กระบะดีเซล เชื่อว่า ยังอยู่อีกนาน
เอาเบนซินมาใช้ กินน้ำมันกว่า ดีเซลมากมาย ต้องจับติดแก๊สสถานเดียว ซึ่งถ้า ราคาน้ำมัน ยังอยู่ ณ ปัจจุบัน เบนซิน ในกระบะก็จะค่อยสูญพันธุ์ไปเรื่อย
แต่ถ้า น้ำมันดีดมาอีก เบนซินก็อาจจะกลับมา
ส่วนรถไฮบริด รถไฟฟ้า ผมว่า ยากที่จะมาในกระบะ ... รถขนของ รถคนงานใช้ รถทำมาหากิน ค่าซ่อมต้องถูกสุด ใครก็ต้องซ่อมได้ ไม่ต้องเข้าศูนย์ ซึ่งรถไฮบริด มันไม่ตอบโจทย์ ยกเว้น จะออกมาในรูป PPV หรูๆ รุ่น Top เจ้าของขับเอง ก็อีกเรื่องครับ แต่กระบะตอนเดียว ตามตลาดไท ไม่มีทางครับ
ผมคิดตรงกันข้ามนะ รถไฟฟ้าต่างหากทีจุกจิกน้อยกว่ารถที่ใช้เครื่องยนต์ รถไฟ้าใช้มอเตอร์ไฟฟ้าที่เสียยาก ซ่อมง่าย กว่าเครื่องยนต์ของรถยนต์เยอะ ไม่มีเกียร์ ไม่มีระบบระบายความร้อน ไม่มีระบบระบายไอเสีย ไมีมีระบบไอดี เทอร์โบ
โดยส่วนตัว ผมคิดเหมือนกันกับคุณ Smith686 นะครับ
ถ้าเอาเทคโนโลยีรถไฟฟ้า หรือ EV ผมว่ามันไม่มีอะไรซับซ้อนเลยนะครับ มันง่ายกว่าเครื่องยนต์เยอเลย มีแต่มอเตอร์ vs แบตเตอรี่ เท่านั้นเอง ขนาดมอเตอร์ทั่วไป มีปัญหา ช๊อต หรือ ไหม้ เขายังเอามาซ่อม มาพันทองแดงใหม่ ก็ใช้งานต่อได้เลย แต่พอเป็นเครื่องยนต์ ต้องมีชิ้นสุด โน่น นี่ นั้น เยอะไปหมด
ผมว่า คนกลัว หรือ ยังไม่กล้า เพราะรถ EV มันยังไม่ค่อยผ่านมือช่าง และยังไม่จริงจังทางการตลาด และราคายังสูงอยู่ เลยมองว่าซับซ้อนหรือมองว่าไม่ใช่เรื่องง่าย และส่วนหนึ่งผมเป็นระบบไฟฟ้าภายในรถและออฟชั่นต่างๆ ที่มันซับซ้อน คนละส่วนกับระบบขับเคลื่อนมากกว่า
ผมเลยคิดว่า ถ้าวงการช่าง เขาได้ลงมาคลุกคลีกับรถ EV เหมือนที่ทำรถเครื่องยนต์ทุกวันนี้ ผมว่าเขาจะดีใจซะด้วยซ้ำมันซ่อมในส่วนของระบบขับเคลื่อนง่ายกว่าเครื่องยนต์
ผมเคยคิดว่า ถ้ามีการปล่อยรถ EV ในราคาไม่แพง ออกมาในตลาดเยอะๆ เมื่อไหร่ รถกระบะก็จะต้องปรับตัวไปด้วย