เมื่อก่อนประเทศไทยเคยได้ชื่อว่ายิ้มสยามเพราะมักจะช่วยเหลือกันยิ้มแย้มให้กันแต่ผมคิดว่าปัจจุบันนี้มันคงจะไม่เป็นแบบนั้นอีกแล้วกระมัง จำได้ปีที่แล้วตอนที่มีข่าวผู้หญิงกำลังท้อง7เดือนแล้วไปเจอผู้หญิงอีกคนวิ่งมาขอความช่วยเหลือเพราะว่าโดนคนร้ายจี้เอารถฟอจูนเนอร์ไปคุณแม่กำลังท้องนี่ก็ช่วยขับรถไล่ตามไปจนแจ้งตำรวจเอาของคืนมาได้หมด (
http://www.news.thai2ads.com/contentnew-news-501 ) แทนที่จะเป้นเรื่องน่าชื่นชมแต่กระแสความคิดจากคนในเว็บบอร์ดเกือบครึ่งหนึ่งกลับมองคุณแม่คนนี้ในทางที่แปลก หาว่าตัวเองเข้าไปเสี่ยงมั่ง ไม่ใช่เรื่องของตัวเองมั่ง ไม่ห่วงเรื่องในท้องมั่ง ได้ไม่คุ้มเสียมั่ง บ้าบิ่นเกินไปมั่งต่างๆนาๆ...........กลายเป้นว่าการที่คนๆหนึ่งช่วยเลหือคนอื่นในยามที่เค้าเดือดร้อนกลับกลายเป็นเรื่องที่แปลกไม่น่ากระทำไปแล้วเหรอ??
วันนี้ผมเองก็เจอความนิ่งเฉยของคนไทยนี้กับตัวเองเช่นกัน เมื่อเช้าตอนที่ผมกำลังจะมาปั๊มลายนิ้วมือเข้าโรงตึ๊ง...........เอ๊ยเพื่อเข้างานตอนเช้า มองข้ามไปอีกฟากของซอย1เลนเห็นชัดเจนเลยว่ามีประเป๋าเงินสีเทาขนาดกลางตกอยู่ข้างๆรถขายฝรั่ง คุณว่ามันแปลกไหมล่ะครับที่ในช่วงเช้าคนเดินกันเป็นร้อยๆซื้อมื้อเช้ากับเดินเข้าตึกก่อนเข้างานทำไมไม่มีใครสนใจกระเป๋าใบนี้เลย? จนพาให้ผมสงสัยว่าหรือที่จริงแล้วมันคือก้อนกระดาษสีเทากันแน่?
รอให้รถเข้าซอยผ่านไปจนผมข้ามมาอีกฝั่งได้ก็ยังไม่มีใครสนใจจะหยิบมันขึ้นมา เห็นผู้หญิงซื้อฝรั่งคนนึงก้มลงมองมันดูแล้วมองหาทำท่าอึกอักเหมือนว่ารู้แล้วนะว่ามีคนทำกระเป่าหล่นอยู่ แต่แล้วคุณเธอก็เดินจากไปปล่อยให้มันอยู่ที่พื้นนั่นแหละ พอผมหยิบขึ้นมาดูก้เห้นว่ามันเป็นกระเป๋าเงินจริงๆนั่นแหละ หนาด้วยข้างในคงจะมีบัตรอะไรเต็มไปหมดเลย ซึ่งทันทีหยิบกระเป๋าด้วยปรากฏว่าคนรอบข้างทั้งหลายมองดูผมกันเต็มไปหมดเลย.................ทั้งคนรอบข้างทั้งคนขายของจ้องกันใหญ่ ดีที่หมาจรจัดอีกสองตัวใกล้ๆมันไม่หันมามุงดูกับเค้าด้วย เออถ้าพวกมรึงเห็นว่ามีคนทำหล่นไว้เยอะแยะขนาดนี้ทำไมไม่สนใจหยิบขึ้นมาดูกันวะ!!!! นี่ถ้าหากว่าผมหยิบขึ้นมาแล้วรีบเก็บซ่อนเลยคงโดนรุมกระทืบหมอบแถวนั้น
ถามน้าคนขายฝรั่งรู้ไหมว่าของใครทำหล่นไว้แกก็บอกอ๋อคงจะของผู้หญิงคนที่มาซื้อเมื่อกี้แหละที่ทำหล่นไว้ อ้าวววววน้าก็เห็นว่าทำหล่นไว้เหมือนกันแล้วทำไมไม่เก้บขึ้นมาก่อนจะมีใครที่ไม่น่าไว้ใจฉกไปล่ะค้าบบบบบ? ผมเลยฝากเบอร์โทรศัพท์ไว้เผื่อว่าเจ้าของเค้านึกขึ้นได้เดินมาถามจะได้เอาคืน ผ่านไป 1ชั่วโมงยังไม่มีใครโทรมาเลยเปิดดูข้างในหาชื่อเจ้าของซะหน่อย นี่ถ้าคนไม่ดีเก้บไปนี่แม่คุณต้องตายแน่ๆเลย ข้างในมีแบงค์พันแน่ๆใบนึงกับบัตรเครดิตอีกไม่ต่ำกว่า4ใบ อูยยยยยยย หวาดเสียวแทนจริงๆถ้าหายเกินวันเค้าจะนึกเลขบัตรออกตามไล่อายัดบัตรได้ถูกหมดไหมวะนี่!!!! สุดท้ายนึกขึ้นได้ว่ามีระบบในองค์กรใช้ดูชื่อพนักงานได้เลยหาเบอร์โทรศัพท์ติดต่อเจ้าของมารับคืนเรียบร้อยไปอีก1คดี..............เจ้าของตัวเล็กๆขาวๆเสียงเล็กๆหวานๆหน้าตาน่ารักน่าลุ้นซะด้วย อิ๊ๆๆๆ
น่าคิดไหมครับว่าทำไมคนรอบๆข้างจำนวนมากก็เห้นว่ามีกระเป๋าหล่นอยู่แต่กลับไม่กล้าที่จะหยิบมันขึ้นมา กลับทำเหมือนว่ามันเป็นกับดักไม่น่าไว้ใจชิ้นหนึ่งอย่าไปยุ่งกับมันเลย แต่ขอดูหน้าไอ้อ้วนที่ใจกล้าหน้าด้านหยิบมันขึ้นมาซะหน่อย (ไอ้ตอนโดนรุมจ้องนี่ผมก็เขินนิดๆพาลให้คิดว่าซิปกางเกงเจ้าปัญหามันรูดลงเองก่อเรื่องให้ผมขายหน้าอีกรึเปล่า) จะบอกว่าไม่รู้ว่ามันหล่นอยุ่ก็ไม่ใช่แน่เพราะผมอยู่ห่างไป 10 เมตรยังเห้นชัดแจ๋วเลยว่ามีกระเป่นสีเทาหล่นอยู่บนพื้น............ เห้นกันตั้งหลายคนแต่ทำไมไม่ทำอะไรเลย? ไม่กล้าที่จะทำความดี? อายที่จะหยิบของตกพื้น? หรือว่าไม่ใช่ของๆกรูกรูไม่สนใจกันแน่? รู้แล้วว่าทำไมมุขที่โจรทำร้ายผู้หญิงเพื่อแย่งกระเป่าแล้วตะโกนบอกว่าเรื่องของผัวเมียอย่ามายุ่งคนรอบข้างถึงไม่ยุ่งมันถึงได้ผลนัก ถ้าคนในสังคมเลือกที่จะเมินเฉยต่อความลำบากของคนอื่นแบบนี้สังคมไทยในอนาคตคงจะน่ากลัวมากๆอาจ ถ้าคนโดนแทงเพราะโดนปล้นก็คงจะนอนตายตรงนั้นเลยเพราะคนอื่นๆกลัวที่จะเข้าไปช่วยเหลือ