รถไฟฟ้าจะอยู่อย่างไรหากหาคนให้ไฟแนนซ์รถไฟฟ้ามือสองไม่ได้

solo

รุ่นน้องบอกเจอประกาศขายรถไฟฟ้ามือสองราคาดีๆเต็มไปหมด แต่หาใครให้ไฟแนนซ์ไม่ได้ หรือต้องซื้อสดอย่างเดียว เพื่อนๆสมาชิกพอทราบไหมว่าที่ไหนจัดไฟแนนซ์ให้



apinui

รุ่นน้องบอกเจอประกาศขายรถไฟฟ้ามือสองราคาดีๆเต็มไปหมด แต่หาใครให้ไฟแนนซ์ไม่ได้ หรือต้องซื้อสดอย่างเดียว เพื่อนๆสมาชิกพอทราบไหมว่าที่ไหนจัดไฟแนนซ์ให้

ไม่มีครับ ...

มีเงื่อนไขเดียว ดาวน์ 50% ครับ กู้ได้ยินดีปล่อยทุกที่ ... แต่ใครจะดาวน์มือสอง 50% ล่ะจริงไหมครับ มันเลยเน่าอยู่ในเต้นท์นั่นไง  ;D ;D



๑ ๒ ๓

สรุปคือ ใครจะขายต่อรถ EV ตอนนี้ก็คงขายยากมากๆใช่ไหมครับ เพราะ ไฟแนนซ์รองรับไม่มี ปัจจัยซื้อสดก็น้อยมากๆ แย่เลย
รับซื้อ ขาย ซ่อม แลกเปลี่ยนคอมพิวเตอร์,โน้ตบุ๊ค และอุปกรณ์



apinui

^
^
ใช่ครับ ตอนนี้ถ้าขับไปขายตามเต้นท์หรือไปเทรินตามโชว์รูมเนี่ย แทบไม่มีใครรับเลย เพราะรับมาก็ขายต่อไม่ได้

ตอนนี้ เต้นท์ที่รถ EV ติดมืออยู่ มองกันไปถึงแยกชิ้นส่วนขายอะไหล่กันแล้วนะครับ ถ้าขายเป็นคันไม่ได้ ก็ถอดอะไหล่ขาย ส่งตามอู่ที่เค้าสั่งอะไหล่กับบริษัทฯไม่ได้หรือเบิกช้า

ตอนนี้รถ EV อุบัติเหตุเยอะมาก อะไหล่ไม่มี การแยกส่วนขาย เกิดขึ้นแน่ครับ ขาดทุนน้อย ดีกว่าไม่ได้เงินคืนเลย



Auto

คนซื้อไม่ศึกษาข้อมูลรถไฟฟ้า   ข้อเสีย
  1.ไฟแนนซ์ไม่รองรับ  ภาษาชาวบ้านไฟแนนซ์คือไม่ปล่อย
  2.เต๊นท์ไม่รับซื้อ    บางเต๊นท์อาจไม่รับ แต่รวม ๆ  ฮั้วกันมาก  ๆ    ก็ไม่คือรับ   สุดท้ายก็รวมกันไม่มีใครรับซื้อ
  3.อะไหล่ไม่มีซ่อม  ไม่ว่าบริษัทใหญ่แค่ไหนก็ตาม      พวกรอฝันว่าแบตเตอรี่อนาคตจะถูกลง  กลับดูอนาคตรถไฟฟ้าไม่ออก
  4. ไม่มีอู่ซ่อมรถอุบัติเหตุ   บางอู่ปฏิเสธว่าไม่มีความรู้  มือไม่ถึง  ที่จริงอู่ไม่ต้องการซ่อมหรือเหตุผลอื่น  ๆ



nmd

ผมว่าถ้าตลาดมือ2 EV ไม่เกิด อนาคตตลาด EV น่าจะลำบากครับ
เพราะมันจะวนกลับมาที่ตลาดมือ1 ถ้าขายยากหรือราคาตกมากๆ
คันต่อไปบางคนเค้าอาจจะไม่เอาแล้วก็ได้ครับ



Auto

ผมว่าถ้าตลาดมือ2 EV ไม่เกิด อนาคตตลาด EV น่าจะลำบากครับ
เพราะมันจะวนกลับมาที่ตลาดมือ1 ถ้าขายยากหรือราคาตกมากๆ
คันต่อไปบางคนเค้าอาจจะไม่เอาแล้วก็ได้ครับ
เหมือนโดนทุบทิ้งทางอ้อม        ที่จริงอย่างจีนก็เจอปัญหาแบบนี้รถเก่ากลายเป็นขยะไป 



whoami

ถ้าไปเม้นท์แนวๆนี้ในกลุ่มรถ ev

จะโดนสาวกถล่มเละ ด้วยตรรกะ ซื้อมาขับ ไม่ได้ซื้อมาขาย



Floppy-T

แบบนี้คือต้องซื้อเงินสดเท่านั้นใช่ไหมครับ



Weetting

3.8วิก็คุ้มแล้วครับ   ::) ::)

จะไปโง่จ่ายค่าน้ำมันทำไม

ซื้อมาขับ ไม่ได้เอาไว้ชน

ญี่ปุ่นกั๊ก ออปชั่น 


เวลาคุยก็จะเจอประโยคประมาณนี้ครับ
THE Manual Gearbox Preservation Society
Drive diesel until last day



Fragile

สงสัยว่าทำไมไฟแนนซ์ไม่รับจัดครับ



DiKiBoyZ

เน้นซื้อ เน้นใช้ ไม่เน้นขาย ครับ ::)

บางคนที่ใช้รถไฟฟ้า เขาก็จะพูดเสียงดังๆ ว่า รถซื้อมาใช้ ไม่ได้ซื้อมาขาย เลยไม่คิดเรื่องขายต่อ

แต่การใช้รถ ก็ต้องมีจุดทีต้องลาจากกัน จะ 3 ปี 5 ปี 10 ปี ก็ว่ากัน น้อยคน และ น้อยคัน ที่จะอยู่กันยาวนานจนแทบร่วมหัวลงโรง ตายไปด้วยกัน

ณ ตอนนี้ ตลาดมือสองรถ ICE ก็ขายยาก เพราะคนหันไปซื้อรถ BEV กันเยอะ

พอตลาดรถมือสอง BEV ก็ขายยาก เพราะคนกลัว แถม หาไฟแนนซ์ยากอีกต่างหาก

ปล.รถ BEV บางคัน มือสอง ราคาแทบจะเท่ากับมือ1 มันจะขายได้ยังไง งง



Symphonic

เป็นไปตามที่ผมคิดเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่ามันคนละ scenario กันกับรถน้ำมัน
หลายคนเอามาผสมกันว่า ซื้อถูก ค่าพลังงานถูก ไม่มีชิ้นส่วนให้เสียค่าซ่อมบำรุง
แล้วเอาไปบวกกับการคิดว่าจะขายทิ้งก่อนแบตเสื่อม แล้วเอาเงินไปซื้อคันใหม่

เอาจริงๆ ผมเคยท้วงตั้งแต่คนที่บอกว่าไม่เอาไฮบริด ยุ่งยาก ซ่อม 2 ระบบ
แบตลูกละแสน 5 ปีเปลี่ยน รอไฟฟ้าไปเลยดีกว่า โดยไม่ได้คิดว่าถ้าแบตไฮบริด
ลูกกะติ๊ดเดียวเป็นแสน แล้วแบต EV ลูกเบ้อเร่อมันจะไม่หลายแสนเหรอ

สรุปคือ ซื้อมาใช้ ไม่ได้ซื้อมาขาย มัวแต่ยึดติดราคาขายต่อก็ใช้แบบเดิมๆ ไปครับ



eaklego

เข้ามาศึกษาครับ



marvel

สงสัยว่าทำไมไฟแนนซ์ไม่รับจัดครับ

เท่าที่ผมเคยอ่านเคยฟังจากคนที่อยู่ในวงการซื้อขายรถยนต์มือสองนะครับ
ไม่แน่ใจถูกต้องตามนี้หรือไม่ หากไม่ถูกต้อง เพื่อนสมาชิกช่วยแก้ไขให้หน่อยนะครับ

หลักๆคือ ไฟแนนซ์ ต้องการกำไรจากดอกเบี้ยในการปล่อยเงินต้นให้กู้
หากผู้กู้ขาดส่งค่างวด ไฟแนนซ์ก็ยึดรถยนต์มาขาย
ไฟแนนซ์เค้าจะมีวิธีคิดคำนวณความเสี่ยงเพื่อไม่ให้ขาดทุนในกรณีต้องยึดรถมาขาย
ซึ่งรถตลาดทั่วๆไปที่ไม่ใช่รถไฟฟ้า สามารถประเมินราคารถมือสองรุ่นนั้นๆที่ร่วงลงแต่ละปีได้
แต่รถไฟฟ้า ราคามือสองตกลงเยอะ และไม่มีความแน่นอนว่าจะขายออกหรือไม่
ถ้าต้องยึดรถมาขาย แล้วขายไม่ออก หรือ ขายได้ราคาต่ำมากๆ ไฟแนนซ์ก็ขาดทุนในการปล่อยกู้รายนั้น

เหมือนที่เพื่อนสมาชิกหลายๆท่าน และ คุณ apinui บอกครับว่า
(เท่าที่ผมอ่านๆมา คุณ apinui มีความรู้และอยู่ในวงการซื้อขายรถครับ)

ไม่มีครับ ...

มีเงื่อนไขเดียว ดาวน์ 50% ครับ กู้ได้ยินดีปล่อยทุกที่ ... แต่ใครจะดาวน์มือสอง 50% ล่ะจริงไหมครับ มันเลยเน่าอยู่ในเต้นท์นั่นไง  ;D ;D

^
^
ใช่ครับ ตอนนี้ถ้าขับไปขายตามเต้นท์หรือไปเทรินตามโชว์รูมเนี่ย แทบไม่มีใครรับเลย เพราะรับมาก็ขายต่อไม่ได้

ตอนนี้ เต้นท์ที่รถ EV ติดมืออยู่ มองกันไปถึงแยกชิ้นส่วนขายอะไหล่กันแล้วนะครับ ถ้าขายเป็นคันไม่ได้ ก็ถอดอะไหล่ขาย ส่งตามอู่ที่เค้าสั่งอะไหล่กับบริษัทฯไม่ได้หรือเบิกช้า

ตอนนี้รถ EV อุบัติเหตุเยอะมาก อะไหล่ไม่มี การแยกส่วนขาย เกิดขึ้นแน่ครับ ขาดทุนน้อย ดีกว่าไม่ได้เงินคืนเลย

คือ ถ้าตลาดมือสองของรถไฟฟ้า ยังไม่ดีและไม่มีความแน่นอนพอที่จะรองรับรถที่ไฟแนนซ์ยึดมาขายได้ ไฟแนนซ์ก็มีความเสี่ยงที่จะขาดทุนถ้าต้องยึดรถมาขาย ไฟแนนซ์จึงไม่ปล่อยกู้ครับ

ที่เปรียบเทียบว่า “เงื่อนไขเดียว ดาวน์ 50% ครับ” ก็แสดงให้เห็นถึง ความเสี่ยงที่ไฟแนนซ์มองไว้ว่า รถไฟฟ้าจะขายได้ยากหรือขายได้ราคาน้อย จึงให้กู้แค่ 50% ของราคารถ เผื่อหากต้องยึดรถมาขาย เมื่อเอาราคาขาย รวมกับค่างวดที่ส่งมาบ้างแล้ว ไฟแนนซ์จะได้ไม่ขาดทุนครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 29, 2024, 02:53:44 โดย marvel »



apinui

ู^
^
ขอบคุณ คุณ marvel ครับ และก็ที่กล่าวมาถูกต้องเลย

ทีนี้เสริมอีกประเด็นที่ว่า ทำไมไฟแนนท์ไม่รับ

ยกตัวอย่างกลมๆ รถป้ายแดง EV คันนึงราคา 699,000 บาท ลูกค้าซื้อไปใช้ได้ 2 ปี ขายออกมา ราคาคันนั้นจะขายได้ ไม่เกิน 350,000บาท (ราคาประมาณการรับซื้อเฉลี่ยในปัจจุบันนะครับ)

เมื่อมีเต้นท์ซื้อมา เอามาขายต่อที่ราคา 4แสนถ้วน ... และต่อมา มีลูกค้ามาซื้อไปในราคานี้ และใช้ไปอีก 1 ปี และบังเอิน เกิดอุบัติเหตุ เข้าอู่ อู่ตีราคาซ่อม(หากโดนแบ็ต) 4แสน  ทุนประกันไม่พอจ่าย ต้องคืนทุน และประกันภัยใหม่ปีนี้คุ้มครองแบ็ตเตอร์รี่ไม่ถึง 100% ด้วย

คำถาม เจ้าของรถจะเอาเงินที่ไหนมาซ่อม จ่ายส่วนต่างไม่ไหว สุดท้ายก็คืนรถ ปล่อยยึดหรืออื่นๆไป ..... ไฟแนนท์ปล่อยไปเจอเคสนี้ยังไงก็ขาดทุน ถึงเกิดไม่บ่อยแต่มีแน่ ดังนั้นใครจะเสี่ยง ...

ก็ประมาณนี้ ซึ่งนี่เป็นการยกตัวอย่างบางส่วนนะ จริงๆแล้วราคาแบ็ตก้อนเท่าไร เราทราบกันดีแล้ว แถมยังไม่รวมซ่อมอื่นๆค่าแรงอีก บางทีราคาซ่อมชนป้ายแดงเลยนะ 






Turin

รถไฟฟ้า ต้องทำใจซื้อเหมือนซื้อมือถือครับ ใช้ๆไปหมดอายุก็ทิ้ง ... มันแบบนั้นจริงๆ

เอาจริงมันเลวร้ายมากไหม สำหรับคนมีเงินแทนที่จะซื้อ series 5 ใช้ 10 ปี ขาดทุนเกิน 2 ล้าน เทียบกับ Model Y ใช้ 10 ปี depreciated เหลือ 0 บาท โยนทิ้งได้ เสียเงินเท่ากัน ... ประมาณนี้ครับ ไม่ได้บอกว่าถูก แต่ต้องคิดให้ได้แบบนี้ถึงจะไม่เสียใจที่ซื้อ

ปล ผมยังทำใจแบบนั้นไม่ได้ ขอซื้อรถน้ำมันล้วนต่อไปก่อน



-nu-

เวลาบอกว่า ใช้ไปจนหมดอายุการใช้งานแล้วก็ทิ้ง เหมือนมือถือ

อันนี้ผมสงสัยจริงๆว่า เวลาทิ้งรถที่หมดอายุเนี่ย มันทิ้งยังไงครับ?



rtong

เป็นไปตามที่ผมคิดเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่ามันคนละ scenario กันกับรถน้ำมัน
หลายคนเอามาผสมกันว่า ซื้อถูก ค่าพลังงานถูก ไม่มีชิ้นส่วนให้เสียค่าซ่อมบำรุง
แล้วเอาไปบวกกับการคิดว่าจะขายทิ้งก่อนแบตเสื่อม แล้วเอาเงินไปซื้อคันใหม่

เอาจริงๆ ผมเคยท้วงตั้งแต่คนที่บอกว่าไม่เอาไฮบริด ยุ่งยาก ซ่อม 2 ระบบ
แบตลูกละแสน 5 ปีเปลี่ยน รอไฟฟ้าไปเลยดีกว่า โดยไม่ได้คิดว่าถ้าแบตไฮบริด
ลูกกะติ๊ดเดียวเป็นแสน แล้วแบต EV ลูกเบ้อเร่อมันจะไม่หลายแสนเหรอ

สรุปคือ ซื้อมาใช้ ไม่ได้ซื้อมาขาย มัวแต่ยึดติดราคาขายต่อก็ใช้แบบเดิมๆ ไปครับ

รถ EV มันถึงไม่ได้เหมาะกับทุกคนไงครับ   เพราะรวมแล้วถึงประหยัดค่าเชื้อเพลิงได้  แต่ต้องแลกกับมูลค่ารถที่ลดลงมากๆ  และค่าประกันที่มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคต

แทบไม่มีใครนึกถึงเรื่องลดมลพิษจริงๆ



KTN88

ู^
^
ขอบคุณ คุณ marvel ครับ และก็ที่กล่าวมาถูกต้องเลย

ทีนี้เสริมอีกประเด็นที่ว่า ทำไมไฟแนนท์ไม่รับ

ยกตัวอย่างกลมๆ รถป้ายแดง EV คันนึงราคา 699,000 บาท ลูกค้าซื้อไปใช้ได้ 2 ปี ขายออกมา ราคาคันนั้นจะขายได้ ไม่เกิน 350,000บาท (ราคาประมาณการรับซื้อเฉลี่ยในปัจจุบันนะครับ)

เมื่อมีเต้นท์ซื้อมา เอามาขายต่อที่ราคา 4แสนถ้วน ... และต่อมา มีลูกค้ามาซื้อไปในราคานี้ และใช้ไปอีก 1 ปี และบังเอิน เกิดอุบัติเหตุ เข้าอู่ อู่ตีราคาซ่อม(หากโดนแบ็ต) 4แสน  ทุนประกันไม่พอจ่าย ต้องคืนทุน และประกันภัยใหม่ปีนี้คุ้มครองแบ็ตเตอร์รี่ไม่ถึง 100% ด้วย

คำถาม เจ้าของรถจะเอาเงินที่ไหนมาซ่อม จ่ายส่วนต่างไม่ไหว สุดท้ายก็คืนรถ ปล่อยยึดหรืออื่นๆไป ..... ไฟแนนท์ปล่อยไปเจอเคสนี้ยังไงก็ขาดทุน ถึงเกิดไม่บ่อยแต่มีแน่ ดังนั้นใครจะเสี่ยง ...

ก็ประมาณนี้ ซึ่งนี่เป็นการยกตัวอย่างบางส่วนนะ จริงๆแล้วราคาแบ็ตก้อนเท่าไร เราทราบกันดีแล้ว แถมยังไม่รวมซ่อมอื่นๆค่าแรงอีก บางทีราคาซ่อมชนป้ายแดงเลยนะ
ผมว่าอีกประเด็นนึงคือ ราคารถมือ1ลดกันมั่วซั่วมาก จนทำให้ประเมินราคามือ2ไม่ได้ บางคันรับซื้อมือ2มา พอตั้งราคาขายแล้วเจอมือ1ลดราคาพอดีอาจไปพอๆกันจนมันขายไม่ได้ สุดท้ายจึงตัดปัญหาไม่รับเลยดีกว่า



Sommer C350e W205

ค่าเปลี่ยนแบตลูกใหญ่EV ราคาครึ่งหนึ่งของราคารถยนต์ทั้งหมด

เป็นเหตุไม่รับขาย EV ใครจะขายรถ EV ทิ้ง โปรดขายกับเต็นท์รถมือสองที่ “ไว้ใจได้” มากที่สุด

ปล.ช่วงนี้ เหมือนเต็นท์รถมือสอง ค่อยๆปิดตัวลง และวันนี้ผมขับรถผ่านโชว์รูมมือสองชื่อดังย่านราชพฤกษ์-รัตนาธิเบศร์ เหมือนน่าจะปิดตัวลงไปเรียบร้อย
2016 Mercedes-Benz C350e AMG Dynamic W205



imvile

สงสัยว่าทำไมไฟแนนซ์ไม่รับจัดครับ

เท่าที่ผมเคยอ่านเคยฟังจากคนที่อยู่ในวงการซื้อขายรถยนต์มือสองนะครับ
ไม่แน่ใจถูกต้องตามนี้หรือไม่ หากไม่ถูกต้อง เพื่อนสมาชิกช่วยแก้ไขให้หน่อยนะครับ

หลักๆคือ ไฟแนนซ์ ต้องการกำไรจากดอกเบี้ยในการปล่อยเงินต้นให้กู้
หากผู้กู้ขาดส่งค่างวด ไฟแนนซ์ก็ยึดรถยนต์มาขายทอดตลาด
ไฟแนนซ์เค้าจะมีวิธีคิดคำนวณความเสี่ยงเพื่อไม่ให้ขาดทุนในกรณีต้องยึดรถมาขาย
ซึ่งรถตลาดทั่วๆไปที่ไม่ใช่รถไฟฟ้า สามารถประเมินราคารถมือสองรุ่นนั้นๆที่ร่วงลงแต่ละปีได้
แต่รถไฟฟ้า ราคามือสองตกลงเยอะ และไม่มีความแน่นอนว่าจะขายออกหรือไม่
ถ้าต้องยึดรถมาขาย แล้วขายไม่ออก หรือ ขายได้ราคาต่ำมากๆ ไฟแนนซ์ก็ขาดทุนในการปล่อยกู้รายนั้น

เหมือนที่เพื่อนสมาชิกหลายๆท่าน และ คุณ apinui บอกครับว่า
(เท่าที่ผมอ่านๆมา คุณ apinui มีความรู้และอยู่ในวงการซื้อขายรถครับ)

ไม่มีครับ ...

มีเงื่อนไขเดียว ดาวน์ 50% ครับ กู้ได้ยินดีปล่อยทุกที่ ... แต่ใครจะดาวน์มือสอง 50% ล่ะจริงไหมครับ มันเลยเน่าอยู่ในเต้นท์นั่นไง  ;D ;D

^
^
ใช่ครับ ตอนนี้ถ้าขับไปขายตามเต้นท์หรือไปเทรินตามโชว์รูมเนี่ย แทบไม่มีใครรับเลย เพราะรับมาก็ขายต่อไม่ได้

ตอนนี้ เต้นท์ที่รถ EV ติดมืออยู่ มองกันไปถึงแยกชิ้นส่วนขายอะไหล่กันแล้วนะครับ ถ้าขายเป็นคันไม่ได้ ก็ถอดอะไหล่ขาย ส่งตามอู่ที่เค้าสั่งอะไหล่กับบริษัทฯไม่ได้หรือเบิกช้า

ตอนนี้รถ EV อุบัติเหตุเยอะมาก อะไหล่ไม่มี การแยกส่วนขาย เกิดขึ้นแน่ครับ ขาดทุนน้อย ดีกว่าไม่ได้เงินคืนเลย

คือ ถ้าตลาดมือสองของรถไฟฟ้า ยังไม่ดีและไม่มีความแน่นอนพอที่จะรองรับรถที่ไฟแนนซ์ยึดมาขายได้ ไฟแนนซ์ก็มีความเสี่ยงที่จะขาดทุนถ้าต้องยึดรถมาขาย ไฟแนนซ์จึงไม่ปล่อยกู้ครับ

ที่เปรียบเทียบว่า “เงื่อนไขเดียว ดาวน์ 50% ครับ” ก็แสดงให้เห็นถึง ความเสี่ยงที่ไฟแนนซ์มองไว้ว่า รถไฟฟ้าจะขายได้ยากหรือขายได้ราคาน้อย จึงให้กู้แค่ 50% ของราคารถ เผื่อหากต้องยึดรถมาขาย เมื่อเอาราคาขายทอดตลาดรวมกับค่างวดที่ส่งมาบ้างแล้ว ไฟแนนซ์จะได้ไม่ขาดทุนครับ

ตอนแรกผมเข้าใจว่าถ้าไฟแนนซ์ยึดมาแล้ว เค้าน่าจะส่งฟ้องเอาส่วนต่างจากคนแรกได้อยู่นะครับ
F30 since 2014
F48 since 2018
W205 since 2019
ACV70 since 2021



marvel

สงสัยว่าทำไมไฟแนนซ์ไม่รับจัดครับ

เท่าที่ผมเคยอ่านเคยฟังจากคนที่อยู่ในวงการซื้อขายรถยนต์มือสองนะครับ
ไม่แน่ใจถูกต้องตามนี้หรือไม่ หากไม่ถูกต้อง เพื่อนสมาชิกช่วยแก้ไขให้หน่อยนะครับ

หลักๆคือ ไฟแนนซ์ ต้องการกำไรจากดอกเบี้ยในการปล่อยเงินต้นให้กู้
หากผู้กู้ขาดส่งค่างวด ไฟแนนซ์ก็ยึดรถยนต์มาขายทอดตลาด
ไฟแนนซ์เค้าจะมีวิธีคิดคำนวณความเสี่ยงเพื่อไม่ให้ขาดทุนในกรณีต้องยึดรถมาขาย
ซึ่งรถตลาดทั่วๆไปที่ไม่ใช่รถไฟฟ้า สามารถประเมินราคารถมือสองรุ่นนั้นๆที่ร่วงลงแต่ละปีได้
แต่รถไฟฟ้า ราคามือสองตกลงเยอะ และไม่มีความแน่นอนว่าจะขายออกหรือไม่
ถ้าต้องยึดรถมาขาย แล้วขายไม่ออก หรือ ขายได้ราคาต่ำมากๆ ไฟแนนซ์ก็ขาดทุนในการปล่อยกู้รายนั้น

เหมือนที่เพื่อนสมาชิกหลายๆท่าน และ คุณ apinui บอกครับว่า
(เท่าที่ผมอ่านๆมา คุณ apinui มีความรู้และอยู่ในวงการซื้อขายรถครับ)

ไม่มีครับ ...

มีเงื่อนไขเดียว ดาวน์ 50% ครับ กู้ได้ยินดีปล่อยทุกที่ ... แต่ใครจะดาวน์มือสอง 50% ล่ะจริงไหมครับ มันเลยเน่าอยู่ในเต้นท์นั่นไง  ;D ;D

^
^
ใช่ครับ ตอนนี้ถ้าขับไปขายตามเต้นท์หรือไปเทรินตามโชว์รูมเนี่ย แทบไม่มีใครรับเลย เพราะรับมาก็ขายต่อไม่ได้

ตอนนี้ เต้นท์ที่รถ EV ติดมืออยู่ มองกันไปถึงแยกชิ้นส่วนขายอะไหล่กันแล้วนะครับ ถ้าขายเป็นคันไม่ได้ ก็ถอดอะไหล่ขาย ส่งตามอู่ที่เค้าสั่งอะไหล่กับบริษัทฯไม่ได้หรือเบิกช้า

ตอนนี้รถ EV อุบัติเหตุเยอะมาก อะไหล่ไม่มี การแยกส่วนขาย เกิดขึ้นแน่ครับ ขาดทุนน้อย ดีกว่าไม่ได้เงินคืนเลย

คือ ถ้าตลาดมือสองของรถไฟฟ้า ยังไม่ดีและไม่มีความแน่นอนพอที่จะรองรับรถที่ไฟแนนซ์ยึดมาขายได้ ไฟแนนซ์ก็มีความเสี่ยงที่จะขาดทุนถ้าต้องยึดรถมาขาย ไฟแนนซ์จึงไม่ปล่อยกู้ครับ

ที่เปรียบเทียบว่า “เงื่อนไขเดียว ดาวน์ 50% ครับ” ก็แสดงให้เห็นถึง ความเสี่ยงที่ไฟแนนซ์มองไว้ว่า รถไฟฟ้าจะขายได้ยากหรือขายได้ราคาน้อย จึงให้กู้แค่ 50% ของราคารถ เผื่อหากต้องยึดรถมาขาย เมื่อเอาราคาขายทอดตลาดรวมกับค่างวดที่ส่งมาบ้างแล้ว ไฟแนนซ์จะได้ไม่ขาดทุนครับ

ตอนแรกผมเข้าใจว่าถ้าไฟแนนซ์ยึดมาแล้ว เค้าน่าจะส่งฟ้องเอาส่วนต่างจากคนแรกได้อยู่นะครับ


ถูกต้องตามที่คุณ imvile กล่าวครับ
ถ้าเป็นกระบวนการทางกฎหมาย หากยึดรถแล้วยังไม่ครอบคลุมหนี้นั้น ไฟแนนซ์ยังฟ้องในหนี้ที่เหลือได้ครับ
ขอบคุณ คุณ imvile ที่ช่วยเสริมให้ครับ

ผมไปมุ่งตอบเฉพาะในประเด็นว่าทำไมไฟแนนซ์ไม่รับจัด ตามที่เคยได้อ่านได้ฟังมา
ต้องขออภัยที่อธิบายไม่ครบจบกระบวนการครับ

ประเด็นว่า หากไฟแนนซ์ยังฟ้องในหนี้ที่เหลือได้ ทำไมไฟแนนซ์ไม่ปล่อยกู้
ข้างล่างนี่ผมวิเคราะห์+เดาเอานะครับ (ต้องรอผู้รู้มาบอกอีกที)

กระบวนการในการฟ้องคดีในหนี้ที่เหลือ มีขั้นตอนเพิ่มเติมทางศาล มีค่าใช้จ่าย ใช้เวลา และก็ไม่มีความแน่นอนว่าจะได้รับชำระหนี้เต็มจำนวนที่เหลือ ขึ้นอยู่กับตามสืบได้ว่า ณ ขณะนั้นลูกหนี้ตามคำพิพากษามีทรัพย์สินอื่นใดเหลืออยู่อีกหรือไม่ ขายทอดตลาดแล้วเพียงพอกับหนี้หรือไม่

ต่างจากการที่ไฟแนนซ์ยึดรถที่ขอกู้ เพราะรถเป็นกรรมสิทธิ์ของไฟแนนซ์ ผู้กู้เป็นผู้ครอบครอง ไฟแนนซ์สามารถยึดและขายได้โดยใช้เวลาและค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการดำเนินกระบวนการทางศาล

ไฟแนนซ์จึงให้ความสำคัญกับมูลค่าตัวรถหากมีกรณีต้องยึด เป็นหนึ่งในประเด็นในการพิจารณาให้กู้ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 29, 2024, 03:37:08 โดย marvel »



Fragile

สรุปว่าหลักๆ ที่ไฟแนนซ์ไม่รับจัดเพราะกลัวเคสรถพังแล้วคนส่งไม่มีเงินซ่อม พอปล่อยให้ยึด ค่าซ่อมท่วมยอดที่จัด ผมเข้าใจถูกไหมครับ



kiwiwi

คนที่ซื้อไป
1.ซื้อไปเป็นของเล่น อันนี้ไม่น่าห่วง
2.ซื้อเพราะหลงเชื่อ io อันนี้น่าห่วงสุดๆ

เคยเม้นท์บางเพจว่า ญี่ปุ่นไม่ต้องเต้นตามหรอก กว่ารถไฟฟ้าจะเข้ารูปเข้ารอย น่าจะอีกนาน



marvel

สรุปว่าหลักๆ ที่ไฟแนนซ์ไม่รับจัดเพราะกลัวเคสรถพังแล้วคนส่งไม่มีเงินซ่อม พอปล่อยให้ยึด ค่าซ่อมท่วมยอดที่จัด ผมเข้าใจถูกไหมครับ
และกลัวกรณีที่คนส่งไม่มีเงินส่ง แล้วต้องยึดรถมาขาย แล้วขายได้ราคาน้อยกว่าจำนวนหนี้ที่ยังเหลือครับ



oryor

ถ้างั้นก็ซื้อมือหนึ่ง ดาว์นน้อยที่สุดผ่อนนานสุด 84 96 งวดได้ยิ่งดี (ไม่รู้มีเจ้าไหนปล่อยมั้ยนะ)
พอใช้ไปซัก 3-4 ปี อยากขาย ก็ขายเปลี่ยนสัญญา



solo

มีกรณีนี้แล้วครับ ลองไปดูในคลับดอลฟิน มีคนซื้อรุ่นเริ่มต้น ผ่อน 84งวด แม้ว่าจะให้ฟรีไปผ่อนต่อ แต่เหลือตั้ง 80งวดรวมแล้วหนึ่งล้าน ปรากฏว่าไม่มีใครเอา



kiwiwi

ถ้างั้นก็ซื้อมือหนึ่ง ดาว์นน้อยที่สุดผ่อนนานสุด 84 96 งวดได้ยิ่งดี (ไม่รู้มีเจ้าไหนปล่อยมั้ยนะ)
พอใช้ไปซัก 3-4 ปี อยากขาย ก็ขายเปลี่ยนสัญญา
อาจต้องแถมเงินให้เขาไปผ่อนต่อนะ
เคสรถน้ำมันเคยเห็นมาบ้างแล้ว



Bear

สงสัยว่าทำไมไฟแนนซ์ไม่รับจัดครับ

เท่าที่ผมเคยอ่านเคยฟังจากคนที่อยู่ในวงการซื้อขายรถยนต์มือสองนะครับ
ไม่แน่ใจถูกต้องตามนี้หรือไม่ หากไม่ถูกต้อง เพื่อนสมาชิกช่วยแก้ไขให้หน่อยนะครับ

หลักๆคือ ไฟแนนซ์ ต้องการกำไรจากดอกเบี้ยในการปล่อยเงินต้นให้กู้
หากผู้กู้ขาดส่งค่างวด ไฟแนนซ์ก็ยึดรถยนต์มาขายทอดตลาด
ไฟแนนซ์เค้าจะมีวิธีคิดคำนวณความเสี่ยงเพื่อไม่ให้ขาดทุนในกรณีต้องยึดรถมาขาย
ซึ่งรถตลาดทั่วๆไปที่ไม่ใช่รถไฟฟ้า สามารถประเมินราคารถมือสองรุ่นนั้นๆที่ร่วงลงแต่ละปีได้
แต่รถไฟฟ้า ราคามือสองตกลงเยอะ และไม่มีความแน่นอนว่าจะขายออกหรือไม่
ถ้าต้องยึดรถมาขาย แล้วขายไม่ออก หรือ ขายได้ราคาต่ำมากๆ ไฟแนนซ์ก็ขาดทุนในการปล่อยกู้รายนั้น

เหมือนที่เพื่อนสมาชิกหลายๆท่าน และ คุณ apinui บอกครับว่า
(เท่าที่ผมอ่านๆมา คุณ apinui มีความรู้และอยู่ในวงการซื้อขายรถครับ)

ไม่มีครับ ...

มีเงื่อนไขเดียว ดาวน์ 50% ครับ กู้ได้ยินดีปล่อยทุกที่ ... แต่ใครจะดาวน์มือสอง 50% ล่ะจริงไหมครับ มันเลยเน่าอยู่ในเต้นท์นั่นไง  ;D ;D

^
^
ใช่ครับ ตอนนี้ถ้าขับไปขายตามเต้นท์หรือไปเทรินตามโชว์รูมเนี่ย แทบไม่มีใครรับเลย เพราะรับมาก็ขายต่อไม่ได้

ตอนนี้ เต้นท์ที่รถ EV ติดมืออยู่ มองกันไปถึงแยกชิ้นส่วนขายอะไหล่กันแล้วนะครับ ถ้าขายเป็นคันไม่ได้ ก็ถอดอะไหล่ขาย ส่งตามอู่ที่เค้าสั่งอะไหล่กับบริษัทฯไม่ได้หรือเบิกช้า

ตอนนี้รถ EV อุบัติเหตุเยอะมาก อะไหล่ไม่มี การแยกส่วนขาย เกิดขึ้นแน่ครับ ขาดทุนน้อย ดีกว่าไม่ได้เงินคืนเลย

คือ ถ้าตลาดมือสองของรถไฟฟ้า ยังไม่ดีและไม่มีความแน่นอนพอที่จะรองรับรถที่ไฟแนนซ์ยึดมาขายได้ ไฟแนนซ์ก็มีความเสี่ยงที่จะขาดทุนถ้าต้องยึดรถมาขาย ไฟแนนซ์จึงไม่ปล่อยกู้ครับ

ที่เปรียบเทียบว่า “เงื่อนไขเดียว ดาวน์ 50% ครับ” ก็แสดงให้เห็นถึง ความเสี่ยงที่ไฟแนนซ์มองไว้ว่า รถไฟฟ้าจะขายได้ยากหรือขายได้ราคาน้อย จึงให้กู้แค่ 50% ของราคารถ เผื่อหากต้องยึดรถมาขาย เมื่อเอาราคาขายทอดตลาดรวมกับค่างวดที่ส่งมาบ้างแล้ว ไฟแนนซ์จะได้ไม่ขาดทุนครับ

ตอนแรกผมเข้าใจว่าถ้าไฟแนนซ์ยึดมาแล้ว เค้าน่าจะส่งฟ้องเอาส่วนต่างจากคนแรกได้อยู่นะครับ

ขออนุญาติตอบจากประสปการณ์ตรงครับ
ฟ้องเอาส่วนต่างยากครับ ยิ่งสมัยนี้ยิ่งยาก
ผมเป็นคนหนึ่งที่เคยคืนรถให้ไฟแนนซ์เพราะไปต่อไม่ไหวจริงๆ โดนพิษ ศก.
หากไม่สุดทางจริงๆ ผมไม่ปล่อยรถไปแน่ๆครับ เพราะผมรักรถมาก
1. คนที่คืนรถ หรือโดนยึดส่วนมากหมดทางไปแล้วครับ ไม่เหลืออะไรให้สืบยึด หรือไม่มีจะมาจ่ายส่วนต่าง
    *จากที่สังเกตุวันที่ไปศาล
2. หากเราคืนรถโดยไม่ผิดสัญญา (ไม่ค้างชำระ) เหมือนจะไม่สามารถฟ้องเอาส่วนต่างได้ครับ สามารถสู้คดีได้เลยที่ศาล
    *ข้อนี้ผมไม่แน่ใจเท่าไหร่ครับ ทนายที่บริษัทเคยแนะนำมา แต่ผมค้างชำระไปมากแล้ว