จากการแถลงข่าวของ Volvo Thailand มีคำถามอยากทราบความเห็นครับ

thanawanch

สวัสดีครับสมาชิก

ผมเป็นเจ้าของ Volvo XC60 Recharge ปี2022 อยู่ครับ

เมื่อวานได้อ่านโพสต์สรุปการแถลงข่าวของ Volvo Thailand เกี่ยวกับภาพรวมการขายรถในปีที่ผ่านมา และแนวทางการขายรถในปีนี้


ก็เกิดคำถามต่างๆขึ้นมากมายเลย อยากทราบความเห็นของเพือนสมาชิก

1. ยอดขายรถ EV ของวอลโว่ประเทศไทย คิดเป็น ร้อยละ 80 ของยอดขายทั้งหมด ซึ่งถือว่ามหาศาลมากๆ
และดูท่าว่าวอลโว่ประเทศไทยเองจะ support การเติบโตของรถ EV สุดลิ่มทิ่มประตู สวนทางกับกระแสโลกที่ยอด EVเริ่มลด และหันกลับไปทาง PHEV

ราคารถยนต์ EV นั้นดั๊มพ์กันลงมาเต็มที่เลย อย่างเจ้า EX30 นั้นราคาป้ายแดงก็อัดส่วนลดกัน 300,000++  ตัวCore Single Motor เหลือ 1.3 นิดๆ
EX40 Twin ก็ได้กันอยู่ที่สองล้านนิดๆ จากเดิมล่อๆไป 2 ล้านปลายๆ

คิดว่าโครงสร้างราคารถ BEV และ PHEV ของวอลโว่จะมีการขยับอย่างไรในช่วงต่อจากนี้ครับ?
และแน่นอนว่า เมื่อโครงสร้างราคารถ Premium Brand  (แม้จะเป็นแบรนด์รอง) อย่างวอลโว่ปรับตัวลงมา
คิดว่าจะมีผลต่อแบรนด์ยุโรปอื่นๆในตลาดไทยหรือไม่ครับ?


2. การเปิดตัว EX90 ที่ราคา 4.2 ล้าน พร้อมสีตัวถังแค่2สีนั้น ผมในฐานะแฟนวอลโว่ รู้สึกว่า "บ้าไปเลย"
กับป้าย plate Made in China แล้วราคา 4.2 ทำใจไม่ได้จริงๆ  ซึ่งผมคิดว่า EX90 น่าจะมีแคมเปญ ลดครึ่งล้านภายในปีนี้แหละ
และถ้าเป็นเช่นนั้น คิดว่า XC90 PHEV ตัว Big Facelift ที่น่าจะมาพร้อมเครื่อง T8 จะตั้งราคาอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ครับ?

3. สำหรับประเทศไทย Volvo ยังคงเป็น Premium Brand underrate อยู่ไหมครับ ถามจริงๆ

4. คิดว่าราคาขายต่อของ Volvo เครื่อง T8 PHEV จะเป็นอย่างไรต่อจากนี้ครับ?

5. รถของผม Volvo XC60 2022 มี VPSP5ปี ตอนนี้ไมล์วิ่งไป 23,000 กิโลเมตรครับ คิดว่าควรชิงขายก่อนจะหมด VPSP และก่อนที่จะเปิดตัว EX60 จะได้ราคาดีกว่าทู่ซี้ใช้ไปเรื่อยๆไหมครับ?
หรือคิดว่ากระแส PHEV ในตลาดโลกจะทำให้ภาพรวมราคามือสองรถ PHEV คงที่หรือไม่เปลี่ยนแปลงมากครับ?

รบกวนขอความเห็นครับ




Nut Announcer

ขอตอบ ข้อ 3 - 5 นะครับ

3. สำหรับประเทศไทย Volvo ยังคงเป็น Premium Brand underrate อยู่ไหมครับ ถามจริงๆ

--------- ยังเป็นอยู่ครับ ภาพลักษณ์ไม่ได้เสีย รถยุโรป คือ รถยุโรปครับ คนก็ยังมองแบบนั้น

4. คิดว่าราคาขายต่อของ Volvo เครื่อง T8 PHEV จะเป็นอย่างไรต่อจากนี้ครับ?

--------  แบรนด์นี้ราคาตกหนักตั้งแต่ออกจากศูนย์มาแล้วครับ ปีเดียวแทบจะหายเป็นล้านแล้วครับ เวลาจะเล่น ควรเล่นพวกรถตัดขาย หลังบ้าน รถหลายแสน ประกัน VPSP เดินไปหน่อย แต่ประหยัดกว่าครับ 

5. รถของผม Volvo XC60 2022 มี VPSP5ปี ตอนนี้ไมล์วิ่งไป 23,000 กิโลเมตรครับ คิดว่าควรชิงขายก่อนจะหมด VPSP และก่อนที่จะเปิดตัว EX60 จะได้ราคาดีกว่าทู่ซี้ใช้ไปเรื่อยๆไหมครับ?
หรือคิดว่ากระแส PHEV ในตลาดโลกจะทำให้ภาพรวมราคามือสองรถ PHEV คงที่หรือไม่เปลี่ยนแปลงมากครับ?

---------------  คุณลองไปดูราคามือสองในตลาดดูได้ครับ รุ่นคุณ แล้วคุณจะตกใจ  ส่วนภาพรวมตลาดโลก PHEV ยังไม่ไปไหน กำลังจะขึ้นมาแทนที่ EV ครับ เพียงแต่ ราคามือสอง มันตก เพราะ ระบบ Hybrid มันซ่อมแพง ครับ คนก็ยังไม่นิยมซื้อมือสองอยู่ดีครับ



เนื้อน่องไม่หนัง

1- ช่วงปีที่ผ่านมา volvo เปิดตัว Ex40, EC40, EX30 ไม่ได้เปิดตัวรุ่นกลาง/ใหญ่เลย
ยอดขายปี 2022 xc40 (t5+bev) และ c40 สามรุ่นรวมกันก็ 50%แล้วครับ
ถ้ามองว่าการที่มี EX30 มาเสริม ซึ่งเป็นรุ่นที่เข้าถึงง่ายที่สุด และเป็นช่วงปลายอายุของกลุ่ม 60/90 คิดว่าสัดส่วนยอดขายที่สะท้อนออกมาก็ค่อนข้างสมเหตุสมผลครับ
ตัวแบรนเองก็ปรับแผนการขายจากที่บอกว่าจะขายแต่ BEV ภายใน 2030 ออกไปแล้ว คิดว่า volvo น่าจะลากขาย phev รุ่นเดิมต่อไป แต่ใช้การเพิ่ม BEV อย่าง EX90 มาเสริมครับ

2- ราคาขาย EX90 อาจรอดูสักระยะครับ เขาไม่ได้มองว่า Made In China แล้วต้องขายถูกลง ไม่งั้นจะกระทบกับ LineUpของ PHEV ที่ภาษีคนะละเรท มันเปนสิ่งที่ Mercedes/BMW ก็เจอปัญหาเดียวกัน ต่างจาก แบรน ที่ขายแต่ BEV
แต่ตามสไตล์ Volvo มีส่วนลดมาเรื่อยๆอยู๋แล้ว เพื่อนผมเคยได้ XC90 T8 ล๊อต 3.7 ล้านมา T8 facelife ไม่คิดว่าราคาจะต่างจากเดิมครับอาจปรับ่สวนลดเอามากกว่า

3- ผมเชื่อว่าคัวแบรนเองละคนส่วนใหญ่ มองว่า Volvo ไม่ได้ Luxury/Premium เทียบกับ BMW / Mercedes ครับ แต่ในรุ่นปัจจุบันผมคิดว่า Volvo โดน underrate อยู่ครับ เป็น PHEV ที่ปัญหาน้อยแล้วครับ

4- Volvo ราคาตกอยู่แล้วครับ แต่ราคาซื้อก็ถูกกว่า BMW / Mercedes ถ้าเทียบตอนขายต่อ สัดส่วนราคาที่หายไปสูงกว่า แต่จำนวนเงินที่หายไปอาจไม่ต่างมากครับ
พอเป็น PHEV เละแน่นอนครับ เบนซิล/ดีเซลล้วน ราคาดีกว่า PHEV เยอะครับ

5- รถ Hybrid ถ้าไม่ Mass แบบ Camry/Prius ที่มีอู่ซ่อมเฉพาะ มีอะไหล่เทียบ ผมว่ายังไงราคาลงเรื่อยๆครับ
คนซื้อต่อไปก็กังวลเรื่องแบตและระบบ Hybrid ขายมือสองเหลือ 25% แต่อะไหล่ ราคาเต็มครับ
ถ้าโอเคกับราคาขายต่อก็น่าสนใจครับ ถ้าไม่โอเคก็ใช้ต่อไปดูแลตามสมควรครับ



XMSL

ผมมองว่าก็เครือ Geely Lynx & Co ที่ทำต้นทุนได้เปรียบค่ายอื่นๆ แต่ก็มีแบรนด์ลูกในแต่ละ position ตัว Volvo เองมีตลาดทั่วโลกโดย EX90 มีชื่อชั้นเรื่องความปลอดภัยในระดับที่สุดในโลก เดาว่าเขาไม่ลงมาเล่นเรื่องราคาแบบตลาด EV แบรนด์จีนนะ



Odrecranon

1. ผมว่าอัตราส่วน เป็นไปตามราคาขายของรถ ถ้า XC40 ยังมี PHEV อาจขายได้พอ ๆ กับ EX40 ก็ได้ครับ

2. ตัวรถวางเป็น Flagship ยังไงก็ต้องตั้งราคาแบบนี้ เป๋นภาพลักษณ์ brand เหมือนราคากระเป๋าแบนด์เนม พอจุดนึง demand หมด ก็จะลดเป็นปกติ แต่อาจสัก 2 ปี เพราะ  Volvo ไม่น่าเน้นขาย EX90 เท่าไหร่ XC90 มาผมว่าราคาเดิมกับตอนครับ Volvo วาง gap ราคาไว้แล้ว ให้ EX90 อยู่บนสุด

3. ผมเองใช้ Volvo มา 3 คัน ไม่ได้คิดว่ามันแตะระดับ luxury ผมให้อยู่ระดับ High street พอ ๆ กับ DS ของ Citroen

4. ราคาขายต่อ ไม่ใช่สิ่งที่คนซื้อ Volvo ให้ความสำคัญ เพราะมันราคาตกสุดในรถราคาใกล้ ๆ กัน ยิ่ง PHEV ที่ยังไง แบตเตอรี่จะต้องเป็นปัญหาแน่ ๆ ขาดถ้า Toyota ขาย PHEV ผมเอง ก็ยังไม่กล้าซื้อมือสอง

5. ผมคงเก็บ T8 ไว้จนกว่าค่าซ่อม จะไม่คุ้มขายต่อ มันไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่ผมรู้สึกสบายใจที่ได้ขับมัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 07, 2025, 14:38:41 โดย Odrecranon »



kiwiwi

นึกว่ามีผมเป็นคนเดียวซะอีก ประเภทที่ว่าต่อให้พร้อมซื้อ แต่พอเจอคนไซโคว่าที่จีนราคาเท่านั้นนะ เท่านี้นะ ก็รู้สึกเสียดายเงินขึ้นมาดื้อๆ
อย่างอัลพาร์ด ราคาญี่ปุ่นเท่าไหร่ เข้ามาขายไทยเพราะภาษีเท่าไหร่ อันนี้รับได้อยู่ เพราะคนซื้อทุกคนโดนเหมือนกันหมด

แต่กับ plate made in china เอาเข้ามาเท่าไหร่ รู้ๆกันอยู่ แต่จั้งราคาขายชนิดที่คูณ 2 เข้าไป

อย่าง mini aceman ก็ใช่ อยากได้ แต่คิดแล้วคิดอีกเลย



nobody123

2. ผมนึกว่ามีผมงงคนเดียว ตอนราคาออก ผมก็เขียนไปเลย 'แพงไป'
แต่มาพบที่หลังว่า มันเป็นรถขับเคลื่อนด้วยตัวเองระดับ 3 ที่ Mass product
คือ มันต่างกับรถเราในปัจจุบัน ที่ เราต้องจับพวงมาลัยเป็นระยะ ยกเว้นรถเอื่อย ๆ ปล่อยพวงมาลัยได้
EX90 ปรับระดับ Automation ขึ้นจากรถเราไปอีก 1 ระดับ ครับ



Dr.Jones

 :P

ส่วนตัวใช้ Volvo มา สมัยที่บูมๆ
สมัยนั้น เลี้ยวเช้าๆ รร. เตรียมฯ ใหญ่ มีแต่ 940 GT มาส่งน้องๆ

เวลาล่วงมาถึงวันนี้ ซื้อ Benz แบบที่ไม่มี PHEV จะง่ายกว่าไหมละครับ
ไม่สนับสนุนรถญี่ปุ่นเจ้าตลาดและรถเยอรมันมวยรอง
--ทุกรุ่น,ทุกคัน,ทุกโปรโมชั่น,ทุกกรณี--



axister

1. เรื่องยอดขาย bev ผมว่ามันเป็นทิศทางของ brand มากกว่าที่ไปเน้น sustainbility เลยทำแต่ bev model มา serve ปีนี้ ไม่ได้ดัน phev diesel แล้ว stats มันเลยออกมาเป็น bev 80% ซึ่งเทียบเค้กก้อนใหญ่ใน brand premium แล้ว จิ๋วมากครับ

refer จาก pr ของ volvo เอง ปี 2024 market share รถ premium แค่ 2.4% ถึงจะขึ้นมากจาก 1.7% ปี 2023 เพราะกระแส fomo ของ bev YoY เหมือนจะโต แต่ช้ามากครับสำหรับคนที่ทันกระแส

เรื่องราคาผมมั่นใจว่า ตัว mass อย่าง รหัส 30-40-60 ต้องลงแน่นอนครับถ้าออก bev แต่เกรงว่า 60 จะถูกพับไปไกล เพราะในตลาดหลักอย่างยุโรป diesel ยังเป็นที่ถวิลหาครับ คงต้องรอดู feedback es90 ซึ่งน่าจะไม่ดีแน่ๆ ถ้าคู่แข่งจีนทำราคามาเท่าๆกันแล้วไม่โดนกีดกันทางภาษีหนักเกินไป เพราะแค่ tesla ก็แย่งเค้ก 90% ของ volvo ไปแล้ว เอาของมาระบายฝั่ง SEA ยังไงก็ต้องลดราคาครับ

ส่วนเรื่องกระทบ eu brands อื่นๆมั้ย ผมว่าไม่ ทั้ง bmw/audi/merc ที่เป็น direct competitors ยังคงเน้นขาย ICE ควบ pHEV เป็นหลัก รวมถึงฐานลูกค้ายังเป็นคนแก่ ยังชินกับของเดิมๆมากกว่า เค้าไม่สนใจหรอกครับ แค่ยอดจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด

ถึงจะมี divison electric ล้วนขึ้นมา ก็ดูจะจริงจังแค่ bmw ที่เหลือเหมือนมีในตลาดให้พอแข่งขัน bmw ก็ชะลอตัว ควบรวมรหัส n กับ g ใช้ art direction เดียวกันแล้ว audi เองก็มีเรื่องแก้ไม่จบของ bev ที่ออกมา benz ไม่ต้องพูดถึงไม่ลงทุนอะไรเลยยันออกแบบ แค่จับมาเปลี่ยนไส้ ตั้งแต่ eq ยัน maybach ยิ่งในไทย benz หวังฟันแต่กำไร ไม่สนราคาทุนเลยครับ

2. อันนี้ผมมองว่าธรรมดา รถ premium ในไทยใช้การตลาดแบบนี้ตลอด คือเปิดตัวให้แพงทะลุฟ้า แล้วก็มี benefits upto 15% ไปยำๆกันหลังบ้าน ต้องยอมรับว่า consumer behavior บ้านเราสนใจแค่ price tag ครับ ไม่ต้องไปในไกล ขนาดในบอร์ดนี้ที่ชื่นชอบรถ ยังชอบเทียบ camry vs gla เพียงเพราะราคามันใกล้กัน ทั้งที่รถ 2 คันนี้ต่างกันสุดขั้ว แต่ที่อึ้งคือวัสดุภายในเป็น recycle หมด จาก minimal luxury ตอนนี้มันเหมือนพยายามเป็นงานประกวดเอาขยะมาตกแต่งให้สวยงาม ผิวสัมผัสหลายๆอันแย่มาก แถมระยะยาวการดูแลพื้นผิวพวกนี้แตกต่างจาก interior รถในยุคปัจจุบันไม่รู้นานวันจะเป็นยังไง

3. ส่วนตัวผมมองว่าใช่ครับ แต่ไม่ใช่เพราะ product เป็นเพราะความนิยมที่น้อย แล้วก็ตัวชูหรูมันไม่มี แบบพวก coupe อะไรที่รวยๆซื้อแล้วแตกต่าง เลยทำให้การตั้งราคาที่สมเหตุสมผลของเค้าในอดีตเป็นตัวกดว่าเค้า underrate เอง

4. เหมือนเดิมครับ น้อยยังไงก็น้อยอย่างนั้น เพราะเหตุผลข้อ 3

5. ผมมองว่า bev จะหมด fomo แล้วครับ ตอนนี้คนจะกลับมามองหาเหตุผลมากกว่า ICE/pHEV มือ 2 จะยังคงรันราคาได้ดีอยู่ ตอนนี้ bev เองเหมือนระเบิดเวลา กลุ่มแรกเริ่มใช้มา 2-3 ปี ยังไม่ถึงช่วงเคลมแบตกัน กลุ่มมือสองมองเรื่องราคาความคุ้มค่าเป็นหลัก ยังไง phev ก็ตอบโจทย์ที่สุด ถ้าวันที่เคลมแบตมากันคนจะ panic กับ bev มากกว่านี้รวมถึง tech ใหม่ๆที่ออกมาจะทำให้ระยะทางเพิ่ม ราคาลดลง bev มือ 2 จะไม่ถูกมองเป็นตัวเลือกที่ดีเลยนอกจากแบรนด์จะ strong จริงๆแบบ tesla

ถ้าเป็นผมใช้ต่อครับ นอกจากมีรถที่อยากได้จริงๆ ค่อยเปลี่ยน ส่วนตัวผมไป bev 100% แล้วเพราะชอบที่มันจอดรถนอนได้ แต่วันที่ EREV แบตใหญ่ของจีนมา ผมก็อาจจะกลับไปใช้ hybrid ครับ ทุกวันนี้ lifestyle ไม่มีปัญหากับการชาร์จ แต่ต้องยอมรับว่าออกต่างจังหวัด ปั้มไฟมันไม่พอจริงๆ รอนานได้ แต่รอให้ว่างผมว่าไม่เวิคแน่ๆ ถ้าใน 3 ปีนี้ปั้มไฟมันขึ้นมาเยอะๆ ผมคงไม่กลับไปรถ hev แล้ว แต่ถ้าประเมินจากปัจจุบัน ผมยังแนะนำให้คนส่วนใหญ่ไป hev ดีกว่าครับไม่ว่าจะเป็น hev, erev หรือ phev ก็ได้หมดเลย



wesborland

มุมมองผม

volvo thailand ก็อยากขายรถ EV อยู่แล้ว เพราะเป็นของใหม่ ต้นทุนจากจีนเองก้น่าจะดี บริษัทแม่ก็มีของออกใหม่มาขายเรื่อยๆ
PHEV ซับซ็อนกว่า แถมสินค้าก็เก่ากึ๊ก ล้าสมัยไปแล้ว มาวนยำขาย ขายได้ก็ดีใจ

ถ้ามองเรื่องการตลาดก็ถือว่าสำเร็จพอสมควร

เรื่องราคา กลุ่ม 60,90 ส่วนตัวคิดว่าแพงไป ถ้าทุกสินค้าลดลงมาได้อีก20-30% น่าจะตอบโจทย์ได้หลายโจทย์เลย
ยิ่งพวก PHEV ราคามันไปชนเจ้าตลาดฝั่งเยอรมัน คนซื้อต้องรักแบรนด์มากๆ ถึงจะยอมจ่าย

พวกตัวล่างๆ secment 30,40 ผมว่าถ้าราคาย่อลงมาอีกสัก2-3แสน น่าจะขายระเบียดเถิดเทียง