วิธีเปลี่ยนเกียรให้ขับรถได้เร็วทำอย่างไร

[Pon76]

ตอนขับรถเก๋งเบนซิลถ้าอยากออกตัวเร็วจะลากรอบเครื่องจนถึงรอบที่แรงม้าสูงสุดแล้วค่อยเปลี่ยนเกียร
โดยไม่ได้สนใจแรงบิดเลย ประมาณ 4000-5000 รอบ
แต่พอมาขับกระบะดีเซลแบบเทอร์โบแปรผัน แรงบิดสูงสุดอยู่ระหว่าง 1500-2500 รอบ เท่านั้น
การลากรอบต่อไปอีกจนถึงรอบแรงม้าสูงสุดแล้วค่อยเปลี่ยนเกียรผิดหรือเปล่าครับ เริ่มงงๆ

[kez]

 เปลี่ยนเกียร์ที่ 80 % ของรอบแรงบิดสูงสุด

[hutzero]

จริงๆก็หลักการเดียวกัน   แต่เทอร์โบจะขึ้นกับบูสจะแผ่วเมื่อรอบเท่าไหร่   สังเกตไม่ยากหรอกครับ  แต่อยากให้เปลี่ยนเกียร์เร็วจริงต้องลง Dogbox   

[Torque]

รถทั่วๆไปก็ลากไปชนขีดแดงครับ

จุดของ รอบที่จะเปลี่ยนเกียร์ให้ได้อัตราเร่งสูงสุดเต็มที่
จะเลยจุดแรงม้าสูงสุดขึ้นไปครับ โดยทั่วไปก็คือลากไปชนขีดแดง

เพราะปลายเกียร์แรงบิดมันปักหัวลงเรื่อยๆก็จริง
แต่ผ่านอัตราทดเกียร์แล้วมักจะยังได้แรงบิดที่ล้อมากกว่าของเกียร์ถัดไป @ ความเร็วเดียวกัน

จริงๆแล้วจะเปลี่ยนเกียร์ตรงไหน แบบคร่าวๆ
ให้เลือกใ้ช้เกียร์ที่ ณ ความเร็วนั้นๆ ได้แรงบิดออกมาที่ล้อมากกว่า

ตอนที่เรากดคันเร่งน้อยๆ กราฟแรงม้าแรงบิด vs รอบเครื่อง
ก็จะเป็นคนละรูปกับตอนที่กดเต็มที่
จุดที่เปลียนเกียร์ก็จะถอยต่ำลงมาครับ

[wannachat]

พยายามให้ได้ความเร็วสูงสุดของเกียร์นั้น ค่อยเปลี่ยนเกียร์ คือ ไม่ใช่เอาถึงความเร็วสูงสุดของเกียร์นั้นๆนะ  แต่คือ เอาช่วงได้อัตราเร่งมากที่สุด เมื่อไหร่อัตราเร่งแผ่วและเกียร์ถัดไปมีแรงบิดสูงสุดแล้วก็เปลี่ยนเกียร์

และคำนึงถึงแรงบิดในเกียร์ถัดไปด้วย ไม่ใช่เปลี่ยนเกียร์แล้วรอบตก ต้องรอรอบ (ให้รอบตกมาที่รอบที่ มีแรงบิดมากที่สุด)

อย่าให้ล้อฟรี

( มะวันเห็น  วีโก้  ล้อฟรีถึงเกียร์ 3   เลยแฮะแต่ไม่ควันดำ  แต่ตอนออกตัวผงควันยางเต็มพื้น = =  , ผมวีออสMT บางๆครั้งทีเกียร์สามล้อจะฟรี)

[YenChar]

ลากจนหมดช่วงแรงบิดสูงสุด >> เร็ว ดึงดี

ลากจนหมดแรงม้าสูงสุด >> เร็วที่สุด ดึง แต่กินน้ำมันเกินเหตุ

ลากจนหมดแรงม้าสูงสุด ส่วนมากจะอยู่เกือบๆเรดไลน์แล้ว
แรงกว่ากันไม่มากมาย แต่กินน้ำมันกว่ากันมากโข

[banch]

คำถามนี้คงไม่มีเรื่องอัตราสิ้นเปลืองมาเป็นข้อกำหนดนะ

ลากให้เลยรอบแรงม้าสูงสุดไปซัก สีซ้าห้าร้อยรอบ ส่วนมากก็จะอยู่เกือบๆเรดไลน์

แต่ไม่ต้องแช่นะ ถึงแล้วสับเกียร์เลย

เมื่อยกคันเร่งเปลี่ยนเกียร์

รอบจะตกลงมาอยู่ระหว่างช่วงแรงบิดสูงสุดกับแรงม้าสูงสุด ขึ้นอยู่กับว่าท่านสับเกียร์ได้เร็วแค่ไหน

สับเร็วรอบก็จะตกน้อบ การเรียกกำลังก็จะต่อเนื่องมากกว่า

ถ้าคุณสับเกียร์ช้ามากกกกกกกกกกกกก (นึกถึงรถสิบล้อเก่าๆ ที่ต้องเบิ้ลเครื่องสองสามรอบเพื่อเข้าเกียร์) รอบก็จะตกลงมาต่ำกว่ารอบแรงบิดสูงสุด

ท่านก็ต้องมาไล่รอบลากรอบเรียกกำลังกันใหม่ทุกเกียร์

ถ้าสับเกียร์แบบนี้แนะนำว่าไม่ต้องลากรอบให้เปลืองน้ำมันครับ

[Pon76]

ขอบคุณคำตอบของคุณ banch ผมเข้าใจแล้วครับ
สรุปว่าเราจะเปลี่ยนเกียรที่รอบเท่าไร ขึ้นอยู่กับว่าเมื่อเปลี่ยนเกียรถัดไปแล้ว
รอบตกลงมาที่แรงบิดสูงสุดพอดีใช่ไหมครับ
ถ้าเราเปลี่ยนเกียรใกล้ redline แต่สับเกียรไวมากรอบตกลงมาเลยแรงบิดสูงสุดก็เสียประโยชน์
ถูกต้องไหมครับ. 

[Torque]

สับเกียร์ด้วยเงื่อนไข ที่จะให้สับขึ้นเกียร์ถัดไป  แล้วรอบตกอยู่ที่ตรงแรงบิดสูงสุด
แบบนั้นไม่น่าจะเร็วที่สุดนะครับ


ลองดูกราฟด้านล่างนี้
เป็นกราฟแรงม้าแรงบิดของเครื่องดีเซล OM651
ซึ่งแรงบิดสูงสุดอยู่ที่รอบเครื่อง 1600-1800 RPM  เลยจากนั้นไปปักหัวลงอย่างเดียว



ถ้าไปผ่านอัตราทดเกียร์ (5G) และเฟืองท้ายโดยอิงจากข้อมูลของ E class
จะได้แรงบิดที่ล้อ vs ความเร็วของแต่ละเกียร์อยู่บนกราฟเดียวกันแบบรูปข้างล่าง
ไล่ตั้งแต่เส้นสีแดงคือของเกียร์ 1  , เกียร์ 2 สีเหลือง ,
เกียร์ 3 สีน้ำเงิน ,  เกียร์ 4 สีชมพู  ,ไปจนถึง เส้นสีเขียวคือเกียร์ 5

ซึ่งกราฟแรงบิดที่ล้อก็คือข้อมูลของเส้นแรงบิด(สีฟ้า) ในภาพที่ 1
พอผ่านอัตราทดเกียร์ที่แตกต่างกันในแต่ละเกียร์ รูปร่างของกราฟก็เหมือน
เพียงแต่เกียร์สูง จะมีอัตราทดต่ำกว่า กราฟจึงมีรูปร่างอ้วนเตี้ย กว่าของเกียร์ต่ำ
  





-------------------------------------------------------------------------




ทีนี้ถ้าเราจงใจเปลียนเกียร์ขึ้นโดยให้รอบมาตกลงที่รอบแรงบิดสูงสุดพอดี
ก็จะได้กราฟหน้าตาด้านล่าง




แรงบิดที่ออกมาใช้งานที่ล้อแบบคร่าวๆ
ก็จะวิ่งเป็นกราฟเส้นสีเขียวที่ลากทับกราฟ แบบในภาพ



จะเห็นได้เลยว่าเปลี่ยนเกียร์ 1->2 ที่ความเร็วประมาณ 30 km/h นิดๆ
ทั้งๆที่ถ้ายังลากเกียร์1 ต่อไป แรงบิดที่ล้อก็ยังอยู่สูงกว่าของเกียร์ 2 อยู่ไปจนถึงขีึดแดง




-------------------------------------------------------------------------




ดังนั้นถ้าดูกราฟดีๆ

-เกียร์ 1 (เส้นสีแดง) ไล่ไปจนสุดเกียร์ ไม่มีช่วงที่แรงบิดที่ล้อไขว้ลงต่ำกว่าของเกียร์ 2 (สีเหลือง)
-เกียร์ 2 (เส้นสีเหลือง) ไล่ไปจนสุดเกียร์ ไม่มีช่วงที่แรงบิดที่ล้อไขว้ลงต่ำกว่าของเกียร์ 3 (สีน้ำเงิน)
-เกียร์ 3 (เส้นสีน้ำเงิน) ไล่ไปจนสุดเกียร์ ไม่มีช่วงที่แรงบิดที่ล้อไขว้ลงต่ำกว่าของเกียร์ 4 (สีชมพู)  
-เกียร์ 4 (เส้นสีชมพู) ไล่ไปจนถึงความเร็วประมาณ 200 km/h นิดๆ แรงบิดที่ล้อไขว้ตัดกับเกียร์ 5 (สีเขียว) พอดีกับช่วงที่รอบหมดพอดี

ดังนั้นถ้าเปลี่ยนเกียร์ให้ไปเร็วสุดตอนที่เร่งสุดๆ
ก็ต้องเลือกใช้เกียร์ใดก็ตามที่ ณ ความเร็วค่านั้นๆ มีแรงบิดที่ล้อมากกว่า เช่นถ้า
ความเร็ว 50 km/h แรงบิดที่ล้อจากเกียร์ 1 ยังมากกว่าของเกียร์ 2 เราก็ยังไม่เปลี่ยนเกียร์ขึ้น ลากต่อไปก่อน
จะเปลี่ยนเกียร์ขึ้นก็ต่อเมื่อแรงบิดที่ล้อมันลงต่ำกว่าเกียร์ถัดไฟ คือกราฟเริ่มไขว้กัน หรือรอบเครื่องหมดซะก่อน ก็ต้องเปลี่ยนเกียร์ขึ้นเช่นกัน

สำหรับในรถคันนี้ก็น่าจะสับเกียร์ขึ้นที่ขีดแดง
ไม่น่าจะสับเกียร์ด้วยเงื่อนไขให้ไปลงที่จุดที่ทำให้เกียร์ถัดไปตกลงที่รอบแรงบิดสูงสุดครับ



เส้นสีดำที่วาดทับบนกราฟจะแสดงแรงบิดที่ล้อของกรณีที่เปลี่ยนเกียร์ตอนลากถึงขีดแดง


/*

แต่ในรถทีี่มีจำนวนเกียร์มากกว่านี้
มันอาจจะมีจุดที่แรงบิดที่ล้อเริ่มไขว้ตัดกัน ก่อนถึงเงื่อนไขรอบหมด
รถคันนั้นๆก็จะเปลี่ยนเีกียร์ก่อนขีดแดง

*/


 -------------------------------------------------------



ลองเอากราฟแรงบิดที่ล้อมาเทียบกัน
ถ้าเปลี่ยนเกียร์แบบจงใจให้ไปตกลงที่รอบแรงบิดสูงสุดจะเป็นเส้นสีเขียวในภาพ  
แต่ถ้าเปลีี่ยนเกียร์โดยเลือกใช้เกียร์ที่ให้แรงบิดที่ล้อสูงที่สุด ณ ความเร็วต่างๆ ก็จะได้เส้นสีดำในภาพ




จะเห็นว่าเส้นสีดำมีบางจุดซ้อนทับ กับขี่อยู่เหนือเส้นสีเขียว ไม่มีต่ำกว่าเลย ตลอดทุกย่านความเร็ว
ผิดถูกอย่างไรรบกวนชี้แนะด้วยครับ ผมจะได้เข้าใจใหม่ให้ถูกต้อง  

ถ้าไม่ใช่เกียร์กระปุก หรือเกียร์ออโต้แบบทั่วไป
ในรถที่เกียร์อัตราทดแปรผันต่อเนื่องแบบ CVT น่าจะมีจุดเปลี่ยนเกียร์อยู่แถวๆไหนหว่า ?

[banch]

ขอบคุณคำตอบของคุณ banch ผมเข้าใจแล้วครับ
สรุปว่าเราจะเปลี่ยนเกียรที่รอบเท่าไร ขึ้นอยู่กับว่าเมื่อเปลี่ยนเกียรถัดไปแล้ว
รอบตกลงมาที่แรงบิดสูงสุดพอดีใช่ไหมครับ
ถ้าเราเปลี่ยนเกียรใกล้ redline แต่สับเกียรไวมากรอบตกลงมาเลยแรงบิดสูงสุดก็เสียประโยชน์
ถูกต้องไหมครับ. 

"ไม่ใช่ครับ

ไม่ใช่ให้รอบตกมาที่รอบแรงบิดสูงสุด

คอนเซ็ปคือ ลากรอบไปให้แตะเรดไลน์แล้วเปลี่ยนเกียร์ให้เร็วที่สุด เพื่อให้รอบตกน้อยที่สุด

ซึ่งมันเป็นการเรียกเอากำลังสูงสุดของเครื่องออกมาใช้งานให้ได้มากที่สุด

คอนเซ็ปคล้ายกับเกียร์ CVT ล็อครอบเครื่องยนต์ไว้ที่รอบแรงม้าสูงสุดแล้วปรับที่อัตราทดเอา

แต่ที่ผมบอกว่าให้เลยรอบแรงม้าสูงสุดไปซัก 500 รอบแล้วสับเลย เพราะผมกลัวว่าจะลากรอบไปชนเรดไลน์จนรอบมันตัดหัวทิ่มหัวตำเอา

"