ผู้เขียน หัวข้อ: อยากฟังความเห็นคนที่ สนใจรถ เครื่อง 3000cc+ performance europe VS รถไฟฟ้า  (อ่าน 2010 ครั้ง)

ออฟไลน์ Blackorwhite

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 6
ตามหัวข้อ หากเคยอยากได้ รถ3000cc+ มีท่อระดับ พอสนุก
พอคำนวนหลายๆอย่างแล้ว ค่าบำรุง ค่าน้ำมัน เกิดคำถามว่า หรือเรา แค่ยึดติดกับรถ สันดาปมากไป
ผมเคยลองถามหลายๆคนใช้ 53 series ส่วนใหญ่ ขายเพราะรู้สึกเปลืองน้ำมัน/มีกำลังจ่าย แต่ ไม่รู้จะจ่ายทำไม

เลยเกิดคำถามว่า หรือผมเอง ที่เคยดู 340/440   cls53 ประมาณนี้
โจทที่ต้องการคือ ขับสนุก ไม่เน้น top speed ชอบรถดึงๆในความเร็วต้น 0-140 อาจเลยบ้างนานๆที

ส่วนตัวเคยมองว่า 53 สเปคเกินกำลัง แต่เกียร ท่อ ต่างๆ ทำให้ feel good
มอง 340 ก็น่าสนใจ แต่ไม่ว้าวเว่อวัง รู้สึกเป็นรถที่คุ้มราคาดี
หากเจอมือสอง สภาพสวยๆ เอามาใช้ เดือนนึง 1-1500 โล ค่าน้ำมัน 5-10 km/l เฉลี่ยกลมๆ เดือนละหมื่น ปีละซัก แสนนึงค่าน้ำมัน
เทียบกับค่าเสื่อมราคารถพวกนี้ ค่าน้ำมัน อาจไม่ใช่ ประเด็นแต่ ทำใจไว้ก่อน
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
กลับกัน ซื้อ model 3 performance ใช้งานสบาย มี ระบบช่วยเหลือ ขับได้เยอะ ค่าน้ำมันต่อโล ตีเว่อๆหน่อยซัก บาท ปีนึงค่าน้ำมันอาจจะเซฟไป 10 เท่า แลกมากับค่าประกันที่อาจจะใกล้ๆกันเพราะ ราคารถที่ผมเทียบมันไม่ได้ถูกเท่าไหร่
อาจไม่ค่อยเสียดายรถ หาก จอดแล้วโดนขีดข่วนเพราะมูลค่า+อื่นๆ ความสบายใจในการใช้งานน่าจะเยอะกว่า กำลังช่วงต้น/กลาง เหลือแน่นอน ส่วนปลายนั้น ปกติผมก้ไม่ค่อยดันขนาดนั้นอยู่แล้ว
สิ่งที่หายไปอาจเป็น เสียงเครื่อง ท่อ ที่หายไป

ราคาขายต่อของรถประเภทแรกนั้น ยังไง ก็หายไป ไม่ต่างจาก รถไฟฟ้า

พี่ๆมีคำแนะนำอะไรเพิ่มเติมไหมครับ จากที่ฟังมา เช่น ความขับสนุกของรถไฟฟ้านั้น อาจไม่ได้มีแค่กำลัง แต่เกี่ยวกับน้ำหนัก หรือ อื่นๆ

ที่บ้านไม่ติดเรื่องการชาท เพราะ เคยใช้ phev มา+ ใช้รถน้อย

ออฟไลน์ Blackorwhite

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 6
เพิ่มเติมอีกนิดนึงคือ
ผมรู้สึก EV ของยุโรปไม่น่าเล่นเพราะ ภาษีที่ต้องนำเข้านั้น รู้สึกไม่ค่อยแฟร์ พอเทียบกับ tesla แล้ว เหมือน เราเสียเงินปล่าวๆไปตรงนี้
eqe53 / i4m60 /taycan  ใจนึงรู้สึกว่ารถไฟฟ้านั้น เป็น tech พอยุคเปลี่ยน คุณค่ามันหายเร็ว
ex. taycan เมื่อ 5 ปีก่อน อาจดูเป็น performance ที่วาปๆ ตอนนี้ สเปคคือ แทบเป็นแค่รถไฟฟ้าธรรมดา(ตัวราคาที่จับต้องได้ รุ่น urbo ไม่นับ)

ออฟไลน์ tom46

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,728
ผมใช้รถยุโรปเครื่อง na 6 สูบ 3000 cc กับ 5 สูบ 2300 เทอร์โบ อยู่นะครับ ส่วนรถไฟฟ้า hybrid อะไรพวกนี้ไม่เคยใช้เหมือนกัน เลยไม่รู้ว่าอัตราเร่งการใช้งานเขาเป็นอย่างไร

แต่ส่วนตัวผมว่าอยู่ที่ลักษณะการใช้งานมากกว่าครับ แบบต้องไปที่ทำงานทุกวันไหม (พอดีงานผมไม่ได้จำกัดว่าต้องเข้าออฟฟิคทุกวัน) ถ้าแบบเช้ามาต้องเข้าออฟฟิคทุกวัน เย็นขับกลับ แบบนี้รถไฟฟ้า รถ hybrid ต่างๆก็น่าสนใจครับ

ส่วนถ้าไม่ได้ใช้รถทุกวัน แล้วเน้นเรื่องการขับ ส่วนตัวผม ผมยังชอบเครื่องยนต์ปกติอยู่มากกว่าครับ ยิ่งถ้ามีงบแบบ จขกท ที่จะสอย 340 / 53 amg ได้ ผมก็ยังเลือกรถพวกนี้อยู่ครับ ส่วนตัวชอบรถสไตล์นี้มากกว่าครับ มันมีอะไรๆให้ทำเล่นได้อีกครับ เสียงการระเบิดในห้องเผาไหม้ที่ออกมาตามท่อ ทำแบบนึงได้เสียงแบบนึงทำอีกแบบได้เสียงอีกแบบ ผมว่ามันมีเสน่ห์ดีครับ













M52TUB30 NA TUNING
STROKER M54B30
SCHRICK CAM 248/248
aa tuning software custom
K&N performance air intake kit
Exhaust systems thailand hand made
Rear exhaust EISENMANN

ออฟไลน์ turbofever

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 578
    • อีเมล์
ผมมีแต่รถเครื่อง 2,997cc ไม่กล้าตอบเลย ::) แต่รถไฟฟ้าได้ขับ model 3 per กับ seal per มาแล้วคันละหลายร้อยกิโลเมตร  มันให้ความสนุกต่างกันครับ รถไฟฟ้ามันแรงทันทีที่เหยียบคันเร่ง  โดยเฉพาะช่วงรถคลานตามๆกันแล้วเห็นช่องว่าง เช่นรถทางขวาที่ติดจอดรอคันหน้ากลับรถแล้วเราอยู่ซ้ายเห็นช่องขวาว่าง พอกดปุ๊บมันดึงปั๊บเลย ดึงแบบที่รถเครื่องเทอร์โบ500แรงม้าก็ให้แรงดึงแบบนั้นทันทีทันใดไม่ได้แม้เข้าเกียร์ในรอบที่แรงบิดสูงสุดมารออยู่แล้วมันก็ยังรู้สึกช้ากว่า EV 500ม้า

สำหรับรถ ICE มันสนุกที่เสียงและช่วงที่ Boost มาซึ่งสามารถสนุกได้ต่อเนื่องไม่ว่าน้ำมันในถังจะมีเท่าไหน  ส่วน EV ที่สนุกมากจะเกิดขั้นที่ BATT มีเกิน 70 %  และถ้าเหลือน้อยกว่า 30 % มันจะเหมือนไม่ใช่รถสเปกเดียวกับตอนที่มีเกิน 70 %

จึงจะต้องมีทั้งสองครับ เพื่อให้เติมเต็มความสนุก 8)

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,484
ถ้าชอบดึง ต้น ๆ ไฟฟ้าดีกว่ามากแต่ถ้าต้องการเสียงเครื่องเสียงท่อ  อันนี้ไม่ว่ากัน  เพราะผมก็ผ่านจุดนั้นมาแล้ว

ปัจจุบันรถที่บ้านมี  kick / tesla y per/ saab 93ss/c220d 

ผมไม่มี 6 สูบ  ส่วนที่ผ่านมาก็เยอะอยู่  คิ๊กขับสบาย จ่ายกับข้าว  ม้าเท่าจิ๋มมด  มันก็ได้ประมาณนี้ แต่ผมชอบ/ โมเดิลวาย  ดีทุกอย่างแต่ข้อเสีย วงเลี้ยวกว้าง ตัวใหญ่ เข้าซองไม่สะดวก/ซาบ  ขับสนุก  แต่ระบบบังคับเลี้ยวไม่คม/220ดี   ขับดีทุกอย่าง ตอบสนองดี  แต่ที่นั่งอึดอัด

แต่ละคันก็คนละแบบ  ตามการใช้งานครับ  ไม่มีคันไหนดีครบทุกด้านมั้งครับ

ออนไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,968
    • อีเมล์
ถ้าความสนุกของเรา คือแค่ 0-100 โค้งไม่เล่น ไม่มุด ไม่โยก ก็คงเป็นรถไฟฟ้าเท่านั้นละครับที่ตอบโจทย์ ...

แต่คำว่าขับสนุกของรถหลายๆคัน มันไม่ใช่แค่ 0-100 นี่สิ

เคยได้ยินกันใช่ไหมที่ว่า รถ Hi-performance จะเน้นไปที่การลดน้ำหนัก มันทำให้การควบคุม การโยนตัวต่างๆของรถทำได้ดี .. คำถาม มันมีไหมในรถไฟฟ้า น้ำหนักขนาดนี้ รับกับทางโค้งได้ป่าว ไม่ใช่พวกออกตัวนี่อย่างเสือ เจอทางโค้งแล้วดูน่าสงสาร แบบนี้สนุกหรอ ...

ผมเป็นคนนึงที่ชอบขับรถเล่นทางโค้ง ขับไม่เร็วหรอกครับ แต่ชอบวัดว่า โค้งนี้เราทำความเร็วได้เท่าไร ..และโค้งที่ผมกินรถ EV แรงม้าสูงๆประจำคือทางโค้งตัว S บนทางด่วนช่วงรามอินทรา พวกนี้ ออกด่านจ่ายเงินมา เร่งกันหน้ากลัว พอเจอโค้งพวกยกเข้าโค้งได้ไม่เกิน 100 มาสด้า 3 บ้านๆเดิมๆใส่ 140 สวนไปในโค้งนี่แหละ ...

ที่เล่านี่ไม่ได้อวยมาสด้านะครับ ผมว่ารถน้ำมันน้ำหนักเบา เช่น civic หรือ อัลตีส เค้าก็สามารถทำความเร็วในโค้งได้ดีกว่ารถ EV ไม่ต่างกัน และถ้ายิงเป็น M340 หรือ รถ performance น้ำมันยุโรป ผมว่ากิน 3 performance หลุดรุ่ยแน่นอน ถ้าต้องมุดแข่งกัน หรือวิ่งกันยาวๆ

ดูคลิปนี้เป็นตัวอย่างครับ ทางตรงนี่มาอย่างสิงห์เลย พอเจอโค้งยาวนี่ไม่เอาเลย เจอกี่โค้งยกทุกโค้ง ... นี่คือรถที่ขับสนุกหรอ ..

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 27, 2024, 08:37:44 โดย apinui »

ออนไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,058
เสน่ห์กับความชอบมันหาเหตุผมไม่ค่อยได้หรอกครับ จะเรียกว่ายึดติดก็ไม่ผิดนัก

ปล "จุดอ่อน"ของรถ ICE (เมื่อเทียบกับรถ EV) เช่น การต้องเล่นรอบเพื่อหา torque ก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งเหมือนกัน
ปล2 อันนี้เราพูดกันถึง "รถเล่น" ไม่ใช่ "รถใช้งาน" เนอะ

ออฟไลน์ marvel

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 17
คือเข้าใจว่าคำถาม อยากให้เปรียบเทียบชั่งน้ำหนักดูว่าระหว่างซื้อรถน้ำมันแรงๆ กับซื้อรถไฟฟ้าแรงๆ อย่างไหนน่าจะดีกว่ากัน
ถ้าตอบจริงๆ คือ ขึ้นอยู่กับความชอบของเราน่ะครับ ไม่มีผิดถูก ยังชอบฟีลลิ่งของเสียงเครื่องเสียงท่ออยู่หรือไม่ ยังชอบฟีลลิ่งจังหวะในการเปลี่ยนเกียร์ขึ้นลง 1234... รึเปล่า ฯลฯ

ผมเห็นหลายคนที่ใช้รถไฟฟ้า เค้าก็มีความสุขดี เค้าก็เพลิดเพลินกับอัตราเร่งและคุณลักษณะต่างๆของรถไฟฟ้า โดยไม่ได้รู้สึกว่าขาดหายอะไรไป

และผมก็รู้จักบางคนที่มีทั้งรถไฟฟ้าและรถน้ำมัน รถไฟฟ้าแรงกว่าและประหยัดกว่า เวลาไปธุระ ไปทำงาน ไปรับส่งลูกไปกลับโรงเรียน เค้าเอารถไฟฟ้าไปทุกครั้ง แต่เวลาเอารถออกไปขับเล่นเพื่อความเพลิดเพลิน เค้าหยิบกุญแจรถน้ำมันออกไปทุกครั้ง

ส่วนตัวผมชอบรถน้ำมันมากกว่า (ชอบมากกว่า ไม่ได้หมายความว่าดีกว่า หลายๆอย่างก็ด้อยกว่ารถไฟฟ้า แต่แค่ชอบมากกว่าครับ)

ช่วงนี้ก็มีเล็งๆหารถน้ำมันรุ่นเก่าๆมาเก็บอยู่บ้าง

ออฟไลน์ PREM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,198
คำถามเหมือนออกมาจากใจผมเลยครับ คิดอยู่เหมือนกันระหว่าง M340 มือสอง กับ 3 Performance ใหม่
ตอนนี้ก็ยังตอบใจตัวเองไม่ได้ ใจรักเครื่องยนต์ 6 สูบ เสียง จังหวะเปี่ยนเกียร์ และการขับขี่ของ BMW
แต่ 3P ได้แรงดึงไฟฟ้าโหดกว่า daily ง่าย ประหยัดตังค์กว่า maintenance ต่ำ ได้รถใหม่มีวารันตี ช่วงล่างยังไม่รู้จะดีมั้ยต้องลองเองก่อน
ตอนนี้ก็ยังคิดไม่ออกครับ
2014 Mazda CX-5 2.5 S
2016 Volvo XC60 D4 
2019 Honda Jazz RS+
2020 Volvo V60 T8 Inscription
2022 Mazda CX-30 SP

ออฟไลน์ CMaN20

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 680
"โจทที่ต้องการคือ ขับสนุก ไม่เน้น top speed ชอบรถดึงๆในความเร็วต้น 0-140 อาจเลยบ้างนานๆที"

ถ้าสิ่งที่ต้องการคือแบบนี้ ผมว่ารถEVครับ น่าจะตอบโจทย์ตรงที่สุด.
# BMW    520d E60   
# BENZ   E250CDI W212
# BMW    520d G30
# VOLVO  XC90 D5 Y2020

ออฟไลน์ เนื้อน่องไม่หนัง

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,745
ผมเชื่อว่าคนกลุ่มนึงที่ซื้อ 43 / 53 /40i ซื่อเพราะเป็นตัว Top / option เต็ม
ส่วนตัวผมถ้าเอาไว้ซิ่ง กดระบายอารม Ice / hybrid สนุกกว่า pure ev อย่างน้อยก็มีเสียงเครื่องยนต์ท่อ คล้ายช่วงที่เกียร์ 5at เปลี่ยนเป็น cvt ที่ทำให้รถมันน่าเบื่อ..

ทีนี่ ถ้าก่อนหน้านี้ใช้ diesel / benzine ฉีดตรง ที่ขับได้ 15-20km/l เปลั่ยนมาใช้รถที่ สมรรถณะสูงขึ้น อัตราสิ้นเปลืองมากขึ้น ก็ไม่แปลกครับที่จะเสียดาย ค่าน้ำมันคนัง ยิ่งขับแบบเดิม คลานๆในเมือง มันดูสิ้นเปลืองโดยที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรจากมัน

นี้อาจเป็นเหตุผลที่หลายๆบ้านมีรถสองคันครับ
คันนึงเอาไว้ใช้งาน อีกคัน เอาไว้สนองความต้องการของตัวเอง

ออฟไลน์ joufo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,255
รถไฟฟ้าขับสนุกตรงที่อัตราเร่งดี
แต่ถ้าเจอทางภูเขาคดเคี้ยว เจอโค้งก็เหนื่อย (ยกเว้น Porsche Tycan)

ถ้าเอาแค่ขับมันสะใจในเมือง ผมก็ว่า รถไฟฟ้า



รถ Hi-Performance ผมว่า มันเป็นรถไว้ขับสนุกๆ วันหยุด ขับทุกวันไม่ไหว ทั้งค่าน้ำมัน ค่าบำรุงรักษา
ไปจอดไหนก็ต้องระแวงว่าจะไปขูด ไปครูดอะไรไหม


-------
ถ้างบถึง ลองมองๆ Porsche Tycan ไว้ก็ดีครับ เผื่อถูกใจ
ผมไปลองมาแล้วก็อยากได้ แต่จะซื้อก็เสียดายเงิน ::)


ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,870
ถ้าต้องซื้อรถยุโรปแรงๆ ผมซื้อรถญี่ปุ่น อย่าง wrx มายำเล่นดีกว่าครับ
เวลาซ่อมหรือแต่งแต่ละที รถยุโรปโหดกว่าเยอะ

แต่ถ้ารถญี่ปุ่นไม่อยู่ในสายตา เราเห็นตรงกัน model3per ใช้แล้วทิ้งไปเลย น่าจะจบกว่า ตัวเลขไม่เคยโกหกครับ

เพราะถ้าพวกรถยุโรปที่คุณอยากได้ กดจนนู่นนี่นั่นพัง ค่าซ่อมก็จุกๆเช่นกันครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 27, 2024, 20:28:13 โดย kiwiwi »

ออฟไลน์ อีกนิดก็แรง

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 973
ผมจอง 3per ไป เพราะเหตุผลของย่อหน้า 2 ของ จขกท เลยครับ รถที่แรงแล้วใช้ daily used ใช้ทิ้งใช้ขว้าง ไม่ต้องแคร์อัตราสิ้นเปลืองการบำรุงรักษา อันนี้ผมอ้างอึงจาก model y ที่ใช้มาเกือบ 30,000 เสียแต่ค่าสลับยาง ถ้าเป็นรถยุโรป ผมโดนไม่ต่ำกว่า 40,000 บาท ยังไม่รวมค่าน้ำมัน ที่สำคัญคือผมมีงบแค่ 2 ล้าน  ::)  ถ้ามีเป็น 10 ล้าน คงซื้อตระกูล 53 มาเก็บไว้ขับ weekend กินน้ำมันชั่งมันเน้นสนอง need มากกว่า โดยเฉพาะเสียงท่อ มันสนอง need คนบ้ารถได้ดีมากๆ


ออฟไลน์ shando

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,869
ถ้าใช้งานเป็นรถหลักทุกวันก็รถไฟฟ้า ค่าน้ำมัน ค่าบำรุงรักษาถูกกว่า

แต่ถ้าใช้เป็นweekend carก็สันดาปครับ

ออฟไลน์ punn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,599
  • may the force lead your way ...
ตรงนี้ไม่มีใครตอบแทนคุณได้นอกจากตัวคุณตอบตัวเองเท่านั้นครับ   ???

ว่าส่วนตัวคุณให้ข้อสำคัญกับอะไรมากกว่ากัน
อย่างของผมเองขอเป็นรถแรงๆที่ใช้ daily ได้ก็ยิ่งดี

ของสะสมที่ไม่มีคนชื่นชมได้แต่เก็บไว้ในกล่องก็ไม่ครบคุณค่าในตัวมัน
รถยนต์ดีๆที่เราชอบแต่จอดทิ้งไว้อย่างเดียวเป็นส่วนใหญ่ก็...

อาทิตย์ที่ผ่านมาผมขับโมเดลวายไปกลับภาคเหนือ<->ใต้เที่ยวละ 1,400 กิโลเมตร
รวมทั้งอาทิตย์เกือบ 4,000 กิโล
เหยียบเกิน 150 นับครั้งได้น้อยมากๆ แต่การชิงจังหวะแซงตามกระแสนี่สุดยอดสุดๆ
รู้สึกปลอดภัยอย่างไม่เคยมีมาก่อน  ::)

ส่วนตัวผมเป็นคนชอบรถเงียบๆอยู่แล้ว ยิ่งตามหลักวิศวะกรรมด้วยแล้ว เทสล่านี้คือต้นๆ
ใครบอกว่าเทสล่าไม่พรีเมี่ยมอันนี้ผมเถียง มันพรีเมี่ยมมากๆเพียงแต่มันไม่ luxury
หลายคนชอบเอามาโยงกันระหว่างพรีเมี่ยมกับ luxury

พอมันไม่อลังการหรูหราก็เลยหาว่ามันไม่พรีเมี่ยม
ลองคิดกลับกันดูความรู้สึกที่นั่งบนบอดี้ที่ขึ้นรูปอันดับความปลอดภัยต้นๆของโลก
ความแรงมอเตอร์กับความประหยัดที่เน้นทางวิศวกรรมสุดๆของโลก ผมว่านี่ก็ premium เกินพอแล้ว
ก็แค่มันไม่หรูหราจนหลายคนพยายามกดว่ามันเป็นรถไม่พรีเมี่ยมกันเลย

สรุปแล้วมันก็แล้วแต่การให้ความสำคัญของแต่ละบุคคลนั่นเองครับ  :-X
ก็กลับไปที่คำถามตั้งต้นของตัวคุณเองว่าคุณต้องการแบบไหนครับผม
เป็นคนโลกปกติธรรมดา :)
ไม่โลกสวย และไม่โลกมืด อยู่กับความเป็นจริงและพลังงานบวก ..

ปราชญ์สอนสิ่งไหน คนก็จะจำสิ่งนั้น
ประสบการณ์เจอแบบไหน คนก็จะคิดทางนั้น
ต่างคนต่างประสบการณ์เรียนรู้สิ่งเดียวกัน ก็จะออกมาแตกต่างกันไปครับ

ออฟไลน์ NNIICCKK

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 133

ที่เล่านี่ไม่ได้อวยมาสด้านะครับ ผมว่ารถน้ำมันน้ำหนักเบา เช่น civic หรือ อัลตีส เค้าก็สามารถทำความเร็วในโค้งได้ดีกว่ารถ EV ไม่ต่างกัน และถ้ายิงเป็น M340 หรือ รถ performance น้ำมันยุโรป ผมว่ากิน 3 performance หลุดรุ่ยแน่นอน ถ้าต้องมุดแข่งกัน หรือวิ่งกันยาวๆ

ดูคลิปนี้เป็นตัวอย่างครับ ทางตรงนี่มาอย่างสิงห์เลย พอเจอโค้งยาวนี่ไม่เอาเลย เจอกี่โค้งยกทุกโค้ง ... นี่คือรถที่ขับสนุกหรอ ..



อันนี้น่าจะขึ้นกับคนขับครับ คนขับ3น่าจะป๊อด

ผมขับ C43 LCI แล้วก็มาต่อด้วย M3performance (สมัย gray market) น่าจะพออ้างอิงถึงคู่ 340i กับ M3p ได้

ถ้าให้คนๆเดียวกันขับเส้นตามในคลิป ยังไง M3P ก็กินครับ กินสบายๆเลยด้วย นน.รถใกล้กันนะครับ ถึงแม้ 3 จะลอยๆแต่ถ้าทางในคลิปก็ไม่ได้เล่นยากอะไร

ออฟไลน์ belkw202

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 421
ถ้าจะเน้นว่าขับเล่นอย่างเดียวเลย เอาความสุนทรีย์เป็นหลัก
ผมเชียร์ m40 43 53 63 หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ยังมีเสียงท่อ การเปลี่ยนเกียร์ แรงดึงแบบเป็นสเต็ป รถไฟฟ้ายังไงมันก็ทดแทนความรู้สึก เสน่ห์ หรือกลิ่นอายเหล่านี้ไม่ได้
แต่ถ้าเอาแค่ว่าเร็ว แรง ช่วงล่างดี เข้าโค้งคม ผมว่า model 3 เอาไปใส่โช็คเทพๆซักชุดนึงก็จบแล้วครับ (หรือ 3 performance ที่พึ่งเปิดตัวมากับโช็ค adaptive อาจจะดีพอแล้วก็ได้)
Tesla Model 3 Highland LR
G08 iX3 M Sport
Cx5 2.5s
Mazda 2 1.3 S
w202 c36 AMG
w212 e63 AMG
w204 c250 AMG Sport Plus
w207 e350 4matic
e90 325i

ออฟไลน์ Weetting

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,973
  • ช่วงล่าง+เครื่องยนต์
บางทีอาจจะไปลองขับ Suzuki Cuppucino หรือ MX5  NA6 แรงม้าน้อยๆ ดูซักครั้งครับ

ว่าทำไมรถสปอร์ต มันถึงแตกต่างจากรถไฟฟ้า 

เสน่ห์อีกอย่างของรถสันดาป เพราะมันมีของในเครื่องเยอะมากเนี่ยละครับ   เดือนที่แล้วเปลี่ยนพูเลย์เบา  เดือนนี้เปลี่ยนล้อเบา  โปรเจคหน้ายางใหม่

มันได้สนุกระหว่างทางไปเรื่อยแบบไม่รู้จบ   ในขณะที่มอเตอร์ออกมาจากโรงงานใครจะโมได้  (ณ ตอนนี้รู้ว่ามีร้านขับโม Neta ให้วิ่งได้ 140 แล้ว)

รึการโมมันยังหาช่างยากเกินไป   

ถ้าคิดแบบไม่อะไรมากคิดแค่อัตราเร่งดีก็สนุกแล้ว  MG4Xpower นี่ก็เป็นรถที่อัตราเร่งดี  จ่ายล้านนิดๆวัดกับ กบ เกือบทุกตัว  ม้าลำพอง 433  ได้เลย 

กลับมานอนฝันหวานด้วย ชนะ Supercar 
THE Manual Gearbox Preservation Society
Drive diesel until last day

ออฟไลน์ IS2000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,190
    • อีเมล์
ใช้งานทุกวัน Model 3 Performance ก็เหลือๆแล้วครับ พวกแฮนด์ลิ่งต่างๆแทบไม่ต่างมากจากรถยุโรปเกรด M340i หรือ AMG รุ่นเริ่มต้นทั้งหลาย จะขาดก็แต่เสียงเครื่องหรือการไปโมดิฟายต่อยอดได้เรื่องความแรง ผมว่ารถ performance ยุโรปรุ่นใหม่ๆหลายๆอย่างถูกกลั่นกรองออกไปทำให้ผ่านกฎหมายต่างๆและใช้งานง่าย แต่ในด้านการขับก็ไม่เร้าใจเท่าที่ควรครับ
เป็นผมถ้าซื้อได้สองคันอาจจะมี Tesla แล้วไปหา project car พวก C63 หรือ BMW M3 รุ่นก่อนๆอีกคันเอาที่ฟิลลิ่งต่างกันโดยสิ้นเชิงครับ
1 3 5
├┼┼╕
2 4 6 R

ออฟไลน์ Aleister TJ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,007
  • มีเงินเป็นล้านก็ซื้อเมื่อวานไม่ได้ แต่ถ้าร้อยล้านก็ช่างเมื่อวานมันเถอะ
    • อีเมล์
ยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งไม่ค่อยอินกับรถท่อดังๆลั่นทุ่ง รู้สึกมันน่ารำคาญมากกว่าเท่

รู้สึกแยกเสียงท่อพวก euro perf car กับ civic,jazz แต่งท่อไม่ออก ต้องเป็นพวก super car ถึงจะต่าง

กดเต็มทรีนท่อดังลั่น โดนรถไฟฟ้าย่องมาจากไหนไม่รู้เชือดนิ่มๆ เขินอายกันไปอีก

ยุคสมัยเปลี่ยนจริงๆ

My Car History ~

Honda City ZX
Toyota Yaris 1.2E
Mazda3 Skyactive 2.0S
Mazda 2 SkyActiv 1.5 High Plus L
Mitsubishi Pajero Sport 2.4 Elite

ออฟไลน์ Sommerดอยแม่สลอง

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 202
    • อีเมล์
EV จีนราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท น่าเล่นมากกว่านะครับ

โดยเฉพาะ MG4 XPower/BYD Seal Performance AWD/ORA 07 Performance AWD
#แรงระดับAMGรหัสรุ่น43_53_63
2019 Mercedes-Benz CLS300d AMG Premium
2024 ORA Good Cat GT

ออฟไลน์ muzaa

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 494
EV จีนราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท น่าเล่นมากกว่านะครับ

โดยเฉพาะ MG4 XPower/BYD Seal Performance AWD/ORA 07 Performance AWD
#แรงระดับAMGรหัสรุ่น43_53_63
ยังไงครับกระทู้ก่อนยังเชียร์ Model3 Per สุดลิ้มทิ่มประตู mg4xpower /seal performance สู้ไม่ได้ชิดซ้าย กระทู้นี้กลับมาเชียร์ไอ้คันที่ว่าสู้ไม่ได้หมด เอาอย่างไรดีครับ งงไปหมดแล้ว

ออฟไลน์ shando

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,869
EV จีนราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท น่าเล่นมากกว่านะครับ

โดยเฉพาะ MG4 XPower/BYD Seal Performance AWD/ORA 07 Performance AWD
#แรงระดับAMGรหัสรุ่น43_53_63
ยังไงครับกระทู้ก่อนยังเชียร์ Model3 Per สุดลิ้มทิ่มประตู mg4xpower /seal performance สู้ไม่ได้ชิดซ้าย กระทู้นี้กลับมาเชียร์ไอ้คันที่ว่าสู้ไม่ได้หมด เอาอย่างไรดีครับ งงไปหมดแล้ว

ผมนี่ถึงกลับไปไล่อ่านดู เออตลกดี เหมือนพิมพ์ไปเรื่อยอะ

กระทู้ก่อนhttps://community.headlightmag.com/index.php?topic=88047.msg1521730#msg1521730
MG4 XPower
BYD Seal Performance AWD
Mercedes-AMG EQE53
ชิดซ้ายได้เลยนะ…..

Tesla M3 Performance 0-100 3.3วิ ราคา 2.1 ล้านบาท เงินในกระเป๋าแทบสั่นสะท้าน

แต่ยังไงๆ ผมอยากจะรอ Model Y Facelift มาไทยมากกว่านะ

กระทู้นี้https://community.headlightmag.com/index.php?topic=88064.msg1521871#msg1521871
EV จีนราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท น่าเล่นมากกว่านะครับ

โดยเฉพาะ MG4 XPower/BYD Seal Performance AWD/ORA 07 Performance AWD
#แรงระดับAMGรหัสรุ่น43_53_63

ออฟไลน์ ซวEจsิJลิJเปulnw

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 127
ตามโจทย์ท่าน ไป Mazda3 refresh performance เถอะครับ
เอาไม่เกิน 200 อัตราเร่งถือว่าเหลือมากๆ ถนนและการจราจรในไทยไม่ได้มีที่ไว้วิ่งขนาดนั้นยกเว้น ทางด่วนดึกๆ ซึ่งทางก็ไม่ได้ดี

วันอยากขับชิวๆ ได้ทั้งเงียบ ประหยัด

สายรีบนิดหน่อย 0-200
ถ้าเท้า+ใจท่านถึงๆ นับคันได้เลยที่จะแซงได้ ยิ่งใช้ Onepedal คล่องๆนี่ มุดหายแน่นอนนอน แทบไม่ต้องแตะเบรค

ทีบอกโค้งไม่เร็ว ในสนามสั้นอะใช่ครับ เพราะขับกันถึง limit ทุกโค้ง
แถมต้องเบรค แล้วเบรคร้อนง่าย

ทางสาธาณะ มีใครขับกันถึงลิมิตบ้าง อยู่ที่ใจล้วนๆ
ลองไปดูคลิป Model3 โหดๆ ยัดในโค้งกันเพียบ

วิ่งถนน เอาฝีมือระดับเดียวกัน ใจกล้าพอๆกัน Model3 ไปแพ้ทางตรงยาวๆ ที่ยิง Topspeed ได้มากกว่าครับ

แต่ถ้าอยากได้รถไปลงแทรคด้วย + ขับเล่น ไป Performance Europe เลยครับ ดีกว่า
อยากมี Story อยากขับเอาสนุก

รถถนนเอาคุ้มๆ ไป Tesla เลยครับ ไม่ใช่รถที่ขับสนุก แต่เร็วแน่นอน

ออฟไลน์ voyager

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 506
ถ้าความสนุกของเรา คือแค่ 0-100 โค้งไม่เล่น ไม่มุด ไม่โยก ก็คงเป็นรถไฟฟ้าเท่านั้นละครับที่ตอบโจทย์ ...

แต่คำว่าขับสนุกของรถหลายๆคัน มันไม่ใช่แค่ 0-100 นี่สิ

เคยได้ยินกันใช่ไหมที่ว่า รถ Hi-performance จะเน้นไปที่การลดน้ำหนัก มันทำให้การควบคุม การโยนตัวต่างๆของรถทำได้ดี .. คำถาม มันมีไหมในรถไฟฟ้า น้ำหนักขนาดนี้ รับกับทางโค้งได้ป่าว ไม่ใช่พวกออกตัวนี่อย่างเสือ เจอทางโค้งแล้วดูน่าสงสาร แบบนี้สนุกหรอ ...

ผมเป็นคนนึงที่ชอบขับรถเล่นทางโค้ง ขับไม่เร็วหรอกครับ แต่ชอบวัดว่า โค้งนี้เราทำความเร็วได้เท่าไร ..และโค้งที่ผมกินรถ EV แรงม้าสูงๆประจำคือทางโค้งตัว S บนทางด่วนช่วงรามอินทรา พวกนี้ ออกด่านจ่ายเงินมา เร่งกันหน้ากลัว พอเจอโค้งพวกยกเข้าโค้งได้ไม่เกิน 100 มาสด้า 3 บ้านๆเดิมๆใส่ 140 สวนไปในโค้งนี่แหละ ...

ที่เล่านี่ไม่ได้อวยมาสด้านะครับ ผมว่ารถน้ำมันน้ำหนักเบา เช่น civic หรือ อัลตีส เค้าก็สามารถทำความเร็วในโค้งได้ดีกว่ารถ EV ไม่ต่างกัน และถ้ายิงเป็น M340 หรือ รถ performance น้ำมันยุโรป ผมว่ากิน 3 performance หลุดรุ่ยแน่นอน ถ้าต้องมุดแข่งกัน หรือวิ่งกันยาวๆ

ดูคลิปนี้เป็นตัวอย่างครับ ทางตรงนี่มาอย่างสิงห์เลย พอเจอโค้งยาวนี่ไม่เอาเลย เจอกี่โค้งยกทุกโค้ง ... นี่คือรถที่ขับสนุกหรอ ..



คลิปเหมือน tesla ให้แซงแล้วไม่อยากเล่นมากกว่า อะไรจะโดนทิ้งขนาดนั้น

ออฟไลน์ Fragile

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 482
^
^
พอให้แซงแล้ว tesla ก็กลับมาตามอีกรอบนะครับ แต่โดนทิ้งแล้วก็เลิกตาม

ออฟไลน์ ภูมิใจไหม?

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,147
  • SNK vs Playmore
ความสนุกของคน กทม. กับ ตจว. มันต่างกัน

ออฟไลน์ koko86

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,595
    • อีเมล์
ผมอ่านดูพอสรุปfeeling จขกท ดังนี้
1. อยากได้รถแรง แต่มองอรื่องความคุ้มค่าเรื่อง ค่าน้ำมัร และการดูแลรักษา
2. ยังเน้นเรื่องฟิลลิ่ง รถซิ่งอยู่
3. มีความสุขกับการใช้รถdaily use
4. ชาร์ทไฟได้

จากข้อมูลทั้งหมด น่าจะจบ ที่teslaครับ เห็นว่าper ตัวใหม่ ขับดีกว่าตัวเก่ากระจายแรงบิดหน้าหลังได้
ขาดอบย่างเดียวเรื่องเสียง ที่ถือ เป็นการสื่อสารกับคนขับ
แต่ดูๆแล้ว น่าจะใช้ได้สบายใจกว่า ซิ่งได้ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าน้ำมัน ซึ่งในอนาคต จากสงคราม น่าจะมีแต่แพงขึ้นๆ

ผมเองเคยลองi5 m60 แล้วโคตรติดใจ เสียดายชาน์ทไฟไม่ได้ เลยใช้คันเดิมไปก่อน

ออฟไลน์ NoName__???

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,150
จาก โจทย์ ก็ EV แหล่ะ ไม่ต้องModel 3 ถ้าแค่ตีนต้น เคยเช่า MG EP มุดแซงพวกรถยุโรปแช่ขวาได้ทุกคันสบายๆ

ส่วนเรื่องเสียง ลองหาsound หรือ app อะไรที่มีเสียงออกลำโพงในรถให้ดังเหมือนท่อรถซิ่งดู เอาแบบจับLevel เสียงตามรอบ 5555 ขำๆ นึกถึงหลายๆ commentในกระทู้ก่อนๆ ชอบเสียงรถ ICE แต่คนอื่นไม่ได้ชอบด้วย ก็ต่อท่อมาฟังในรถเอา