ตอบเป็นข้อข้อ..
ช่วงที่ผ่านมา มาสด้ามีปัญหาเรื่องกำลังการผลิตที่ไม่พอกับยอดขายในตลาดครับ
ยอดขายทั้ง 2 และ 3 ดีทั่วโลกจนฐานการผลิตที่มีอยู่ไม่พอ อาจจะบอกว่าก็ไม่เห็นจะดีเท่ากับเจ้ายักษ์เลย
ใช่ครับ แต่ถ้าเทียบยอดการเติบโตปีต่อปีแล้ว มาสด้าไม่มีตังค์พอจะโตทัน ว่าง่ายง่าย...
ส่วนหนึ่งก็ต้องโทษการวางแผนการผลิตผิดพลาดนั่นแหละ
ส่วนการมาช้าของ 2 และ 3 ก็เพราะการย้ายฐานกลับจากฟิลิปปินส์มาไทยครับ เสียเวลารอสร้างโรงงาน
ทำให้มันมาเลยทันทีไม่ได้ แต่ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมถึงไม่นำเข้ามาขายไปพลางพลางก่อน
และ 3 นี่มีเรื่องการเมืองสารพัดกับค่ายวงรีสีฟ้าเป็นหลัก ทำไมให้มาสด้า 3 2.0 ต้องมาก่อนโดยทำแบบ Super CKD
สั่งอะไหล่สารพัดจากญี่ปุ่นมาผลิตเพื่อขายขัดตาทัพไปก่อน กว่า facility ของ AAT ที่แย่งกันใช้กับอีกเจ้าจะเปิดว่าง
ก็ผ่านไปเป็นปี ตัว 1.6 ที่ได้คลานตามออกมา ซึ่งเป็น CKD ล้วนล้วนเหมือนกับรุ่นอื่นอื่นเขาได้เสียที
เรื่องแบบนี้ ผมรู้ดีว่าคนใน MST ไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่มันเป็นเรื่องที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของทีมไทย
ที่ได้แต่ก้มหน้ารับชะตากรรมกันต่อไป เพราะแก้ไขหรือทำอะไรก็ไม่ได้ นับดูละกันว่า 2-3 ปีที่ผ่านมา วงรีออกรถกี่รุ่น แล้วมาสด้ากี่รุ่น...
CX-5 ผมยังไม่ทราบตื้นลึกหนาบาง แต่เข้าใจว่ามีปัญหาเดิมเดิมนั่นแหละ ฐานการผลิตไม่พอ
และยังไม่มี supplier ที่รองรับอะไหล่สำหรับพวก Skyactiv technology ได้ในภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เลยเอาเข้ามายังไม่ได้ครับ
ที่ผมคอนเฟิร์มได้อย่างนึงก็คือ คนไทยทีมมาสด้าเค้าอยากจะดัน อยากจะขายของใหม่กันจนผมจะร่วงหมดหัวแล้ว
ติดที่เรื่องในค่ายบ้าง นอกค่ายบ้าง ทีมต่างชาติบ้างอยุ่นั่นแหละ ไม่เหมือนสมัยกมลสุโกศล หรือย้อนรอยสยามกลการแน่นอน
ตามนั้น
แม่แต่ Mazda2 ที่มาช้าส่วนนึงก็เพราะค่ายวงรีสีฟ้าซึ่งตอนนั้น B-car เค้ายังไม่ออกก็ลากก้ามเรื่องการตัดสินใจเรื่องตั้ง AAT2 ด้วย
CX-5 ปัญหาก็ตามที่เนยว่านั่นแหละ แต่เรื่องเครื่องกับเกียร์ไม่ใช่ปัญหาในภูมิภาค เพราะมันมาจากโน่นเลย แต่ปัญหาจริงๆ มันอยู่ที่กำลังการผลิตในแถวนี้มีไม่พอ ถ้านำเข้าแล้วราคาถูกได้ป่านนี้คงได้เห็นแล้ว
แต่ ถ้ามาครบทั้ง 2.0, 2.5 และ 2.2D ล่ะ