ทำไม Android Auto ถึงไม่ค่อยทำไร้สาย

wesborland

ทำไม Android Auto ถึงไม่ค่อยทำไร้สาย
« เมื่อ: ตุลาคม 16, 2025, 13:29:05 »
เห็นรถหลายๆรุ่นเลยในปัจจุบัน เขียนมาว่า รองรับ wireless apple carplay และ android auto(แบบเสียบสาย)

ยกเว้น Honda ที่ไร้สายได้ทั้งสองค่าย

อะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้ android ไร้สาย จึงทำไม่ได้ หรือพัฒนาช้ากว่าครับ



The Mechanics of Emotions

Re: ทำไม Android Auto ถึงไม่ค่อยทำไร้สาย
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ตุลาคม 16, 2025, 18:12:15 »
ไม่แน่ใจเหมือนกันนะ รถผมซื้อกล่อง Interface ให้ใช้ AA, Carplay กับระบบจอ infotainment เดิมของรถก็สามารถไร้สายได้ทั้งสองระบบนะครับ

ไปหาข้อมูลมาเค้าว่าระบบรถต้องเป็น wifi 5GHz และความเข้ากันได้ของอุปกรณ์ แอนดรอยมีอุปกรณ์มากกว่าเยอะมากๆ ทำให้การทำเทสทั้งหมดเป็นไปได้ยาก
2010 BMW 325i M Sport
2016 Mazda CX-5 2.0S



helloweentz

Re: ทำไม Android Auto ถึงไม่ค่อยทำไร้สาย
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ตุลาคม 16, 2025, 21:04:52 »
android auto

โทรศัพท์มีหลายรุ่น หลายราคา  ดังนั้นเสียบสาย รองรับเยอะสุด  :-X
BRV 2016
Mileage :  173,583
รายการซ่อม :
เกียร์
แอร์
โช๊คหลัง
ลูกยางยึดท่อ
เพลาขับ



Tien.W

Re: ทำไม Android Auto ถึงไม่ค่อยทำไร้สาย
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ตุลาคม 16, 2025, 21:34:53 »
CR-V ยังกั๊กนะ Android Auto มาแบบเสียบสาย ถ้าจะไร้สาย ต้องเข้าเมนูลับ ไปปลดเอง



Boattamon

Re: ทำไม Android Auto ถึงไม่ค่อยทำไร้สาย
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ตุลาคม 17, 2025, 10:02:09 »
เดาว่า (เดานะครับ) จากที่ใช้ andriod อย่างเดียว ไม่แตะ IOS เลย

น่าจะมาจาการที่ระบบ andriod มันมีหลายเวอร์ชั่น หลายยี่ห้อ

แต่ละยี่ห้อก็มีพื้นฐานต่างกัน ไปปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ระบบเป็นของตัวเอง หรือ"ครอบทับ" ไปอีกที

มันเลยคงจับจุดยาก ว่าจะให้รุ่นไหน เวอร์ชั่นไหน ยี่ห้อไหน ใช้ได้ไม่ได้ คงยุ่งยากน่าดู

ซึ่งกลับกันกับ IOS ที่ไม่ได้เป็นแบบนั้น



DiKiBoyZ

Re: ทำไม Android Auto ถึงไม่ค่อยทำไร้สาย
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ตุลาคม 17, 2025, 10:42:43 »
ผมทำงานสาย IT

แต่ยังหาข้อมูลเชิงลึกไม่ได้

แต่ถ้าโดยสมมุติฐาน ของผมเอง

เนื่องจาก มือถือ Andriod
- มีหลากหลายยี่ห้อ
- มีหลายหลายสเปคและฮาร์ดแวร์ต่างกัน
- ขีดความสามารถไม่เท่ากัน
- เวอร์ชั่น Bluetooth/Wifi ก็ไม่เท่ากัน (ทำให้เกิดอาการหน่วงได้)

เอาง่ายๆ แค่ Bluetooth เวอร์ชั่น กับ Bluetooth เวอร์ชั่น 5 ต่อหูฟัง หรือ ต่อฟังเพลงในรถ ยังมีการต่างกันเลย ถ้าใช้เครื่อง Andriod ตัวล่างๆ หรือ ถูกๆ นี่ก็คงเดี๋ยวค้าง เดี๋ยว lag เดี๋ยว delay มันจะกลายเป็นว่า คนจะบ่นแทนนะ

แต่ส่วนของ Apple หรือ IOS เขาอยู่ในสถาปัตยกรรมแบบปิด คุมทุกอย่างได้ เขาสามารถกำหนดหรือควบคุมสภาพแวดล้อม และ การใช้งานได้ รวมถึงการประเมินการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นได้หมด ดังนั้น ผลลัพธ์ที่เขาคาดหวัง มันจะแคบ หรือ กำหนดได้ ค่อนข้างดีมาก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 17, 2025, 15:17:22 โดย DiKiBoyZ »



hydra02

Re: ทำไม Android Auto ถึงไม่ค่อยทำไร้สาย
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ตุลาคม 17, 2025, 10:42:52 »
ส่วนตัวผม พอดีคันปัจจุบัน รถญี่ปุ่น มีแบบไร้สาย ให้นะครับ

แต่จะบอกข้อเสียหลักๆ ที่ใช้มาเลยคือ

Android auto จะบังคับเปิด gps บนเครื่องตลอดเวลา เพราะมีการใช้ Google map ซึ่งจะส่งผลให้ มือถือที่เชื่อมต่อ มีการใช้งานตลอด แบตจะลดมากกว่าปกติ และร้อนกว่าปกติครับ



romeokk

Re: ทำไม Android Auto ถึงไม่ค่อยทำไร้สาย
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ตุลาคม 17, 2025, 13:32:58 »
มันมีประเด็นอยู่ประมาณนี้ครับ
1. Wireless Android Auto มีให้ใช้ครั้งแรกปี 2018 บน Google Pixel แต่กว่าจะเปิดให้มือถือทุกรุ่นใช้ได้จริงๆ ก็ปี 2020 นู่นเลย โดยมีเงื่อนไขว่าต้องเป็น Android 11 และมี Wifi 5GHz
2. ปี 2022 ผู้ใช้ Android ครึ่งนึง ยังใช้ version 10 ลงไปอยู่เลย
3. ด้วยความที่ Hardware รถยนต์ไม่ได้อัพเดทกันบ่อยๆ แถมยังไม่ได้ซื้ออุปกรณ์ Infotainment รุ่นใหม่ล่าสุดมาใช้ในปีที่วางขายรถ การ adoption ของ Wireless Android Auto ก็เลยค่อนข้างช้ามาก แล้วทำเร็วไป ค่ายรถก็ปวดหัวเอง เพราะมันจะมีคนที่ใช้สายได้ แต่ใช้ไร้สายไม่ได้ ปนกันอยู่เยอะไปหมด
4. ขนาด Wireless Apple Carplay ที่ออกมาเมื่อปี 2015 แถมใช้ใน iPhone ได้ทุกรุ่นที่อัพ iOS 8.3 ได้ด้วย กว่าค่ายรถญี่ปุ่นจะใส่ Wireless Apple Carplay กันจริงจัง ยังหลังปี 2020 ไปแล้วนู่นเลยครับ



bravo

Re: ทำไม Android Auto ถึงไม่ค่อยทำไร้สาย
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ตุลาคม 17, 2025, 14:54:51 »
CR-V ยังกั๊กนะ Android Auto มาแบบเสียบสาย ถ้าจะไร้สาย ต้องเข้าเมนูลับ ไปปลดเอง

HR-V eHev ปลดได้มั๊ยครับ



renew

Re: ทำไม Android Auto ถึงไม่ค่อยทำไร้สาย
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ตุลาคม 17, 2025, 16:13:43 »
แล้วการเสียบสายปัญหาที่เจอคือ สัญญาณหลุด เปลี่ยนสายมาหลายเส้น ทั้งแพง ทังถูก หลุดเหมือนกัน

ของแพงแค่โอกาสน้อยกว่า หลายๆคนเจอเหมือนกัน ถ้าใร้สายใด้ จะดีมาก อิจฉา apple



axister

Re: ทำไม Android Auto ถึงไม่ค่อยทำไร้สาย
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ตุลาคม 17, 2025, 20:51:41 »
ลึกสุดๆเลยนะครับ android มันแยกย่อยหลายรุ่นมาก ถึง OS จะเกิดมาจากอันเดียว แต่ในตัวที่ถูกบางทีจะใช้รุ่นที่เก่ากว่า เหมือนที่เราเคยได้ยินว่า XXXX OS พัฒนาบนระบบ android 13 14 15 16 นั่นคือ android เหมือนกันแต่ไส้ในลึกๆ มันมีการเปลี่ยนแล้วครับ ทีนี้ software ของ android auto จึงต้อง optimise ให้มันเข้ากับ os ของแต่ละค่าย แต่ละเครื่อง เพราะอย่าง samsung เหมือนกัน s series a series บางทีก็ครอบมาคนละโมเดลกันนะครับทั้งที่เป็น oneui version เดียวกัน

ทีนี้ software รถเลยต้องขึ้นอยู่กับ version ของ OS ในรถเช่นกัน ส่วนมากจะมีตัวแปลงที่รับ carplay/androidauto เข้ามาเปิดบนรถเป็นเหมือนกล่อง gateway อันนึง ถ้าเก่ามากๆ หรือไม่ทำมา compatible กับ version ใหม่ๆ พวกตัวสื่อสาร bluetooth wifi จะกระทบหมดเลยครับ เพราะตัว pure android รุ่นเก่ามากๆ อาจจะไม่ได้พัฒนาเผื่อ version wifi ใหม่ ทำให้การส่งข้อมูลผ่าน wifi ก็จะไม่พอที่จะสั่งงานไปถึง software รถ เลยทำให้ต้องเสียบสาย ถ้าสังเกตุดีๆ ตัวรถมักจะเชื่อมทั้ง bluetooth และ wifi เพราะใช้ส่งข้อมูลหารถด้วย bluetooth เพียงอย่างเดียวไม่พอครับ อีกทั้งยิ่งรถรุ่นเก่าๆ จะมีดีเลค่อนข้างเยอะเวลากดเปลี่ยนเพลง หรืออย่างร้าย มือถือก็จะร้อนมากเพราะพยายามจะส่งข้อมูลไป โดยเฉพาะเวลาเปิด map นั่นแปลว่า modem android รุ่นนั้นทำหน้าที่หนักอยู่

ถ้าใครเล่นเกมจะเก็ทสุดๆคือ บางเกมที่เค้าเปิดได้ 120fps แต่รุ่นเรือธงอาจจะเปิดได้แค่ 60 อย่าง ROV s25ultra เปิดได้ 60fps แต่ s23 กลับเปิดได้ 120fps เพราะเกิดมานานแล้วเค้าเลยได้ optimise ก่อน หรือบางทีมือถือเล่นเกมไม่กี่พันก็ดันเปิดได้ 120fps เฉย เพราะเค้าตั้งใจทำมาเล่นเกมโดยเฉพาะ app เลยมา optimise ก่อนเพราะเป็น partner กับค่ายเกมก็มีครับ

ต่างกับ apple ที่เป็นระบบปิด เวลาพัฒนาคือยกเครื่องไปทุก device ตัวไหนหยุดแล้วก็ยังได้พวก infra ของเก่าอยู่แบบครบ นอกจากจะไม่เคยมีในระบบแล้ว update มาทีหลังถึงอาจจะไม่ได้ เช่น iphone 0.5 เสียบสายได้อย่างเดียว พอวันที่ wireless มาก็อาจจะใช้ไม่ได้ถ้า hardware ไม่แข็งแรงพอจะให้ไป wireless