ผู้เขียน หัวข้อ: First Review /// Jeep Cheerokee xj 4.0 /// รถลุยทรงอมตะ  (อ่าน 62929 ครั้ง)

ออฟไลน์ Ninezti

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
  • Only in a Jeep ..
    • TECHHANGOUT
    • อีเมล์
First Review /// Jeep Cheerokee xj 4.0 /// รถลุยทรงอมตะ
« เมื่อ: ตุลาคม 21, 2011, 23:50:31 »
สวัสดีครับทุกท่าน  วันนี้จะเอารีวิวแรกของผม อาจจะไม่ใช่รีวิวเต็มตัวซักทีเดียวเพราะผมยังขับไม่ได้ครับ 55
และรถที่จะมารีวิววันนี้คือ jeep cherokee xj  limited 1996 4.0 ครับ


ก่อนอื่นมาบอกคร่าวๆก่อนว่าได้รถมาได้ไงรถคันนี้ซื้อมามือสองครับได้รถบ้านมาครับ คันก่อนหน้านี้คือ isuzu mu 3 ประตูตัวแรกครับเล็กๆน่ารัก แต่ต้องขายเพราะมันเล็กไปและอายุนานและมีปัญหาบ่อยครับ ตอนนั้นดูไว้หลายๆรุ่น nissan terrano landrover discovery ครับ แต่ สุดท้ายมาได้ jeep เพราะพ่อผมชอบและที่สำคัญได้ สีขาว ครับเป็นสีที่หายากมากในjeep ครับ เลยได้มา ครับ ตอนนั้นซื้อคนยังไม่ค่อยกล้าเล่นเท่าไรตอนที่แก็สคนยังกลัวๆกันอยู่ครับ เลยราคาไม่แพงและเอาไปติดแก็สซะเลย น้ำมันไม่ไหวครับ55 3โลลิตรแหนะ ตจว 5โลลิตร

มาเข้าเนื้อหากันดีกว่าครับ
เรามาดูภายนอกและสเป็คคร่าวๆของรถรุ่นนี้กันก่อนครับ ตัวนี้มี ไม่กี่รุ่นย่อยครับ มีตัวเครื่อง 2.5 กับ 4.0 ครับ ซึ่ง จะมี แยกหลักๆsport กับ limitedปี  1984-1996 โฉมเหลี่ยม ครับ กับตัว โฉมมลปี 1997-2001 ครับ  


ซึ่งตัวที่ผมได้มาเป็นโฉมเหลี่ยม ปี1996 เครื่อง 4.0 ครับ ขับเครื่อนสี่ล้อ ครับ
ภายนอกจะออกเหลี่ยมๆทั้งคันครับ เหลี่ยมจัดเลยทีเดียวครับ 55  

ด้านหน้า
 คันนี้ ได้มาเดิมๆหมดเลยครับ เอามาใส่กันชนหน้า arb ก็อบไทยทำ ครับใส่ไฟ ตัดหมอก โคมไฟหน้ารุ่นนี้นั้น ไฟสูงไฟต่ำไฟหรี่รวมในโคมเดียวหมดเลยครับ หลอดไฟสูงกับต่ำใช้หลอดเดียวกันครับ และไฟเลี้ยว จะมีเลี้ยวด้านล่างไฟหน้าและด้านมุมครับปลอดภัยเห้นชัดเลยทีเดียว  ครับ



ไฟขาดไปหลอดนึงครับ 55


ด้านหลัง
คันนี้จะมีล้ออะไหล่ห้อยมาซึ่งผมชอบนะที่มีล้ออะไหล่ห้อยมา ดูลุยๆดี 55 มีที่ปัดน้ำฝนหลังและไล่ฝ้ามาด้วยครับ 555  (ไฟข้างล่างมาติดเพิ่มเปิดปิดเองเวลามองหลังไม่เห็นได้ครับ) และมีที่ลากเรือกันท้ายอีกรอบครับ ใครชอบชนตูดเส็ดทุกรายครับ พวกเก๋งนะครับ 55


 ไฟท้าย
รุ่นนี้จะเรียบๆครับ มีไฟถอย ไฟ เลี้ยว ไฟเบรคไฟตัดหมอกหลังอยู่ด้วยครับ และ ที่ชอบคือมีหลอดไฟด้านข้างโคมอีกด้วยครับ เห็นไฟท้ายด้านข้างได้ชัดๆด้วย ที่กันไฟท้ายของ vvp ครับมาติดทีหลังครับแข็งแรงใช้ได้เลยครับ

ด้านข้าง
เรียบๆง่ายเหลี่ยมๆยกมา 1 นิ้วกว่า บันไดมาจากเจ้าของเดิมแข็งแรงมากๆเลยครับ  ล้อนี้ล้อกระทะของ jeep wrangler ครับ มาทำสีดำเดิมเป้นล้อแม็กครับ ลายไมสวยเลยเปลี่ยนครับ  คันนี้เคยมีแร็กใส่ของบนหลังคาครับแต่เอาออกแล้วขับดีแบบไม่น่าเชื่อเลยครับคล่องตัวมากขึ้นเยอะเลยครับ


มาที่ภายในครับ มาแบบเหลี่ยมอีกตามเคยเลยครับ


เปิดประตูมาจะเจอกับภายในโทนสีดำๆตัดกำลายไม้และพลาสติกสีเทาครับ ลงตัวทีเดียว แต่ก็เหลี่ยมเข้าใส้เลยครับ55


จะเจอเบาะหน้าที่นั่งสบายๆมากๆครับ หนานุ่ม เบาะรองนั่งรองรับพอดีสบายขับไกลๆไม่เมื่อยครับ  ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง มืออีก 2 ทิศทาง สำหรับพนักพิง ครับเป็น 10 ทิศทาง  ที่วางแขนตรงประตูและตรงกลางออกแบบมาใช้ได้เลยครับวางได้พอดีเลย วางขาตามรูปอะครับ ได้สบายเลยการขึ้นลงถือว่าดีครับไม่เลอะขากางเกงยกเว้นโดนบันไดครับ


มาด้านหลัง ประตูถือว่าเล็กและแคบ ครับ เข้าลำบากหน่อยและเบาะรองนั่งสั้นกับพื้นสูงไปครับแต่พนักพิงโอเคเลย ครับ พื้นที่ที่หัวเหลือเยอะครับ สูง 175 นะครับ นั่งก็โอนะครับพอได้ๆ


มันจะตามภาพเลยครับ แต่ อันนี้นั่งแบบหลังชิดเบาะเลยครับ แต่ส่วนใหย่ผมนั่งแบบขัดสมาธินิดหน่อยอะครับ ก็สบายดีครับ ไม่เมื่อย

ด้านหลังจะมีแอรเป่าเท้ามาตลอดครับก็เย็นนิดดดดดดนึง 55 เข็มขัด 3 จุด  ครับ



เบาะหลังสามารถพับได้แนงราบกับพื้นเลยครับ  โดย พับคล้ายๆ ford escape เอาพนักพิงหัวออกก่อนครับ

ผมชอบพนักพิงหัวแบบนี้สามารถดึงขึ้นสูงและต่ำได้โดยไม่ต้องกดปุ่มปลดล็อกเลยครับ เวลาจะเอาออกก็หมุนที่ปลดล็อกและดึงเลยครับ

เอาออกเสร็จก็เอาเบาะรองนั่งพับขึ้นมาใต้เบาะก็มีที่เก็บของนิดหน่อยอุปกรณ์ต่างๆประจำรถ สามารถเอาเบาะออกได้นะครับ ต้องไขออก

และปลดล็อกและพนังพิงลงไป จบครับ  ถ้าไม่ติดแก็สก็จะพื้นที่เยอะเลยครับ



มาที่ด้านหลังครับเปิดล้ออะไหล่มาสลักทั่วๆไปครับ พอเปิดมาจะเจอของแน่นนแบบนี้ ไม่ได้เอาของออกครับ555
เหล็กดำซื้อมาใส่ครับทำให้วางของได้เยอะครับ ความกว้างดูเอาตามขนาดถุงนอนครับ ซึ่งถ้าไม่ติดแก็สของวางได้เยอะมากเลยทีเดียวครับ


ใส่ของก็เยอะครับ แต่อาจจะบดบังทัศนวิสัยหน่อย เดิมๆเลยจะมีแผ่นปิดสัมภาระมาให้ด้วยครับ ถ้าไม่ติดแก็สจะใส่ได้ครับ

มาภายในอีกรอบครับ



ด้านประตุคนขับจะมี สวิต เลื่อนกระจกทั้ง 4บาน และล็อกกระจก ล็อกประตุครับ ซึ่งใช้ปุ่มแบบเดียวกันหมดเลย มีขีดที่แตกต่างต้องใช้สักพักจะชินครับ  แรกๆมองใหญ่เลย 555


มาที่สวิตทเริ่มที่ด้านขวาพวงมาลัย  
  ปุ่ม เปิดปิดไฟหน้า แบบดึงออกมาทีละขั้น และสามารถ ปรับแสงสว่างไฟในเก๋งได้โดยหมุนไปทางขวาและซ้ายได้เลยครับ ถ้าหมุนไปสว่างสุดจะมีล็อกกึกนึง และไฟในเก๋งจะไม่ดับเลยครับ สว่างตลอดแม้จะล็อก (อันนี้พึ่งรู้เหมือนกันครับ 555 ระบบดีเหมือนกัน) และมีระบบไฟส่องประตูโรงรถครับ คือถ้าเอากุญแจออกแล้วค่อยปิดไฟหน้า ไฟหน้าจะติดอย่างเดียวไว้ประมาณ 30 วิ ครับ
ไอ้ที่เป็นขีดๆเส้นๆจะเป้นลำโพงทวีตเตอร์นะครับ

และสวิต ไฟตัดหมอกหลัง และไฟไล่ฝ่าครับ ไม่ค่อยได้ใช้เลยครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 22, 2012, 21:22:54 โดย Ninezti »

ออฟไลน์ Ninezti

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
  • Only in a Jeep ..
    • TECHHANGOUT
    • อีเมล์
Re: First Review ครั้งแรก Jeep cheerokee xj 4.0 ครับ (เดียวมาลงต่อครับๆ)
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2011, 00:30:29 »
มาที่ไมลและพวงมาลัยนะครับ  
พวงมาลัยวงใหญ่ซะใจเลยครับ มีแตร ปุ่ม2ข้างและ airbag  สามารถปรับสูงต่ำได้ด้วย ก้านข้างหลังก้านไฟเลี้ยวครับ

ไมล จะเรียบง่ายๆ มี สัญลักษณ์ไฟสูง อยู่ตรงกลาง และ มีที่วัด กิโล สามารถจับระยะทางได้จะอยู๋ช่องล่าง  และมีเข็ม บอกความร้อนบนซ้าย บอกน้ำมันล่างซ้าย บอกไฟในแบตเตอรี่ ขวาล่าง (ผมชอบนะ) และแรงดันน้ำมันเครื่องบนขวา ครับ และมีสวิตไฟฉุกเฉินอยู่ตรงคอพวงมาลัยครับ กดยากพอควร

ทางด้านไฟเตือน มี ตามนี้ครับ ที่จริงมีเยอะกว่านี้แต่ให่้โชวไม่เปนครับ มี เตือนตามรูปเลยครับ  มี ให้ใส่ เข้มขัดด้วย ขึ้นสักพักแล้วจะดับครับ


ที่เสียบกุญแจมีไฟเขียวๆด้วยครับ อันนี้จะมีบิดถอยหลังมาสามารถเปิดไฟใช้งานได้พวกฟังวิทยุครับลองดุครับ ผมชอบนะ จะได้ไม่เผลอไปสตาท  มีเสียงเตือนเวลาลืมเอากุยแจออก กับลืมปิดไฟหน้าด้วยครับ




คันเร่งและเบรคตำแหน่งกำลังดีครับ มีสวิตแก็ส กับตัดหมอดหน้าและไฟถอยหลังครับ (อาจจะดูรกไปหน่อยครับไม่ได้เจาะอะครับมันแตกง่ายเลยติดห้อยๆไว้ 55)


มาทีก้านปัดครับ  มีเปิดปัดน้ำฝนครับ  กระดกไฟสูง ทั่วๆไปครับ ปรับ เบอร์ 1 ได้ละเอียดมากๆๆครับชอบๆตรงนี้แหละครับ และกดลงไปจะฉีดน้ำล้างกระจกซึ่งจะปัดก่อน1 ทีและจะมีน้ำแบบกระจายๆครับ ไม่เป็นเส้นๆดีมากเลยครับชอบ และก้านข้างหลังจะที่ปรับระดับความสูงต่ำพวงมาลัยครับ


สวิตข้างซ้ายมีปักน้ำฝนหลังอย่างเดียวครับกดลงฉีดน้ำพร้อมปัด กดขึ้นปัดครับ ครับ และที่จุดบุหรี่ และช่องเหลี่ยมข้างบนจะเป็นแผงเปล่าๆครับไม่มีไรเลยครับ

มาดูภายในรวมๆคอนโซล แบบง่ายๆ มีลายไม้ตัดกับสีดำ
พร้อมช่องแอรแบบแปลกๆ แนวนอนกับแนวตั้ง ออกแบบแนวดีครับ 555


สวิทตแอร์ไม่มีไรมากครับ ข้างบนปรับความเย็น
ช้างๆปรับพัดลมครับ
ส่วนข้างล่างไว้ปิด กับ เปิด แบบ แรง กลาง อ่อน เสียงจะเหมือนเครื่องบินตอนลงเลยครับ 555

มาที่เกียรไม่มีไรมาก มี เกียรเลือกการขับ 4ขับ2 อยู่ซ้ายมือ
มี 2wd 4 part time 4 full time N 4 low ครับ (แก้ครับ)
 สามารถเปลี่ยนได้แม้รถขับครับ สะดวกดีครับ   ปกติจะขับ 4fulltime 2wd ครับ ขับ4 แล้ว หนึบ ดีครับ
ที่วางแก้วซื้อมาเพิ่มครับเอายางมารองอีกมันคงที่มากขึ้นครับ วางแกวพอดีเลยครับ
ส่วนช่องเก็บของ สีเหลืองๆ ที่วางโทรศัพท 2 อัน  มา diy เองครับ สะดวกขึ้นเยอะเลย

ที่วางแขนใหญ่ ยาวดีครับ 55  วางได้พอดีและเก็บของได้ตามรูปครับความสูง และความยาว ตามกล่อง ซีดีเลยครับ
ที่เก็บของด้านข้างคนขับ ที่ไม่ค่อยเยอะครับ แต่มีความเย็นนิดหน่อยๆ ข้างล่างพอใส่ขวดน้ำได้ครับ  







« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 23, 2011, 13:37:52 โดย nine959 »

WINKUNG

  • บุคคลทั่วไป
Re: First Review ครั้งแรก Jeep cheerokee xj 4.0 ครับ (เดียวมาลงต่อครับๆ)
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2011, 08:18:20 »
อ๊ากกกกกกกกกกก !  เห็น จี๊ฟไม่ได้ TT

ปล. คิดถึงเจ้า แกรนเชอโรกี ถ้าตอนนี้มันยังอยู่น่ะ ลุยน้ำท่วมสบาย

ออฟไลน์ JIRATH

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,782
    • อีเมล์
Re: First Review ครั้งแรก Jeep cheerokee xj 4.0 ครับ (เดียวมาลงต่อครับๆ)
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2011, 11:27:27 »
ที่บ้านมีปี 99 อยู่ครับ ช่วงล่างกับพวงมาลัยไปแล้ว เบรคด้วย แต่ใช้คุ้มมากมายครับ
2008 Mazda CX-9 (SOLD)
2008 BMW X5 3.0si E70 (SOLD)
2010 Volkswagen CC R-Line (SOLD)
2014 Subaru BRZ Limited (SOLD)
2016 Subaru STi (SOLD)
2016 Honda Accord Sport
2016 BMW 328d F31 Xdrive
2015 Lexus CT200h F-Sport
2006 BMW 330i E90 6M/T

ออฟไลน์ nick007

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 426
  • ความรักนั้นมันคืออะไรยิ่งเรียนรู้ยิ่งไม่เข้าใจ!!!!
Re: First Review ครั้งแรก Jeep cheerokee xj 4.0 ครับ (เดียวมาลงต่อครับๆ)
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2011, 17:48:54 »
3โลลิตรแหนะ
 
เรียกได้ว่าเป็นรถที่ยกซดน้ำมันเลยก็ว่าได้นะ  ;D ;D ;D
อยากมีบ้างซักคัน   >:( >:(

ออฟไลน์ Ninezti

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
  • Only in a Jeep ..
    • TECHHANGOUT
    • อีเมล์
Re: First Review ครั้งแรก Jeep cheerokee xj 4.0 ครับ (เดียวมาลงต่อครับๆ)
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2011, 21:34:32 »
ต่อที่เพดานและแผงบังแดด จุดนี้ผมชอบมากๆครับ รถสมัยก่อนไม่น่าเชื่อว่าจะทำได้ แผงบังแบบมีหลอดไฟ 2 ข้างเลย และปรับความแรงแสงได้ด้วยสุดยอดเลยครับ
 มีที่ปิดมาอีกแหนะ ชอบเลยครับ



มาที่เพดานมีที่บอกทิศและอุณหภูมิเปลี่ยนได้ องศากับ ฟาเรนไฮ ครับ มีไฟมาให้ข้างหน้า 2 ที่


 มีที่ใส่รีโมทโรงรถ แต่ ไม่มีเลยมาเก็บรีโมทวิทยุแทนครับ 55

ที่เก็บแว่น


กล้องวงจรปิดเอ้ย!ไม่ใช่ครับ 55(เหมือนจิงๆ) ตัวรับสัญญานรีโมท ครับ
และไฟข้างหลัง 2 ที่

และไฟที่เก็บของพร้อมลำโพงครับ


มาที่มุมมองการขับขี่บ้างครับด้านหน้ากระจกจะเล็กซักหน่อย  สงสัยออกแบบมาลุย 55
มุมมองเห็นกระโปรงหน้า มองได้กว้างดีครับ เพราะรถสูงด้วยมั้ง
เสา เอ บังน้อยมากครับ ถือว่าโอเคเลยครับ




กระจกด้านหลังถือว่าโปร่งมากๆเลยครับ มองเห็นชัดเจนครับถ้าไม่มีของ  เสา b c ออกแบบมาเล็กดีครับ โปร่งๆ



กระจกมองข้างนั้นผมถือว่าเล็กและมองลำบากพอควร เพราะมีเส้นแบ่งกระจกมาขวางแรกๆอาจจะแปลกๆหลังมารู้สึกม่ามีเส้นอยู่เลยครับ 55 ติดตาปลาแล้วช่วยได้เยอะเลยครับ ผม diy แบ่งครึ่งวงกลมแล้วมาแปะครับ ดีกว่าเยอะเลยครับ พับไม่ได้นะครับเป็นแบบชนแล้วเด้งไปๆมาๆ 55


สามารถปรับไฟฟ้าได้ ที่ปรับจะอยู่ตรงเบรคมือครับ เลือกซซ้ายหรือ ขวา ครับ และก็กดเอาตามใจชอบ







« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 22, 2011, 22:00:12 โดย nine959 »

ออฟไลน์ Ninezti

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
  • Only in a Jeep ..
    • TECHHANGOUT
    • อีเมล์
Re: First Review ครั้งแรก Jeep cheerokee xj 4.0 ครับ (เดียวมาลงต่อครับๆ)
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2011, 21:48:24 »
มาที่เครื่องยนต์ครับ

ตัวห้องเครื่องแน่นมากๆครับรกด้วยครับ 555 เสียงดังตอนแรกๆครับ พอขับไปก็จะไม่ค่อยได้ยินครับ
เครื่องยนต์ ตามสเปคครับ
แถวเดียว OHV 6สูบ
4.0 ลิตร
อัตราส่วนกำลังอัด   8.8:1
หัวฉีดมัลติพอยท์
กำลังแรงม้าสูงสุด/รอบต่อนาที  185@4400
แรงบิด/รอบต่อนาที          301@3000
ความจุถังน้ำมัน 76 ลิตร

ก็ไม่มีอะไรมากครับ  เพราะผมไม่ค่อยได้ขับ อะครับ แต่ที่ผมชอบคือ  มีไฟในห้องเครื่องด้วยครับ รถรุ่นใหม่ๆยังไม่มีเลยครับและได้ใช้บ่อยด้วยครับ



บิดลงจะเปิดบิดขึ้นจะปิดครับ ทนมากด้วยๆครับ

น่าจะหมดแล้วนะครับ การขับขี่ขอไม่บอกเยอะนะครับ เพราะอายุไม่ถึง เคยลองสั้นๆ ;D
และบอกเลยว่าเป็นรถแหนบที่นุ่มและเกาะถนนมากกกที่สุดเท่าที่เคยนั่งมาเลยครับไม่เด้งเลยเท่าที่เคยนั่งๆมาและคนอื่นบอกๆ

การขับขี่ถือว่าพวงมาลัยคันแร่งที่ผมชอบมากๆเร่งแบบทันใจแซงได้ทันใจ มากๆไม่เบาแบบญี่ปุ่น ครับพวงมาลัยกำลังดี แถมเกาะถนนมากๆด้วยครับ 
เคยมีประสบการ์ณพ่อผมขับยางแตกตอน 140 กว่าไม่รุ้สึกเลยครับล้อหลังอะครับคงธรรมดามั้งครับและมีครั้งนึง
ขับมาซัก 90 -100แล้วพ่อผมหักหลบรถครับหักหลบเลยครับแล้วหักกลับครับขอบบอกว่ารถนิ่งมากๆและทรงตัวดีมากครับไม่ปัดเลยและเข้าเลนเดิมได้ครับ ยอมรับเลยครับ   
ความเร็ว0-100 ได้ประมาณ 19 วิครับ พ่อผมลองครับ มีของและรถติดแก็สแบบหม้อต้มเลยไม่ทันใจแต่ก็แรงครับเคยลองหัวฉีดขับสนุกมากๆครับ อยากติดใหม่เลยทีเดียว 55



ออฟไลน์ Ninezti

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
  • Only in a Jeep ..
    • TECHHANGOUT
    • อีเมล์
Re: First Review ครั้งแรก Jeep cheerokee xj 4.0 ครับ (เดียวมาลงต่อครับๆ)
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2011, 22:04:17 »
สุดท้ายสรุป





เป็นรถที่ดีคันนึง และรูปทรงและอุปกรณ์ที่ ยังทันสมัยและรถรุ่นใหม่ๆยังไม่ค่อยมี เช่น ไฟกระจกส่องหน้าปรับความแรงแสงได้ ไฟที่ห้องเครื่อง ไฟส่องเท้า และการออกแบบที่ดูไม่ตกยุคและคล่องตัวทีเดียวครับและนั่งแหนบช่วงล่างนุ่มแต่เกาะหนึบครับ



แต่เนื้อที่อาจจะเล็กอาจจะเกี่ยวกับความปลอดภัยและคล่องตัวในการลุยครับและอาจจะกินน้ำมันไปหน่อยครับ แต่โดยรวมถ้าชอบการลุยและสวยอมตะ คันนี้น่าสนอย่างมากครับ  ถ้าไม่เน้นสบายนะครับ ข้อสำคัญถ้าจะเล่น ควรรู้เรื่องรถและมีอู่ประจำที่รู้ jeep ไว้ด้วยนะครับ เพราะรถมันแก่แล้วแต่เครื่องยังแรงนะ อาจจะมีซ่อมนิดหน่อยๆ

ยกให้เป้น รถลุยพันธ์แท้ ในใจผมเลยครับ

ครับ


แต่เสียดายรถคันนี้กำลังจะตัดสินใจอยู่ลงขายหรือเก็บไว้ครับแม่บอกขอนั่งสบายและใหญเพราะแก่แล้ว 55 เลยจะไปคบรุ่นพี่ garnd cherokee zj ครับ  แต่เสียดายมากทำคันนี้ไปเกินค่าตัวแล้วรักมันมากและสีขาวด้วยครับหายากถึงยากมากๆๆด้วย T T กำลังลังเลครับ มีแนวโน้มอาจจะไม่ 55


ถ้ามีอะไรผิดพลาดหรืออ่านแล้วทำให้ปวดหัวหรือ งง ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ 55  เพิ่งครั้งแรกครับ  


ขอบคุณครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 22, 2012, 21:23:25 โดย Ninezti »

ออฟไลน์ gorilla

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,459
บ้านผมก็มีครับ  ปี 95  4.0 limited สำน้ำเงิน ออกมือหนึ่ง  ใช้ไป 180000 โล เอง 

ยังไม่ได้ติดแก๊สครับ  คุณพ่อผมไม่ชอบ  คุณพ่อก็ดูแลตลอดครับ ห้องเครื่องเช็ดเองตลอด ไม่มีฝุ่น

ภายในผมว่าดูดีครับ  ดูหรูหรา  และดูดีกว่า D-segment ญี่ปุ่นช่วงเวลาเดียวกันเยอะมากๆ

พวงมาลัยผมว่าเบาเกินในช่วงความเร็วสูง  เรียกว่าเบาหวิวเลยดีกว่า  แต่รถไม่ได้ออกแบบมาให้ขับเร็วอยู่แล้ว

เบาะหลังนั่งไม่สบายเลย  ผมนั่งไม่ได้  ถ้านั่งเมื่อไหร่อ๊วกแน่ๆ ชันเกินไป

ผมอยากขอรับช่วงต่อ เอาไว้ทำรถลุยๆดีกว่า ขายไปก็ได้ไม่กี่ตัง

 

ออฟไลน์ Ninezti

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
  • Only in a Jeep ..
    • TECHHANGOUT
    • อีเมล์
ครับ ลืมบอกไปเบาะหลังผมเอาให้มันเอนลงมาอะครับไปปรับไม่งั้นมันจะชันไปอะครับ ไปย้ายให้มันเอนลงมาหน่อย สบายขึ้นครับ  ;D

ออฟไลน์ nuttapatJazz

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,171
รถรกไปนะ! 555

 ::) ::)
Nissan Juke 1.6V '14
Mitsubishi Triton Plus 2.4Benzene 2Dr MT '12
Honda FIT(HK Spec) '13

ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
Re: First Review ครั้งแรก Jeep cheerokee xj 4.0 ครับ รถลุยพันธ์แท้
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2011, 00:10:39 »
Gavin Green แห่ง CAR เคยบอกไว้ว่า
Land Rover คือค่ายที่รู้เรื่องรถลุยดีที่สุด
แต่อเมริกาก็มี Jeep ซึ่งครั้งหนึ่งเคยทำรถลุยได้ดีเท่า และทนกว่าอีกต่างหาก
ผมว่าเขาคงหมายถึง Jeep ตัวนี้ ซึ่งในยุค 1994-1996 ก่อนเศรษฐกิจเจอต้มยำกุ้งนั้น
เป็นรถที่เป็นทางเลือกใหม่ของคนรวย และเป็นรถที่ "เด็กขับก็ดูวัยรุ่น ผู้ใหญ่ขับก็ดูเป็นผู้ใหญ่"

ผมเคยขับเจ้านี่ไล่กวดบนทางด่วนกับ 525i E34 ได้สบาย แต่นั่นคือรถมันยังสภาพดีมากๆเลยนะ
ช่วงกลางๆไม่แพ้กัน แต่หลัง 150 ต้องทำใจล่ะว่าสู้รถเก๋งไม่ได้

คุณทาทายัง ได้ Cherokee เป็นของขวัญวันเกิดสมัยเด็กๆ เป็นรถคันแรกของเธอ
ที่คุณพ่อ Tim Young ซื้อให้
- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8

ออฟไลน์ LimitedEdition

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,410
Re: First Review ครั้งแรก Jeep cheerokee xj 4.0 ครับ รถลุยพันธ์แท้
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2011, 00:56:21 »
เคยคิดจะซื้อตอนป้ายแดงเหมือนกันครับ
สมัยนั้น 4.0 Limited minorchange เปิดตัวมา 1.1 ล้านบาท น้ำมันไร้สาร ลิตรละ 9.50 บาท
ในขณะที่รถญี่ปุ่น D-Segment เช่น Cefiro, Accord, Galant ขายกัน 9.9แสน - 1.1 ล้าน

ผมอยากให้ จขกท. บอกคุณพ่อนำรถไปจูนแก๊สใหม่จังครับ
4.0 ลิตร 197 แรงม้า น่าจะไปได้เร็วกว่า 19 วิ นะคร้าบบ


ออฟไลน์ Maximus

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 259
  • ท่องเที่ยวไปตามทางที่ใจฝัน
    • Max Pruit
Re: First Review ครั้งแรก Jeep cheerokee xj 4.0 ครับ รถลุยพันธ์แท้
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2011, 01:20:02 »
 คิดถึงรุ่นนี้จัง ตอนป้ายแดงประกอบในกำลังจะเปิดตัวเซลล์ให้เลือกระหว่างตัวนำเข้ากับรอตัวประกอบใน
ที่บ้านรอตัว4.0ประกอบในได้มาคันแรกๆเลย ซื้อไล่ๆกับปาเจโร่3.5 และทรูปเปอร์ 3.2
สามคันนี้เหลืออยู่คันเดียวคือปาเจโร่ ส่วนเชโรกีกับทรูปเปอร์ขายทิ้งไปนานแล้ว

 เป็นรถที่ได้ขับออกถนนใหญ่ครั้งแรกในชีวิต ตอนนั้นขับรถได้แล้วแต่ยังไม่เคยออกถนนใหญ่
ขับแต่ที่หน้างานตัวเอง(ถนนที่ยังไม่เปิดใช้)แล้วโดนอาหลอกให้เลี้ยวเข้าซอย
และแล้วก็ออกถนนรามคำแหง...ขับไปสนามกอล์ฟกรุเทพกรีฑา รถแรงดี พวงมาลัยเบามาก
หลังจากนั้นก็ได้ขับคันนี้อีกหลายครั้ง
ครั้งนึงไปดูจุดที่กำลังจะประมูลงาน มันเป็นบ่อเลนแล้วอาโยนเข้า4Loมันก็ตะกุยๆไปได้เรื่อยๆ
ทั้งๆที่ใส่ยางall terrain ยุคนั้น4x4ทุกคันที่บ้านผมใส่แต่BF

 หลังจากซื้อมาได้ปีนึงอาก็เอาไปคว่ำตอนวันส่งท้ายปี เพราะมีโคลนที่รถบรรทุกทำหกเลอะถนน
ครั้งนั้นมีรถประสบเหตุการณ์เดียวกับสิบกว่าคัน มีคนตายไปสามคน
รถที่อาผมขับคว่ำคร่อมอยู่ระหว่างถนน ท้ายพาดถนน ส่วนหลังเสาหักลงมาหมด
ห้องโดนสารส่วนคนขับอยู่ในร่องกลางถนนเลยรอด ซ่อมอยู่ศูนย์ใหญ่แถวบางบ่ออยู่ปีนึง
พอกลับมาใช้ต่ออีกสองปี ขนาดซ่อมที่ศูนย์ใหญ่รถมันก็ไม่เหมือนเดิม ก็เลยขายไป

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
Re: First Review ครั้งแรก Jeep cheerokee xj 4.0 ครับ รถลุยพันธ์แท้
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2011, 06:35:14 »
รุ่นพี่ของฟอร์จูนเนอร์ 2.7 ติดแก๊ส


คันนี้ ติด LPG จูนเนียนๆ
ได้รถใหญ่ ขับสบาย นั่งสบาย ในราคากิโลล่ะไม่กี่บาท หุๆ

ออฟไลน์ Tee@Abuser

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 326
  • T&T Garage
Re: First Review ครั้งแรก Jeep cheerokee xj 4.0 ครับ รถลุยพันธ์แท้
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2011, 11:59:24 »
ีระบบเกียร์ 4X4 ของ Jeep ตัวนี้ไม่ใช้แค่ 4H 4L 2H มันยังมีความเทพในอีก ฟังชั้นคือ 4PartTime คล้ายๆกับแอร์ล๊อกเกอร์ในตัว สำหรับต้องการแรงบิดในการกระชากสูงเวลาติดหลุมโคลนหนักๆ พวงมาลัยเเทบยังหักเลี๊ยวไม่ได้ ล๊อก ได้สะใจมากก ที่บ้านก็มีคันนึง ยังไม่ได้ติด GAS เหมือนกันจอดเฉยๆ
T&T Garage & Spp Garage
Sahakorn 17 racing factory

ออฟไลน์ vellcap

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,984
Re: First Review ครั้งแรก Jeep cheerokee xj 4.0 ครับ รถลุยพันธ์แท้
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2011, 14:00:28 »
ขอบคุณครับ
อ๊ากกก ไฟที่กระจกส่องหน้าปรับแสงได้อีก นี่มันอะไรเนี่ย มันคือ SUV พันธุ์ลุย แต่ระบบอำนวยความสะดวกเพียบ(แถมโอเวอร์ด้วย)
แต่การกินน้ำมันเนี่ยเกินมาตรฐานผมไปนะครับ 3 Km/L เนี่ย ผมรับได้ต่ำสุดคือเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ ~6 Km/L ต่ำกว่านั้น คงจะต้องหาทางออกครับ

ออฟไลน์ mini_freak

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 337
  • ไอ้บ้ารถ mini / AWD หัวรุนแรง / Save the MT
    • อีเมล์
Re: First Review ครั้งแรก Jeep cheerokee xj 4.0 ครับ รถลุยพันธ์แท้
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2011, 19:33:24 »
ที่บ้านผมใช้ Cherokee 4.0 H.O. Limited ดั้งเดิมจากโรงงานเลยครับ ที่ไม่เดิม ก็ติดแก๊สเนี่ยล่ะ เพราะเครื่อง AMC/Renault ตัวนี้ ดูดน้ำมันเอาเรื่อง แต่ให้แรงบิดที่แบบว่า V8 ของ Range Rover ยังอาย (อาจจะเพราะระบบเกียร์ Quadra Trac มันส่งกำลังดีมากๆ หว่า)

4 Part-Time นี่ ล็อคโหดมากๆ เหมาะกับต้องการลากรถออกจากหล่มโคลนได้ครับ ยิ่งถ้ามียางแบบ Mud Terrain ด้วยนะ ไม่มีคำว่ากลัว แทบไม่ต้องซื้อ Air Locker เลย แต่ข้อเสียคือ เลี้ยวแทบไม่ออก แต่สภาวะถนนลื่นๆ ผมล่ะชอบใช้นะ

ใครจะเล่น ก็มีเว็บคอมมูนิตีเยอะมากครับ ผมชอบอ่านข้อมูลของทางเมกาเลย หนักแน่นดี มีรายละเอียดไดอะแกรมเยอะมากๆ
เสพติด AWD แถมโดน BC5 ของใครบางคนแถวนี้ยั่วกิเลส.... ยั่วซะต้องสอยมาสักคัน
Twitter @z2bbgr

ออฟไลน์ 6162002

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,089
Re: First Review ครั้งแรก Jeep cheerokee xj 4.0 ครับ รถลุยพันธ์แท้
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: ตุลาคม 24, 2011, 11:26:50 »
ออฟชั่นดีกว่ารถสมัยนี้หลายๆรุ่นอีกครับ อิอิ

ขอบคุณสำหรับรีวิวด้วยครับ ภาพเยอะสะใจดี

ออฟไลน์ Ninezti

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
  • Only in a Jeep ..
    • TECHHANGOUT
    • อีเมล์
Re: First Review ครั้งแรก Jeep cheerokee xj 4.0 ครับ รถลุยพันธ์แท้
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: ตุลาคม 24, 2011, 20:31:09 »
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นทุกท่านครับ   ;D.  มีอะไรแนะนำเพิ่มเติมได้เลยนะครับ :)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 08, 2011, 19:23:47 โดย nine959 »

ออฟไลน์ pony

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 489
Re: First Review /// Jeep Cheerokee xj 4.0 /// รถลุยทรงอมตะ
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 08, 2013, 00:59:51 »
จูนแก๊สเนียนๆน่าจะทำ 0-100 เร็วกว่านี้ครับ แต่นั่นคือที่ผมรู้มา เพราะชีวิตจริงผมใช้ XJ 95 เดิมหมด(น้ำมันล้วนๆ)ตั้งแต่ป้ายแดงๆ มานอนยันให้เลยว่าเร็วกว่าที่หลายคนคาดคิดครับ 555 ไว้ว่างๆจะทำรีวิวมาแชร์เพื่อนๆครับ ;)

ออฟไลน์ wichakhun

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 22
    • อีเมล์
Re: First Review /// Jeep Cheerokee xj 4.0 /// รถลุยทรงอมตะ
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2013, 14:26:18 »
เป็นรถที่ใช้ดีครับ ที่บ้านเคยใช้ทั้ง xj ' wj ' zj

ลุยมัน ถึงไหนถึงกัน แต่น้ำมัน กระจายยย


 ;D ;D ;D

ขอบคุณครับ