ทำไมรัฐไม่อุดหนุนราคาดีเซลให้แค่รถกระบะ/รถเพื่อการพานิชย์

|||

เข้าใจว่าประเทศเรามันประเทศเกษตรกรรม เลยต้องตรึงราคาดีเซลไว้ รวมถึงรถขนส่งต่างๆ

แต่ทุกวันนี้รถหรูแค่ไหนเติมดีเซลก็ยังไปอุดหนุนด้วย ผมชนชั้นกลางใช้รถเก่าๆเบนซินทำไมต้องเอาภาษีไปช่วยจ่ายให้ 520d ด้วยไม่เข้าใจ มลพิษก็เยอะกว่า ไม่ได้สร้างรายได้อะไรให้ประเทศด้วย

หัวจ่ายมันน่าจะเลือกได้นะว่าให้คิดราคาเท่าไหร่ไม่น่ายากหรอก เข้ามาเป็นรถเก๋งรถ SUV ถ้าเติมดีเซลก็กดอีกราคาไป ทำได้อยู่แล้ว ทำไมไม่ทำกันหรอครับ



Symphonic

เข้าใจว่าประเทศเรามันประเทศเกษตรกรรม เลยต้องตรึงราคาดีเซลไว้ รวมถึงรถขนส่งต่างๆ

แต่ทุกวันนี้รถหรูแค่ไหนเติมดีเซลก็ยังไปอุดหนุนด้วย ผมชนชั้นกลางใช้รถเก่าๆเบนซินทำไมต้องเอาภาษีไปช่วยจ่ายให้ 520d ด้วยไม่เข้าใจ มลพิษก็เยอะกว่า ไม่ได้สร้างรายได้อะไรให้ประเทศด้วย

หัวจ่ายมันน่าจะเลือกได้นะว่าให้คิดราคาเท่าไหร่ไม่น่ายากหรอก เข้ามาเป็นรถเก๋งรถ SUV ถ้าเติมดีเซลก็กดอีกราคาไป ทำได้อยู่แล้ว ทำไมไม่ทำกันหรอครับ

เห็นด้วยในแนวคิด  แต่ในทางปฏิบัติจะทำยังไงครับ โปรดชี้แนะ

1. ที่หน้าปั๊ม ที่หัวจ่าย คิดราคายังไง เพราะหัวจ่ายเดียวกันก็คิดราคาเดียวกัน
    หรือจะใช้ Vision Camera ส่งภาพให้ AI ตรวจสอบประเภทของรถ แล้วส่งข้อมูล
    เครื่อง POS ปรับราคาขายตามประเภทรถ ก่อนปลดล็อกให้หัวจ่ายทำงาน

    ** เพราะถ้าใช้คนกดแยกราคา แยกประเภทรถแล้วจะเชื่อมั่นว่าไม่มีการทุจริตได้อย่างไร

2. ปั๊มจะซื้อน้ำมันจากคลังในราคาไหน เพราะตอนซื้อยังไม่รู้ว่าจะขายให้รถอะไรเท่าไหร่
3. ถ้าปั๊มซื้อจากโรงกลั่นแพงก่อน แล้วไปเรียกชดเชยจากกองทุนทีหลัง ต้องใช้ข้อมูลอะไร ยังไง
    มีใครต้องทำงานด้านข้อมูล บัญชีบลาๆๆๆๆ
4. มีวิธีอื่นๆ แนะนำมั้ยครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 28, 2024, 12:41:12 โดย Symphonic »



Sit: )

ปล่อยราคาจริง แล้วไปสนับสนุนด้านอื่นที่เจาะจง ซึ่งทุกวันนี้รถกระบะก็ได้สรรพวามิตรถูกอยู่แล้ว  ถ้าใช้รถเพื่อการพานิชย์รวมถึงการเกษตร ไปลงทะเบียนแล้วเสียภาษีต่ำ ได้ลดหย่อนโน่นนี่นั่น  ได้คืนภาษี ก็น่าจะตรงเป้าหมายกว่า



chatcharwarn

เข้าใจว่าประเทศเรามันประเทศเกษตรกรรม เลยต้องตรึงราคาดีเซลไว้ รวมถึงรถขนส่งต่างๆ

แต่ทุกวันนี้รถหรูแค่ไหนเติมดีเซลก็ยังไปอุดหนุนด้วย ผมชนชั้นกลางใช้รถเก่าๆเบนซินทำไมต้องเอาภาษีไปช่วยจ่ายให้ 520d ด้วยไม่เข้าใจ มลพิษก็เยอะกว่า ไม่ได้สร้างรายได้อะไรให้ประเทศด้วย

หัวจ่ายมันน่าจะเลือกได้นะว่าให้คิดราคาเท่าไหร่ไม่น่ายากหรอก เข้ามาเป็นรถเก๋งรถ SUV ถ้าเติมดีเซลก็กดอีกราคาไป ทำได้อยู่แล้ว ทำไมไม่ทำกันหรอครับ

เห็นด้วยในแนวคิด  แต่ในทางปฏิบัติจะทำยังไงครับ โปรดชี้แนะ

1. ที่หน้าปั๊ม ที่หัวจ่าย คิดราคายังไง เพราะหัวจ่ายเดียวกันก็คิดราคาเดียวกัน
    หรือจะใช้ Vision Camera ส่งภาพให้ AI ตรวจสอบประเภทของรถ แล้วส่งข้อมูล
    เครื่อง POS ปรับราคาขายตามประเภทรถ ก่อนปลดล็อกให้หัวจ่ายทำงาน

    ** เพราะถ้าใช้คนกดแยกราคา แยกประเภทรถแล้วจะเชื่อมั่นว่าไม่มีการทุจริตได้อย่างไร

2. ปั๊มจะซื้อน้ำมันจากคลังในราคาไหน เพราะตอนซื้อยังไม่รู้ว่าจะขายให้รถอะไรเท่าไหร่
3. ถ้าปั๊มซื้อจากโรงกลั่นแพงก่อน แล้วไปเรียกชดเชยจากกองทุนทีหลัง ต้องใช้ข้อมูลอะไร ยังไง
    มีใครต้องทำงานด้านข้อมูล บัญชีบลาๆๆๆๆ
4. มีวิธีอื่นๆ แนะนำมั้ยครับ


ทำบัตรแบบNGV Taxi รูดปุ๊บหักส่วนลดกันไป



iKrit

เข้าใจว่าประเทศเรามันประเทศเกษตรกรรม เลยต้องตรึงราคาดีเซลไว้ รวมถึงรถขนส่งต่างๆ

แต่ทุกวันนี้รถหรูแค่ไหนเติมดีเซลก็ยังไปอุดหนุนด้วย ผมชนชั้นกลางใช้รถเก่าๆเบนซินทำไมต้องเอาภาษีไปช่วยจ่ายให้ 520d ด้วยไม่เข้าใจ มลพิษก็เยอะกว่า ไม่ได้สร้างรายได้อะไรให้ประเทศด้วย

หัวจ่ายมันน่าจะเลือกได้นะว่าให้คิดราคาเท่าไหร่ไม่น่ายากหรอก เข้ามาเป็นรถเก๋งรถ SUV ถ้าเติมดีเซลก็กดอีกราคาไป ทำได้อยู่แล้ว ทำไมไม่ทำกันหรอครับ

เห็นด้วยในแนวคิด  แต่ในทางปฏิบัติจะทำยังไงครับ โปรดชี้แนะ

1. ที่หน้าปั๊ม ที่หัวจ่าย คิดราคายังไง เพราะหัวจ่ายเดียวกันก็คิดราคาเดียวกัน
    หรือจะใช้ Vision Camera ส่งภาพให้ AI ตรวจสอบประเภทของรถ แล้วส่งข้อมูล
    เครื่อง POS ปรับราคาขายตามประเภทรถ ก่อนปลดล็อกให้หัวจ่ายทำงาน

    ** เพราะถ้าใช้คนกดแยกราคา แยกประเภทรถแล้วจะเชื่อมั่นว่าไม่มีการทุจริตได้อย่างไร

2. ปั๊มจะซื้อน้ำมันจากคลังในราคาไหน เพราะตอนซื้อยังไม่รู้ว่าจะขายให้รถอะไรเท่าไหร่
3. ถ้าปั๊มซื้อจากโรงกลั่นแพงก่อน แล้วไปเรียกชดเชยจากกองทุนทีหลัง ต้องใช้ข้อมูลอะไร ยังไง
    มีใครต้องทำงานด้านข้อมูล บัญชีบลาๆๆๆๆ
4. มีวิธีอื่นๆ แนะนำมั้ยครับ


ทำบัตรแบบNGV Taxi รูดปุ๊บหักส่วนลดกันไป

+1 ตามนี้เลย
"การไม่มีดราม่าเป็นลาภอันประเสริฐ"
แต่มนุษย์มาม่าบางคนก็ชอบเปิดประเด็นทุกที เอ้อ...แปลก



johnlee

เด่วก็จะมีวิธีการ เอารถที่ได้เติมน้ำมันถูกเข้าไปเติม  กลับบ้านแล้วดูดดออกขาย  แล้วเอารถไปเติมใหม่ วนๆ

เพราะน้ำมันใส่รถไปแล้ว  ขับมาถึงบ้าน มันก็ดูดออกขายต่อได้ง่ายๆ
2535-2555 Nissan Big-m z16
2555-2561 Nissan Big-m Td27 + Bd25
2555- 2566 -Nissan Almera N17
2561- present -Isuzu D-max spacecab SLX 3.0
2566 - present Honda Jazz ge v a/t



adiPureII

ควรยกเลิกการอุดหนุนให้หมด ให้เป็นราคาตามตลาดเลย

รัฐทำมาพูดว่ากลัวของจะขึ้นราคาจะสูง เออ ของไม่ขึ้นจริง แต่พวกตูก็จ่ายค่าเบนซิลแพง สุดท้ายก็เสียตังเท่ากัน



Symphonic

เข้าใจว่าประเทศเรามันประเทศเกษตรกรรม เลยต้องตรึงราคาดีเซลไว้ รวมถึงรถขนส่งต่างๆ

แต่ทุกวันนี้รถหรูแค่ไหนเติมดีเซลก็ยังไปอุดหนุนด้วย ผมชนชั้นกลางใช้รถเก่าๆเบนซินทำไมต้องเอาภาษีไปช่วยจ่ายให้ 520d ด้วยไม่เข้าใจ มลพิษก็เยอะกว่า ไม่ได้สร้างรายได้อะไรให้ประเทศด้วย

หัวจ่ายมันน่าจะเลือกได้นะว่าให้คิดราคาเท่าไหร่ไม่น่ายากหรอก เข้ามาเป็นรถเก๋งรถ SUV ถ้าเติมดีเซลก็กดอีกราคาไป ทำได้อยู่แล้ว ทำไมไม่ทำกันหรอครับ

เห็นด้วยในแนวคิด  แต่ในทางปฏิบัติจะทำยังไงครับ โปรดชี้แนะ

1. ที่หน้าปั๊ม ที่หัวจ่าย คิดราคายังไง เพราะหัวจ่ายเดียวกันก็คิดราคาเดียวกัน
    หรือจะใช้ Vision Camera ส่งภาพให้ AI ตรวจสอบประเภทของรถ แล้วส่งข้อมูล
    เครื่อง POS ปรับราคาขายตามประเภทรถ ก่อนปลดล็อกให้หัวจ่ายทำงาน

    ** เพราะถ้าใช้คนกดแยกราคา แยกประเภทรถแล้วจะเชื่อมั่นว่าไม่มีการทุจริตได้อย่างไร

2. ปั๊มจะซื้อน้ำมันจากคลังในราคาไหน เพราะตอนซื้อยังไม่รู้ว่าจะขายให้รถอะไรเท่าไหร่
3. ถ้าปั๊มซื้อจากโรงกลั่นแพงก่อน แล้วไปเรียกชดเชยจากกองทุนทีหลัง ต้องใช้ข้อมูลอะไร ยังไง
    มีใครต้องทำงานด้านข้อมูล บัญชีบลาๆๆๆๆ
4. มีวิธีอื่นๆ แนะนำมั้ยครับ


ทำบัตรแบบNGV Taxi รูดปุ๊บหักส่วนลดกันไป

รถ Benz ถือบัตรไปรูด ก็ได้เติมในราคาที่มีส่วนลดสิครับ
เพราะราคาคิดตามบัตร ไม่ได้คิดที่รถ  555+++

คือ ไม่ใช่อะไรหรอกฮะ
หลักคิดน่ะดี แต่วิธีปฏิบัติมันยังไม่ได้
บวกกับความซื่อสัตย์ของคนในประเทศนี้
อย่าว่าแต่เจ้าหน้าที่รัฐเลย ประชาชน คนธรรมดา
อย่างพวกเราก็ไม่เบา เอาได้ก็เอา โกงได้ก็โกงแหละครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 28, 2024, 13:49:06 โดย Symphonic »



apinui

เท่าที่เห็น .. รถหรู เอายุโรปดีเซลทั้งหลายอะนะ ... มีกี่คันเชียวที่เติม B7 B10 อะครับ ผมก็เห็นเค้ายัดไฮพรีเมียมกันทั้งนั้น และดีเซลไฮพรีเมียมเนี่ย โดนภาษีเยอะกว่าน้ำมันชนิดอื่นอยู่เยอะเลยนะ ...

เรื่องที่ควรปรับปรุงจริงๆคือ การอุ้มดีเซล แล้วมันไปได้ประโยชน์กับพวกคุณพ่อน้องออนิว พวกนี้มากกว่า เอามาแต่งซิ่งควันดำกัน ไม่ได้ใช้เพื่อการพาณิชย์เลย

แต่ต้องเข้าใจด้วยว่า นโยบายบางอย่างมันคือการตลาด หาเสียงลดราคา อุ้มนั้นอุ้มนี่ ชาวบ้านชอบครับ ส่วนใครจะกล้าประกาศเลิกอุ้ม ได้โดนนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามหาช่องมาโจมตีกันเละเทะแน่นอน ปวดหัวอธิบายกัน จะมีสักกี่คนที่เข้าใจ

ดังนั้นก็ บางอย่างมันมาไกลเกินจะแก้ไขแล้ว ยังไงมันก็จะอุ้ม ไปแบบนี้แหละ บางช่วงอุ้มมาก อุ้มน้อย ก็ว่ากันไป



nmd

เด่วก็จะมีวิธีการ เอารถที่ได้เติมน้ำมันถูกเข้าไปเติม  กลับบ้านแล้วดูดดออกขาย  แล้วเอารถไปเติมใหม่ วนๆ

เพราะน้ำมันใส่รถไปแล้ว  ขับมาถึงบ้าน มันก็ดูดออกขายต่อได้ง่ายๆ

จริงครับ จะเกิดการขายน้ำมันเถื่อน ต้องมาตามจับกันให้วุ่นวายอีก



United

ก็ต้องบวกภาษี ตั้งแต่ขายรถเลยครับ PPV ทั้งหลาย Europe Diesel ทั้งหมด เพิ่มภาษีเข้าไปในราคารถอีกกี่ % ก็ว่าไปไปคำนวนกันมา เช่น บวกไป 2 แสนต่อคัน เอายอดตรงนี้ไปทำอะไรก็ว่าไป
อย่างที่ทุกคนพูดแหละ คนไทยจิตสำนึกเรื่องความถูกต้องมันน้อย หาช่องเอาเปรียบตลอดเวลา ใช้วิธีแก้ไขที่ user ไม่ได้เพราะมันหาทางหลบเลี่ยงโกงตลอด ต้องเอาตั้งแต่ก่อนจะออกรถนี่แหละ



อีกนิดก็แรง

มองยังไงก็ไม่คุ้มที่จะไปควบคุม เพราะสัดส่วนมันน้อยมากๆ ที่จะทุ่มทรัพยาการเพื่อไปควบคุมมัน
ผมยกตัวเลขที่ผมพอ google มาได้นะครับ

น้ำมันนดีเซลใช้เฉลี่ยวันละ 70 ล้านลิตร/วัน
น้ำมันเบนซิน 29 ล้านลิตร/วัน

รถยุโรปดีเซลผมให้ขายเลยปีละ 20,000 คัน 20 ปี เท่ากับมีบนถนนประมาณ 400,000 คัน ใช้น้ำมันให้เลยวันละ 10 ลิตร (วิ่งเฉลี่ย 15km/l เท่ากับวิ่งกันวันละ 150km) เท่ากับดีเซลยุโรปใช้น้ำมันวันละ 4 ล้านลิตร คิดเป็น 5.7% (ผมคิดว่าตัวเลขจริงๆ ไม่ถึง 5%)

กลับกันผมคิดว่า กระบะดีเซลที่ซื้อมาเพื่อใช้ส่วนตัวก็มีเยอะ ตรงนี้ควบคุมยากกว่า เพราะสามารถอ้างได้ว่าซื่อมาเพื่อการพาณิช

สุดท้ายผมคิดว่าวิธีการที่ดีที่สุดคือปล่อยลอยตัว แล้วเอาใบเสร็จค่าน้ำมันมาลดหย่อนภาษีสำหรับบริษัทที่จดทะเบียนขนส่ง หรือเกี่ยวข้องกับขนส่ง



tonphai

ประเด็นนี้เคยแสดงความคิดเห็นไว้อยู่ครับว่าอยากให้ช่วยส่วนลดของราคาน้ำมันดีเซลล์ผ่านระบบภาษีครับ

โดยให้รถที่เติมน้ำมันเติมแนราคาปกติ แต่ออกใบเสร็จ(หรือกรอกเลขผู้เสียภาษีไปเลย) แล้วนำไปหักลดภาษีเงินได้ตอนสิ้นปี
เพราะจะได้เป็นการบังคับให้ทุกคนผ่านระบบภาษี จะได้รู้ราอได้ของประชาชน เพราะขนาดมีเงินผ่อนรถ ประกอบอาชีพนี่อายได้เกินเสียภาษีแน่ๆ
โดยต้องระบุอาชีพหรือแหล่งรายได้เกี่ยวเกับการขนส่ง หรือเกษตรกรรม 
ใครไม่เข้าระบบภาษีก็ไม่ต้องช่วย เพราะถือว่าเลี่ยงภาษีเอง
ส่วนเกษตรกรที่เติมไม่เยอะ รายได้ไม่ได้เสียภาษี ก็เก็บเป็นเครดิตส่วนลดอกเบี้ยเงินกู้ผ่าน ธกส แทนครับ


 



renew

ทำงานมาก ใช้แรงมาก ปวดหัวกับปัญหาที่ตามมา เขาไม่ทำหรอกครับ ระบบราชการไทย รู้ๆกันอยู่



blitzpao

เอาจริงๆ เป็นปัญหาของประเทศที่ต้องพึ่งการขนส่งด้วยรถยนต์

แล้วพวกขนส่งสินค้าด้วยรางซึ่งต้นทุนถูกสุดก็ใช้ไม่ได้เรื่อง เส้นทางไม่ครอบคลุม



rtong

ที่จริง ควรเปลี่ยนการคิดคำนวนภาษีรถใหม่  น่าจะง่ายกว่า
ควรแยกตามประเภทรถ 
-รถกระบะตอนเดียว คิดภาษีถูกสุด แบบนี้ถูกต้อง
-รถกระบะแคป  และ 4 ประตู ควรขึ้นภาษีได้แล้ว เพราะซื้อรถกระบะแต่ไม่ได้ใช้บรรทุก  ใช้เป็นรถส่วนตัว
-เก๋งดีเซล  ควรปรับขึ้นภาษี  เพราะจะทำให้ช่วยเรื่องมลพิษ

   รถกระบะมีสัดส่วนเกินครึ่งนึงของรถที่วิ่งบนถนน  พออุ้มราคาน้ำมันดีเซล  คนเลยใช้เยอะ  แต่ถ้ามันใช้เพื่อ logistics เพื่อการเกษตรจริงๆ  ก็คงดี
    ควรลดภาษีรถเล็ก  สนับสนุนให้ใช้  เพราะน่าจะเหมาะกับสถานะการณ์ปัจจุบันที่ที่จอดรถ เริ่มหายากขึ้น  ซื้อรถไม่มีที่จอด  จอดข้างถนนรถก็ติด  เป็นการแก้ปัญหาระยะยาว
     ไม่ต้องถึง K-car แบบญี่ปุ่นก็ได้   



samaklen

เมื่อสู้ไม่ได้ ก็เปลี่ยนข้างเป็นพวกเดียวกันครับ
หากระบะแคปมาขับบ้างดีกว่า



bravo

ความเห็นส่วนตัวนะครับ
รัฐไม่ควรสนับสนุนให้ใช้รถกระบะ เป็นรถนั่ง ยกเว้น กระบะหัวเดี่ยว
สนับสนุนให้ใช้รถบรรทุก 4 ล้อ แทนรถรั้ว รถคอก ตู้ทึบ จะดีกว่าครับ



frame@kk

ทำบัตรรูดเฉพาะกลุ่มไปก็เท่านั้น แล้วจะได้เห็น เบ้น บีเอ็ม ถือบัตรมารูดคอยดู  ขนาดบัตรคนจน คนมีตังชิบหาย แต่ร้านไม่ได้จดห้าง ไม่ได้ระบบ ก็ยังทำบัตรคนจนได้เลย

ควาปล่อยให้เป็นไปตามกลไกทางตลาดไปเลย แล้วหาทางสนับสนุนทางอื่น ออกบิลเิาไปหักภาษีหรืิส่วนลดการต่อทะเบียนก็ว่าไป



Fragile

แนวทางที่เป็นไปได้มากสุดคือเก็บจากภาษีครับ
จะเก็บตอนซื้อรถหรือตอนต่อทะเบียนก็ได้
อย่างน้อยก็กรองคนที่ขับยุโรป/ppv/suv ได้
ส่วนกระบะคงต้องปล่อยไปครับ



เนื้อน่องไม่หนัง

ง่ายที่สุดน่าจะเป็นการขอคืนภาษีครับ ถ้าเป็นกลุ่มอาชีพที่ควรจะได้ก็ปรับให้เขา ให้กี่% ก็ว่าไป

แต่อีกมุมก็มองว่า มันไม่ได้มีใครมาควบคุมราคาของสินค้า/บริการของเขา... หรือพูดง่ายๆคือ เป็นรถทัวร์โมเดล น้ำมันขึ้นค่ารถขึ้น แต่น้ำมันลงไม่ลงตาม..

ความเห็นส่วนตัวนะครับ
รัฐไม่ควรสนับสนุนให้ใช้รถกระบะ เป็นรถนั่ง ยกเว้น กระบะหัวเดี่ยว
สนับสนุนให้ใช้รถบรรทุก 4 ล้อ แทนรถรั้ว รถคอก ตู้ทึบ จะดีกว่าครับ
อันนี้เห็นด้วยมากๆ กระบะใช้งานคือกระบะใช้งาน 4ประตูเป็นรถยนต์ แคป ห้ามนั้ง..
กระบะคอก / ตู้ทึบควรจะปรับเป็น รถบรรทุก4ล้อ รถตู้ และควรจะกำหนด GrossWeight ไปเลยว่าไม่เกินเท่าไร่
กระบะแปลงเพลาลอย บรรทุก4ตัน ไม่ควรจะมีบนถนน ผิดจุดประสง ถ้าแปลงควรจะต้องมีวิศวะรับรอง และจดเป็นรถบรรทุก4ล้อแทน
แต่อีกมุมก็เห็นใจคนรายได้น้อยนะ ที่ไม่ได้ดีเงินขนาดจะมีรถ 2 คัน เพื่อใข้งานกับรถยนต์นั้ง



Superpong

เข้าใจว่าประเทศเรามันประเทศเกษตรกรรม เลยต้องตรึงราคาดีเซลไว้ รวมถึงรถขนส่งต่างๆ

แต่ทุกวันนี้รถหรูแค่ไหนเติมดีเซลก็ยังไปอุดหนุนด้วย ผมชนชั้นกลางใช้รถเก่าๆเบนซินทำไมต้องเอาภาษีไปช่วยจ่ายให้ 520d ด้วยไม่เข้าใจ มลพิษก็เยอะกว่า ไม่ได้สร้างรายได้อะไรให้ประเทศด้วย

หัวจ่ายมันน่าจะเลือกได้นะว่าให้คิดราคาเท่าไหร่ไม่น่ายากหรอก เข้ามาเป็นรถเก๋งรถ SUV ถ้าเติมดีเซลก็กดอีกราคาไป ทำได้อยู่แล้ว ทำไมไม่ทำกันหรอครับ

เห็นด้วย 100% แต่ก็ตามที่หลายท่านว่า ในทางปฏิบัติค่อนข้างวุ่นวายพอสมควรเลย



pladaek

ผมเฉยๆครับ พวก 520D 320D มันไม่ได้มีเยอะมากไปกว่าพวกซุปเปอร์คาร์เชิงพาณิชย์
ที่เอะอะหาแต่พ่นควันดำไปทั่ว รถกระบะก็จริง แต่ไม่ได้ใช้ในทางพาณิชย์เท่าไหร่
ผมเสียดายเงินอุดหนุนที่จ่ายแล้วพวกพ่อน้องออนิวเอาไปถลุงมากกว่าพวก BMW Diesel ใช้ด้วยซ้ำ
ไม่ได้ขับรถเพื่อทำเวลาที่ดีที่สุด.. แต่ขับรถเพื่อเจอช่วงเวลาที่ดีที่สุด..



imvile

กลุ่มพวกรถ premium ผมว่าพวกนี้ เค้าน่าจะเติม premium diesel กันหมดอยู่แล้วมั้ง ซึ่งราคาไม่ได้โดนอุ้ม

แต่พวกรถวัยรุ่นดันรางพ่นหมึกนี่ มันน่าจริงๆ
อยากให้เป็นเครดิตมากกว่า คุณจดทะเบียน บริษัทเท่านี้ ยอดขายเท่านี้ คิดว่ามีการขนส่งเท่านี้
เอาเครดิตน้ำมันราคาเท่านี้ไปกี่ลิตร
ถ้าคิดว่าไม่พอ ก็หาหลักฐานมาปรับฐานปีต่อไป
ทำให้พวก บ เถื่อนหนีภาษี ต้องกลับเข้าระบบภาษีด้วย
F30 since 2014
F48 since 2018
W205 since 2019
ACV70 since 2021



voyager

ตลกที่มาอิจฉารถดีเซล สมัยนี้ไปอิจฉารถไฟฟ้าดีกว่ามั้ง
ส่วนตัวผมเติมแต่ดีเซลพรีเมี่ยม ไม่ได้อุดหนุนภาษีเหมือนดีเซลธรรมดา เป็นนโยบายตั้งแต่รัฐบาลที่ผ่านมาแล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 29, 2024, 14:23:32 โดย voyager »



scotch_fillet

ปล่อย ลอยตัวไปเถอะครับ



OXYGEN2

ยุโรปดีเซลเติม Premium ครับ จ่ายแพงอยู่แล้ว และประหยัดน้ำมันมาก

ควรมอง PPV ดีกว่าไหม ตัวผลาญเลย
2021 - BMW 530e
2023 - Tesla Model Y Performance
2023 - Tesla Model Y RWD

My website~ :) ;) :D 8)



Sommer C350e W205

เพราะรถยุโรปหรูๆ ส่วนใหญ่เลือกดีเซล ก็เลยไม่อุดหนุนดีเซล แถมดีเซลในไทย คนใช้กันเยอะมากๆ ทั้งส่วนบุคคลและเชิงพาณิชย์ (เยอะยิ่งกว่าเบนซิน)

รัฐอุดหนุนเบนซินดีแล้วครับ ถ้า E20 ราคาต่อลิตร ต่ำกว่า 20 บาท และ E85 ราคาต่อลิตร ต่ำกว่า 15 บาทนี่ ดีเลยครับ ช่วยลดมลพิษ

ปล. ไม่แปลกใจว่าทำไม Eco Cars ราคาถูกกว่า C-Segment Sedan/Hatchback รองรับ E85 นั้น Eco Cars รองรับน้ำมัน E85 บ่ได้
2016 Mercedes-Benz C350e AMG Dynamic W205



zapdos191

ปล่อยลอยตัวไปเลยครับ รำคาญ ราคาของขึ้นช่างมัน เดี๋ยวคนเค้าก็ปรับตัวได้ครับ เอาเบนซินไปอุ้มดีเซล ประสาทกินมาก

-------- Toyota Vios 2003 --------
-------- Subaru WRX STi 2015 --------
-------- Honda Jazz GK5 --------
-------- BMW G20 330i --------
-------- Subaru Impreza WRX STi 2008 (GRF) --------
-------- Subaru Forester XT (SJG) MC --------



appleplus

ผมใช้  520 d เติมเฉพาะ Shell Vpower และท่านอื่นที่ใช้คงคล้ายกัน ,และ3, 5 d  ในเมืองไทยจะมีสักกี่%
ถ้าเทียบกับ All new แต่งจูนกันเต็มที่ เหยียบควันดำเต็มถนน สิ้นเปลืองภาษีและสิ่งแวดล้อม นี่สิ รัฐ ควรไปควบคุม