ลองทำตารางเปรียบเทียบมาดูครับ
ต้องขออนุญาติ ตัด ยอดขายเกรย์ออก กับกลุ่มรถหรูๆ ออกนะครับ
ดังนั้นหลังจาก 10 อันดับแรก จะข้ามไปที่ 13 คือ Chery ไปจนถึง
ที่ 15 ซึ่ง Suzuki รั้งท้าย ในกลุ่มรถตลาดทั่วๆ ไป ในตอนนี้
Toyota มีรถรุ่นใหม่ เปิดตัวเป็นหัวหอกในคราวนี้ก็คือ Prius
ส่วน Corolla เองก็ยังคงได้กระแสที่ดี ช่วยดันอยู่อย่างต่อเนื่อง จนกลาย
เป็นรถที่มีกระแสชมปากต่อปากมากที่สุดในเวลานี้ (สำหรับผมนะ)
ส่วนรถเวอร์ชั่นพิเศษที่เพิ่งตัว 1 รุ่นคือ Avanza สีขาว ซึ่งที่จริงก็ต้องมี
Sportivo III เป็นตัวยืนสำคัญด้วย แต่เนื่องจากเปิดตัวมาซักพักจนมีรถวิ่ง
กันอยู่ทั่วไปในท้องถนนแล้ว เลยไม่ได้รวมเป็นจุดแกร่งอยู่ในตารางด้วย
ว่าแต่ Avanza สีขาว มันจะทำให้ขายดีขึ้นซักแค่ไหนกันฟระ ดังนั้นจุดเด่น
ทั้งหมดของ Toyota จึงอยู่ที่ Prius อย่างแท้จริง
Honda ปีนี้ มีการใช้วิธี Eco car impact มาอีกเช่นเคย คือมีรถตัวอย่างมา
ยั่วน้ำลาย Accord minor change ได้กระแสแบบว่าเงียบพอสมควร ตัว
โฆษณาออกมาบ่อยดี แต่เพลงประกอบตลกมากกกก (ไม่รู้จะมีใครเห็นด้วยรึเปล่า)
ออกมาทีไร ผมอดทำเสียงล้อเลียนและขำกับเพลงประกอบไม่ได้ ถ้าลบเสียงดนตรี
ออกไป ตัวโฆษณาเองก็ทำได้โอเค พอประมาณแหล่ะครับ Honda เค้าเก่งอยู่แล้ว
ยอดขาย Honda แซง Isuzu ,มาได้เยอะพอสมควร ปกติ ผมจะมองคู่ Honda+Isuzu=ยอด
ของ Toyota เสมอ ถ้าคู่นี้รวมบริษัทกันได้ ก็จะมีค่ายรถที่มี segment เก๋ง กับ กระบะที่แข็ง
แกร่งทั้งคู่ สู้กับ Toyota ได้สมน้ำสมเนื้อ (อันนี้คิดเล่นๆ เองครับ)
Nissan เอง March ยังคงเป็น Eco car impact ที่แข็งแกร่งอยู่ต่อไป ตามหลัง Honda อยู่
300 กว่าคัน ถ้า segment ของ Tiida มีความแข็งแกร่งกว่านี้ Honda ก็มีเสียวเหมือนกัน
ซึ่งสำหรับ Nissan ผมชักไม่แน่ใจแล้วว่า ค่ายนี้ ขายไม่ดีเอง หรือ กำลังผลิตไม่พอขาย
เพราะถ้าไม่นับ Tiida ตัว Navara เองก็นับว่าเป็นกระบะที่ฮิตอยู่เหมือนกัน ยิ่งตัว 4x2 ยิ่งฮิต
เพราะถูก แถมไม่เตี้ย ส่วน 4x4 สูงกว่า 4x2 นิดเดียวเอง ถ้าบริหารดีๆ บวกกับ มีกำลังการ
ผลิตที่มากกว่านี้ และยังมีนิวโมเดลอีกหลายตัวเหลือเกินที่จะเข้ามา จะสอย Honda กับ
Isuzu ลงมาแล้วขึ้นเป็นอันดับที่ 2 ได้รึเปล่า อันนี้น่าคิด
Mazda เจ๋งแฮะ BT-50 ไม่แจ่ม ไม่หล่อ ทำให้กระบะของ Mazda ไม่ work และไม่ใช่ตัวชู
ยอดขาย แต่ ตัวเลขที่น่าประทับใจ จนเกือบได้เท่าๆ กับ Nissan นี่มันคืออะไร !!!!? ถ้าไม่ใช่
คู่หู Mazda 2 ทั้งรุ่น Hatchback และรุ่น sedan ตัว Mazda เองแม้จะไม่มีพลัง Eco car impact
แต่เห็นตัวเลข ณ ขณะนี้แล้ว ถ้า All-new Mazda 3 มาเมื่อไหร่ Honda, Toyota ก็หนาวๆ ร้อนๆ
ได้อีกเช่นกัน
Mitsubishi ท่าทางจะขายได้แต่กระบะ Triton กับ Pajero Sport ได้อย่างเดียวต่อไป รอแต่ก็
Eco car impact ในอีก 2 ปีข้างหน้า เช่นเดียวกับคู่ Honda+Isuzu ถ้า Mazda จับคู่กับ Mitsubishi
ได้ ก็จะเป็นค่ายที่น่ากลัวอยู่เหมือนกัน เพราะเก๋งกับกระบะจะแข็งแกร่งได้ทั้งคู่ ต้องรอดูว่า
ถ้า Mazda ได้ BT-50 โฉมใหม่มา อนึ่ง ดูเหมือนจะได้ใช้ประโยชน์จากรูปทรง sport ของ Triton มา
เยอะ และอาจจะทำให้ Mazda แข็งแกร่งในตลาดทั้งสองได้ Toyota, Honda, Isuzu ก็มีหนาว
อีกเช่นกัน ปัญหาคือ Mitsubishi ยังไม่มี B car หรือ C car ที่แข็งแกร่ง แบบ Mazda ถ้าจะพึ่ง
พา Eco car อย่างเดียว ก็ต้องทำให้ได้แบบที่ March ทำได้ ไม่งั้นคงรุ่งยากเหมือนกัน
Proton ผมมองว่า ยอดที่ได้ และเอาชนะ Chev, Ford มาได้ น่าจะมาจากการเปิดตัีว Saga แบบ
Eco car shock price บวกกับ Exora ที่ขายดิบขายดีอยู่เรื่อยๆ อยู่แล้ว และเหตุการณ์ทั้งหลาย
อาจจะเป็น Déjà vu หรือเหตุการณ์ซ้ำรอยอีกครั้ง พอ Nissan มี Eco car sedan ออกมา ดับกระแส
Saga ได้แบบที่ March ฆ่า Savvy ไปเรียบร้อยแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา ทำไมทุกอย่างถึงดูเหมือน
ก๊อปปี้สถานการณ์กันมาเลยหว่า ??
Chevrolet ค่ายที่น่าจะรุ่งได้ระดับ รถตลาดค่ายญี่ปุ่นได้แล้ว เพราะมีรถเกือบทุก segment สำคัญ
ขาดก็แต่ D segment เท่านั้น ซึ่งก็ไม่ใช่ตัวปั่นยอดขายได้มากมาย แต่รถหลายๆ รุ่นก็โรยราไปมาก
ที่ดูสดมากกก ก็คือ Cruze ส่วน Captiva ก็ยังเป็นรถที่มีคนมองเห็นคุณความดีอยู่เสมอๆ จนปัจจุบัน
นอกจากสองตัวนี้แล้ว ดูท่า Chev จะขายอย่างอื่นไม่ค่อยออกเลย แม้กระทั่ง Aveo ซึ่งควรที่จะ
เป็นตัวปั่นยอดขายในกลุ่ม B car แต่ดูท่าทาง demand กลุ่มนี้ จะเหือดแห้งไปหมด เพราะถูกรถ
B car ทั้งจ้าวตลาด และรองจ้าวตลาด เอาไปกินหมด Cruze จึงน่าจะเป็นตัวหลักสำคัญที่ทำให้
Chev ได้ยอดตัวเลข 679 นี้มา ซึ่งเสียดายที่ ตลาดกระบะ Chev ไม่มีการผลักดัน หรือ spec up
ใดๆ ให้กับ Colorado เลย และยังคงทำให้ผู้คนโหยหากับ "ตัวหน้าเดิม" อย่างที่รุ่นปัจจุบันทำยอด
ขายให้ดีๆ ไม่ได้ Cruze ผมว่า Chev ประสบความสำเร็จแล้วล่ะ (พอสมควร) เหลือแต่ Aveo กับ
Colorado ยุคใหม่ ที่จะมาเป็นตัวปั่นตัวเลขยอดขายได้หรือไม่ ถ้าได้ก็ควรจะไม่แพ้หรือเสมอ Proton
อยู่แบบนี้อย่างแน่นอน และอาจจะได้ตัวเลขยอดขายเท่าๆ กับกลุ่ม Mitsubishi/Mazda ได้
Ford ทำไมตัวเลขน้อยจัง เมื่อเทียบกับค่ายฝาแฝด Mazda หรือว่าโดน Mazda ดูดลูกค้าไปซะ
หมด ตัวเลข 515 นี้น่าจะมาจาก Fiesta ทั้งสองเวอร์ชั่นเต็มๆ ส่วน Focus กับ Ranger น่าจะช่วย
อะไรไม่ได้มาก คงต้องรอ Ranger ปีหน้าเท่านั้น ถึงจะทำให้ตัวเลขที่ได้จาก Fiesta ดับเบิ่ล ขึ้นมา
ได้ ส่วนตัวผมว่า ค่ายทั้งหลายที่มีรถกระบะ ถ้า upgrade ดีๆ มีตัวถังที่ใหญ่และแข็งแกร่งไม่แพ้คู่
แข่ง น่าจะเป็นตัวปั่นยอดรายได้ ได้ และค่ายที่ไม่มีกระบะเลยอย่าง Honda น่าจะเป็นค่ายที่ต้อง
มีเสียวตลอดเวลา เพราะถ้าเก๋งตัวเองหมดความนิยมเมื่อไหร่ ก็จะไม่มีเสาหลักเหลือให้เกาะหรือ
พึ่งพา ทั้ง Mazda และ Ford ต่างมีกระบะ ที่ใช้โครงสร้างเก่าสมัยก่อนยุค IMV ของ Toyota ทั้ง
คู่ ซึ่งโครงสร้างใหม่ของทั้งคู่ก็มาช้าเหลือเกิน แต่ถ้ามาเมื่อไหร่ ยอดขายต้องปั่นขึ้นแน่นอน และยิ่ง
ไม่กั๊ก option โอกาสก็จะยิ่งมากขึ้น
Hyundai กับตัวเลข 345 คัน น่าจะได้มาจากการขาย Hyundai H1 มากที่สุด ส่วน Tucson ก็เป็น
รถ SUV ที่ดีมาก แต่ยังไม่อาจเป็นตัวปั่นยอดขายได้ เนื่องจากราคาที่หลายคนยังเอื้อมไม่ค่อยถึง
แต่ก็เกือบถึง (อิอิ) ข่าว Hyundai i10 เงียบไปอีกเป็นรอบที่สอง ไม่รู้จะมาหรือไม่มายังไง แต่ถ้ามา
แล้วทำราคาในระดับ Eco car impact ได้ ก็น่าติดตามชม เพราะขนาด Proton ยังปั่นตัวเลขได้ขนาด
นี้ Hyunda ดูดีกว่าตั้ง 800 อสงไขย น่าจะทำให้มีรถเล็กๆ ราคาประหยัด ช่วยปั่นยอดขายได้เป็น
กอบเป็นกำ แล้วค่อยขยับไป Avante ต่อ อิอิอิ Civic จะโดนกระทบ(บ้าง)ก็คราวนี้ เพราะ Hyundai มาแนว
ล้ำยุคเหมือนๆ กัน
Chery ค่ายจีนที่ ส่วนใหญ่ถ้าได้เข้าไปนั่งในตัวรถ ก็ต้องรีบส่วนหน้า แล้วออกมาทันที ด้วยกลิ่นฉุน
ที่ไม่รู้จะก่อให้เกิดมะเร็งในอนาคตรึเปล่า หากใช้ไปนานๆ Chery ได้เปิดตัว A1 รถที่ทำออกมาได้
หน้าตาดีขึ้นไปอีกขั้น จากรถ Chery รุ่นอื่นๆ แต่การประกอบต่างๆ ยังคงมาตรฐาน Chery อยู่ตาม
เดิม แต่เพราะน่าจะได้อานิสงค์จากราคา 4 แสน ที่อยู่ใน range ของ Eco car impact ได้ ทำให้ได้
ยอดจำหน่าย 174 คัน ซึ่งถือว่าเยอะมากสำหรับผมที่มองคุณภาพของมัน ยังไม่ถึงรถระดับราคา
4 แสนเท่าไหร่ ถ้า 2 แสน ล่ะก็พอได้อยู่
Tata มาแบบน้อยๆ แต่ค่ายนี้ก็น่าชมที่พยายาม อัพเกรด กระบะของตัวเองให้ถูกใจแนวการบริโภค
ของคนไทยมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้ง CNG ทั้ง กระบะพื้นเรียบ ถูกใจ ใช่เลย ! แต่ก็กลัวว่า หากค่ายญี่ปุ่น
เล่นมุขเดียวกันมั่ง ลูกค้าก็คงถูกดูดกลับออกไปหมดเช่นเคย ซึ่ง Triton CNG ก็ดูดลูกค้าจาก
Xenon CNG ไปมากโข (จนเหี้ยนรึเปล่าไม่แน่ใจ) ก็เลยต้องมาดูว่า ในอนาคต จะมีลูกเล่นใดๆ
มานำเสนออีก ในงานมีรถต้นแบบ ที่ไม่ใช่ Eco car impact แต่เป็น Electric car impact ซึ่งคนทั่ว
ไปก็ไม่ค่อยสนใจกันเท่าไหร่ และก็เหมือนมาโชว์กันเล่นๆ ไม่มีโครงการณ์จะมาผลิตจริงอะไร
ที่น่างงคือ Tata ยังคงเก็บงำ Nano กันต่อไป ไม่รู้รออะไรกัน หรือยังกดราคาขายให้ถูกจนผู้บริโภค
ชาวไทยยอมรับได้ไม่ได้ แน่นอน ก็เพราะ ถ้ามองดู March และ Brio แค่มีสองตัวนี้ ตลาด Eco car
เมืองไทย ก็ดูแข็งแกร่งประดุจกำแพงเมืองจีนแล้ว แล้วถ้าเป็น ค่ายเล็กๆ ที่การพัฒนารถยังไม่เข้า
ขั้นเท่าไหร่ จะมีกลยุทธเด็ด SME อะไรออกมาสู้ (SME ตีแตก 5555) ทั้ง Proton และ Chery
ต่างอาศัยระดับราคาเริ่มต้นเพื่อตี กระแส Eco car impact กันไปเรียบร้อยโรงเรียนจีน แต่ดูท่าว่า
Nana จะต้องมีระดับราคาที่ต่ำกว่านั้นอีก
"มาก" ถึงจะดูดอารมณ์ รัก, ใคร่ ในรถคันเล็กจาก
แดนภารตะกลับมา (หลังจากที่ฮือฮา เป็นข่าวระทึกโลกเมื่อสองปีที่แล้ว)
Suzuki ต้องยอมรับเลยว่า ที่ผมทำ chart นี้ขึ้นมา เพราะอยากเห็นอันดับของ Suzuki อย่างชัดเจน
ว่าตอนนี้อยู่ที่เท่าไหร่กันแล้ว และ Suzuki ก็ทำยอดขายได้หงอยกว่าชาวบ้าน รถตลาดเค้าจริงๆ ซะ
ด้วย ทั้งๆ ที่บูธก็ไม่ใช่เล็กๆ และมีรถยนต์เปิดตัวใหม่หนึ่งคัน จะโทษเรื่องศูนย์น้อยจัด ก็ไม่ใช่ที่
เพราะไม่ใช่แบรนด์เดียวที่มีศูนย์น้อย แถมมีเจ้า Swift ที่แสนจะโด่งดังเป็น talk of the town อยู่ใน
ทีม ยังทำยอดขายในบูธ Motor Expo ได้น่าผิดหวังสำหรับผมอะไรเช่นนี้
SX-4 นั้นกระแสในเน็ตนั้นแรงใช้ได้ และ Suzuki ยังคงเป็นแบรนด์ที่มีคนคอยให้กำลังใจ และคอย
ต้อนรับอยู่เสมอ เพียงแต่ ราคา 799,000 บาท เป็นอะไรที่แพงไปรึเปล่า ?? ถึงจะไม่ค่อยมีคนออก
มาพูดตำหนิเรื่องราคา แต่เป็นไปได้ว่า เพราะกำลังอยู่ในอากับอาการ
"อึ้ง" กันรึเปล่า โดย
เฉพาะที่ผ่านมาเมื่อยังไม่เคยเห็นคันจริงกันมาก่อน และไม่เคยรู้ว่ามันดูใหญ่โตกว่า Swift มากมาย
ซักแค่ไหน คำกล่าวที่ว่า "ไม่ซื้อไม่เป็นไร แต่ขอเพียงแค่ให้มาลอง" เหมือนเมื่อสมัย Swift เปิดตัว
นั้นหายไป (ว่าแต่ คำพูดนี้เราได้ยินจากพี่ Jimmy คนเดียว หรือว่า เค้าให้คนประชาสัมพันธ์ดีหว่า ?)
เมื่อได้เห็น SX-4 ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงกับชีวิตดีเหมือนกัน ได้แก่เข้าไปนั่งๆ เปิดๆ ปิดๆ โน้นนี้ดู แต่
ก็ยังไม่เห็นจุดเด่นอะไร รถก็ไม่ค่อยสูง แถมจอดอยู่กับ Swift ยังเหมือนจะดู Swift ข่มๆ อยู่กลายๆ
กลายเป็นว่า Swift ยังคงเป็นรถคู่บุญคันเดียวกับ Suzuki อยู่ต่อไป และดูเหมือนว่า SX-4 จะได้ใจ
ลูกค้าเฉพาะกลุ่มไปเท่านั้น แต่ยังจับลูกค้าหมู่ mass ยังไม่ได้เท่าไหร่ ไม่รู้ว่า ยอดขายในวันต่อๆ
ไปจะถูกค่ายอื่นๆ ฉีกตัวทิ้งห่างไปมากขึ้น หรือค่อยๆ ไต่ลำดับขึ้น แต่เชื่อว่า Suzuki คงยังได้รับ
order อุ่นๆ ประจำเดือน เดือนล่ะ 200 กว่าคันอยู่ต่อไปเรื่อยๆ จน Swift หยุดทำการตลาด และมี
Eco car เป็น Swift ออกมา (ถ้าใช่ Swift นะ
) จากนั้น ยอดคงจะทำได้ มากขึ้น 3-4 เท่าตัวมั้ง
นะครับ
PS.
-ข้อมูลในตาราง ที่ไม่ใช่ยอดขาย อาจผิดพลาดไปบางอย่างเพราะใส่จากมุมมองของตัวเองล้วนๆ
เช่น รถที่ upgrade ก่อน Motor Expo เริ่มนานๆ หน่อย ก็ตัดออกไป
-อะไรที่เป็นอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ ในคำวิจารณ์ มาจากการนั่งเทียนล้วนๆ ไม่ต้องสงสัย (5555
)
แต่เขียนจากความเมามันส์ในอารมณ์ เพื่อความบันเทิง และเพื่อเอามาถกกันในเวป HLM เป็นหลัก
