[Sommer C350e W205]

เมื่อไทยเป็นฐานผลิต EV จีน ส่งมอบทั่วโลกแล้ว ไทยจะได้ประโยชน์อะไรบ้าง? และอนาคตทั่วโลกจะรู้จักไทยในฐานะ เป็นฐานผลิตรถ EV จีน หรือไม่?

[apinui]

ไม่รู้ได้ประโยชน์มากน้อยแค่ไหน ... แต่ฟังจากที่คุณ JIMMY พูดไว้คือ

จีนมาตั้งโรงงานก็จริง แต่เครื่องมือ เครื่องจักร แรงงาน เค้าขนมาจากจีนหมดเลยครับ ไทยก็คงได้ประโยชน์บ้างแต่ก็คงไม่มาก

[ฟง อวิ๋น]

เหมือนจะได้ แต่เขาก็เอาของเขามาเองซะส่วนใหญ่

อารมณ์เหมือนขับรถ Camper Van จากจีนเข้ามาเที่ยวในไทย ขนของกินเข้ามาเองทั้งหมด

จ่ายค่าน้ำมัน ค่าน้ำใช้ และอาจจะแค่นั้น เผลอๆบางทีจอดนอนตามปั๋มฟรี ทิ้งขยะฟรี ทิ้งxรี่ฟรี

จะกินข้าวทางทีก็เข้าร้านของคนจีน

[pim_cute]

ขั้นแรกเลย เกิดวงจรอุบาทว์ vicious cycle ในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทยก่อน อุปสงค์อ่อนแอจากหนี้ครัวเรือนที่สูงเกินกว่า 90% อุปทานล้นตลาดจากนโยบาย ev 3.0 3.5(รถที่ต้องผลิตคืน แต่ ศก ไทยกลับโตต่ำไม่เหมือนตอนโครงการ eco car ที่อุปสงค์พอจะดูดซับอุปทานส่วนเกินไหว) ข้อมูลจากเครดิตบุโรชี้ชัดว่า gen y รายได้ต่ำแต่รสนิยมสูง เป็นหนี้เร็วขึ้น และโอกาสผิดนัดชำระสูง

ส่วนส่งออก ผมไม่คิดว่าจีนจะใช้ไทยเป็นฐานผลิตส่งออกนะครับ แต่ใช้ผลิตเพื่อ demand ในประเทศมากกว่า เพราะเห็นจีนลงทุน ev ในอินโดนีเซียด้วย ซึ่งทางนั้นน่าจะมีการประหยัดต่อขนาดมากกว่า มีแร่ในการทำแบตเตอรี ค่าแรงก็ถูกกว่าไทย

ผลกระทบมันพึ่งจะเริ่มด้วยซ้ำ ล่าสุดส่งออกไทยติดลบ -10.9% แต่นำเข้ากลับเพิ่มขึ้น +5.6% ส่วนนึงก็มาจาก ev จีนนี่แหละ แล้วก็ตลาดออสเตรเลียที่เราเริ่มแข่งขันไม่ได้ ผมเช็คล่าสุดสินค้าส่งออกอันดับ1 ของไทยคือรถยนต์และชิ้นส่วนนะครับ แบบนี้อาการน่าเป็นห่วง
คือให้ผมเดาใจจีนนะ การทำมาตรการ 3 red line ของจีน ทำให้ตลาดอสังหามีปัญหาจาก evergrande และ country garden ซึ่งคิดเป็นราวๆ 30%ของgdp ทำให้คนขาดความเชื่อมั่นในการซื้อบ้าน กดดันตัว c ใน c+i+g+x-m จีนก็รู้ว่าโตด้วยตัว c คงยาก จึงพยายามโตด้วย x แทน

[wsi11]

Supplier ก็อาจจะต้องปรับตัว แต่ที่ได้ยินคือ Neta, BYD ก็มีการสั่งชิ้นส่วนพวก interior กับ supplier ที่อยู่ในไทย นะครับ

ส่วนตัว กลัวพวก supplier ที่ยังไม่เข้ามามากกว่า เนื่องจาก พวกนั้นเค้าตัดราคาแบบ โหดร้าย เนื่องจาก ตอนโควิด Supply chain โดนกระทบ ก็เลยเกิด Local supplier ของจีนเอง ที่ไม่พึ่งพา การนำเข้า และ การที่ทำให้เค้ามีการพัฒนาการอย่างก้าวกระโดด คือ บริษัทเล็ก ทำอะไรก็เร็ว ไม่เหมือนบริษัทใหญ่ๆ อีกอย่าง คือคนเค้าจบ PhD กันเยอะ เลยไม่ยากที่จะพัฒนาสินค้า ในแง่ของวัสดุออกมาได้ทัดเทียม บริษัทใหญ่

คือ คนในบริษัทผม บอกว่า ในขณะที่เรามีแต่การนั่งประชุม บริษัทเล็กๆ เค้าสามารถทดลองสูตร 20 สูตร ได้ในอาทิตย์เดียว ประมาณนี้ คือบริษัทข้ามชาติในจีน กำลังแย่เนื่องจาก Local supplier เค้าแข็งแกร่งขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ ในช่วงโควิดที่ผ่านมา

[KTN88]

Supplier ก็อาจจะต้องปรับตัว แต่ที่ได้ยินคือ Neta, BYD ก็มีการสั่งชิ้นส่วนพวก interior กับ supplier ที่อยู่ในไทย นะครับ

ส่วนตัว กลัวพวก supplier ที่ยังไม่เข้ามามากกว่า เนื่องจาก พวกนั้นเค้าตัดราคาแบบ โหดร้าย เนื่องจาก ตอนโควิด Supply chain โดนกระทบ ก็เลยเกิด Local supplier ของจีนเอง ที่ไม่พึ่งพา การนำเข้า และ การที่ทำให้เค้ามีการพัฒนาการอย่างก้าวกระโดด คือ บริษัทเล็ก ทำอะไรก็เร็ว ไม่เหมือนบริษัทใหญ่ๆ อีกอย่าง คือคนเค้าจบ PhD กันเยอะ เลยไม่ยากที่จะพัฒนาสินค้า ในแง่ของวัสดุออกมาได้ทัดเทียม บริษัทใหญ่

คือ คนในบริษัทผม บอกว่า ในขณะที่เรามีแต่การนั่งประชุม บริษัทเล็กๆ เค้าสามารถทดลองสูตร 20 สูตร ได้ในอาทิตย์เดียว ประมาณนี้ คือบริษัทข้ามชาติในจีน กำลังแย่เนื่องจาก Local supplier เค้าแข็งแกร่งขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ ในช่วงโควิดที่ผ่านมา

มันต้องใช้ Supplier ในไทยด้วยครับไม่งั้น Local Content มันจะไม่ถึง
แต่ที่น่ากังวลคือพวกบริษัทนอมินีแบบทัวร์ 0 เหรียญครับ

[Sommer C350e W205]

Supplier ก็อาจจะต้องปรับตัว แต่ที่ได้ยินคือ Neta, BYD ก็มีการสั่งชิ้นส่วนพวก interior กับ supplier ที่อยู่ในไทย นะครับ

ส่วนตัว กลัวพวก supplier ที่ยังไม่เข้ามามากกว่า เนื่องจาก พวกนั้นเค้าตัดราคาแบบ โหดร้าย เนื่องจาก ตอนโควิด Supply chain โดนกระทบ ก็เลยเกิด Local supplier ของจีนเอง ที่ไม่พึ่งพา การนำเข้า และ การที่ทำให้เค้ามีการพัฒนาการอย่างก้าวกระโดด คือ บริษัทเล็ก ทำอะไรก็เร็ว ไม่เหมือนบริษัทใหญ่ๆ อีกอย่าง คือคนเค้าจบ PhD กันเยอะ เลยไม่ยากที่จะพัฒนาสินค้า ในแง่ของวัสดุออกมาได้ทัดเทียม บริษัทใหญ่

คือ คนในบริษัทผม บอกว่า ในขณะที่เรามีแต่การนั่งประชุม บริษัทเล็กๆ เค้าสามารถทดลองสูตร 20 สูตร ได้ในอาทิตย์เดียว ประมาณนี้ คือบริษัทข้ามชาติในจีน กำลังแย่เนื่องจาก Local supplier เค้าแข็งแกร่งขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ ในช่วงโควิดที่ผ่านมา

มันต้องใช้ Supplier ในไทยด้วยครับไม่งั้น Local Content มันจะไม่ถึง
แต่ที่น่ากังวลคือพวกบริษัทนอมินีแบบทัวร์ 0 เหรียญครับ

ทัวร์ 0 เหรียญนี่ นึกถึง GWM และ NETA ในตอนนี้เลยนะครับ

[lay]

สมมุติ  ไทยไม่เอา   เขาไปประเทศอื่น

เช่นมาเลเซีย  เวียดนาม  หรืออินโดนีเซีย

มันก็คงแย่ พอกัน

[dht_tubes]

เสียเปรียบทุกด้าน แต่เราไม่มีอำนาจต่อรองใดๆ

ค้าขายแบบจีน แนวเขากินไม่แบ่งมาแต่ไหนแต่ไร คนละแนวกับฝรั่ง(ยุคที่ผ่านมา)

ยังมีอะไรให้เขาดูดอีก คงยังไม่พับแผนหรอก

ภาครัฐเราไม่มีทางหาเงินเข้าประเทศ (บางด้านเป็นตัวถ่วงด้วยซ้ำ) ถนัดแต่แนวให้สัมปทานซึ่งหนีไม่พ้นขายสมบัติชาติ ช้าเร็วก้อต้องมีวันหมด

ในมุมผมคือ มันไม่จบแค่นี้หรอก ถ้ายังมีธุรกิจการเมืองครอบแทบทุกเรื่องเหมือนที่เป็นอยู่ตอนนี้

ปล.ผมออกความเห็นแบบมุมชาวบ้าน คนธรรมดาทำงาน หากินแบบพื้นๆมองนะ ไม่มีข้อมูลความรู้เชิงลึกมากมายแบบหลายๆท่าน แต่เขียนตามผลกระทบ และความรู้สึกที่สัมผัสได้ครับ

[Floppy-T]

บอกได้เลยว่า หากภาครัฐยังสนับสนุนจีน และลืมสัมพันธ์กับญี่ปุ่น

การส่งออกพวกรถยนต์และอะไหล่ ที่เป็นสินค้าส่งออกอันดับ 1 ของประเทศเรา แย่แน่ๆ

และอนาคตอีกไม่นานนี้จะแย่แบบล้มเป็นโดมิโน่ กระทบไปยังรุ่นต่อๆไป

จีนไม่มีการ CSR คืนสู่สังคมไทยแบบที่ญี่ปุ่นเค้าทำ

[lay]

คนไทยจะได้ใช้รถ bev คุณภาพดีราคาไม่แพง  อะไหร่ ก็จะถูกลง  ไม่ต้องรอนาน
จุด ชาร์จ จะครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น  ตามปริมาณรถที่เพิ่มขึ้น 

และอาจจะส่งออกไปขาย
ต่างประเทศได้ด้วย

แถมยังจะมีโรงงานผลิตแบตเตอรี่ระดับเซลล์  อีกหลายโรงงาน

ทำให้การใช้พลังงานไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์

มีประสิทธิภาพมากขึ้น

อาจลดการนำเข้าน้ำมัน ได้อีกด้วยครับ

[เนื้อน่องไม่หนัง]

คิดว่าดีกว่าไม่มีครับ แต่ก็ไม่อยากให้รัฐสนับสนุนมากเกินไป
คิดว่าที่ EV ในไทยโตเร็วมันไม่ใช้เพราะคุณภาพของสินค้า แต่เป็นเพราะ FTA ที่ช่วยให้เข้าถึงรถไฟฟ้าผลิตจีนได้ง่ายขึ้น

ถึงจีนจะตั้งโรงงานเอง หรือยกมาทั้งกลุ่มธุรกิจเผื่อสนับสนุนการผลิตของตัวเอง ยังมองว่าดีกว่าไม่มาครับ

[XMSL]

ญี่ปุ่นก็ไม่ได้ถ่ายทอดความรู้ แถมพันธมิตรทางธุรกิจก็อยู่แต่ในกลุ่มทุนตัวเองมาแต่ไหนแต่ไร ที่เราได้ถ่ายทอดการผลิตชิ้นส่วนหรือต้นน้ำบางส่วนก็อาศัยเรียนรู้ต่อยอดกันเอง ต้องเข้าใจก่อนว่าการมาของ ev มันกระทบแน่นอน เพราะชิ้นส่วนมันลดลงเยอะมาก แต่ก็อย่างบางท่านว่ามันก็ดีกว่าข้ามหัวเราไปอยู่มาเลย์/อินโดเลย

[SM.]

รถ EV กับรถสันดาป ไม่ได้ต่างกัน 100% นะครับ ชิ้นส่วนหลายๆ อย่างก็ไม่ได้กระทบอะไร แต่ยังไงก็อยากให้ภาครัฐมองทั้ง supply chain นะครับ อย่าให้กระทบจนอุตสาหกรรมยายนต์ที่อยู่กับบ้านเรามาหลายสิบปี ต้องพังลงไปกับแค่การที่อยากให้จีนมาลงทุน

บทเรียนก็มีให้เห็นแล้วกับทัวร์ 0 เหรียญของจีน

[Auto]

มันจะมีดรงงานจีนสักกี่โรงีที่มาตั้งโรงงานประกอบในไทย     ยอดขายส่งออกจะเป็นเท่าใด น่าคิด

[DiKiBoyZ]

สำหรับผม ในมุมผู้บริโภค และ คิดว่า รถยนต์ยี่ห้อไทยไม่มี ก็ไม่ต้องสนใจเรื่องชาตินิยมใดๆ แล้ว

ไม่ว่าจะแบรนด์จีน หรือ ยุโรป หรือ เมกา มาผลิตไทย ก็มีค่าเท่ากัน ตราบใด ที่สร้างงาน

ึ่แบรนด์ยุโรป หรือ เมกา ชิ้นส่วนที่ประกอบในโรงงานที่ไทย ชิ้นส่วนหลายอย่างก็ไม่ได้ผลิตที่ไทยนะครับ มาจากนอกประเทศเยอะ เครื่องยนต์ เกียร์ และ อื่นๆ

ซึ่งยี่ห้อจีน ผมก็คิดว่า หลายชิ้นส่วน ก็คงเอามาจากจีน เช่นกัน ดังนั้น ผมมองว่าไม่ต่างกัน

ถ้ามองในมุมธุรกิจ จีนได้ประโยชน์ ตรงที่ใช้ไทยเป็นฐาน และ ใช้สิทธิทางภาษี(ส่งขายในอาเซียน ด้วยเงื่อนไขอาเซียน) และ ส่งขายต่างประเทศ ตามทางเดินที่ยี่ห้อญี่ปุ่น เขาสร้างไว้แล้ว แค่เป็นจากรถน้ำมัน เป็น BEV ครับ และ อาจจะมีเรื่องการเมืองระหว่างประเทศ มาเกี่ยวข้องบ้าง (เพราะหลายประเทศยังมีมุมมองที่ไม่ค่อยอะไรกับจีนเท่าไหร่)

สำหรับคนไทย คือ การจ้างงาน และ ภาษี ครับ