ผู้เขียน หัวข้อ: เฟืองท้ายจัดขึ้น 5% ให้ผลใกล้เคียงกับแรงบิดมากขึ้น 5% ทุกช่วงรอบไหมครับ  (อ่าน 8268 ครั้ง)

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,057
คำถามตามหัวข้อเลยครับ เช่น เปลี่ยนจาก 4.1 ไป 4.3

คิดแบบง่ายๆว่าเฟืองท้ายจัดขึ้น 5% ก็แปลว่าเพลาขึ้นได้เปรียบเชิงกลเพิ่มขึ้น 5% (หลักทดแรงของชุดเฟือง) แบบนี้ก็น่าจะใกล้เคียงกับรถมีแรงบิดเพิ่มขึ้น 5% ทุกช่วงรอบด้วยไหมครับ

ออฟไลน์ kritsada

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 344
แต่รอบจะหมดเร็วตามไปด้วยไหมครับ ผมกำลังนึกถึงตอนกำลังปั่นจักรยานที่มีเกียร์หลายระดับ คิดว่าน่าจะคล้ายกัน(หรือเปล่า?)
C.kritsada

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,057
รอบหมดเร็วขึ้นแน่นอนครับ ... แต่เท่าที่ลองคำนวณดู ความเร็วปลายเกียร์แต่ละเกียร์ลดลง 5% ผมรับได้ ยังไงก็ไม่คิดจะซัดยาวๆเร็วๆอยู่แล้ว

แต่อาจมีปัญหาช่วง 1>2 อาจจะสั้นเกิน ...

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,335
เพิ่มขึ้นตลอด เพราะเพลาจะหมุนล้อได้ง่ายขึ้นครับ แลกกับความเร็วปลายและความประหยัด แต่จริงๆความประหยัดมันขึ้นกับการใช้งานด้วยแหละครับ
ต้องถามว่ามีเหตุอะไร ทำไมอยากเปลี่ยนเฟืองท้ายให้ทดมากขึ้นครับ เช่นออกเกียร์1ไม่มีแรงรึเปล่า บรรทุกหนักเหรอ ปัญหามันอยู่ตรงไหนกันแน่ จะได้เปลี่ยนได้ถูกจุด

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,057
ปัญหาคือ รถผมแม้จะมี 140 แรงม้า กับตัวถังหนัก 1 ตันนิดๆ ... แต่เป็นเครื่องที่เรียกแรงจากรอบ แล้วดันได้เกียร์ออโต้ค่อนข้างโง่+ขยันเปลี่ยนเกียร์ขึ้น (และอาจทดมาไม่ค่อยดีด้วย) ... ทำให้ช่วงรอบต่ำๆตอนออกตัวมีความรู้สึกคล้ายๆลากน้ำหนักอยู่ พอเริ่มจะมีแรงหน่อยเกียร์ก็เปลี่ยนขึ้นซะแล้ว ... เลยมีความคิดว่าจะลองทดเฟืองท้ายใหม่ดูเผื่อว่าจะกระฉับกระเฉงขึ้น
 
..... ที่ยังเสียวๆอยู่หน่อยๆ คือ เกียร์ออโต้ .... ผลที่ได้อาจไม่เหมือนเกียร์ธรรมดาที่เคยลองเล่นมา เคยใช้ B16A เปลี่ยนเฟืองท้ายจาก 4.4 เป็น 4.7 กับ M42 เปลี่ยนเฟืองท้ายจาก 3.45 เป็น 3.63 ทั้ง 2 ตัว ผมพอใจกับผลที่ได้ แต่มันเป็นเกียร์ธรรมดา ไม่รู้ว่าความที่อัตราทดเฟืองท้ายมันเปลี่ยนไป มันจะทำให้ชุด Torque convertor ที่งานเพี้ยนไป และกลายเป็นลากเกียร์เยอะเกินเหตุหรือเปล่า

ออฟไลน์ paeybu

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 627
เข้าใจในคำถามเลยครับ โจทย์คือเกียร์ออโต้นี่แหละ ผมคิดว่าคุ้มที่จะทำนะครับ

เช่นถ้าจำไม่ผิด cx-3 กับ mz3 เกียร์ต่างกันก็แค่อัตราทดเฟืองท้าย แต่ cx-3 ก็จี๊ดขึ้นกว่าเยอะ (ไม่นับน้ำหนักนะ)

ออฟไลน์ koko86

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,594
    • อีเมล์
ตามทฤษฎีมันน่าจะขึ้นตั้งแต่ออกตัวนะครับ
ทีนี้ทางปฏิบัติ เท่าที่เคยเปลี่ยน4.1-->4.3 torque มันเปลี่ยนแปลงตามรอบเลย
แต่เวลาขึ้นไดโน่ ไม่แน่ใจว่าเป็นผลจากการวัดรอบที่เพี้ยนไปรึเปล่าทำให้ทอร์คที่ออกมาดูดรอปลง( อันที่torqueน้อยกว่าคือ หลังเปลี่ยนครับ)


ถ้าจำไม่ผิด รถคุณturinใส่ซุปไปแล้ว torqueน่าจะดีขึ้น แต่ถ้ายังไม่พอ ในมุมมองผม เปลี่ยนเฟืองซัก5%น่าจะช่วยได้

แต่ถ้าเป็นnaอยู่ การเปลี่ยนเฟืองไปในช่วง 5-10%สำหรับเกียร์ ออโต้ จะเห็นผลชัดกว่าครับ
ส่วนใหญ่ของ86 brz ถ้าauto na จะเปลี่ยนเพิ่มประมาณ10% และผลก็ออกมาดี คือแรงแน่นอน เท่าที่คุยกับคนที่เปลี่ยนมาก็ไม่ได้รู้สึกว่าลากเกียร์มากขึ้น หรือconverter พังครับ

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,057
ตามทฤษฎีมันน่าจะขึ้นตั้งแต่ออกตัวนะครับ
ทีนี้ทางปฏิบัติ เท่าที่เคยเปลี่ยน4.1-->4.3 torque มันเปลี่ยนแปลงตามรอบเลย
แต่เวลาขึ้นไดโน่ ไม่แน่ใจว่าเป็นผลจากการวัดรอบที่เพี้ยนไปรึเปล่าทำให้ทอร์คที่ออกมาดูดรอปลง( อันที่torqueน้อยกว่าคือ หลังเปลี่ยนครับ)


ถ้าจำไม่ผิด รถคุณturinใส่ซุปไปแล้ว torqueน่าจะดีขึ้น แต่ถ้ายังไม่พอ ในมุมมองผม เปลี่ยนเฟืองซัก5%น่าจะช่วยได้

แต่ถ้าเป็นnaอยู่ การเปลี่ยนเฟืองไปในช่วง 5-10%สำหรับเกียร์ ออโต้ จะเห็นผลชัดกว่าครับ
ส่วนใหญ่ของ86 brz ถ้าauto na จะเปลี่ยนเพิ่มประมาณ10% และผลก็ออกมาดี คือแรงแน่นอน เท่าที่คุยกับคนที่เปลี่ยนมาก็ไม่ได้รู้สึกว่าลากเกียร์มากขึ้น หรือconverter พังครับ
ขอบคุณครับ

เอ ... ทำไมทอร์คลดหว่า งงเด้ๆ ... แล้วไม่ทราบว่าขับจริงรู้สึกกระฉับกระเฉงขึ้นไหมครับ เพราะผมก็จะเปลี่ยนจาก 4.1 ไป 4.3 เหมือนกันครับ (ถ้าไปถึง 4.5 ต้องของแต่ง แพงระยับ)

รถผมยังไม่ได้ใส่ซุปครับ ซื้อมาแล้วรอใส่ มาเจอเกียร์พังเสียก่อน เลยต้องเอาเกียร์ไป overhaul ก็เลยยังไม่อยากยุ่งกับเครื่องมาก ไว้รอให้หมดประกันอู่ก่อนครับ

ออฟไลน์ Spec C Wannabe

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 553
Engine Torque VS Wheel Torque

หากเปลี่ยนแต่เฟืองท้ายที่สั้นลง Engine Torque ก็ควรจะเท่าเดิมเพราะไม่ได้ทำอะไรกับเครื่อง   แต่ Wheel Torque ควรจะมากขึ้นเพราะ เปรียบเสมือนกับว่าเราวิ่งที่เกียร์ต่ำกว่าเดิมอยู่นิดๆ

นั่นคือหากเราฟิกซ์ที่เกียร์ใดๆ เดียวกัน และรอบเท่ากัน เช่น  4,000rpm @ 3rd gear
4.1 Final Drive จะได้ความเร็ว= 90 Km/h 
4.3 Final Drive จะได้ความเร็ว = 80 Km/h

ความเร็วที่หายไป มันก็จะแปรพลังงานไปในรูปของแรงบิดที่ล้อที่เพิ่มขึ้น เข่าข่าย universal fact ที่ว่า ได้อย่าง ก็ต้องเสียอย่าง 
ความเร็วต่ำ แรงบิดสูง
ความร็วสูง แรงบิดต่ำ

เปรียบเทียบง่ายๆก็เหมือนกับว่า เราออกตัวล้อฟรีได้ที่เกียร์หนึ่ง แต่ไม่สามารทำได้ที่เกียร์สอง นั่นก็คือผลของ Wheel Torque ที่แปรผันต่ออัตราทดรวม (Gear Ratio X Final Drive)

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 11, 2017, 12:28:07 โดย Spec C Wannabe »

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,057
Engine Torque VS Wheel Torque

หากเปลี่ยนแต่เฟืองท้ายที่สั้นลง Engine Torque ก็ควรจะเท่าเดิมเพราะไม่ได้ทำอะไรกับเครื่อง   แต่ Wheel Torque ควรจะมากขึ้นเพราะ เปรียบเสมือนกับว่าเราวิ่งที่เกียร์ต่ำกว่าเดิมอยู่นิดๆ

นั่นคือหากเราฟิกซ์ที่เกียร์ใดๆ เดียวกัน และรอบเท่ากัน เช่น  4,000rpm @ 3rd gear
4.1 Final Drive จะได้ความเร็ว= 90 Km/h 
4.3 Final Drive จะได้ความเร็ว = 80 Km/h

ความเร็วที่หายไป มันก็จะแปรพลังงานไปในรูปของแรงบิดที่ล้อที่เพิ่มขึ้น เข่าข่าย universal fact ที่ว่า ได้อย่าง ก็ต้องเสียอย่าง 
ความเร็วต่ำ แรงบิดสูง
ความร็วสูง แรงบิดต่ำ

เปรียบเทียบง่ายๆก็เหมือนกับว่า เราออกตัวล้อฟรีได้ที่เกียร์หนึ่ง แต่ไม่สามารทำได้ที่เกียร์สอง นั่นก็คือผลของ Wheel Torque ที่แปรผันต่ออัตราทดรวม (Gear Ratio X Final Drive)
หมายถึง wheel torque ครับ ผมเขียนไม่ชัดเจน ... สรุปคือ wheel torque ก็จะเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนใช่ไหมครับ

ออฟไลน์ koko86

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,594
    • อีเมล์
ตามทฤษฎีมันน่าจะขึ้นตั้งแต่ออกตัวนะครับ
ทีนี้ทางปฏิบัติ เท่าที่เคยเปลี่ยน4.1-->4.3 torque มันเปลี่ยนแปลงตามรอบเลย
แต่เวลาขึ้นไดโน่ ไม่แน่ใจว่าเป็นผลจากการวัดรอบที่เพี้ยนไปรึเปล่าทำให้ทอร์คที่ออกมาดูดรอปลง( อันที่torqueน้อยกว่าคือ หลังเปลี่ยนครับ)


ถ้าจำไม่ผิด รถคุณturinใส่ซุปไปแล้ว torqueน่าจะดีขึ้น แต่ถ้ายังไม่พอ ในมุมมองผม เปลี่ยนเฟืองซัก5%น่าจะช่วยได้

แต่ถ้าเป็นnaอยู่ การเปลี่ยนเฟืองไปในช่วง 5-10%สำหรับเกียร์ ออโต้ จะเห็นผลชัดกว่าครับ
ส่วนใหญ่ของ86 brz ถ้าauto na จะเปลี่ยนเพิ่มประมาณ10% และผลก็ออกมาดี คือแรงแน่นอน เท่าที่คุยกับคนที่เปลี่ยนมาก็ไม่ได้รู้สึกว่าลากเกียร์มากขึ้น หรือconverter พังครับ
ขอบคุณครับ

เอ ... ทำไมทอร์คลดหว่า งงเด้ๆ ... แล้วไม่ทราบว่าขับจริงรู้สึกกระฉับกระเฉงขึ้นไหมครับ เพราะผมก็จะเปลี่ยนจาก 4.1 ไป 4.3 เหมือนกันครับ (ถ้าไปถึง 4.5 ต้องของแต่ง แพงระยับ)

รถผมยังไม่ได้ใส่ซุปครับ ซื้อมาแล้วรอใส่ มาเจอเกียร์พังเสียก่อน เลยต้องเอาเกียร์ไป overhaul ก็เลยยังไม่อยากยุ่งกับเครื่องมาก ไว้รอให้หมดประกันอู่ก่อนครับ

ถ้ามีแผนจะใส่ซุป เพิ่มสัก5%ก็น่าจะพอนะครับ
ส่วนเกียร์ผมว่าไม่น่ามีปัญหาเพราะถึงแม้รอบขึ้นมา5%แต่มันก็รับแรงบิดน้อยลงไปด้วย
ส่วนเรื่องทอร์คที่ลดลงจากไดโน่ ผมก็ยังไม่รู้ว่าเป็นจากการคำณวนของเครื่องไดโน่รึเปล่า แต่เท่าที่หาข้อมูลจากwebเมืองนอก เวลาไปขึ้นไดโน่ หลังเปลี่ยนเฟือง ผลก็ออกมาคล้ายๆกัน

เฟือง4.3ที่เพิ่มเข้ามา มันจะเห็นผลชัดช่วงความเร็วปลายๆ เกิน 100กม/ชม ขึ้นไปครับเพราะที่ความเร็วน้อยกว่านั้น ความรู้สึกของร่างกายมันแยกไม่ออกเพราะต่างกันน้อยมาก และได้ความเร็วสูงสุดเพิ่มอีกหน่อยด้วยครับ
ผมเคยทำรีวิวไว้อย่างละเอียด ตามลิงค์นี้ ถ้ามีเวลาลองแวะเข้าไปอ่านดูได้ครับ
 http://www.86brzthailand.com/index.php?topic=462.0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 11, 2017, 14:12:58 โดย koko86 »

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,057
ตามทฤษฎีมันน่าจะขึ้นตั้งแต่ออกตัวนะครับ
ทีนี้ทางปฏิบัติ เท่าที่เคยเปลี่ยน4.1-->4.3 torque มันเปลี่ยนแปลงตามรอบเลย
แต่เวลาขึ้นไดโน่ ไม่แน่ใจว่าเป็นผลจากการวัดรอบที่เพี้ยนไปรึเปล่าทำให้ทอร์คที่ออกมาดูดรอปลง( อันที่torqueน้อยกว่าคือ หลังเปลี่ยนครับ)


ถ้าจำไม่ผิด รถคุณturinใส่ซุปไปแล้ว torqueน่าจะดีขึ้น แต่ถ้ายังไม่พอ ในมุมมองผม เปลี่ยนเฟืองซัก5%น่าจะช่วยได้

แต่ถ้าเป็นnaอยู่ การเปลี่ยนเฟืองไปในช่วง 5-10%สำหรับเกียร์ ออโต้ จะเห็นผลชัดกว่าครับ
ส่วนใหญ่ของ86 brz ถ้าauto na จะเปลี่ยนเพิ่มประมาณ10% และผลก็ออกมาดี คือแรงแน่นอน เท่าที่คุยกับคนที่เปลี่ยนมาก็ไม่ได้รู้สึกว่าลากเกียร์มากขึ้น หรือconverter พังครับ
ขอบคุณครับ

เอ ... ทำไมทอร์คลดหว่า งงเด้ๆ ... แล้วไม่ทราบว่าขับจริงรู้สึกกระฉับกระเฉงขึ้นไหมครับ เพราะผมก็จะเปลี่ยนจาก 4.1 ไป 4.3 เหมือนกันครับ (ถ้าไปถึง 4.5 ต้องของแต่ง แพงระยับ)

รถผมยังไม่ได้ใส่ซุปครับ ซื้อมาแล้วรอใส่ มาเจอเกียร์พังเสียก่อน เลยต้องเอาเกียร์ไป overhaul ก็เลยยังไม่อยากยุ่งกับเครื่องมาก ไว้รอให้หมดประกันอู่ก่อนครับ

ถ้ามีแผนจะใส่ซุป เพิ่มสัก5%ก็น่าจะพอนะครับ
ส่วนเกียร์ผมว่าไม่น่ามีปัญหาเพราะถึงแม้รอบขึ้นมา5%แต่มันก็รับแรงบิดน้อยลงไปด้วย
ส่วนเรื่องทอร์คที่ลดลงจากไดโน่ ผมก็ยังไม่รู้ว่าเป็นจากการคำณวนของเครื่องไดโน่รึเปล่า แต่เท่าที่หาข้อมูลจากwebเมืองนอก เวลาไปขึ้นไดโน่ หลังเปลี่ยนเฟือง ผลก็ออกมาคล้ายๆกัน

เฟือง4.3ที่เพิ่มเข้ามา มันจะเห็นผลชัดช่วงความเร็วปลายๆ เกิน 100กม/ชม ขึ้นไปครับเพราะที่ความเร็วน้อยกว่านั้น ความรู้สึกของร่างกายมันแยกไม่ออกเพราะต่างกันน้อยมาก และได้ความเร็วสูงสุดเพิ่มอีกหน่อยด้วยครับ
ผมเคยทำรีวิวไว้อย่างละเอียด ตามลิงค์นี้ ถ้ามีเวลาลองแวะเข้าไปอ่านดูได้ครับ
 Link: https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1348147651899785&id=165892850125277
ขอบคุณอีกครั้งครับ

เรื่องซุป ผมยัง 50:50 อยู่ พอมีซ่อมเกียร์เข้ามา ออกจะแหยงๆหน่อยๆ แถมงบยังบานไปกว่าที่ตั้งใจไว้อีก ตอนนี้เลยตั้งขายไปเรื่อยๆครับ ถ้ามีคนเอาไปก่อนหมดประกันก็ปล่อยไป ถ้ายังไม่มีใครเอาก็ค่อยใส่

ปล link น่าจะผิดนะครับ  ;D

ออฟไลน์ ภูมิใจไหม?

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,147
  • SNK vs Playmore
อ๋อ คุณ Turin ยังไม่ได้ลงซุปนี่เอง

ผมนี่เฝ้ารอรีวิวอยู่นะครับ อิอิ  :-*

รบกวนถามครับ ชุดคิทซุปตัวนี้รวมทุกอย่างหนักกี่ กก. ครับ?

ออฟไลน์ koko86

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,594
    • อีเมล์
ผิดพลาดอย่างร้ายแรงคับ 55555 ส่งลิงค์ผิด ชีวิตเปลี่ยน
ที่ริวิวไว้ เป็นตามบิงค์นี้คับ http://www.86brzthailand.com/index.php?topic=462.0

ปล ตามลิงค์เดิมก็ยังไม่เคยลองคับ

ออฟไลน์ Ji.Cl.

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 679
    • อีเมล์
ด้วยเครื่องเดิม กราฟเดิม แต่ได้เปรียบเชิงกลขึ้น 5% ดังนั้นแรงบิดที่ลงพื้นมากขึ้น 5% ได้ครับ

แต่... เกียร์ก็หมดไวขึ้น 5% เช่นกัน (เช่น แทนที่จะเชนจ์ที่ 60 ก็ต้องเชนจ์ที่ 57)

แล้วช่วงความเร็วระหว่าง 57-60 นั่น แทนที่จะได้ใช้เกียร์ 1 กลับต้องใช้เกียร์ 2 ซึ่งอัตราทดน้อยลง การได้เปรียบเชิงกลหายไปเยอะ

ทำให้ช่วง 57-60 อืดลง หักล้างกับเฟืองท้ายที่จัดขึ้นในช่วงก่อนหน้า เป็นเช่นนี้กับทุกเกียร์ ดังนั้นผมว่าเปลี่ยนเฟืองท้ายจะได้เปรียบจริงๆ เห็นชัดๆ

เฉพาะช่วงก่อนความเร็วสูงสุดของเกียร์ 1 กับหลังความเร็วสูงสุดของเกียร์ก่อนเกียร์สูงสุดนะครับ

ถ้าจะเอาไว้เร่งแซงความเร็วอื่นๆ อาจจะไม่ได้แรงขึ้นมากนัก ถึงกราฟจะยกขึ้นก็ตาม เพราะการใช้เกียร์แตกต่างไปจากเดิม

ขึ้นกับช่วงอัตราทดเกียร์ว่าทดมาอย่างไร และเกียร์เปลี่ยนไวแค่ไหนครับ ตามความเห็นผม

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,057
อ๋อ คุณ Turin ยังไม่ได้ลงซุปนี่เอง

ผมนี่เฝ้ารอรีวิวอยู่นะครับ อิอิ  :-*

รบกวนถามครับ ชุดคิทซุปตัวนี้รวมทุกอย่างหนักกี่ กก. ครับ?
น่าจะยังไม่ได้ลงอีกนานเลยครับ อยากให้หมดประกันงาน overhaul เกียร์ก่อน เกิดมีปัญหาขึ้นมาเดี๋ยวเค้าจะยกมาเป็นประเด็นได้ ... อันที่จริง อาจไม่ได้ลงแล้วด้วยซ้ำครับ เพราะตอนนี้ก็บอกขายอยู่ ถ้าขายได้ระหว่างนี้ ก็คงปล่อยไปครับ

น้ำหนักชุดซุปประมาณ 17 โล แต่คิดของที่เราต้องถอดออกแล้วด้วย น้ำหนักจะเพิ่มราวๆ 10 โลครับ (เพิ่มข้างคนนั่ง ให้คนนั่งลดน้ำหนัก 10 โลก็เหมือนเดิม  :-X)

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,057
ด้วยเครื่องเดิม กราฟเดิม แต่ได้เปรียบเชิงกลขึ้น 5% ดังนั้นแรงบิดที่ลงพื้นมากขึ้น 5% ได้ครับ

แต่... เกียร์ก็หมดไวขึ้น 5% เช่นกัน (เช่น แทนที่จะเชนจ์ที่ 60 ก็ต้องเชนจ์ที่ 57)

แล้วช่วงความเร็วระหว่าง 57-60 นั่น แทนที่จะได้ใช้เกียร์ 1 กลับต้องใช้เกียร์ 2 ซึ่งอัตราทดน้อยลง การได้เปรียบเชิงกลหายไปเยอะ

ทำให้ช่วง 57-60 อืดลง หักล้างกับเฟืองท้ายที่จัดขึ้นในช่วงก่อนหน้า เป็นเช่นนี้กับทุกเกียร์ ดังนั้นผมว่าเปลี่ยนเฟืองท้ายจะได้เปรียบจริงๆ เห็นชัดๆ

เฉพาะช่วงก่อนความเร็วสูงสุดของเกียร์ 1 กับหลังความเร็วสูงสุดของเกียร์ก่อนเกียร์สูงสุดนะครับ

ถ้าจะเอาไว้เร่งแซงความเร็วอื่นๆ อาจจะไม่ได้แรงขึ้นมากนัก ถึงกราฟจะยกขึ้นก็ตาม เพราะการใช้เกียร์แตกต่างไปจากเดิม

ขึ้นกับช่วงอัตราทดเกียร์ว่าทดมาอย่างไร และเกียร์เปลี่ยนไวแค่ไหนครับ ตามความเห็นผม
อืม.... น่าคิดครับ

ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ Spec C Wannabe

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 553
Engine Torque VS Wheel Torque

หากเปลี่ยนแต่เฟืองท้ายที่สั้นลง Engine Torque ก็ควรจะเท่าเดิมเพราะไม่ได้ทำอะไรกับเครื่อง   แต่ Wheel Torque ควรจะมากขึ้นเพราะ เปรียบเสมือนกับว่าเราวิ่งที่เกียร์ต่ำกว่าเดิมอยู่นิดๆ

นั่นคือหากเราฟิกซ์ที่เกียร์ใดๆ เดียวกัน และรอบเท่ากัน เช่น  4,000rpm @ 3rd gear
4.1 Final Drive จะได้ความเร็ว= 90 Km/h 
4.3 Final Drive จะได้ความเร็ว = 80 Km/h

ความเร็วที่หายไป มันก็จะแปรพลังงานไปในรูปของแรงบิดที่ล้อที่เพิ่มขึ้น เข่าข่าย universal fact ที่ว่า ได้อย่าง ก็ต้องเสียอย่าง 
ความเร็วต่ำ แรงบิดสูง
ความร็วสูง แรงบิดต่ำ

เปรียบเทียบง่ายๆก็เหมือนกับว่า เราออกตัวล้อฟรีได้ที่เกียร์หนึ่ง แต่ไม่สามารทำได้ที่เกียร์สอง นั่นก็คือผลของ Wheel Torque ที่แปรผันต่ออัตราทดรวม (Gear Ratio X Final Drive)
หมายถึง wheel torque ครับ ผมเขียนไม่ชัดเจน ... สรุปคือ wheel torque ก็จะเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนใช่ไหมครับ

มันควรจะต้องเป็นอย่างนั้นครับ รถคันเดียวกันที่ เร่งความเร็วที่ช่วงความเร็วเดียวกัน เกียร์สามก็เร่งได้เร็วกว่าเกียร์สี่ มันเป็นอย่างนี้ทุกคัน ถ้าเราเปลี่ยนเฟืองท้ายที่สั้นขึ้น มันก็คล้ายๆกับเราลดเกียร์ลงหนึ่งเกียร์  เพียงแต่เฟืองท้ายที่สั้นลง 5% มันย่อมให้ผลได้ไม่เท่าลดเกียร์ลงหนึ่งเกียร์ มันก็จะเหมือนเราวิ่งอยู่ระหว่างเกียร์สามกับเกียร์สี่ อะไรประมาณนั้น


ลองดูอันนี้ครับ เค้าอธิบายได้ดีเหลือเกิน


ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,335
ผมมองว่า น่าจะพอรู้แล้วว่ามันเปลี่ยนยังไง แต่จะได้ดั่งใจมั๊ยต้องชั่งใจ เพราะเกียร์โง่ บางทีอาจจะไม่จบและลงทุนสูงเกิน   แต่ถ้าลงทุนไม่สูงเกิน ยังไงรอบต้นก็จัดขึ้น แต่เกียร์จะเปลี่ยนให้มั๊ย ตอบไม่ได้ กลัวว่าจะกลายเป็นลากรอบเล่นเฉยๆ แต่มันไม่เปลี่ยนเกียร์อีก มันก็ไม่แรงอยู่ดีครับ