ผู้เขียน หัวข้อ: คน USA มอง Prius เป็นรถของคนตลกน่าหัวเราะใส่หรือ?จากเรื่อง The other guys ครับผม  (อ่าน 11619 ครั้ง)

ออฟไลน์ TheBestOrNothing

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,309
มุขไม่ฮาพาเพื่อนเครียดใช่ไหมครับผม 555555555

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,628
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
ประโยคข้างบนนี้ ต้องให้ เจ้ากล้วย BnN เป็นคนพูด จะได้อารมณ์มาก!

ออฟไลน์ Northbridge

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 751

ในที่สุด ผมคิดว่าสิ่งที่จะลดมลภาวะจริงๆกลับไม่ใช่ Hybrid แต่เป็นเครื่องเบนซินหรือดีเซลขนาดเล็กๆ
ที่ทางฝั่งยุโรปกำลังขมีขมันพัฒนากันอยู่ แต่แม้กระทั่งเครื่องสันดาปภายในพลังสะอาด ก็ยังไม่ใช่
อนาคตที่ยั่งยืน เพราะปิโตรเลียมอีกไม่นานก็จะต้องถูกสำรองไว้ใช้กับยานพาหนะที่ไม่สามารถใช้
ไฟฟ้าเพื่อการขับเคลื่อนได้...เครื่องบินไง




นั้นแหละครับผมว่าถูกที่สุด !!! แล้วญี่ปุ่นทำอะไรกันอยู้ -*-



จริงๆแล้วตามความเข้าใจของผม ไอ้เจ้าพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอร์รี่ มันมีข้อจำกัดหลายอย่างนะครับ แต่ที่ทุกวันนี้มันเห็นเป็นรูปธรรมได้เพราะเรื่องของราคานะ

ข้อจำกัดที่ผมเข้าใจก็คือ พลังงานที่มันให้ได้ เมื่อเทียบกับมวล ของมัน ยังอยู่ในสัดส่วนที่ต่ำกว่า ฟิวเซลล์ หรือไฮโดรเจน อะไรแนวๆนั้น แต่ไอ้สองอันหลังนี่คือยังมีต้นทุนที่ค่อนข้างสูงอยู่ ;D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 06, 2011, 21:02:01 โดย Northbridge »

ออฟไลน์ 6162002

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,089

เทคโนโลยี Hybrid ยังไม่อาจจะช่วยลดมลภาวะ ได้มากมายนักครับ
แต่ เทคโนโลยีต่อไปที่มองกันคือ Fuel Cell ปัญหาคือ ในเมื่อมันแพงมาก
และต้องวุ่นวายกับการจัดเก็บไฮโดรเจนกันอีก แล้วทำไม ไม่คิดทำรถไฟฟ้า (แม่ม) ตรงๆเลย
เพราะในเมื่อ Zero Emission เหมือนกันเลย ต้นทุนการทำในด้านต่างๆ รวมทั้งการเตรียม
โครงสร้าง แม้จะยังแพงอยู่ แต่ก็ถูกกว่า เทคโนโลยี Fuel Cell นิดหน่อยละ

เพียงแต่ ในการที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค นั้น จำเป็นต้องค่อยๆทำ
จู่ๆ ให้เปลี่ยนจาการขับรถเครื่องยนต์สันดาป ให้ไปขับไฟฟ้าเลย ก็จะมีคนกลัว
หรือไม่ยอมรับกันอีกมากครับ ดังนั้น แค่เริ่มจาก ไฮบริดกันก่อน ก็โอเคนะ
คนจะได้เริ่มคุ้นชิน ยุคต่อไป ไฟฟ้าเต็มตัว ก็จะง่ายขึ้นต่อการปรับตัวของคนในสังคม

เห็นด้วยครับ ยกเว้นตรงที่ Zero Emission เพราะว่า Hydrogen มันZero กว่า ไงครับ เพราะไฟฟ้ามันผลิตจากถ่านหิน แก๊สธรรมชาติ แถมยังแบตเตอร์รี่อีก แต่ฟิวเซล ใส่ไฮโดรเจน ได้น้ำออกมา แบบว่ามัน Zero อย่างแรงครับ เอิ๊ก *-*


และยุคของรถไฟฟ้าเต็มรูปแบบมาเร็วแค่ไหนก็ยิ่งดี เพราะแรงบิดมหาศาลของพลังงาน
ไฟฟ้านั้นมันน่าสนใจอยู่แล้วล่ะ ถึงความเร็วปลายจะไม่ค่อยมีก็ตาม

มันไม่ใช่เพราะไฟฟ้าครับ  มันเป็นเพราะมอเตอร์ จะเอาแรงบิดมากหรือเอาความเร็วปลายมาก ก็ไปเลือกมอเตอร์กันอีกที
รถใช้ฟิวเซล มันก็ทำแบบเีดียวกันได้ครับ แค่ส่งพลังงานไปให้มอเตอร์เฉยๆ - -

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,804
  • Hail to the darkside

เทคโนโลยี Hybrid ยังไม่อาจจะช่วยลดมลภาวะ ได้มากมายนักครับ
แต่ เทคโนโลยีต่อไปที่มองกันคือ Fuel Cell ปัญหาคือ ในเมื่อมันแพงมาก
และต้องวุ่นวายกับการจัดเก็บไฮโดรเจนกันอีก แล้วทำไม ไม่คิดทำรถไฟฟ้า (แม่ม) ตรงๆเลย
เพราะในเมื่อ Zero Emission เหมือนกันเลย ต้นทุนการทำในด้านต่างๆ รวมทั้งการเตรียม
โครงสร้าง แม้จะยังแพงอยู่ แต่ก็ถูกกว่า เทคโนโลยี Fuel Cell นิดหน่อยละ

เพียงแต่ ในการที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค นั้น จำเป็นต้องค่อยๆทำ
จู่ๆ ให้เปลี่ยนจาการขับรถเครื่องยนต์สันดาป ให้ไปขับไฟฟ้าเลย ก็จะมีคนกลัว
หรือไม่ยอมรับกันอีกมากครับ ดังนั้น แค่เริ่มจาก ไฮบริดกันก่อน ก็โอเคนะ
คนจะได้เริ่มคุ้นชิน ยุคต่อไป ไฟฟ้าเต็มตัว ก็จะง่ายขึ้นต่อการปรับตัวของคนในสังคม

เห็นด้วยครับ ยกเว้นตรงที่ Zero Emission เพราะว่า Hydrogen มันZero กว่า ไงครับ เพราะไฟฟ้ามันผลิตจากถ่านหิน แก๊สธรรมชาติ แถมยังแบตเตอร์รี่อีก แต่ฟิวเซล ใส่ไฮโดรเจน ได้น้ำออกมา แบบว่ามัน Zero อย่างแรงครับ เอิ๊ก *-*


และยุคของรถไฟฟ้าเต็มรูปแบบมาเร็วแค่ไหนก็ยิ่งดี เพราะแรงบิดมหาศาลของพลังงาน
ไฟฟ้านั้นมันน่าสนใจอยู่แล้วล่ะ ถึงความเร็วปลายจะไม่ค่อยมีก็ตาม

มันไม่ใช่เพราะไฟฟ้าครับ  มันเป็นเพราะมอเตอร์ จะเอาแรงบิดมากหรือเอาความเร็วปลายมาก ก็ไปเลือกมอเตอร์กันอีกที
รถใช้ฟิวเซล มันก็ทำแบบเีดียวกันได้ครับ แค่ส่งพลังงานไปให้มอเตอร์เฉยๆ - -

โห แกะตามตัวอักษรเลยอะ ทั้งผมทั้งพี่ Jimmy ก็เข้าใจแบบคุณ 6162002 น่ะแหล่ะครับ
แกะตามตัวอักษรจริงๆ แฮะ  ;D