ในการพัฒนารถยนต์ ผู้ผลิตต้องลดต้นทุนรถยนต์ เพื่อให้ขายในราคาที่เหมาะสม หรือไม่ก็ทำกำไร ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงเวลาปกติ (แต่บริษัทประสบปัญหาทางการเงิน) หรือวิกฤติต่างๆ เช่น วิกฤติพลังงาน 1973/1979, ภาวะเศรษฐกิจถดถอยต้นยุค 1980/ต้นยุค 1990, วิกฤติเศรษฐกิจเอเชีย 1997, ภาวะเศรษกิจถดถอยครั้งใหญ่ (2007-2009) และล่าสุดกับโคโรน่าไวรัส (2019-ปัจจุบัน ในวันที่ผมโพสต์ไว้) ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่อย่างที่คิด และไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะที่ประเทศไทย เพราะประเทศอื่นๆ อย่างอินเดีย, ปากีสถาน, ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย หรือแม้กระทั่งประเทศรายได้สูง อย่างยุโรป กับออสเตรเลีย (ก่อน 2017) ก็มีการลดต้นทุนรถยนต์เช่นกันครับ
คำค้นหา: Cost-Cutting in Cars สำหรับเว็บค้นหา หรือวีดีโอ และผมมีคลิปมาให้ดูด้วย (คลิปจากอินเดีย) ครับ
(ระวัง!! การลดต้นทุนอย่าลับๆ ในรถของคุณ)
(5 จุดลดต้นทุนไร้สาระโดยผู้ผลิตรถยนต์ ที่ทุกคนควรรู้) (รถในคลิป: Volkswagen Polo, Honda WR-V, Hyundai Grand i10 โฉมแรก และ Maruti Suzuki Swift โฉมที่ 2)
ในคลิปนั้น มี 1. ยางอะไหล่สำรองของ Volkswagen Polo ที่เล็กกว่า (175/70 R14 เทียบกับยางปกติ ที่ 185/60 R15), 2. พนักพิงศีรษะตายตัว (ปรับไม่ได้) ใน Maruti Suzuki Swift, 3. ระบบล็อกประตูรถตามความเร็ว ที่ไม่มีใน Hyundai Grand i10, 4. สัญญาณกันขโมยรถดัง หากไม่ใช้รีโมท 5. กุญแจรถ ลดต้นทุน เช่น กุญแจเปิดรถสำรอง แบบธรรมดา (ไม่มีรีโมท), ประตูฝั่งคนขับเท่านั้น ที่สามารถเปิดด้วยกุญแจรถแบบ Smart Key ใน Honda WR-V, ประตูโดยสารหน้า ที่ไม่สามารถล็อคได้ใน Hyundai Grand i10 หรือแม้กระทั่งไม่มีปุ่มปลดล็อคฝาท้ายใน Honda WR-V
(14 วิธี ที่ผู้ผลิตรถยนต์ ลดต้นทุนในรถยนต์) (รถในคลิป: Volkswagen Ameo และ Maruti Suzuki Wagon R โฉมแรก)
ในคลิปนั้น มี 1. คุณภาพการผลิตที่ต่ำกว่า โดยใช้เหล็กความแข็งแกร่งสูงน้อยกว่า, 2. ยางขนาดเล็ก, 3. พนักพิงศีรษะตายตัว, 4. กันฉนวนประตูภายใน, 5. กระจกบาง ในประตูรถ, 6. รายละเอียดใต้ท้องรถ และฝาครอบเครื่องยนต์, 7. ตัวถังลดการกันสนิม, 8. ยางอะไหล่ขนาดเล็ก หรือไม่มียางอะไหล่ (อาจจะเป็นเพราะอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง), 9. เสียงดังภายในรถ จากการกันฉนวน, 10. ไม่มีคิ้วล้อ (ไว้ป้องกันดิน หรือฝุ่น), 11. ไม่มีแผ่นปิดฝาท้ายรถ, 12. จานเบรคขนาดเล็ก มักไม่มีรูระบาย, 13. ไม่มีแผ่นปิดสัมภาระท้าย และ 14. ไม่มีกระจกมองข้าง ฝั่งผู็โดยสาร หรือกระจกมองข้าง พับมือ