ผู้เขียน หัวข้อ: /*-*/ Review Ford FOCUS TDCi / 1.8 / 2.0 เสร็จแล้วครับ /*-*/  (อ่าน 74312 ครั้ง)

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,628
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
Re: /*-*/ Review Ford FOCUS TDCi / 1.8 / 2.0 เสร็จแล้วครับ /*-*/
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2009, 04:30:24 »
พี่ครับ... แต่ถ้าคนขับรถในเมืองวันละ 30 กว่ากิโลทุกวัน  ไปต่างจังหวัด(โคราช) เดือนละ 2 ครั้งเนี่ย ตัวดีเซล 2.0 ยังน่าสนมั้ยครับ (ผมอยากทราบอัตราการบริโภคน้ำมันของการเดินทางในเมืองว่า กินจุมั้ย) ขอบคุณล่วงหน้านะก๊าบ........พี่จิมมี่

เราไม่วัดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในเมืองให้ครับ เพราะมันวัดยากมากกกกกกก
สภาพถนน และสภาพจราจรไม่เหมือนกัน เปลี่ยนไปทุกนาที วัดค่ายากกว่า ขับยาวๆครับ

แต่ ถ้าสงสัยละก็ อ่านได้ ในส่วนของการทดลองอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง รุ่น TDCi
ก่อนเข้าสู่รุ่น 1.8 ลิตรครับ

ลองดูเอาแล้วกันว่า น้ำมันเหลือครึ่งถัง ผมใช้ระยะทางไปเท่าไหร่
ในการ สิ่งในเมือง ผสมกับ ทางด่วน และ ยอมรับเลยว่า เร่งแซงมากกว่าปกติ
เพราะรถมันขับสนุกจริงๆ

ลองเทียบเป็นภาพในใจขึ้นมา จะเห็นชัดเจนครับ

-----------------------

เรื่องเฟืองท้าย 2 ชิ้นนั้น ขอแปะไว้ก่อน จะไปหาคำตอบมาให้ครับ

-----------------------

แพน กับ กล้วย เอาคอมเมนท์ ของ ทั้ง 2 คน มาโพสต์ ได้ไหม?
มันน่าสนใจมากๆ

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,628
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
Re: /*-*/ Review Ford FOCUS TDCi / 1.8 / 2.0 เสร็จแล้วครับ /*-*/
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2009, 04:32:14 »
ไม่ทราบว่า focus TDCI ตัวนี้มี intercooler มาให้ด้วยไหมครับ

แล้ว focus model change นี่จะยังมีตัว TDCI พ่วงมาขายอีกไหมครับ

หรือว่าจะต้องลุ้นให้รุ่นนี้ขายออกก่อนเอ่ย เอิ้กๆๆ

ส่วนตัวคิดว่ารุ่นนี้ออกแบบมาไม่ได้เผื่อเอาใจเอเชียเท่าไหร่ เน้นขายยุโรปซะมากกว่า (ห้องโดยสาร)
  :o

1. เท่าที่เห็น ไม่มีครับ

2. ไม่มีใครทราบได้ แม้แต่คนในฟอร์ด เอง ครับ เพราะตัวต่อไป ยังต้องรออีกนาน

3. ใช่ครับ ก็ เป็นรถที่สร้างขึ้นในยุโรปนี่ครับ :)

ออฟไลน์ Bluedoft

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,051
    • อีเมล์
Re: /*-*/ Review Ford FOCUS TDCi / 1.8 / 2.0 เสร็จแล้วครับ /*-*/
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2009, 07:14:58 »
ขอบคุณครับ  เกิดอาการอยากจะซื้อแล้ว เพราะประหยัดน้ำมันเหลือเกิน  แถมแรงด้วย

ออฟไลน์ iloveuja

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 12
Re: /*-*/ Review Ford FOCUS TDCi / 1.8 / 2.0 เสร็จแล้วครับ /*-*/
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2009, 08:53:03 »
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ  :D

ออฟไลน์ Disk™

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,153
  • High Society Sallon Gallery
Re: /*-*/ Review Ford FOCUS TDCi / 1.8 / 2.0 เสร็จแล้วครับ /*-*/
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2009, 09:15:00 »
ขอบคุณครับ ;D
User Review : ฟิล์มเซรามิค SolarFX (รีวิวแรกของผมครับ)
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=53654.0

User Review : Remap ECU Toyota Fortuner ที่ ECU Thailand by RPT
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=71384.0

ออฟไลน์ gateaux

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 615
Re: /*-*/ Review Ford FOCUS TDCi / 1.8 / 2.0 เสร็จแล้วครับ /*-*/
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2009, 09:21:54 »
อ่านจบแล้วครับ  คุ้มที่รออ่านมานาน  ขอบคุณมากๆ

เป็นรถคันนึง ที่ตอนเข้ามาเมื่อปีที่แล้ว ผมอ่านสเปคจากเวป Ford เมืองไทย แล้วรู้สึกว่าใช่เลย นี่ละรถ ที่รอคอย ช่วงล่างหนึบ และ แรง
เพราะทุกวันนี้ใช้ MZ3 2.0 อยู่ ถามว่าแรงมั้ย  ก้อโอเคนะ  แต่เห็นตัวเลขในสเปค ของ TDCi  นี่ใช่เลย นี่ละที่ต้องการ

ดูจากรูปด้านหน้าเวปที่ โพสไว้ ก้ออ๊ะ พอได้ๆ  เลยไปดูที่ Motor Show เค้ามีมาโชว์  พอเห็นตัวเป็นๆ อ๊ะ มันไม่ใช่ ทำไมตัวเป็นๆ มองข้าง มองหลัง
มันไม่สวยเลย ก้อเลยตัดสินใจได้เลย ว่าไม่เอาแน่ๆ

ทุกวันนี้  เวลาเห็นทีไร ก้อเสียดายทุกที  ไม่ใช่เสียดายที่ไม่ซื้อ  เสียดายที่ทำไมมันไม่สวยในสายตาเราว้าาาา

ปล. ความสวย เป็นมุมมองเฉพาะบุคคล ห้ามลอกเลียนแบบ

ออฟไลน์ saaak

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 80
Re: /*-*/ Review Ford FOCUS TDCi / 1.8 / 2.0 เสร็จแล้วครับ /*-*/
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2009, 09:32:40 »
ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ work

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 43
Re: /*-*/ Review Ford FOCUS TDCi / 1.8 / 2.0 เสร็จแล้วครับ /*-*/
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2009, 12:00:18 »
ยังอ่านไม่จบนะครับ แต่พบข้อสงสัยก่อนว่า
ตารางความเร็วสูงสดของ Civic ทำได้ที่เกียร์ 4 หรือครับ เพราะไม่มีข้อมูลเกียร์ 5 ในตาราง

ไปอ่านต่อหล่ะครับ ขอบคุณสำหรับรีวิวดี ๆ ครับ  :)

ออฟไลน์ tommemov

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 43
Re: /*-*/ Review Ford FOCUS TDCi / 1.8 / 2.0 เสร็จแล้วครับ /*-*/
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2009, 14:47:15 »
ขอบคุณคุณ JIMMYครับสำหรับ review สมกับที่รอคอย
และขอบคุณสำหรับ clip 1-180 ของ TDCi ครับ เจ๋งจริง

ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
Re: /*-*/ Review Ford FOCUS TDCi / 1.8 / 2.0 เสร็จแล้วครับ /*-*/
« ตอบกลับ #39 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2009, 15:32:45 »
อันนี้เป็นความรู้สึกของผมที่มีต่อ 2.0TDCi (This Diesel Car is Incredible)

จากที่ได้ลองขับ Focus 2.0TDCi 6a/t นี้แล้วต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าในที่สุด Ford ก็ทำรถคันไม่ใหญ่เครื่องไม่โต แต่มีความน่าดึงดูดใจที่มาจากต้นกำลังของรถ ตลอดเวลาที่ผ่านมา Ford Focus ในไทยได้ชื่อว่าเป็นรถผู้ใหญ่ทรงภูมิฐานในราคารถวัยรุ่นแถมมีช่วงล่างที่นุ่มหนึบสมกับDNA ยุโรปในตัวที่พอจะบู๊ขึ้นมาก็สามารถรับการขับขี่ที่รุนแรงราวกับหนุ่มที่เพิ่งจับได้ว่าแฟนมีชู้

เป็นความกล้าของ Ford ที่คิดนอกกรอบ ตอกนอกรอบเอาเครื่องดีเซลเทอร์โบมาใช้ในรถเก๋ง ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเพราะเรามี C220Cdi, 320d, และเก่ากว่านั้นก็คือ VW Passat TDi เราเคยรู้จักรถเก๋งเครื่องดีเซลที่แรงไม่กระจอกมาแล้ว แต่จุดที่น่าสนใจคือ นี่คือครั้งแรกที่เราได้พบรถยนต์ขนาดกำลังเหมาะ เกียร์ที่น่ารักจนอยากขอเบอร์โทร และเป็นดีเซลเทอร์โบ มาให้จับในราคาแค่ล้านนิดๆ คันอื่นที่พูดมานั้นแพงกว่านี้มากครับ


เครื่อง TDCi บล็อคนี้ ก่อนจะสตาร์ทลองขับ ขอให้ทำใจไว้ก่อนว่าอย่างไรดีเซล ก็ยังคงเป็นดีเซล มันยังมีเสียงครางที่กระเด่าเหมือนรถดีเซลอื่นๆ และถ้าให้พูดตามตรง อย่าคิดว่ามันจะเดินเรียบและเบาเท่าเครื่องยนต์ของ BMW 320d ไม่งั้นอาจจะผิดหวัง แต่ถ้าคุณเคยลองรถกระบะดีเซลชาวไทยยุคใหม่มาแล้ว Focus ก็ไม่ใช่ปัญหา คุณคิดยังไงกับเครื่องยนต์ของ Ford Everest? ถ้ารับได้ ก็ไม่มีปัญหา

กดคันเร่งครึ่งหนึ่ง หรือน้อยกว่านั้น รอบให้รอบกวาดไปใกล้ๆ 2000 แล้วจะสัมผัสความสะเทือนได้ที่เท้าซ้ายของคนขับ รู้สึกได้ว่าบอดี้รถ และยางแท่นเครื่องทั้งหลายพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะซับแรงสะเทือนเอาไว้แต่ก็ยังมีเล็ดรอดมาให้รู้สึกได้อยู่ดีครับ

แต่ความไม่เพอร์เฟ็คท์อะไรต่างๆเหล่านี้ เริ่มหายไปทีละนิดตอนที่เริ่มกดคันเร่งหนักขึ้น แรงบิดมหาศาลค่อยๆพรั่งพรูออกมาตามน้ำหนักเท้า เป็นรถที่รู้สึกว่าสามารถขับไปได้รอบประเทศโดยไม่ต้องกดคันเร่งเกินครึ่งเลยด้วยซ้ำ ผมลองกดครึ่งคันเร่งที่เกียร์สุดท้ายในระหว่างขึ้นทางชันบนทางด่วนมุ่งหน้าบางปะอิน ที่ซึ่งรถ 1.6-2.0 ลิตรอาจจะไต่ความเร็วขึ้นได้แบบช้าๆ แต่ Focus TDCi นี่ไต่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผมอยู่บนทางชัน แต่ครึ่งคันเร่ง มันพาตัวเองจาก 80 ไปสู่ 100 ก่อนจะถึงจุดบนสะพานซะด้วยซ้ำ หรือจะเป็นการเร่งเพื่อแซง ผมไม่จำเป็นต้องคิกดาวน์ใดๆ แค่ฉีกออกแล้วกดคันเร่งครึ่งเดียวก็แซงจาก 100-120 ได้สบายแล้ว

ความสนุกในการเล่นกับ Focus TDCi อยู่ที่ตอนออกตัว เป็นจุดเด่นจุดนึงที่อาจทำให้บางคนตัดสินใจคบหามันได้ง่ายขึ้น
คุณช่วยผมคิดหน่อยได้ไหม ว่ารถราคาไม่เกินล้านนิดๆเกียร์ออโต้คันไหนบ้างที่สามารถปั่นยาง 205mm ฟรีจนtraction control ทำงานพลั่กๆและทำให้คุณต้องตั้งใจประคองพวงมาลัยให้ดี ถ้าคิดออกแล้วบอกด้วย เพราะเท่าที่รู้ TDCi นี้ล่ะเป็นคันแรกที่ทำแบบนั้นได้ วินาทีแรกที่ตอกคันเร่งลงไป รถจะพุ่งออกด้วยแรงไม่ต่างอะไรกับรุ่น 1.8 หลอกให้คุณตายใจอยู่เสี้ยววินาทีเดียวก่อนที่รอบจะไต่เข้าหา 2000 เทอร์โบจู่ๆเริ่มทำงาน หลังถูกดึงติดเบาะ ยางหน้าส่งเสียงกรี๊ดยังกะชะนีหนีผัวในขณะที่ traction control ก็พยายามคุมเอาไว้ให้อยู่หมัด เข็มตวัดจาก 2000 ไป 4000รอบภายในพริบตาเดียว

ที่ช่วงรอบ 1500 ไปจนถึง 2000 นั้น ความต่างแค่ 500 รอบแต่แรงบิดทั้งสองจุดนี้ต่างกันเกือบ 100Nm ไม่แปลกใจในความพุ่ง และไม่ใช่แค่ตอนออกตัว อัตราเร่งแซงนั้นถ้ากดจมมิดล่ะก็รับรองว่า 136 ม้าของมันสามารถเอาไปไล่ 140-155ม้าได้ไม่น้อยหน้าแน่นอน ในที่ที่เราสามารถเร่ง Honda Accord 2.0 ไปได้ถึง 160 นั้น Focus TDCi หลั่นล้าอยู่ที่ 180แล้ว

และถ้าจะลองเทียบกับรถรุ่นอื่นในโหมดพลีชีพล่ะก็ 0-180 ของ TDCi ใช้เวลา 36 วินาที
ส่วน 320d ที่เรามองว่ามันเป็นอาร์ตตัวพี่ของ TDCi นั้น เค้าใช้เวลา 30 วินาที (โดยที่บรรทุกน้ำหนักมากกว่ากันอยู่70โล)
ข้อมูลเก่าๆที่มีให้เทียบก็คือ 323i E46 น้ำหนักบรรทุกน้อยกว่าตอนทดสอบTDCi อยู่ 50โล ใช้เวลา 34วินาที
แล้ว Civic 2.0 ล่ะ? คันของตาถังใช้เวลา 32วิ แต่ออกตัวแบบ spoolคันเร่งออกและมีถังนั่งคนเดียว

ถ้าให้เดารูปการณ์แล้ว TDCi ก็คงไม่ได้คว้ารางวัลรถแรงที่สุดในงบล้านนิดๆอยู่ดี ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าคิดมากเพราะอย่างไรเสียตัวเลขมันก็สวยกว่า Focus 2.0เบนซินเยอะ  และความยืดหยุ่นของเครื่องยนต์มีสูงมากจนสามารถควบคุมความเร็วในการเร่งได้อย่างใจนึก

ช่วงล่างและการตอบสนองของรถ สามารถใช้ถือเป็นจุดเด่นของ Focus ได้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว การรูดวิ่งผ่านลูกระนาด ช่วงล่างสามารถซับแรงกระแทกไว้ได้มากพอให้คนนั่งหลังไม่รู้สึกเหมือนโดนเบาะถีบ การวิ่งที่ความเร็วสูงก็มีความมั่นคงเหมือนรถยุโรปที่คันใหญ่กว่า ช่วงล่างมีการปรับเซ็ตความหนืดของโช้คมาได้อย่างเหมาะสมกับทุกการใช้งาน ส่วนพวงมาลัยนั้นมีข้อติตรงที่ถ้าขับที่ความเร็วต่ำๆจะรู้สึกว่ามันถ่ายทอดแรงสั่นสะเทือนจากผิวถนนมาเยอะไปหน่อย

ภายในของรถ เป็นจุดที่มีข้อกังขามากที่สุด เพราะขนาดตัวของ Focus นี่ไม่ใช่ว่าเล็ก ที่จริงลำตัวมันกว้างที่สุดในคลาสแล้วด้วยซ้ำ แต่พอเข้าไปนั่งข้างในแล้วเรากลับไม่รู้สึกว่านี่คือรถกว้าง 1.8เมตร..มันเหมือนกับรถที่กว้างสัก 1.7เมตรต้นๆมากกว่า
ส่วนความยาวของห้องโดยสารนั้นยังไม่ประทับใจ ถ้าให้คะแนนในเรื่องความสามารถในการจัดพื้นที่ ก็คงไม่อยากให้คะแนนมากนักเพราะเวลานั่งเบาะคู่หน้าด้านคนขับ คอนโซลเบียดเข่าซ้าย ที่เท้าแขนใหญ่จนเบียดเข่าขวา หลายคนคงไม่รู้สึกอะไร โทษว่าเป็นเพราะผมตัวใหญ่กว่าคนอื่น ขอให้ลองนั่งให้ครบ.Tiida, 3, VW Golf, Impreza WRX 5dr แล้วค่อยมาพูดกันดีกว่า

ผมทราบว่าคอนโซลกลางลักษณะยาวต่อเนื่องเป็นการออกแบบที่ทำให้รถดูหรูหราและแข็งแกร่ง แต่ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากให้คอนโซลส่วนนี้จัดการปรับพื้นที่ซะหน่อย ให้มีเนื้อที่แหกเข่าอีกสักนิ้วนึงก็คุยกันได้แล้ว

และถึงแม้นั่งเบาะคนนั่งข้างหน้า ก็จะพบว่าเข่าขวาถูกคอนโซลเบียดโดยไม่จำเป็นเหมือนกัน
เบาะหลัง เนื้อที่ส่วนหัวน้อยเกือบจะเท่า Teana ตัวแรก ผมไม่สามารถนั่งหลังติดเบาะตัวตรงได้ถ้าไม่ก้มหัว และ legroom ก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร เมื่อเทียบว่าตัวรถใหญ่ขนาดนี้ อย่าคิดว่ารถมันมาจากแดนฝรั่งแล้วจะต้องรองรับคนตัวโตได้เสมอไป แต่ก็ขอชมเบาะที่มีความนุ่มพอเหมาะ รองรับก้นและแผ่นหลังได้พอดี ความสูงของเบาะก็พอทำให้นั่งได้สบาย ดีกว่า Chevrolet Optra มาก แต่ไม่ได้สบายกว่า Civic FD เท่าไหร่ถ้าไม่นับเรื่องความสูงของเบาะ

การเข้าออกรถไม่ง่ายนัก รู้สึกว่าต้องมีอะไรมาขวางทางเข้าออกอยู่เสมอ การออกที่ประตูหลังต้องงอเข่าหลบธรณีและเสา B Pillar มากเกินไปนิด

การตกแต่งและวัสดุในห้องโดยสาร สำหรับราคานี้เทียบกับสิ่งที่ให้มาผมพอใจแล้ว ไม่ต้องการมากไปกว่านี้ Focus TDCi ซีดานนี้มีเบาะไฟฟ้าด้านคนขับมาให้ด้วย และแอร์ดิจิตัลก็สามารถปรับอุณภูมิแยกฝั่งได้ พวงมาลัยไม่ได้ใช้ปุ่มแบบมัลติฟังก์ชั่น แต่ใช้ใบพายขนาดใหญ่ที่อยู่ทางซ้ายมือซึ่งผมว่ามันใช้งานได้ง่ายกว่าปุ่มมัลติฟังก์ชั่นซะอีก

สิ่งเดียวที่อยากให้มี แต่ไม่มีก็คือ Cruise Control จริงอยู่ว่าทุกคนพูดเหมือนกันหมดว่ามันไม่ได้ใช้ แต่ด้วยการที่ Focus เป็นรถที่ออกแบบเบาะมาดี มีช่วงล่างที่ดี อัตราเร่งและำพลังเหลือเฟือ แถมยังประหยัดน้ำมัน ความสามารถแบบนี้มันช่างเหมาะสมกับการเป็นรถที่ใช้ขับทางไกล 600-1000ก.ม.ในช่วงพักร้อนยาวเหลือเกิน ทุกอย่างมันดี 95%อยู่แล้ว อีก 5% ที่เหลือนี่มันน่าจะทำให้ดีครบๆไปซะเลย ผมยอมเอาแอร์ดิจิตัลแลกก็ยังได้

โดยสรุปแล้ว

ผมคิดว่า Focus  วันก่อนๆมันเคยเหมือนนักธุรกิจสาวหุ่นพอเหมาะหน้าตาสวย พูดจาสุภาพเรียบร้อยและใช้ชีวิตเงียบไม่รุกรานใคร เป็นคนยอมคนอื่น แต่อาจจะใช้เงินเก่งซะหน่อย

แต่วันนี้ Focus มี TDCi มันก็คือสาวที่พูดจาสุภาพเรียบร้อยอ่อนหวานเช่นเดิม แต่หน้าตาและหุ่นหล่อนจะดูคล้ายๆคุณลูกเกด เมทินี คุณรู้น่าว่าเค้าเรียบๆง่ายๆเป็นมิตร แต่ถ้าคุณมองเค้าดีๆคุณจะรู้ว่านี่ไม่ใช่คนที่คุณอยากจะมีปัญหาด้วยเลยแม้แต่น้อย

มันคือความดุดัน และความสนุก และ..ความประหยัด สามสิ่งที่เราเพรียกหาจาก Focus มาโดยตลอด มาครั้งนี้หัวใจของมันกลายเป็นสิ่งเดียวที่พลิกโฉมและพลิกทัศนคติที่มีต่อรถทั้งคันได้ในทันที

จริงอยู่ว่ามันไม่ใช่..และไม่ดีเท่า 320d อัตราเร่งสู้ไม่ได้ ความสนุกในการขับขี่สู้ไม่ได้ ความหรูหรา การประกอบและวัสดุ สู้ไม่ได้ แต่มาคิดดูดีๆว่านี่คือรถราคา 2.8ล้านเทียบกับ 1.09ล้าน คุณจะเข้าใจว่า Ford พยายามหยิบยื่นให้คุณอย่างสุดความสามารถเท่าที่มันจะให้ได้ จะบอกให้ด้วยว่าประหยัดน้ำมันกว่านิดๆ และช่วงล่างนุ่มสบายกว่าอีกต่างหาก

ถ้าคุณผอม เท้าหนัก และไม่แคร์เรื่องเสียงเครื่องดีเซลกับบริการหลังการขายที่ยังไม่แน่ไม่นอน ไปลองซะ
ถ้าคุณเท้าหนัก และไม่แคร์เรื่องเสียงเครื่องดีเซลกับบริการ แต่ดันตัวอ้วนนั่งลำบาก ไปลดความอ้วนซะ แล้วมาลอง

สรุป

ชอบ: เครื่อง เกียร์ ช่วงล่าง การออกแบบและตกแต่งภายใน เบาะนั่ง
ไม่ชอบ : การจัดพื้นที่ภายใน ล้ออัลลอยของมัน และความเสียวๆในตัวแบรนด์
- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8

ออฟไลน์ NineGap

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 319
  • ตามใจ !!! ดีกว่าตามใคร
Re: /*-*/ Review Ford FOCUS TDCi / 1.8 / 2.0 เสร็จแล้วครับ /*-*/
« ตอบกลับ #40 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2009, 16:53:53 »
สอบถามคุณ Jimmy และทีมงานทดสอบ "ทุกท่าน" ครับ

---------------------------------------------------------------

ตอนขับ Focus ที่ความเร็ว 160-200 กม./ชม. การทรงตัวของรถยังอยู่ในเกณฑ์ "มั่นใจ" มั้ยครับ ?

ประมาณว่าเรายังสามารถควบคุมรถได้แบบไม่ต้อง "ลุ้น" มากนัก

--------------------------------------------------------------

ขอบคุณมากๆเลยครับ _/\_
ไอ้เขี้ยวเงิน <== 2013 All New Ford Ranger 2.2 MT DBL XLT Hi-Rider

ออฟไลน์ patchara

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 7
    • อีเมล์
Re: /*-*/ Review Ford FOCUS TDCi / 1.8 / 2.0 เสร็จแล้วครับ /*-*/
« ตอบกลับ #41 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2009, 16:55:27 »
ขอบคุณจิมมี่และคุณ Commander Cheng มากครับ และทำให้แฟนพันธ์แท้ Lancer กว่า 17 ปีอย่างผมกลายพันธ์ไปแล้ว

เพราะเมื่อผมได้อ่านรีวิวเมื่อวานก็โทรบอกให้เซลล์ที่ศูนย์ ฟอร์ดลาดพร้าว 122 มาทำสัญญาที่บ้านวันนี้ไปเรียบร้อย
จ่ายเงินจองไปหมื่นนึง !

หลังจาก เกียร์ CVT ของ Cedia 1.8 พังไป ผมก็ยังเลือกรถแบบหาเรื่องใส่ตัวอยู่ดี...(หรือเปล่าเนี่ย)
หวังว่า focus 2.0 TDCi สีขาว คงทำให้ผมประทับใจจนลืมความบกพร่องต่างๆของศูนย์ไปได้นะครับ :D
เพราะความรักนั้นคงทำให้คนตาบอดได้ แต่ผมยินดี เพราะนี่คือปรัชญาของผม


ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
Re: /*-*/ Review Ford FOCUS TDCi / 1.8 / 2.0 เสร็จแล้วครับ /*-*/
« ตอบกลับ #42 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2009, 17:52:50 »
และ ความเห็นสำหรับรุ่น 1.8

หลังจากทดลองขับเสร็จแล้ว แม้จะไม่ประทับใจในอัตราเร่ง ผมพอยังจะเห็นความดีงามของมันอยู่บ้าง เจ้า Focus 1.8 ทำในสิ่งที่เปอโยต์เคยทำเมื่อสิบปีก่อน คือหยิบยื่นความเป็นยุโรปให้กับคุณในราคาที่คนไม่ต้องรวยมากก็ซื้อหาได้สบายใจ แลกกับแค่ว่าดูไม่หรูเป็นรถเศรษฐีขับเท่านั้นเอง

นอกจากนี้ ขอแสดงความนับถือการขับขี่และช่วงล่างที่ไม่ว่าใครจะพูดยังไง ผมก็บอกตามตรงว่านี่ล่ะการเซ็ตช่วงล่างที่จะตอบโจทย์คนได้เยอะที่สุด เป็นจุดลงตัวระหว่างความนิ่มที่ผู้ใหญ่ไม่บน ความเกาะที่เด็กๆจะชื่นชอบ และการทรงตัวที่ความเร็วสูงที่พนักงานส่งหนังสือพิมพ์ไทยรัฐจะเคารพเทิดทูน

ความสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์ที่ส่งผ่านฟลอร์แพนมายังเท้าตอนขับ น้อยกว่าตัวดีเซลแบบรู้สึกได้ ดังนั้นเห็นได้ชัดว่า 1.8 Finesse น่าจะจับตลาดคนที่ชอบความเรียบร้อย แม้แต่เสียงเครื่องก็พยายามทำให้ทุ้มและแน่นให้รู้สึกเหมือนเครื่องโตๆ

ส่วนภายในของรถ 1.8 นั้นจะ back to basic ด้วยสวิทช์แอร์แบบลูกบิดธรรมดา แต่ดูดีและใช้งานได้ง่าย แล้วก็ยังมีเบาะหนังมาให้ การออกแบบเส้นสายและการตกแต่งภายในยังถือว่าดูเหมาะสมกับค่าตัวที่ไม่ได้แพงจนเกินไปนัก

มาตายตรงเรื่องการจัดพื้นที่ภายใน ที่ผมยืนยันว่าตัวรถใหญ่ขนาดนี้ควรทำได้ดีกว่านี้
แล้วยังพื้นที่วางขาบีบไข่ระห่ำนั่นอีก ยอมปาดคอนโซลทิ้งข้างละ 1 นิ้ว ไม่เท่ห์ก็ช่างมันเหอะ คุณมองความเท่ห์มันได้อย่างมากก็ 4 เดือน หลังจากนั้น มันก็คือเรื่องระหว่างคุณกับถนนที่มีรถติดยาวเหยียด คุณจะนึกอยากได้พื้นที่ให้มีมากกว่านี้ถ้าทำได้

อ้อแน่นอน คนตัวผอมๆทั้งหลายจงดีใจ เพราะท่านไม่น่ามีผลกระทบ แต่ฝากข้อความถึงบรรดาตุ้ยนุ้ยทั้งหลายที่กำลังคิดว่า Focus เป็นรถฝรั่งทำ ต้องใหญ่นั่งสบายรับไซส์ฝรั่งได้ ไม่ใช่แน่นอน อย่าลืมว่าฝรั่งผอมก็มี

อีกเรื่องนึงก็คือเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร 125 แรงม้า..นั่น มันช่างให้อารมณ์ที่ตรงกันข้ามกับ TDCi สิ้นเชิง

เพราะในการใช้งานปกติ 90% มันก็ดูกระปรี้กระเปร่าดีเวลาไปตามตรอกซอยหรือถนนในกรุง เรี่ยวแรงมันพอ ไม่คล่อง แต่แรงพอล่ะวะ คล้ายๆกับเอา Mazda 3 ตัว 1.6 มาขยายความจุ 200cc มันได้ประมาณนั้นแหละครับ คือใช้งานทั่วไป ไม่มีปัญหานะ เกียร์ 1 เร่งจิ้มๆในเมืองพอทำเนา

แต่ในเคสนึง ถ้าสมมติคุณวิ่งอยู่ 120 เลนขวา ส่วนเลนซ้ายมีรถวิ่งอยู่ 110 (วิ่งอยู่ข้างหน้า..ประมาณ 30 เมตร)
ในขณะนั้นเองก็มีรถพุ่งมาข้างหลังคุณด้วยความเร็ว 140
คุณจะทำยังไง?

1. ถ้าคุณเลือกตบไฟลงซ้าย และผ่อนเบรคเพื่อไปวิ่งตามหลังรถที่วิ่ง 110คันนั้น แล้วยอมให้คันที่วิ่ง 140 ขึ้นหน้าไป คุณน่าจะเป็นคนที่ขับ 1.8 Finesse ได้โดยไม่มีความทุกข์ใดๆกับชีวิต และคุณน่าจะเป็นคนที่มีวินัยการจราจรดีมากคนนึงทีเดียวล่ะ

2. ถ้าคุณเลือกที่จะไม่หลบซ้าย แต่เร่งความเร็วขึ้นเพื่อหนีรถที่วิ่งมา 140 นั่นให้ได้..คำแนะนำของผมคืออย่ายุ่งกับ 1.8 และกรุณาไปคบ 2.0 หรือ TDCi เลยจะดีกว่า


เพราะผมห่วงแค่หลายคนที่เท้าหนักพอสมควร แต่กำลังหวังว่าพลัง 125 แรงม้าที่เห็นนั้น จะยื่นความแรงที่มากกว่า Mazda 3 1.6 มากกว่า Tiida 1.6 และสูสี Tiida 1.8 ด้วยความที่เห็นว่ามันมี 125ม้า และมีความคิดในใจว่า "ม้ายุโรปตัวโตกว่าม้าญี่ปุ่น" ปลายยังไงก็ไหล ไปยังไงก็วิ่ง

เพราะความจริงตรงข้ามกัน ตีนต้นและในเมืองน่ะ 1.8 พึ่งพาได้ แต่ลองดูอัตราเร่งหลัง 120 ไป
อย่างเช่นช่วง 120 ไป 140

Ford Focus TDCi - ตัวแรงของเราใช้เวลาประมาณ 5 วินาที
Nissan Tiida 1.6 - ใช้เวลาประมาณ 7 วินาที (ช่วยไม่ได้แรงบิดแค่ 150กว่าNm)
Honda Civic Dimension 1.7 - ใช้เวลาใกล้เคียงกับ Tiida
Honda Accord 2.0 - ได้ม้าเยอะมาช่วย นั่ง 4-5 คนยังได้ 6 วิ

โน้ตไว้ก่อนว่า TDCi นั่งสามคน Tiida กับ Dimension นั่งคนเดียวนะ อย่าเพิ่งบ่น อ่านต่อไปก่อน

ทีนี้ พระเอก 1.8 ของเราใช้เวลากี่วิ

เดาซิ



8 วิ




เปล่าหรอกล้อเล่นน่ะ จริงๆมันใช้...อืมม...11 วินาทีครับ!!!!
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นที่เกียร์สาม 120-140 นั้นใช้เกียร์ 3 ล้วนๆ ต่อให้ผมลดน้ำหนักบรรทุกลงอีก
100โล มันก็ไม่กลายเป็น 7 วิไปได้

Pajaro Sport 3.2ดีเซลที่นั่งเต็มทั้งคันยิ่งกว่า..เราเคยทำไว้ได้ประมาณ 9 วินาที
ส่วน  Hyundai H-1 รถตู้หมูพิษที่บรรทุกน้ำหนัก 200โลกว่าๆ ใช้แค่ประมาณ 8 วินาที


ส่วนการไหลไปหาความเร็วสูงสุดนั้น ถ้าคุณไม่เชื่อตัวเลขของจิมมี่ ผมจะยืนยันให้อีกคนว่าจริงตามนั้น
เพราะเกียร์ 3 ของมันนั้นตัดขึ้นเกียร์ 4 ที่ 5500 รอบ ถ้าแข็งใจกดต่อก็อาจจะได้ความเร็วมากกว่านี้
แต่ที่รอบสูงกว่า 5500 เรี่ยวแรงของรถก็เริ่มหายไปแล้ว การลากต่อไปก็อาจจะพาคุณไปได้ราว 180
หรือน้อยกว่านั้น

แต่ถ้าไม่เล่นเกียร์เอง สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ เกียร์ 4 จะรับช่วงจากความเร็วราว 160 และหลังจากนั้นจะไต่ขึ้นอย่างช้ามากไปจน 170นิดๆ ระหว่างนี้หากเจอเนินขึ้นยาวๆความเร็วจะร่วงลงมาเหลือ 160อย่างรวดเร็ว และถึงได้ทางลงช่วย ก็ไหลไปไม่แตะถึง 180

ผมซีเรียสเรื่องอัตราเร่งไหม? ก็อาจจะเกินจำเป็นไปบ้าง เอาเป็นว่า ไม่ต้องหวังว่าจะเจอ Susan Boyle ในเครื่องยนต์และเกียร์ของรุ่น 1.8 และกบทรงสิทธิ์ ก็จะบอกว่าปาฏิหารย์ไม่มีจริง

อย่าเพิ่งมองว่า 1.8 นั้นแค่เครื่องอืดแล้วแปลว่ารถไม่น่าสนใจแล้วงั้นหรือ...ขอบอกเลยว่าไม่นะครับ
สำหรับคนที่ใช้งานทั่วไป ขับไม่ค่อยเกิน 140 คุณยังสามารถเอ็นจอยกับคุณภาพในการขับขี่ที่เป็นรถยุโรปจริงๆ และไม่ใช่แค่ปรับช่วงล่างให้แข็งเพื่อให้เกาะ นี่คือรถที่ขับได้ดีโดยที่ไม่จำเป็นต้องทำให้ช่วงล่างกระด้างเกินเหตุ

ถ้าคุณชอบฟีลรถยุโรป (แล้วก็ไม่ต้องย้ำว่ามันคือแฝดกับมาสด้า 3 เพราะมันแฝดกันจริงแต่ไม่ได้ใช้ช่วงล่างชุดเดียวกันเป๊ะ)
และเคยขับเบนซ์ 190E 1.8 หรือ 3-Series 318i E36 มาก่อน แล้วมาวันนี้คุณอยากได้รถยุโรปแล้วดันพบว่าราคารถพวกนี้ทะลุ 2 ล้านไปหมดแล้ว คุณจะทำยังไงดี คุณไม่ขออะไรมาก ไม่ต้องออพชั่นล้น ไม่ต้องแรง

1.8 น่าจะตอบคำถามให้คุณได้อย่างดี แถมยังเซฟเงินจากการซื้อรุ่น TDCi ได้เยอะ

ทำไมถึงบอกว่าเซฟเงิน ทั้งๆที่ TDCi ประหยัดน้ำมัน น่าจะประหยัดเงินกว่ามากลองดูตารางนี้









- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8

ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
Re: /*-*/ Review Ford FOCUS TDCi / 1.8 / 2.0 เสร็จแล้วครับ /*-*/
« ตอบกลับ #43 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2009, 17:59:52 »
ลืมภาพ
- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8

ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
Re: /*-*/ Review Ford FOCUS TDCi / 1.8 / 2.0 เสร็จแล้วครับ /*-*/
« ตอบกลับ #44 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2009, 18:09:35 »
นี่คำนวณแบบแอบเข้าข้างโดยใช้ราคาน้ำมันโซฮอล์นะ แล้วหวังเอาว่าค่าอัตราการกินน้ำมันมันจะไม่เปลี่ยนไปจากเดิม

จะเห็นได้ว่า TDCi วิ่ง 50,000โลต่อปี ยังเซฟเงินจากค่าน้ำมันได้แค่ประมาณ 27,000บาท

ถ้าเป็นคนใช้รถปีละ 25,000โล ก็เซฟได้ปีละ 13,500 บาท ต้องขับไปอีก 10 ปีค่าน้ำมันถึงจะคืนทุน

หรือต่อให้คำนวณโดยใช้ค่าน้ำมันเบนซินลิตรละ 35 บาท ก็ต้องขับไปให้ได้ 50,000โล ถึงจะถอนทุนคืนได้ 60,000 บาท หรือพูดง่ายๆก็คือถอนทุนคืน 1บาทนิดๆ ต่อทุกกิโลที่วิ่งไป

ซึ่งก็ต้องวิ่งกัน 200,000-300,000โลนั่นล่ะถึงจะคืนทุนส่วนต่างระหว่าง 1.8 และ TDCi

ดังนั้นถ้าพูดกันเรื่องประหยัดเงินจริงๆ ต้องมองทั้งราคาตอนซื้อรวมเข้าไปด้วย ถ้าเป็นอย่างงั้น 1.8 ถูกกว่าสบายกระเป๋ากว่า

แต่ถ้าจุดมุ่งหมายคือแรง และวิ่งได้เป็นระยะทางไกล เติมน้ำมันไม่ต้องบ่อยเท่า มันก็ต้อง TDCi


สรุป

ชอบ: คุณได้ทุกสิ่งอย่างเหมือน TDCi แต่ถูกกว่ามาก และขับดีเช่นกัน
ไม่ชอบ: เวรกรรมหน่อยที่ไม่ได้ความแรงมาด้วย และข้อเสียหลายอย่างแชร์กัน
- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8

ออฟไลน์ P_Wut

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 866
  • My Sporty Innova
    • อีเมล์
Re: /*-*/ Review Ford FOCUS TDCi / 1.8 / 2.0 เสร็จแล้วครับ /*-*/
« ตอบกลับ #45 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2009, 18:38:20 »
พอจะทราบว่าอัตราทดเกียร์ยิ่งชิด ก็ยิ่งดี
แต่เกียร์ 3-6 ของ Focus มันชิดไปไหมครับ สำหรับเครื่องดีเซล
136 แรงม้า (PS) ที่ 4,000 รอบ/นาที
320 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที
เพราะเห็นว่ารอบแรงม้าสูงสุดกับแรงบิดสูงสุด มีอัตราส่วนเป็น 2 เท่า

เกียร์ 1..........................3.583
เกียร์ 2..........................1.952
เกียร์ 3..........................1.194
เกียร์ 4..........................0.943
เกียร์ 5..........................0.842
เกียร์ 6..........................0.789

เกียร์ถอยหลัง...................4.843
อัตราทดเฟืองท้าย..............4.067 / 2.905

แล้วเฟืองท้าย ทำไมมีสองตัวครับ

ยังไม่ได้อ่านคำตอบใดๆ หลัง คำถามนี้ แต่เท่าที่อ่านจากบททดสอบของนิตยสารอื่นๆ
ผมคิดว่า อาจมีการไล่ระดับอัตราทดผิดครับ โดยมีการสลับกันตรงอัตราทดที่ 4 กับ 5

เกียร์ Focus TDCi นี้ 1-4 จะใช้เฟืองท้าย 4.067 แล้วพอเข้าเกียร์ 5-6 จะใช้เฟืองท้าย 2.905 ครับ
ดังนั้น อัตราทดเกียร์ 5 จึงสูงกว่า 4 นะครับ  (แต่พอทดผ่านเฟืองท้ายด้วยแล้ว อัตราทดรวม ก็ไล่ระดับต่ำลงๆ ตามปกติ)

แต่ในข้อความข้างบน เกียร์ 5 ต่ำกว่าเกียร์ 4 คิดว่า น่าจะพิมพ์สลับกันครับ

ออฟไลน์ Puyzabra

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 257
    • อีเมล์
Re: /*-*/ Review Ford FOCUS TDCi / 1.8 / 2.0 เสร็จแล้วครับ /*-*/
« ตอบกลับ #46 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2009, 19:44:50 »
ไหนๆแล้วก็เอาของ TDCi ไปด้วยละกันครับ
น้ำหนักบรรทุกต่างกันนะ TDCiแบกเบากว่า วิ่งที่เดียวกันเวลาใกล้เคียงกันแต่คนละวันครับ

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=JMsiZyRsEP0[/youtube]

ขออภัยแทนคนขับที่ทะลึ่งอุทานเป็นภาษาอังกฤษทั้งๆที่ตัวมันเองก็พูดอังกฤษไม่ได้

วีโก้เอาไรมาสู้

5555+

อันนี้ขำๆคับ

เพราะเพื่อนมันคิดว่าสู้ฟอจูเนอร์ไม่ได้
อิอิ

ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
Re: /*-*/ Review Ford FOCUS TDCi / 1.8 / 2.0 เสร็จแล้วครับ /*-*/
« ตอบกลับ #47 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2009, 20:00:35 »
สอบถามคุณ Jimmy และทีมงานทดสอบ "ทุกท่าน" ครับ

---------------------------------------------------------------

ตอนขับ Focus ที่ความเร็ว 160-200 กม./ชม. การทรงตัวของรถยังอยู่ในเกณฑ์ "มั่นใจ" มั้ยครับ ?

ประมาณว่าเรายังสามารถควบคุมรถได้แบบไม่ต้อง "ลุ้น" มากนัก

--------------------------------------------------------------

ขอบคุณมากๆเลยครับ _/\_

มั่นใจ สบายใจครับ จั๊มเนิน หายห่วง
- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8

ออฟไลน์ PREM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,195
Re: /*-*/ Review Ford FOCUS TDCi / 1.8 / 2.0 เสร็จแล้วครับ /*-*/
« ตอบกลับ #48 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2009, 20:29:45 »
ขอบคุณสำหรับ VDO ครับ
ชอบของ 1.8 ครับ พูดตลกดี ใครพูดอ่ะ พูดประชดสไตล์เดียวกับผมเลย :D
(แต่ผมไม่มี "ค่ะ" นะ ;D)
2014 Mazda CX-5 2.5 S
2016 Volvo XC60 D4 
2019 Honda Jazz RS+
2020 Volvo V60 T8 Inscription
2022 Mazda CX-30 SP

ออฟไลน์ penalty

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 272
  • Ingenieur
Re: /*-*/ Review Ford FOCUS TDCi / 1.8 / 2.0 เสร็จแล้วครับ /*-*/
« ตอบกลับ #49 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2009, 20:49:02 »
พอจะทราบว่าอัตราทดเกียร์ยิ่งชิด ก็ยิ่งดี
แต่เกียร์ 3-6 ของ Focus มันชิดไปไหมครับ สำหรับเครื่องดีเซล
136 แรงม้า (PS) ที่ 4,000 รอบ/นาที
320 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที
เพราะเห็นว่ารอบแรงม้าสูงสุดกับแรงบิดสูงสุด มีอัตราส่วนเป็น 2 เท่า

เกียร์ 1..........................3.583
เกียร์ 2..........................1.952
เกียร์ 3..........................1.194
เกียร์ 4..........................0.943
เกียร์ 5..........................0.842
เกียร์ 6..........................0.789

เกียร์ถอยหลัง...................4.843
อัตราทดเฟืองท้าย..............4.067 / 2.905

แล้วเฟืองท้าย ทำไมมีสองตัวครับ

ยังไม่ได้อ่านคำตอบใดๆ หลัง คำถามนี้ แต่เท่าที่อ่านจากบททดสอบของนิตยสารอื่นๆ
ผมคิดว่า อาจมีการไล่ระดับอัตราทดผิดครับ โดยมีการสลับกันตรงอัตราทดที่ 4 กับ 5

เกียร์ Focus TDCi นี้ 1-4 จะใช้เฟืองท้าย 4.067 แล้วพอเข้าเกียร์ 5-6 จะใช้เฟืองท้าย 2.905 ครับ
ดังนั้น อัตราทดเกียร์ 5 จึงสูงกว่า 4 นะครับ  (แต่พอทดผ่านเฟืองท้ายด้วยแล้ว อัตราทดรวม ก็ไล่ระดับต่ำลงๆ ตามปกติ)

แต่ในข้อความข้างบน เกียร์ 5 ต่ำกว่าเกียร์ 4 คิดว่า น่าจะพิมพ์สลับกันครับ

เอามาคิดตามที่ว่ามาจะได้

ทดรวม เกียร์ 1..........................3.583 x 4.067 = 14.572
                                                                                    (1.83)
ทดรวม เกียร์ 2..........................1.952 x 4.067 = 7.939
                                                                                    (1.63)
ทดรวม เกียร์ 3..........................1.194 x 4.067 = 4.856
                                                                                    (1.42)
ทดรวม เกียร์ 4..........................0.842 x 4.067 = 3.424
                                                                                    (1.25)
ทดรวม เกียร์ 5..........................0.943 x 2.905 = 2.739
                                                                                    (1.19)
ทดรวม เกียร์ 6..........................0.789 x 2.905 = 2.292

เป็นคำตอบที่ฟังดูเข้าท่า ขอบคุณครับ
If God did not build it, an Engineer did.

ออฟไลน์ +^ M o N ™ ^+

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 179
Re: /*-*/ Review Ford FOCUS TDCi / 1.8 / 2.0 เสร็จแล้วครับ /*-*/
« ตอบกลับ #50 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2009, 21:57:32 »
ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ  ::)
+^ M o N ™ ^+

ออฟไลน์ NUTT

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 9
Re: /*-*/ Review Ford FOCUS TDCi / 1.8 / 2.0 เสร็จแล้วครับ /*-*/
« ตอบกลับ #51 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2009, 22:53:04 »
วะ วะ ว้าววววว

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,628
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
Re: /*-*/ Review Ford FOCUS TDCi / 1.8 / 2.0 เสร็จแล้วครับ /*-*/
« ตอบกลับ #52 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2009, 00:16:35 »
PREM ครับ

นั่น เสียงของ ท่านผู้เกินฯ

ส่วนเสียงหัวเราะใสๆ (กวนตีนน่าถีบ)

นั่นดูเหมือนจะเป็นพี่เอง จ้ะ แหะๆ

ออฟไลน์ U9WS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,180
  • slower is better
Re: /*-*/ Review Ford FOCUS TDCi / 1.8 / 2.0 เสร็จแล้วครับ /*-*/
« ตอบกลับ #53 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2009, 00:59:56 »
ผมใช้  Ford Focus TDCi PowerShift สีดำ 5ประตูอยู่ครับ
http://www.fordfocusclub.com/forum/index.php/topic,1923.0.html


ผมติดตามผลงานพี่จิมมี่มาตั้งแต่เวปก่อน
ถูกใจมากครับ รีวิวเผ็ดร้อนสไตล์พี่จิมมี่เค้าเลย


มาช่วยเพิ่มเติมให้พี่จิมมี่ครับ

ไม่ทราบว่า focus TDCI ตัวนี้มี intercooler มาให้ด้วยไหมครับ

แล้ว focus model change นี่จะยังมีตัว TDCI พ่วงมาขายอีกไหมครับ

หรือว่าจะต้องลุ้นให้รุ่นนี้ขายออกก่อนเอ่ย เอิ้กๆๆ

ส่วนตัวคิดว่ารุ่นนี้ออกแบบมาไม่ได้เผื่อเอาใจเอเชียเท่าไหร่ เน้นขายยุโรปซะมากกว่า (ห้องโดยสาร)
  :o


1.มี intercooler อยู่ตรงกระจังหน้าด้านล่างครับ (เหมือน 320d)
ใช้ลดความร้อนของอากาศจากไอดี ที่ถูกปั่นมาจากเทอร์โบครับ

2.ผมติดตามข่าวนอก เค้าบอกมาแน่นอนครับ
2.0 TDCi ลูกเดิม แต่เพิ่มเทอร์โบเป็น 2ลูก รวมๆ 160ม้าup ครับ บิตไม่ต่ำกว่า 350นิวตัน :o
แต่ต้องรอไป 2013 ครับสำหรับบ้านเรา

3.ตามที่พี่จิมมี่บอกเลยครับ ยุโรปก็อย่างนี้



และเฟืองท้าย 2อัตราทดก็ช่วยลดภาระเครื่องไปได้เยอะครับ
80 ที่ 1500รอบอย่างนี้
200กว่าที่ 3800รอบอย่างนี้

เบากว่าพวกมีอัตราทดเดียวครับ
โดยเฉพาะรถญี่ปุ่นที่มีเฟื่องท้ายค่อนข้างหนา 4.7-4.9 (4ปลายๆ)
ตีนต้นจะออกตัวไวก็จริงครับ
แต่ตีนปลายจะเปลืองรอบเครื่องมาก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 14, 2009, 01:05:33 โดย U9WS »

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,628
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
Re: /*-*/ Review Ford FOCUS TDCi / 1.8 / 2.0 เสร็จแล้วครับ /*-*/
« ตอบกลับ #54 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2009, 03:01:18 »
1. ขอบคุณมากครับ คุณ U9WS

2. เว็บ นี้ ผมแวะเวียนเข้าไปดูบ้างเหมือนกันครับ เป็นสังคมที่โอเคนะ

3. ผมพอจะทราบอยู่ว่า มีหลายอย่างที่ผมเขียนแล้ว ยังไม่ละเอียดพอ และยังไม่ถูกต้องพอ

ถ้ามีอันไหน ที่ คุณ U9WS และ ทาง โฟกัสคลับ จะช่วยกรุณา เพิ่มเติม
เพื่อให้รีวิวนี้ สมบูรณ์ขึ้น จะขอบพระคุณอย่างสูงครับ

4. แต่ ตัว 1.8 นี่ ผมลองขับมา 2 คัน ต่าง ปี กันไกลพอสมควร
สรุปว่า ผมเจอ โฟกัสมาทั้งหมด 4 คัน และ เป็น 1.8 ซะ 2 คัน
สิ่งที่ผมเจอใน 1.8 คันนี้ ผมว่า เกียร์มีปัญหาแน่ๆครับ
แต่ จากรถเดโมทดลองขับ ที่เคยเจอมา เมื่อ ปี 2006
ผมก็เจออาการเกียร์กระตุกเหมือนกัน แต่น้อยกว่านี้
กระนั้น ถ้าเทียบกับรถคันอื่น ยังถือว่าชัดเจนอยู่ครับ แต่ไม่หนักหนาเท่า 1.8 คันนี้

5. เนื่องจาก การทดลองอัตราเร่งของเรานั้น
ใช้วิธีมาตรฐาน คือ แช่ไว้ที่เกียร์ D ตลอด และเราจะปล่อยให้โปรเแกรมเกียร์ ทำงานตามหน้าที่ของมัน
ดังนั้น ตัวเลขที่ได้ ยังไง ก็คงจะไม่ตรงกันกับ นักเลงรถแน่ครับ เขามีเครื่องมือวัด แต่เราไม่มี

ถ้าจะใช้ เกียร์ 3 ช่วยลาก ละก็ ตัวเลขน่าจะทำได้ดีกว่านั้นแน่ครับ
เพราะในรถคันทดลองขับนี้ ตัดเปลี่ยนเกียร์ ไวไปหน่อย
ทว่า บุคลิก มันก็เหมือนรุ่น 2.0 คันที่ผมเคยเจอเหมือนกัน

อยากจะบอกว่า รถเดโม ส่วนใหญ่ ยังไงๆ สภาพจะโทรมกว่ารถที่คุณๆเป็นเจ้าของกันอยู่แน่ๆครับ

...คือ ลองนึกถึง โสเภณี ครับ รถทดสอบ ทุกคัน ทุกยี่ห้อ ทุกรุ่น มีสภาพ เป็นเช่นนั้น....

มันเป็นความจริงที่เจ็บปวดนะ และ รถทดลองทุกคัน ก็เหมือนเป็น "ครู" ซึ่งเราก็คงต้อง "ขึ้นครู" โดยการ "ขึ้นไปลองขับ"

6. เรื่อง ที่ว่า อ่านรีวิวจากคนใช้จริง ดีกว่า นั้น

ผมมอง 2 มุม

6.1 เห็นด้วย เพราะคนใช้จริง มีประสบการณ์กับรถมากกว่า
แต่ปัญหาคือ หลายคลับ ที่เราเจอมา จะมีคนที่เชียร์ รถตัวเองจนออกหน้าออกตา
จนหาความเชื่อถือได้ยาก กับบางคนที่ก่นด่ารถตัวเอง ราวกับว่า ตัดสินใจแต่งงานกับเศรษฐีกำมะลอ กันถึงขั้นนั้นเลย
ดังนั้น สำหรับผู้บริโภคแล้ว บางที ลำบากใจครับ

6.2  รีิวิว ของเรา ที่ทำ ก็มีข้อดี อยู่ คืออย่างที่ทุกท่านรู้
แต่ข้อเสีย ก็อย่างที่ทราบกันดี ว่าเรามีโอกาสสัมผัสรถน้อยกว่าคุณๆ
โอกาสจะเห็นปัญหา น้อยกว่าแน่ๆ ในเมื่อเราไม่เห็น ไม่เจอปัญหา เราจึงเขียนไปว่าเราไม่เจอ
เพราะถ้าจะให้เขียนว่าเราเจอ จมูกของเรา ก็ควรจะยาวขึ้น เป็นพีน็อกคิโอ ตอนพูดปด...ยังไม่นับ ศีล มุสาวาทาฯ ที่แตกกระเจิงไปเรียบร้อย

ดังนั้น

6.3 ขอเชิญ สมาชิก โฟกัส มารีวิวรถของคุณเอง ใน User's VOICE เลยครับ เราเปิดกว้าง ยินดีต้อนรับ
และ ยิ่งถ้าใครอยากจะให้เรา ไปร่วม Survey ศูนย์บริการของฟอร์ด ใน คอลัมน์ "แฉให้ฟัง หลังเข้าศูนย์ฯ"
เราจะยิ่งยินดียิ่งครับ

ยินดีต้อนรับ ชาว โฟกัสคลับ ครับ

ปล. รูปหน้า คุณ U9WS นี่ สเป็กผมเลยแหะ...

(ในใจคุณ U9WS คงคิดว่า เอาแล้วไงกรู งานเข้าแล้ว ไม่น่าเลย ฮ่าๆๆๆๆๆ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 14, 2009, 03:18:14 โดย J!MMY »

ออฟไลน์ Tung

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 119
    • อีเมล์
Re: /*-*/ Review Ford FOCUS TDCi / 1.8 / 2.0 เสร็จแล้วครับ /*-*/
« ตอบกลับ #55 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2009, 07:40:22 »
//
อยากจะบอกว่า รถเดโม ส่วนใหญ่ ยังไงๆ สภาพจะโทรมกว่ารถที่คุณๆเป็นเจ้าของกันอยู่แน่ๆครับ

...คือ ลองนึกถึง โสเภณี ครับ รถทดสอบ ทุกคัน ทุกยี่ห้อ ทุกรุ่น มีสภาพ เป็นเช่นนั้น....

มันเป็นความจริงที่เจ็บปวดนะ และ รถทดลองทุกคัน ก็เหมือนเป็น "ครู" ซึ่งเราก็คงต้อง "ขึ้นครู" โดยการ "ขึ้นไปลองขับ"
//



เปรียบเทียบได้เห็นภาพมาก

ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
Re: /*-*/ Review Ford FOCUS TDCi / 1.8 / 2.0 เสร็จแล้วครับ /*-*/
« ตอบกลับ #56 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2009, 09:07:23 »
PREM ครับ

นั่น เสียงของ ท่านผู้เกินฯ

ส่วนเสียงหัวเราะใสๆ (กวนตีนน่าถีบ)

นั่นดูเหมือนจะเป็นพี่เอง จ้ะ แหะๆ

ขอโทษเถอะท่าน

ถ้านั่นคือเสียงหัวเราะใสๆ ฮิตเลอร์ก็เป็นคนรักเด็กแล้วล่ะว้า...
- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8

ออฟไลน์ +^ M o N ™ ^+

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 179
Re: /*-*/ Review Ford FOCUS TDCi / 1.8 / 2.0 เสร็จแล้วครับ /*-*/
« ตอบกลับ #57 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2009, 13:56:08 »
ถ้าตัวใหม่มา 160 แรงม้าจะวิ่งขนาดไหนล่ะท่านๆ

แค่นี้ผมว่าก็ปรู้ดปราดแล้วนะ แต่ก็ดูตัวใหม่แหละว่าห้องโดยสารจะมาลงตัวกว่าที่เป็นอยู่

แค่ไหน ราคาจะกระฉูดไปอีกเท่าไหร่ล่ะเนี่ย
+^ M o N ™ ^+

ออฟไลน์ NineGap

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 319
  • ตามใจ !!! ดีกว่าตามใคร
Re: /*-*/ Review Ford FOCUS TDCi / 1.8 / 2.0 เสร็จแล้วครับ /*-*/
« ตอบกลับ #58 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2009, 16:55:12 »
ขอบคุณคุณ Commander Cheng มากๆเลยนะครับ (สำหรับข้อมูลที่ผมสงสัย) _/\_

ชอบบทสรุปรีวิวของรุ่น 1.8 ตรงนี้จัง

---------------------------------------------------------------------------------------

"สรุป

ชอบ: คุณได้ทุกสิ่งอย่างเหมือน TDCi แต่ถูกกว่ามาก และขับดีเช่นกัน
ไม่ชอบ: เวรกรรมหน่อยที่ไม่ได้ความแรงมาด้วย และข้อเสียหลายอย่างแชร์กัน"

---------------------------------------------------------------------------------------

ดีใจจังครับที่ผม "เลือกรถได้ถูกต้อง" กับการใช้ชีวิตของตัวเองจริงๆ

ไอ้ผมมันประเภท "ช้าหน่อยแต่ชัวร์" 555+

ปล. จากคนขับ Focus 1.8 ตัวจริง ^_^
ไอ้เขี้ยวเงิน <== 2013 All New Ford Ranger 2.2 MT DBL XLT Hi-Rider

ออฟไลน์ Duke of Austria

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 140
    • อีเมล์
Re: /*-*/ Review Ford FOCUS TDCi / 1.8 / 2.0 เสร็จแล้วครับ /*-*/
« ตอบกลับ #59 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2009, 16:57:15 »
ขอบคุณมาก ๆ