ด้วยความเคารพต่อความคิดเห็นทุกท่านครับ ต่อให้ประเทศไทย พัฒนาระบบขนส่งมวลชนให้ดีเทียบเท่าญี่ปุ่น หรือดีมาก ขนาดไหน
ผมเชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจว่า คนไทยก็ยังต้องการมีรถเป็นของตัวเองอยู่ดี น้อยคนที่จะใช้ระบบขนส่งมวลชนของรัฐ ด้วยจิตสำนึก แต่ใช้เพราะความจำเป็น
เมื่อก่อนตอนที่ผมไม่มีรายได้อะไร ผมก็นั่งรถเมล์ ขี่มอเตอร์ไซด์ แล้วก็หวังไว้สักวันหนึ่ง ว่าจะมีรถขับ จับพลัดจับผลู พอมีงานมั่นคงผมก็ไม่รอช้าที่จะซื้อรถเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะด้วยความสบายกว่า หรือ อยากมีหน้ามีตาอย่างเพื่อนๆ เพราะฉะนั้น ประเทศไทยก็ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป ไม่ว่าประเทศเราจะพัฒนาไปขนาดไหนก็ตาม ฟันธง !!
อยากจะบอกว่า ประเทศไหนเมืองไหน ใครใครก็อยากมีรถส่วนตัวทั้งนั้นแหละครับ
ทั้งเรื่องความสะดวกสบายในการเดินทาง และภาพลักษณ์และฐานะทางสังคม
มีที่ไหนบ้างล่ะ ที่ไม่ว่าจะขับ Merc, Ferrari, หรือ Tata ก็จะมีภาพลักษณ์เท่ากัน ไม่มีซะหรอกครับ
แต่ที่คนหลายประเทศนิยมใช้ขนส่งมวลชนมากกว่า ก็เพราะต้นทุนการนำรถ "ออกมาวิ่ง" มันแพงครับ
ยกตัวอย่างง่ายง่าย New York ถามว่าทุกคนที่มีรายได้ มีรถเป็นของตัวเองหรือไม่ คำตอบคือ "มี" แทบทุกคนครับ
แต่วันทำงานปกติ เอารถออกมาใช้หรือเปล่า ส่วนใหญ่ไม่ได้เอาออกมา เพราะค่าจอดรถแพงมหาศาล
จอดทั้งวันนี่ Early Bird เข้าจอดก่อน 9 โมงเช้า ก็ค่าจอดปาเข้าไปวันละ 20-30 เหรียญแล้ว
แถมสถานที่จอดรถก็ไม่ค่อยมี ดังนั้น ข้อจำกัดมันมีมากโข ก็เลยไม่นำรถออกมาใช้กัน
ย้ายเมืองมาดู Philadelphia ซึ่งเป็นเมืองที่เล็กกว่ามาก ทุกคนที่นี่นิยมขับรถมากกว่าใช้ขนส่งมวลชน
ก็เพราะต้นทุนการใช้รถต่ำ จอดทั้งวัน 9.99 เหรียญ ถ้ามาสายก็ 14 เหรียญ ถูกกว่ากันเยอะ
แถมถนนทุกสายใน Philadelphia จอดรถได้สองข้างทางหมด ถูกแสนถูก รถก็วิ่งกันเต็มเมือง
ทีนี้ การที่ New Yorkers สามารถเปลี่ยนไปใช้ขนส่งมวลชนได้ ก็เพราะมัน Reliable ครับ
รถเมล์ขับอย่างมีระเบียบ สะอาดเรียบร้อย มาบ่อยถี่และตรงเวลา (ถึงจะเพี้ยนบ้างก็ตามเหอะ)
หรือเมืองต่างต่างที่ ระบบขนส่งแบบราง ทำออกมาดี คนก็นิยมใช้กัน เพราะถึงจะสะดวกสบายน้อยกว่า
รถยนต์ส่วนตัวบ้าง แต่มันก็ยังทำให้การเดินทางไปถึงจุดหมายเป็นไปอย่างสบาย และเข้าถึงจุดหมาย
แบบไม่ได้ต้องเดินเยอะกว่าขับรถส่วนตัว หรือต้องต่อสองต่อสามต่อ กว่าจะถึงที่หมายได้
หรืออย่าง สิงคโปร์ ถนนขาเข้าทุกสายที่วิ่งเข้าใจกลางเมือง Singapore City ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมใช้ถนน
วิ่งผ่านไอ้เสานี่ที ก็จ่าย 2 เหรียญสิงคโปร์ ไอ้แบบนี้ล่ะทำได้ เพราะขนส่งมวลชนดี รถไฟฟ้าถึงทั้งเกาะ
คนก็ไม่อยากขับรถไปโดยปริยาย จะไปไหนทีก็วางแผนจะได้ไม่ต้องขับผ่านเสานี่ซ้ำซ้ำ เสียเงินซ้ำซาก
แต่ถ้าขนส่งมวลชนเป็นแบบไทย รถเมล์ขับแบบจะพาคนไปตายอย่างนี้ ก็คงลำบากครับ
ผมถึงคิดว่า หากต้องการจะแก้ไขปัญหาจราจรอย่างจริงจัง ต้องรีบสร้างระบบขนส่งมวลชนให้เป็นโครงข่าย
เข้าถึงหลายจุด ครอบคลุมให้มากพื้นที่ แทนที่คนจะขับรถเข้าไปติดในเมือง หาที่จอดอีกชั่วโมงนึง
ก็เปลี่ยนเป็นนั่งรถไฟฟ้า รถใต้ดิน รถไฟบนดิน เพื่อไปถึงที่หมายได้อย่างรวดเร็ว ประหยัด และสะดวกสบาย
ผมกลับจากอเมริกามานี่ แรกแรกไม่อยากขับรถเลยครับ พอดีบ้านใกล้รถไฟฟ้าก็เลยโหนไปใจกลางเมืองบ่อยบ่อย
แต่พอกลับมาอยู่นาน ธุระปะปังเริ่มมากขึ้น วันวันต้องไปหลายแห่ง ขนส่งมวลชนที่มีมันรองรับไม่ได้ทั้งหมด
ก็ต้องเอารถออกมาขับกันล่ะ ช่วยไม่ได้นี่นา