟฟ้า 100% ครั้งแรก
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2024, 18:33:40 »
จากที่ลองมา BYD Seal performance / Atto3 / Dolphin Extended, MG ZS EV, Neta V, Good Cat
รุ่นที่ว่ามาการขับขี่สู้พวกรถญี่ปุ่นบ้านๆ ice ที่ผมใช้อยู่ไม่ได้เลยครับ
พวก handling ช่วงล่าง พวงมาลัย ไม่ประทับใจเลย และก็ห่างไกลลลล จากคำว่า"ขับสนุก"
แต่ถ้าคนที่ประสบการณ์น้อย พอเจอรถแรงๆหน่อยแล้วจะบอกว่าสนุกก็ไม่แปลก

อย่าง Dolphin Extended นี่เซ็ตช่วงล่างมาตลกมากที่สุดรุ่นนึง แต่ละล้อจังหวะ bump ของโช๊คไม่พร้อมกัน แถมด้านหลังออกย้วยๆ บาลานซ์รถกากจัด
Seal นี่ก็เซ็ตพวงมาลัยมาออกแนวไว ระยะฟรีน้อย แต่น้ำหนักพวงมาลัยกลับเบา ต่อให้อยู่ในโหมดสปอร์ตก็ยังเบาและขาดความแม่นไปหน่อย ช่วงล่างหลังก็ออกแนวดีดเด้งย้วย ไม่มีความหนักแน่นแบบรถ D-seg เลย
ZS EV นี่สปริงก็ดูเด้งๆแบบรถจะปลิวหลุดออกจากถนนตลอด ยิ่งกว่า 2 รุ่นด้านบนอีก เหมือนโช๊คหน่วงสปริงไม่ไหวทั้ง 4 ล้อ ช่วงคอสะพานมีเด้ง 3-5 จังหวะตลอด พวงมาลัยก็ออกแนวปวกเปียก หลวมๆหยึ๋ยๆ ไม่แม่นไม่กระชับ

จะมี BMW iX3, Hyundai Ioniq 5, MG4 ที่การขับขี่โอเคอยู่ แต่ไม่ได้ว้าวอะไรมาก
MG4 การขับขี่กำลังพอดี ส่วน Ioniq5 เน้นขับสบายๆมากกว่า แต่ผมชอบคาแรคเตอร์แบบ iX3
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 04, 2024, 17:03:43 โดย Left lane driver »

ออฟไลน์ helloweentz

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 512
    • รถขนของ
Re: ประสบการณ์ลองขับรถยนต์ไฟฟ้า 100% ครั้งแรก
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2024, 19:24:12 »
ขับสนุก แต่ละคนไม่เหมือนกันครับ

ใช้คำว่า คนละแบบ  รถไฟฟ้า กดมา เร่งเร็วแรง

รถน้ำมัน จะรู้สึกสะใจ สนุกอีกแบบ
BRV 2016
Mileage :  173,583
รายการซ่อม :
เกียร์
แอร์
โช๊คหลัง
ลูกยางยึดท่อ
เพลาขับ

ออฟไลน์ Sommer C350e W205

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 429
    • อีเมล์
Re: ประสบการณ์ลองขับรถยนต์ไฟฟ้า 100% ครั้งแรก
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2024, 20:14:43 »
ต่อมาเล่าถึงรายละเอียดและความรู้สึกในการขับ EV แต่ละรุ่น

MG4
ผมลองนั่งแล้ว รู้สึกว่านั่งสบายเหมือน Eco Car แต่ไม่ชอบวัสดุที่เป็นเบาะผ้า และตำแหน่งที่วางแก้ว ชอบจอกลางรวมแต่เล็กไป (รวมทั้งมาตรวัด) ต้องเพ่งเล็งจอตลอดเวลา ทั้ง 2 ฝั่งเลย

แต่พอลองขับจริง ก็ขับสนุกกว่า Eco Car อย่างเห็นได้ชัด แต่เมื่อ MG4 ขับเคลื่อนล้อหลัง เลี้ยวเข้าได้ง่ายกว่ารถ Eco Cars ขับเคลื่อนล้อหน้า

ปล. ผมกำลังรอลุ้น MG4 XPower อยู่นะครับ…..

BYD Dolphin Extended
ผมลองนั่งแล้ว รู้สึกชอบมากๆ เบาะหนานุ่มกำลังดี แต่แอบไม่ชอบหมอนหนุนศีรษะเบาะหน้าที่ดันหน้ามากไปหน่อย ส่วนจอกลางก็เป็นจอรวม แถมหมุนเป็นแนวตั้งได้นี่ ชอบสุดๆ เอกลักษณ์ BYD ของแท้ แต่ Moonroof นี่ ผมอาจจะไม่ชอบ เพราะไม่เหมาะกับแดดเมืองไทยที่ร้อนอบอ้าวววววว

พอลองขับจริง เหยียบคันเร่งแค่ 30% แทบพุ่งเลยทีเดียว แบบไม่ต้องกระทืบคันเร่งอย่างใด ขับสนุกสุดๆ สำหรับ B-Hatchback EV ชนิดที่ว่า รถเล็กขนาด Yaris แต่แรงม้าเท่า Camry

BYD Seal Premium Long Range
ผมลองนั่งแล้ว รู้สึกว่า วัสดุภายในหรูหราเทียบชั้น Volvo S90 Inscription เลย หัวเกียร์เป็น Crystal แบบ Volvo จอกลางใหญ่ๆหมุนได้เอกลักษณ์ BYD และมาตรวัดก็มีขนาดใหญ่ มองเห็นง่ายทั้ง 2 ฝั่ง (แถมมี Head Up Display) เครื่องเสียง DynAudio นี่ก็ไพเราะเกือบเทียบชั้นเครื่องเสียงยุโรปเกรด Premium และผมไม่ชอบ หลังคากระจกเลย แดดเมืองไทยไม่เหมาะกับหลังคากระจก

พอลองขับจริง ตำแหน่งการขับขี่เหมือนขับ Benz มากๆ เหยียบคันเร่งนิดเดียวก็พุ่งแล้ว แม้จะไม่ใช่รุ่น Performance 3.8 วินาที ก็ขับสนุกแล้ว แถมมี Head Up Display ก็ช่วยมีสมาธิในการขับขี่ได้เยอะ และอัตรากินไฟก็ประหยัดกว่า Performance (ผมรู้สึกว่า ถ้าหากใช้งานในชีวิตประจำวัน + ไปต่างจังหวัดปีละ 6 ครั้ง ตัว Premium Long Range ก็คุ้มค่าเพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องรุ่น Top Performance 3.8 วินาที ราคา 1.5 ล้านบาท เพราะ Option เท่ารุ่น Premium LR แถมไม่คุ้ม เหมาะเป็นรถสะสมมากกว่ารถใช้งานทุกวัน)

ORA 07 Performance
ผมลองนั่งแล้ว ภายในสวยมากๆ แต่ไม่ชอบจอกลางที่เป็นจอรวมเล็กกว่า Seal และไม่ชอบมาตรวัดที่แบ่งเป็น 3 ส่วน แต่เครื่องเสียง Infinity นี่ เสียงนุ่มพอๆกับ JBL ใน Toyota รุ่นหรูๆอย่าง Camry หรือไม่ก็ Fortuner และที่ชอบอีกอย่างคือ ประตูแบบ Frameless คล้ายๆ Tesla

พอลองขับจริง กดคันเร่งก็รู้สึกมันส์พอๆกับ Tesla M3 รุ่น Long Range (แต่ยังไม่ถึงขนาดขั้น M3 Performance) ขับสนุก และ 07 รุ่น Top เป็นขับ4 สาดโค้งบนถนนใหญ่ได้สบายๆ ส่วนทัศนวิสัยในการขับขี่ก็มองเห็นง่าย กระจกมองข้างก็ใหญ่เท่า PPV ก็มองได้ง่ายเช่นกัน

ปล.
1) BYD Seal กับ ORA 07 ชอบตรงที่ แอร์ปรับตำแหน่งในจอกลาง ล้ำสมัยสุดๆละ
2) ตอนนี้ยังไม่ได้ลอง ORA Good Cat,Deepal S07/L07,Aion Y+,NETA V แต่ลองรถ EV ทั้ง 4 รุ่นที่ผมกล่าวมาในภาพรวมทั้งหมดนี่ ขับสนุก ไม่มีเสียงเครื่องยนต์ให้กวนใจ แถมประหยัดค่าน้ำมันได้หลายเท่า ส่วนระยะยาวนี่ ต้องรอลุ้นเลย โดยเฉพาะ ค่าแบตเตอรี่ที่ราคาเท่า Eco Car แถมรถจีนส่วนใหญ่ต้องขึ้นยานแม่ด้วยเคสหลายอย่าง อันนี้ผมพูดกลางๆ ไม่ได้เข้าข้าง EV หรือ แบรนด์จีนนะครับ
My New Cars: 2016 Mercedes-Benz C350e AMG Dynamic W205

2019 Mercedes-Benz CLS220d AMG Premium (ขายแล้ว)
2024 ORA Good Cat GT (ขายแล้ว)

ออฟไลน์ Mr.Boogie

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 386
Re: ประสบการณ์ลองขับรถยนต์ไฟฟ้า 100% ครั้งแรก
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2024, 21:39:06 »
ผมไปลองรถไฟฟ้าคันแรกมา Hyundai Ioniq5 มา ชอบมาก เงียบ แรง นั่งสบายมากทั้งหน้าและหลัง ลำโพงเสียงดีจัดๆ Ambient Light สีสวย วัสดุดี คือประทับใจมากๆ แต่ติดตรงราคาสูงไป คงยังไม่มีโอกาสได้เป็นเจ้าของ

ออฟไลน์ axister

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,949
Re: ประสบการณ์ลองขับรถยนต์ไฟฟ้า 100% ครั้งแรก
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2024, 22:22:22 »
ผมใช้งานมาเกิน 10รุ่นแล้วอะครับ ขอสรุปรวมๆเลยละกัน

ผมไม่กลับไปใช้รถน้ำมันแล้วครับถ้าไม่จำเป็น ไม่ใช่เรื่องประหยัดแต่เป็นประสบการณ์ขับขี่และการใช้งานล้วนๆ

แยกเป็น suv กับ sedan

suv ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรครับ ดีงามตามท้องเรื่อง ส่วนค่ายจีน ค่ายยุโรป ค่ายญี่ปุ่นก็มีจุดดีด้อยต่างกันไป ถ้าเน้นขับยุโรป-เมกา เน้นใช้งานเฉยๆไปจีนเลยครับ ญี่ปุ่นด๋อยหมดขอตัดทิ้ง ส่วนตัวได้เช่า ux300e, rz450e มาใช้รวมๆ 4เดือนเป็นเพราะสาวก lexus มากๆ บอกเลยว่าห่วยมาก น่าผิดหวังมากๆๆๆๆ dolphin ยังใช้งานได้ดีกว่า nissan leaf ก็ระยะน้อยเบรกสู้เท้าตามสไตล์รถมีแบต nissan กับหัวชาเดโม่ที่หาที่ชาร์จยากมากต้องหิ้ว adapter ไปเอง ชาร์จ ac ที่แถมมากับรถก็เป็นสายเครื่องไฟ 3phase รวมๆค่ายญี่ปุ่นตอนนี้กากมากครับ

sedan หลายๆค่ายยังทำได้ไม่ดีเรื่องพื้นที่ เพราะมีแบตอยู่ที่พื้น ทำให้ขาชันกว่ารถน้ำมันมากๆ จะมีแค่ tesla model3 ที่ทำระยะให้เข่าชันน้อยหน่อยเวลานั่งหลัง เพราะ model s เองนั่งให้สบายก็ยังต้องพับเพียบ หรือจะเทียบข้ามขั้นแบบ EQS sedan ที่ทรงน่าเกลียด ที่นั่งหลังใหญ่มาก นั่งละเหมือนตกไปในหลุมดำ แข็งเป็นหลุม ขาชัน รวมแก๊งจีน d-seg ที่ออกมาใหม่ๆด้วย seal ดูจะทำได้ดีสุด ถ้าเทียบกับ l7 ora7 แต่ก็ยังห่างชั้นกับ camry/accord ถ้าจะเทียบรุ่นกับรถน้ำมันตรงๆอะนะในด้านพื้นที่ความสบาย

ส่วนตัวผมไม่ได้มองว่าการกดแล้วเสียงเครื่องดังๆสั่นๆ โชว์เท่เสียงท่อเหมือนตดแตก แป๊ดๆๆๆๆๆ คือการขับได้ฟิล มันดูเป็นมลภาวะทางเสียง ถ้าชอบมากควรเปิดท่อฟังในรถ เปิดฟังก่อนนอน เปิดฟังตอนเข้าห้องน้ำใส่หูฟังไป ไม่ใช่กดให้คนข้างนอกได้ยิน แต่ถ้าบอกเสียงเพราะ เพียงเพื่อจะบอกว่า ฉันรวยมากขับรถคันละ 10ล้าน เพราะท่อดัง อันนี้คือ mindset อีกแบบที่ผมเข้าไม่ถึง ไม่ต่างกับการติดลำโพงนอกรถเปิดเพลงที่ตัวเองชอบ โดยที่คนไม่สนใจคนรอบข้าง ผมว่าคนประเภทนี้ต่ำนะ

รถ bev แรงมันดีอะ แต่ถ้าใครใช้ diesel ยุโรปมาก็คงชินกับแรงดึงแบบนี้ ซึ่งผมว่าดี แต่จะให้เทียบ 0-100 แล้วไปชูคอว่าแรงเท่า super car proudๆ กับตัวเลข 3.8 จนขึ้นสมองก็ควรไปพบแพทย์

จุดเด่น bev/ice มีคนละแบบ ก็เลือกที่ตัวเองชอบและสะดวกแหละครับ

ออฟไลน์ Clint Barton

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 117
Re: ประสบการณ์ลองขับรถยนต์ไฟฟ้า 100% ครั้งแรก
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2024, 14:18:25 »
ไม่ว่าจะเป็น ICE / PHEV / BEV ล้วนแต่มีข้อดีและข้อเสียด้วยกันทั้งนั้น (เอาเรื่องสมรรถนะและช่วงล่างรวมถึงระบบความปลอดภัยต่างๆออกไปก่อนนะ)

ICE ก็ตามที่ทราบกันทุกท่านน่าจะเคยจับมากันหมดอยู่แล้ว มีปัญหาสามารถซ่อมได้ไม่จำเป็นต้องมีเครื่องมือหรือ Software อะไรพิเศษ ถ้าลืมเติมน้ำมันเราก็สามารถโทรเรียกใส่แกลอนมาเติมเพื่อให้ไปถึงปั้มน้ำมันได้ ชีวิตไม่ต้องวางแผนมากนัก ไปไหนไปได้หมดถึงไหนถึงกัน

PHEV มันเป็น 2 ระบบแหละแค่มีแบตเตอรี่มาช่วยเวลาวิ่งในเมืองระยะทางไม่เกิน 60 - 100 กิโลเมตรหรือจอดรถเปิดแอร์ได้โดยไม่ต้องติดเครื่องยนต์ ถ้าแบตหมดก็วิ่งด้วยน้ำมันล้วนได้ปกติ แต่ถ้ายังมีแบตเตอรี่ระบบมันก็คำนวนทำให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้นรวมถึงอัตราเร่งต่างๆก็ดีขึ้น รวมๆผมว่าข้อดีมันก็เหมือน ICE แค่แบกแบตเตอรี่เพิ่มมาอีกลูก

BEV ไฟฟ้าล้วนเลย ความเห็นส่วนตัวผมว่าเหมาะใช้งานในเมืองเป็นหลักหรือวิ่งข้ามจังหวัดไม่เกิน 200 กิโลเมตรพอไหวอยู่ ถ้าไปไกลกว่านี้อาจจะต้องวางแผนการเดินทางว่าเส้นทางที่เราจะไปสามารถแวะชาร์จได้จุดใดบ้าง ถ้าในกรณี Software เกิดข้อผิดพลาดอาจจะทำให้รถไม่สามารถขับเคลื่อนได้เลยหรือคำนวณแบตเตอรี่กับระยะทางผิดพลาด เช่นจากเดิมเราคำนวณไว้ที่ระบบบอกแบตเท่านี้วิ่งได้กี่กิโลเมตรเราก็วางแผนละถึงจุดชาร์จข้างหน้าแน่นอนแต่แบตเตอรี่ก็ดันหมดก่อนก็อาจะเป็นไปได้ ซึ่งเป็นเรื่องของการจัดการการใช้พลังงานว่าตัว Software ทำมาได้ดีขนาด
ส่วนเรื่องรักษ์โลกอันนี้ผมมองข้ามนะผมว่ามันเป็นกระแสมันรักษ์โลกตรงไหน ยกตัวอย่างง่ายๆเลยคุณใช้รถไปซึ่งแบตเตอรี่ก็ต้องเสื่อมอยู่แล้วเป็นธรรมชาติของมันคุณ Recycle หรือทำลายมันอย่างไร ไม่เคยเห็นสื่อไหนพูดเรื่องนี้เลยนะ มันมีปริมาณมากกว่าหลายเท่าตัวเมื่อเทียบกับตอนที่รถ BEV ยังไม่เป็นกระแส (ถ่านรีโมท, แบตเตอรี่โทรศัพท์ และอื่นๆซึ่งมันเป็นขนาดเล็กทั้งนั้น) และอย่างลืมว่ามันเป็นโลหะหนักซึ่งมันจะวนมาหาเราไม่ว่าจะเป็นทางน้ำ ผัก ผลไม้เป็นต้น ถึงตอนนี้ผมว่าผมยอมสูดควันดีกว่าเพราะอย่างน้อยตั้งแต่มีรถยนต์ ICE ออกมาจนถึงปัจจุบันก็ยังเห็นว่าผู้คนมีอายุไปถึงแก่และยังแข็งแรงได้ แต่แบตเตอรี่นี่เรายังไม่เห็นเลยนะเพราะมันยังใหม่อาจจะต้องรอถึงอีกรุ่นนึง(เราอาจตายไปแล้ว)ถึงเริ่มเกิดผลกระทบก็ได้
แต่ถ้าบอกเป็นการลดมลพิษส่วนบุคคลมันใช่แน่นอนเพราะมันไม่มีมลพิษทางเสียง ไม่มีควันและไม่มีกลิ่น สุดท้ายผมมองว่า BEV มันเป็นแค่ทางผ่านเพื่อไปสู่พลังงานที่ดีกว่าอะซึ่งทีมวิจัยอาจจะกำลังพัฒนากันอยู่ก็ได้ และที่สำคัญข้อเสียหลักๆที่ผมใช้ BEV วิ่งแค่ในเมืองเพราะเรื่องเวลาเลย คุณต้องเสียเวลาชาร์จแบตข้างนอกสำหรับผมว่ามันไม่สนุกเลย

สุดท้ายที่บ้านผมก็ใช้ทั้ง ICE PHEV และBEV
ปล. BEV ไม่ได้เหมาะกับทุกคนและทุกบ้าน

ออฟไลน์ boost

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 322
    • อีเมล์
Re: ประสบการณ์ลองขับรถยนต์ไฟฟ้า 100% ครั้งแรก
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2024, 19:10:41 »
ตัวแรก Model 3 LR ผมก็ว้าวกับการออกตัวจากไฟแดงราวกับbigbike1000cc 

ตัวต่อมา Seal Performance .38 spl  ::) ออกจากหยุดนิ่งไม่ว้าวเท่าคันข้างบนสงสัยรถหนักกว่าแต่มาว้าวกับช่วง60-120 ผมนี้อยากยื่นใบจองเอา FC เทิร์นดาวน์เลยครับ

แต่แล้วสติก็กลับมาเมื่อเห็นข่าวต่อคิวชาร์จไฟ
2020 CIVIC fc RS 1.5
2018 CX3 XDL 1.5
2017 Mirage GLS-LTD
2015 NAVARA VL auto 4wd
2012 almera V auto
2008 camry acv40 2.4
1991 A31 Rb25det set bo TD06-24v
1990 A31 2JZ GTE 5speed M/T
1984 SUPRA A60 1JZ GTE M/T

ออฟไลน์ 2k

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,675
Re: ประสบการณ์ลองขับรถยนต์ไฟฟ้า 100% ครั้งแรก
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2024, 23:53:41 »
ผมใช้งานมาเกิน 10รุ่นแล้วอะครับ ขอสรุปรวมๆเลยละกัน

ผมไม่กลับไปใช้รถน้ำมันแล้วครับถ้าไม่จำเป็น ไม่ใช่เรื่องประหยัดแต่เป็นประสบการณ์ขับขี่และการใช้งานล้วนๆ

แยกเป็น suv กับ sedan

suv ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรครับ ดีงามตามท้องเรื่อง ส่วนค่ายจีน ค่ายยุโรป ค่ายญี่ปุ่นก็มีจุดดีด้อยต่างกันไป ถ้าเน้นขับยุโรป-เมกา เน้นใช้งานเฉยๆไปจีนเลยครับ ญี่ปุ่นด๋อยหมดขอตัดทิ้ง ส่วนตัวได้เช่า ux300e, rz450e มาใช้รวมๆ 4เดือนเป็นเพราะสาวก lexus มากๆ บอกเลยว่าห่วยมาก น่าผิดหวังมากๆๆๆๆ dolphin ยังใช้งานได้ดีกว่า nissan leaf ก็ระยะน้อยเบรกสู้เท้าตามสไตล์รถมีแบต nissan กับหัวชาเดโม่ที่หาที่ชาร์จยากมากต้องหิ้ว adapter ไปเอง ชาร์จ ac ที่แถมมากับรถก็เป็นสายเครื่องไฟ 3phase รวมๆค่ายญี่ปุ่นตอนนี้กากมากครับ

sedan หลายๆค่ายยังทำได้ไม่ดีเรื่องพื้นที่ เพราะมีแบตอยู่ที่พื้น ทำให้ขาชันกว่ารถน้ำมันมากๆ จะมีแค่ tesla model3 ที่ทำระยะให้เข่าชันน้อยหน่อยเวลานั่งหลัง เพราะ model s เองนั่งให้สบายก็ยังต้องพับเพียบ หรือจะเทียบข้ามขั้นแบบ EQS sedan ที่ทรงน่าเกลียด ที่นั่งหลังใหญ่มาก นั่งละเหมือนตกไปในหลุมดำ แข็งเป็นหลุม ขาชัน รวมแก๊งจีน d-seg ที่ออกมาใหม่ๆด้วย seal ดูจะทำได้ดีสุด ถ้าเทียบกับ l7 ora7 แต่ก็ยังห่างชั้นกับ camry/accord ถ้าจะเทียบรุ่นกับรถน้ำมันตรงๆอะนะในด้านพื้นที่ความสบาย

ส่วนตัวผมไม่ได้มองว่าการกดแล้วเสียงเครื่องดังๆสั่นๆ โชว์เท่เสียงท่อเหมือนตดแตก แป๊ดๆๆๆๆๆ คือการขับได้ฟิล มันดูเป็นมลภาวะทางเสียง ถ้าชอบมากควรเปิดท่อฟังในรถ เปิดฟังก่อนนอน เปิดฟังตอนเข้าห้องน้ำใส่หูฟังไป ไม่ใช่กดให้คนข้างนอกได้ยิน แต่ถ้าบอกเสียงเพราะ เพียงเพื่อจะบอกว่า ฉันรวยมากขับรถคันละ 10ล้าน เพราะท่อดัง อันนี้คือ mindset อีกแบบที่ผมเข้าไม่ถึง ไม่ต่างกับการติดลำโพงนอกรถเปิดเพลงที่ตัวเองชอบ โดยที่คนไม่สนใจคนรอบข้าง ผมว่าคนประเภทนี้ต่ำนะ

รถ bev แรงมันดีอะ แต่ถ้าใครใช้ diesel ยุโรปมาก็คงชินกับแรงดึงแบบนี้ ซึ่งผมว่าดี แต่จะให้เทียบ 0-100 แล้วไปชูคอว่าแรงเท่า super car proudๆ กับตัวเลข 3.8 จนขึ้นสมองก็ควรไปพบแพทย์

จุดเด่น bev/ice มีคนละแบบ ก็เลือกที่ตัวเองชอบและสะดวกแหละครับ

เห็นด้วยสุดๆๆๆๆครับ  :) โดยเฉพาะเรื่องเสียงท่อ…..ส่วนตัวแล้วผมว่าเสียงท่อรถมันก็คือของเสียที่มาจากการเผาไหม้ก็ไม่ต่างจากเสียงตดของรถ คนเราจะเพลิดเพลินไปกับเสียงตดเสียงขับถ่ายของจักรกลมันก็ฟังดูประหลาดๆชอบกล  ::)
หมาเฝ้าบ้านแจกฟรีจ้า www.dogfindhome.com


ออฟไลน์ IS2000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,108
    • อีเมล์
Re: ประสบการณ์ลองขับรถยนต์ไฟฟ้า 100% ครั้งแรก
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2024, 16:33:59 »
ลองมาหลายตัวในแง่ของเรื่องการใช้งานทั่วไป (ไม่นับการชาร์จไฟหรือเติมน้ำมัน) รถ BEV มันดีมากๆครับยิ่งเทียบราคาในไทยรถที่นำเข้ามาจากจีนคุ้มค่ามากครับ ถ้าให้เทียบรถเครื่องเล็กพ่วงโบนี่ผมว่า BEV น่าใช้งานมากกว่า
แต่ถ้าให้เลือกจริงๆยังขอรถ ICE ครับ ผมเป็นคนทำเพลงทำซาวนด์ การได้ขับรถยนต์ที่มีเสียงเครื่องหวานๆมันถูกอรรถรสมากครับ รถยนต์หลายรุ่นผมยอมเพิ่มเงินไปเล่นตัวที่มีเครื่อง 6 หรือ 8 สูบเพื่อความสะใจล้วนๆซึ่งสิ่งนี้รถ BEV ยังให้ไม่ได้ครับ
1 3 5
├┼┼╕
2 4 6 R

ออฟไลน์ pladaek

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,944
  • FF1.5SMG
Re: ประสบการณ์ลองขับรถยนต์ไฟฟ้า 100% ครั้งแรก
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2024, 08:54:11 »
ส่วนตัวผม รถไฟฟ้าแค่อัตราเร่งสมรรถนะดีกว่าเฉยๆครับ
แต่ไม่ได้รู้สึกขับมันขับสนุกอะไรมากมาย
ผมกลับชอบรถที่มีเสียงเครื่องมากกว่า ได้อารมณ์ของการขับรถ

รถไฟฟ้าเงียบ ผมคิดว่ามันไม่ใช่ข้อดีสำหรับผม
แล้วผมเห็น Tesla ตอนวิ่งช้าในซอย
บางทีเสียงพัดลมดังกว่ารถ ICE ซะอีก
อันนี้ออกแนวดังรำคาญด้วยซ้ำ

สนุกมันไม่เหมือนกันครับ
ไม่ได้ขับรถเพื่อทำเวลาที่ดีที่สุด.. แต่ขับรถเพื่อเจอช่วงเวลาที่ดีที่สุด..

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 11,966
Re: ประสบการณ์ลองขับรถยนต์ไฟฟ้า 100% ครั้งแรก
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2024, 11:34:39 »
ตอนไปทดสอบ กับตอนใช้งานจริงๆ เขาใช้งานเหมือนกันไหมฮะ

เพราะเห็นแต่ละคันวิ่งบนท้องถนน ขับช้าๆกันทั้งนั้น

ระดับแบตเตอรี่ มีผลกับการเติมคันเร่งมากน้อยแค่ไหนครับ  ไม่เคยขับเลยไม่รู้เลยครับ
เฉกเช่นเดียวกับรถน้ำมัน เวลาทดสอบ ต้องให้รู้ว่ามันทำได้แค่ไหน

เวลาขับจริง ขับอย่างที่เราขับเหมือนทุกวัน นั่นล่ะครับ