หลังจากพี่จิมมี่รีวิว Civic fb คงขายดีขึ้นกว่าเดิม เพราะลูกค้าจะซื้อรถที่ประหยัดน้ำมันที่สุด แถมยังเติม e85 ได้อีกด้วย คราวนี้ผมได้เห็น civic fb เกลื่อนเมืองแน่ๆ หลังจากที่ลูกค้าลังเลมานาน แต่ขอปรบมือให้ในคำพูดเรื่องจอเนวิเกเตอร์ และระบบนำทางของกามินที่ห่วยบรรลัย ใช้งานยากกกกก ที่สุด คือจะค้นหาสถานที่นานไปไหน สู้กรูขับหลงๆไปเองยังจะเร็วกว่าอีก แถมบางทีใช้งานอยู่ระบบค้าง กดอะไรไม่ได้ ต้องดับเครื่องใหม่อย่างเดียว ต้องโทษฝ่าย R&D ที่พยายามลดต้นทุน (หวังโบนัสละซิ!!!) และอัตราเร่งถ้าไม่ได้เหยียบเอาเป็นเอาตายแบบ civic fd แพรวา ละก็ เอารุ่น1.8 พอครับ ราคาต่างกันเกือบสองแสน โอเคถ้าอยากได้ออพชั่นแบบจัดเต็ม แต่ภายในเป็นสีดำล้วน มันทำให้ดูอึดอัดมากกกก สุดท้ายผมเลือกถูกที่เอารุ่น 1.8 e navi ที่ถึงแม้ระบบนำทางมันจะใช้ไม่ได้เต็มร้อย แต่มันก็ได้ยาง bridgestone turanza er33 มา ซึ่งถ้าคุณเอารุ่นต่ำกว่านี้คุณจะได้ยาง goodyear nct5 ซึ่งห่วยบรรลัย บางรายใช้ไปยางแตก ไม่เข้าใจว่ามันจะลดต้นทุนไปถึงไหน หวังว่ารุ่น fb minirchange คงจะปรับปรุงให้ดีขึ้น ทั้งเรื่องวัสดุภายในที่ห่วยพอๆกับพรีอูส แถมยังเลือกลายสัมผัสแบบถนนคอนกรีตอีก --"
ปล รุ่น 2.0 ความเร็วมันทำได้น้อยลงกว่ารุ่น fd ที่รายนั้นพุ่งไปกว่า 220-227 กม/ชม พอมารุ่น fb เหลือแค่ 208 กลายเป็นรถขันทีไปเลย5555 รถแพงทั้งทีเสียดายถูกตอนทำหมั่นซะงั้น
จัดเต็มมาเลยนะพ่อคู้นนนนน
เขาตอนความเร็วหนะ ดีแล้วจ้ะ รถแบบเนี้ย พี่วิ่ง 170 หนะ ยังไม่เสียวเท่าไหร่ แต่พอเกิน 180 ก็เริ่มคิดขึ้นมานิดนึงแล้วละ
พอ 200 นี่ ภาวนาให้มันถึงท้อปสปีดเร็วๆเลย จะได้จบๆ แล้วรีบๆลดความเร็วลงมาวิ่ง 100 เดียว ซะที!
ทรมาณมาก รู้ไหม!!
เรื่องยาง ใช่ เขาลดต้นทุน แต่ จะบอกว่า ยางแต่ละล็อต บางครั้งก็ไม่เหมือนกัน
City ล็อตแรก Bridgestone ER370 พอล็อต 2 ปุ๊บ จนถึงปัจจุบัน GoodYear Excellence ที่ดีกว่ากันชัดเจน
R&D ก็ต้องพยามลดต้นทุน เพราะไม่งั้น จะขายในราคาปัจจุบันที่ขายกันไม่ได้ ทุกค่ายก็เป็นแบบนี้หมดละครับ วงการรถยนต์ทั่วโลกก็เป็นตามนี้
ไม่ใช่ Honda เจ้าเดียวหรอก ดูเหมือนจะมีแค่ ไม่กี่เจ้าที่ไม่สนเรื่องต้นทุน หนึ่งในนั้น คงเป็น Rolls Royce