น้ำมัน 35.2 ลิตร กับ Full Battery วิ่งได้ 570 km
แปลว่า ถ้าขับทางไกล 570 km จะกินน้ำมันอยู่ที่ 16.19 km/l โดยที่ 70 km แรก วิ่่งโดย ไม่ใช้น้ำมัน
แต่หลังจาก 70 km แรกแล้ว เมื่อ แบตหมด 1.4L จะทำงาน และ จะวิ่งได้อีก ประมาณ 500 km โดยที่ 500 km หลัง จะกินน้ำมัน เฉลี่ย = 500(Km)/35.2(ลิตร) = 14.2 km/l
* ความเห็นส่วนตัว ผมว่าไม่ตอบโจทย์เท่าไร โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับ Prius Plug-in Hybrid ที่มีความ Flexible มากกว่า ทั้ง ขับในเมืองและทางไกล
ที่นอกจากแบตที่ สามารถ ถูกชาร์จ ได้เอง จากการขับขี่แล้ว แบตยัง สามารถ เสียบ ชาร์จ ได้ได้ตรงจากไฟบ้านเช่นกัน แถม อัตราสิ้นเปลือง เมื่อใช้ร่วมกับน้ำมัน ยังทำได้ดีกว่ามาก
ความรู้สึกเหมือนโดนหลอก ถ้าจะมาเทียบกันเรื่องความประหยัด พรีอุส อีโคคาร์ทุกรุ่น bและd เซกเมนต์บ้างตัวก็กินขาดสิครับ
ทั้งๆที่ volt เองก็ออกแบบมาแนวรักโลกทั้งเทคโนโลยีก็มีความสลับซับซ้อนอย่างมาก แต่ทำไมตัวเลขที่ออกมาไม่รักโลกเลย
แบบนี้คงเหมาะกับชับในเมืองระยะ 70-80 กิโลเมตร เสียบปลั๊กชาร์ทอย่างเดียว พอออก ตจว อัตตราการซดก็ไม่ต่างจากรถธรรมดาสักเท่าไหร่ สรุปว่ามีดีแค่ สวย แรง แล้วก็ปล่อยมลพิษน้อย เท่านั้นเอง
ผมดูว่าถ้าระยะทางแค่ 70 โลแรกยังไงก็เหนือกว่าพรีอุสปลั๊กอินไฮบริดแน่ๆครับ แต่เมื่อดูจากข้อเท็จจริงจากวิกิพีเดียดังนี้
The Prius plug-in total all-electric range in blended mode is 11 mi (18 km) as rated by the U.S. Environmental Protection Agency (EPA), has an expected total range of 540 miles (870 km), and a maximum electric-only speed of 62 mph (100 km/h).[3] The lithium-ion battery pack can be charged in 180 minutes at 120 volts or in 90 minutes at 240 volts.[7] According to Toyota the Prius plug-in is expected to be rated in Europe at 112 mpg-US (2.10 L/100 km; 135 mpg-imp) equivalent, with CO2 emissions of 49 g/km.[1][8] The EPA fuel economy rating is 95 miles per gallon gasoline equivalent (MPG-e) (2.5 L/100 km; 114 mpg-imp) in all-electric mode and a combined city/highway rating of 50 mpg-US (4.7 L/100 km; 60 mpg-imp) in hybrid mode, the same as the conventional Prius liftback.[3]
ความจุถังน้ำมันรุ่นปลั๊กอินจะเท่ากับรุ่นสแตนดาร์ดที่ 40 ลิตร (ข้อมูลจากเว็บที่อเมริกาบอกว่า 10.6 แกลลอน) ถ้าวิ่งได้ 870 กม.จริงๆตามวิกิพีเดีย ก็จะได้อัตราสิ้นเปลืองทั้งถังอยู่ที่ 21.75 กม/ลิตร ซึ่งก็ไม่ต่างจากพรีอุสปกติมากมายอย่างที่คิด ที่ใช้อยู่ในเมืองก็ได้ 600 โล ออกนอกเมืองก็ได้ 790-800 ต้นๆอยู่แล้ว ตีเฉลี่ยว่าถังนึงวิ่งได้ 700-800 ก็จะได้อัตราสิ้นเปลืองของรุ่นปกติอยู๋ที่ประมาณ 17.5 - 20 กม/ลิตร)
สำหรับ Volt
According to General Motors the Volt's all-electric range with fully charged batteries varies from 25 to 50 miles (40 to 80 km) depending on terrain, driving technique, and temperature.[16][76] The Environmental Protection Agency (EPA) official all-electric range is 35 miles (56 km) with an energy consumption of 36 kWh per 100 miles (810 kJ/km). This range is based on the agency's five-cycle tests using varying driving conditions and climate controls. The total range with a full tank of gasoline and a fully charged battery is 379 miles (609.9 km) according to EPA tests.[77][78]
The Volt's fuel tank capacity is 9.3 US gallons (35 l; 7.7 imp gal) and once the car runs out of fuel, the gasoline-powered generator shuts down, and the Volt taps into the battery for extra power. The reserve battery power is designed to provide an extra 3 to 4 mi (4.8 to 6.4 km) of range once the gasoline tank is depleted. When the reserve battery power is low, the Volt slows to a stop.[79]
เอามาจาก Wiki เช่นกัน เอา 609.9กม หารด้วย 35 ลิตร จะได้ 17.43 กม/ลิตร
หากนำมาเทียบกันแล้ว เมื่อคิดด้วยระยะทางต่อถังสูงสุดที่วิ่งได้แบบนี้ ผมว่า Prius ที่วิ่งกันอยู่ทุกวันนี้ก็ดูจะประหยัดกว่าทันที ยกเว้นแต่คุณจะเอา Volt มาวิ่งในระยะทางไปกลับบ้าน-ที่ทำงานแค่ระยะทางสั้นๆ น้ำมันยังไม่ทันได้ใช้ แบบนั้นจะได้เปรียบและเหนือกว่าพรีอุสแน่นอน
งานนี้ผมว่าสูสี อยู่ที่ราคาแล้วหละ