จะว่าไป.... ผมก็เริ่มชักจะชอบไอ้ความคิดที่ว่าผมโลกไม่สวยนี่เหมือนกันนะ
สมมุติ... ผมซิ่งรถดึกๆกำลังมันส์ๆแล้วเผลอไปชนมอเตอร์ไซด์ล้ม คนขี่เสียชีวิต ผมก็แค่จอดรถแล้วเอากระเป๋าตังค์ตัวเอง เอานาฬิกาข้อมือยัดใส่ตัวผู้ตายแล้วโทรเรียกตำรวจบอกว่าเจอคนปล้นทรัพย์ก็เลยขับรถตามแล้วเผลอชนรถคนร้ายเข้า ถ้าโชคดีแถวนั้นไม่มีกล้องวงจรปิดหรือไม่มีคนเห็นเหตุการณ์ ผมก็แค่อ้างว่าก็ผมโลกไม่สวยผมก็ไม่ต้องรู้สึกผิดอะไรแล้ว สบาย............ ส่วนคนที่ตายไปจะเป็นญาติหรือลูกหลานใครก็ไม่ต้องสนใจ
ผมแค่ยกตัวอย่างให้ดู ว่าถ้าคนทั่วไปอย่างพวกผมอยากจะโลกไม่สวยบ้าง สังคมมันจะเป็นยังไง (แค่ยกตัวอย่างนะครับ ไม่เกี่ยวกับผู้ที่เกี่ยวข้องในข่าว)
ถ้าคุณเจอเหตุการณ์แบบนี้กับตัวเอง ผมแนะนำว่าให้ขับรถตามห่างๆแล้วโทรฯให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเขาดักจับหรือเข้าสกัดเองดีกว่า อย่าตัดสินผิดถูกหรือชี้เป็นชี้ตายด้วยตัวเอง
อย่างกรณีนี้ถ้าคนร้ายไม่ตายแต่ถูกจับได้ก็ต้องรับผิดฐานปล้นทรัพย์ตามกฎหมาย แต่ถ้าคุณพลาดแบบในข่าวจะกลายเป็นคุณที่ต้องรับผิดฐานขับรถประมาทจนมีผู้เสียชีวิตแทน (ยกเว้นว่าเคลียร์กับทางเจ้าหน้าที่ได้ ก็อีกเรื่อง)
ถ้าคิดแบบนี้ก็ผิดตั้งแต่ซิ่งบนถนนหลวงแล้วครับ ตำรวจน่ะหวังพึ่งไม่ได้หรอกแต่การไต่สวนตามกฏหมายไม่ได้หลอกได้ง่ายดายแค่เอาของยัดใส่ศาลก็เชื่อแล้ว เอาแค่ระดับการไล่ภูมิหลังของบุคคลที่พบว่าไม่เคยมีประวัติลักขโมยมาก่อนคุณก็ตำที่นั่งลำบากแล้ว ที่สำคัญสภาพรถที่ใช้มันก็บอกได้ว่าใครขับเร็วแค่ไหน ที่สำคัญประเทศไทยไม่ได้มีแต่คุณกับคู่กรณีเท่านั้น มันยังมีการเห็นจากพยานอีกมากมายที่จะเรียกมาให้ปากคำได้ในระหว่างการไต่สวนหรือเก็บหลักฐาน ญาติของฝ่ายผู้ตายก็จะเป็นฝ่ายที่กัดไม่ปล่อยเหมือนกันเพราะคนของเค้าตายจะมาใส่ความให้เรื่องจบง่ายๆไม่มีทางเสียล่ะ
เข้าใจว่าบางคนไม่เห็นด้วยกันการไล่ตามคนร้าย อันนั้นไม่แปลกถ้าคุณจะกลัวการโดนทำร้ายคืนทีหลังแล้วสู้ไม่ได้ แต่การมองแต่ด้านลบของการไล่ตามอาชญากรพวกนี้แล้วยอมพวกมันอยู่ร่ำไปก็ไม่ต่างจากการสนับสนุนให้คนร้ายมันได้ใจว่าสุดท้ายก็ไม่มีใครทำอะไรพวกมันได้ อย่าลืมว่าที่นี่คือประเทศไทย ประเทศที่การคาดหวังจากตำรวจต่ำต้อยมาก คนที่สู้ไม่ได้ไม่ว่ากันแต่ทำไมถึงจะมาห้ามไม่ให้คนอื่นๆที่สู้ได้ไม่ใด้ทำล่ะครับ? ตรรกะง่ายๆคือคนร้ายจี้ปล้นไม่มีใครทำอะไรพวกมันตำรวจก็เฉยสิ่งที่ตามมาคือมันก็ออกจี้ปล้นต่อ แต่อีกทางคนร้ายที่ปล้นแล้วโดนเจ้าทุกข์เล่นงานคืนอาจจะไม่ต้องถึงตายแค่บาดเจ็บแขนขาหักสิ่งที่ตามมาคือพวกมันจะสำนึกได้ว่าการทำเลวของพวกมันไม่ได้ง่ายเสมอไปอย่างที่พวกมันคิดและการทำเลวครั้งต่อไปก็จะยากขึ้น หลักฐานชัดเจนจากที่หลายๆคนว่ามาข้างบนเลย บางคนเกือบจะโดนปล้นแล้วแต่พอเห็นว่ามีผู้ชายมาด้วยเห็นว่าเป้าหมายหน้าโหดมีแววจะสู้ได้พวกมันก็ไม่ลงมือปล้น
ผิดถูกของแต่ละคนมันไม่เท่ากันครับ ของผมกับของคุณก็ไม่เท่ากัน ไปถามคนอีก 100 คนก็อาจผิดถูกไม่เท่ากันไปอีก 100 อย่าง
บางคนอาจจะบอกว่าพวกปล้นสมควรตายแล้ว บางคนอาจจะบอกว่าสมควรถูกตัดมือ บางคนบอกว่าต้องมีการตอบโต้ไม่งั้นก็เท่าว่าละเลยให้มีโจรเต็มบ้านเต็มเมือง
งั้นบรรทัดฐานมันอยู่ตรงไหน ?? คนพวกนี้ควรได้รับผลแบบไหนกันแน่ ??
ผมจึงแนะนำว่าเรื่องบางอย่างบางขั้นตอนให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองไป อย่าไปลงมือหรือตัดสินเอาเองตามอารมณ์หรือตามความคิดตัวเองเพราะมันมีกฏหมายอยู่ ถ้าทำอะไรเกินเลยไปมันจะกลายเป็นฝ่ายผิดเสียเอง..
ยกเว้นว่าเรากระทำการป้องกันตัวขณะกำลังถูกจี้หรือถูกปล้น อันนี้เป็นสิทธิ์ที่ทำตามกฎหมายได้อยู่แล้วครับ
ถ้าจะให้ตรงประเด็นกับที่ จขกท.ถาม ก็ต้องพูดกันตรงๆว่าการขับรถไล่ล่าผู้ร้าย(จี้ ปล้นทรัพย์)เองจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ในทางกฎหมายก็คงผิดครับฐานขับรถประมาท
ยกเว้นจะพิสูจน์ได้ว่าขณะขับรถตามแล้วคนร้ายมีอาวุธที่จะทำร้ายเราได้เช่นมีปืน กรณีนี้ก็อาจจะอ้างว่าเป็นการป้องกันตัวได้ ขึ้นอยู่กับผลของการสอบสวนที่ออกมา