คุณ Ned ครับ
ความเห็นส่วนตัวของผม ยืนยันเหมือนเดิม
ท้ายของ L02B นั้น มันไม่สมส่วน
และเหตุที่ไม่สมส่วน มาจากแนวเส้นหลังคา ที่ลาดลงด้านหลังมากเสียขนาดนั้น
แทนที่จะทำให้มันมีมุมลาดเอียงน้อยลงกว่านี้ ตั้งชันกว่านี้อีกนิด
และแนวเส้นพาดด้านข้าง ก็มีส่วนสำคัญ ที่ทำให้ด้านหลังรถ ดูว่างๆ โล้นๆ ไปหน่อย
น่าจะมองกันคนล่ะมุมแล้วล่ะครับ
เรื่องมองสัดส่วนต้องแบ่งเป็นสองประเด็นครับ
1) สัดส่วนแปลกไป แต่มีเหตุผล และทุกอย่างยังคงอยู่ใน trend ได้
2) สัดส่วนแปลกไป แบบว่ารับกันไม่ได้ทีเดียว
L02B ไปในทางที่ 1 มันมีเหตุผลที่แนวเส้นหลังคาลาดเอียงมากขนาดนั้น เพราะผมที่ได้
Headroom ด้านหลังมันดีกว่า Corolla ซะอีก สำหรับรถเก๋งแล้ว ถ้าไม่ใช่รถขนาด D segment แล้วล่ะก็
หากจะทำให้หลังคาให้ลาดน้อยลงและหักลงมา หัวต้องติดเพดานแน่ๆ ล่ะ แต่ L02B ทำให้ด้านหลัง
Headroom สบายขึ้น และหลังคาก็ลาดได้อย่างสะใจด้วย
อาจจะมีข้อถกเถียงว่า รถ C segment บางรุ่น ก็มี headroom ที่ดี และไม่จำเป็นต้องทำแบบ L02B
แต่ต้องบอกเลยว่า แนวหลังคาป้อมๆ กลมๆ นั้น ยกตัวอย่างเช่น Focus รุ่นปัจจุบัน (แค่ยกตัวอย่างแนวหลังคาป้อมๆ แต่
Headroom ด้านหลังดีรึเปล่านั้น จำไม่ได้ครับ) มัน out of trend ไปแล้ว ! trend ของรถเก๋งนั้น ท้ายมันเริ่มจะไปคล้ายๆ
ท้ายของรถ Coupe ขึ้นทุกทีๆ นั่นก็คือ ขนาดของแนวหลังคากว้างขึ้น จนไปถึงท้ายกระโปรงหลัง จนฝากระโปรงหลังด้านบน
แทบจะหดลงกว่า รถสมัยก่อนเยอะมากมาย ! ดังนั้น อนาคต น่าจะมีโอกาสที่รถซีดานทั่วๆ ไปที่หลังคาลาดยิ่งกว่า L02B อีก
แต่ความจริงประเด็นนี้ ไม่อยากจะบอกว่ามันเป็นเรื่องของสัดส่วนเลย แต่เป็นเรื่องของรูปทรงที่ไม่ถูกใจกับความชอบส่วนตัวมากกว่า
สัดส่วนของ L02B นั้นไม่มีปัญหา อย่างที่บอกไป ช่วงหน้าของ City นั้นดูน่าจะมีปัญหามากกว่าอีก
สัดส่วนคือ เรื่องของ ช่วงหน้า ช่วงหลัง ช่วงกลาง ด้านบน ด้านล่าง ดูสมส่วน ได้สัดส่วน
ส่วนเรื่องรูปทรงคือ เรื่อง การเลือกใช้ รูปทรง ของโคมไฟ ทรงของประตู ลวดลายด้านข้าง เส้นด้านข้าง ลายล้อแม็กซ์ เส้นแบ่ง
ฝากระโปรงหน้า หลัง แบบนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ ต่างคนต่างความคิด บางคนชอบทรงนึง อีกคนชอบทรงนึง ไม่มีใครผิดใครถูก
แนวหลังคาที่ลาดเกินไปอาจดูก้ำกึ่งซักหน่อย เพราะมันเกี่ยวกับ เรือนร่างของรถทั้งคัน เพียงแต่ มันถูกตัดสินให้เป็นเรื่องของ
รูปทรงไปได้ ก็เพราะ การมี trend ในการขยาย แนวหลังคาได้ไม่จำกัด บางทีอาจจะคลุมไปถึงท้ายฝากระโปรงได้ ซึ่งไม่ผิดกติกาอย่างใด
เพราะมันทำให้ได้กลิ่นของท้ายแบบ Coupe ได้ด้วย และtrend การขยายแนวหลังคา มันเริ่มมาตั้งแต่ยุค 2000 แล้ว ดังนั้น รถเก๋ง ท้ายยาวๆ
หลังคาตัดๆ หักลง จึงแทบจะหายไปจากโลกนี้เรียบร้อย ตาม trend ของการออกแบบ ผมเป็นนักวาดภาพ ที่ไม่ได้มีฝีมืออะไรมาก แต่ถ้าเป็นเรื่อง
สัดส่วนล่ะก็ เรื่องนี้แข็งพอสมควรครับ โอเคล่ะ L02B อาจจะไม่ผ่านการพิจารณาของ พี่ Jimmy แต่เชื่อว่า คนส่วนใหญ่คงไม่ได้คิดแบบนั้น
L02B น่าจะขายดีมากๆ ล่ะ ไม่ว่าจะเพราะมันถูก (แต่รูปทรงไม่ถูกใจ) หรือเพราะมันรูปร่างดี (ต่ออีกฝ่าย) ก็แล้วแต่
กรณีเรื่องชอบหน้าของ City ที่ยาวๆ นั่นก็เป็นความชอบส่วนตัว ของการที่รถใช้การออกแบบที่มีรูปทรงด้านหน้ายาวเป็นพิเศษ
แต่ถ้าพูดถึงสัดส่วนโดยรวมแล้ว แย่นิดนึงตรงที่ฐานล้อของ City นั้น น้อยไป ดังนั้น รูปทรงน่ะ เข้าใจว่าถูกใจพี่ Jimmy มากมายเป็นพิเศษ
แต่ถ้าจะให้สัดส่วนของรถมันใช่เป๊ะๆ ผมว่าควรจะไปหารถระดับ C หรือ D segment นั่นล่ะ จะได้ทั้งรูปทรง และสัดส่วนที่ถูกต้องสมบูรณ์
เหมาะกับพี่ Jimmy จริงๆ การออกแบบรูปทรงของ City นั้น ผมว่าก็คงจะไม่รอดไปใช้ในโมเดลอื่นเท่าไหร่ เพราะ รูปทรงที่เน้นหน้ายาวนั้น เป็นความ
ชอบเฉพาะกลุ่มหน่อย ไม่ได้ universal เท่าไรนัก ดังนั้น โอเคล่ะว่า Civic ใหม่ จะมีหน้าตา เหมือนๆ กับ City แต่ที่เปลี่ยนไปคือ รูปทรงของ Civic
ไม่ได้เน้นหน้ายาวแบบ City แน่ละ ซึ่ง Civic จะให้ความสมส่วนมากกว่า เพราะยิ่งหน้ายาวเพียงใด ฐานล้อก็ควรจะยาวตามไปด้วย ซึ่ง Civic ใหม่
หน้ายาวแค่นั้น ก็เหมาะสมกับขนาดของฐานล้อแล้ว เมื่อมองจากภาพนะ ส่วน Civic FD ก็สมส่วนดีมากๆ เพียงแต่ว่า รูปทรงของขนาดกระจกข้าง
มัน out of trend ไปหน่อย เพราะมีขนาดที่ใหญ่เกิน รถยุคใหม่ๆ ที่ต้องมีส่วนของกระจกตรงนั้นย่อมๆ ลง ซึ่งผมเคย comment บ่อยๆ และแล้ว
Civic ใหม่ก็แก้เรื่องขนาดของกระจกให้ผมเรียบร้อย โดยไม่ต้องติดต่อ Honda เลย เพราะเราใจตรงกัน อิอิ
City ตัวต่อไป สิ่งที่จะต้องแก้ก็คือ แนวหลังคาที่ทำให้ดูห้อง cockpit กลมป้อมไป ด้านหน้าทำให้สั้นกว่านี้ และทำให้แลดูบึกบึนขึ้น
ฝากระโปรงหน้าจะลาดชันๆ แบบนี้ก็ไม่ว่า แต่ก็ควรทำให้ดูเข้ากับบอดี้ซีดานช่วงกลางให้ดีขึ้น เพราะบางมุมมอง ช่วงหน้าของ City นั้น เป็นช่วง
หน้าที่เหมาะสมกับบอดี้รถท้ายตัดมากๆ มากกว่าที่จะเป็นรถซีดาน เพราะฝากระโปรงและช่วงหน้าทิ่มลงทันที แต่โค้งหลังคากลับป้อม
ส่วนฐานล้อ ก็น่าจะยาวกว่านี้ แต่อย่างไรก็ดี สิ่งที่รุ่นปัจจุบันดูไม่ค่อยดีนั้น มีเพียงแค่บางมุมเท่านั้น ซึ่งไม่ได้ซีเรียสอะไรมากมาย คำว่าสวย
ยังใช้ได้กับ City และบางมุมมองของรถ มันก็ดูสวยมาก เพียงแต่ มันยังไม่ perfect 100% และผมก็ยังเห็นด้วยไม่เถียงเลยเรื่อง City ยังคงเป็น
รถที่น่าใช้ที่สุดในกลุ่ม B segment sedan ไม่ได้ตบหัวแล้วลูบหลัง และการแก้ก็ไม่ใช่ว่า รุ่นปัจจุบันออกแบบผิดอะไร เพียงแต่ อาจจะแก้เพื่อ
ให้ตาม trend ทันเท่านั้น
ส่วนใหญ่ผมมักจะพูด โยงเรื่อง สัดส่วนกับ trend เข้าด้วยกันเสมอๆ ดังนั้นข้อเสียของตัวผมเองก็คือ แม้ผมจะชอบ
รถคันๆ นึงมากแค่ไหน แต่เมื่อมีบางอย่างมัน out of trend ไปแล้ว ความรู้สึกชอบของผมก็จะเริ่มจืดจางไป ยกตัวอย่างอย่าง Soluna Vios
ผมมองว่ามันเป็นรถที่มีภายนอกที่ perfect มากๆ คันนึง จนกระทั่ง กระแส trend ของโลกนี้ มันเลิกเรื่อง ความไม่ต่อเนื่องของแนวฝากระโปรง
ด้านหน้า กับ แนวเส้นของบอดี้ไปแล้ว Soluna Vios นั้น มีแนวของฝากระโปรงหน้าหักทิ่มลงไป และไม่มีเส้นต่อเนื่องกับบอดี้ ส่วนตัวผมเรียก
รถแบบนี้ในภายหลังว่า ดั้งหัก เพราะการออกแบบรถยุคใหม่ มันต้องมีทุกอย่างดูต่อเนื่องแทบจะเป็น monocoque exterior กันไปหมดแล้ว
แม้แต่ตัวรถกระบะ แนวของฝากระโปรงหน้าต้องมีเส้นที่ต่อเนื่องไปบน waist line ขอบกระจกล่าง ถ้าจะเอียงก็ต้องเอียงทำมุมพอๆ กันดูต่อเนื่อง
แต่ Soluna Vios นั้นไม่ได้ แนวเส้นฝากระโปรงมุดลง (เอียง) ในขณะที่แนวเส้นขอบกระจกข้าง ออกแนว ขนาน กับพื้น และฝากระโปรงท้ายก็ไม่มี
แนวอะไรที่จะมองให้่ต่อเนื่องต่อไปได้จากจุดขอบกระจกได้เลย Soluna Vios นั้น จึงกลายเป็นรถตกยุคไปในทันที ปัจจุบัน ยังมีรถใหม่ป้ายแดงที่
มีลักษณะดั้งหัก ยังคงมีการผลิตต่อเนื่องอยู่ และบางรุ่นยังคงผลิตต่อไปอีกถึงปี 2014 นั่นก็คือ Hilux / Fortuner ซึ่งผมก็ใช้ Fortuner อยู่ และผมก็รู้ดี
ว่ามันเป็นช่วงหน้าของรถกระบะ ที่มีแนวดั้งหัก อยู่เพียงรายเดียวในตลาด ณ ขณะนี้ ในขณะที่ของค่ายอื่นนั้น แนวเส้นมันต่อเนื่องกันไปหมดนานแล้ว
แม้แต่พวก BT-50/Ranger (ไม่ใช่ตัวใหม่นะ) ที่มีหน้าตาเชยๆ แต่พอดี เค้าทำแนวเส้นตรงนี้ได้ แต่ผมก็ต้องพยายาม ไม่มองๆ ตรงนี้ของ Fortuner
เพราะผมต้องใช้มันไปอีกนาน... ถ้ารุ่นใหม่มีแก้ตรงนี้ ก็น่าจะเอารถไป turn นะ
อีกครั้ง ผมพูดมากไปอีกแล้ว .... เห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไรนะ.... ทั้งหมดถือเป็นความคิด และความเชื่อส่วนบุคคลครับ ไม่ขอโต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น