ยังไงก็ต้องบอกว่า ส่วนต่างราคายังไงก็ต้องคิดครับ ไม่งั้นผมไปเอา นิสสันลีฟหรือฮุนไดก็ได้นะ (ก็ไม่คิดถึงค่าตัวนิ)
ถ้าเทียบในค่าย ตัวเดียวกัน ZS น้ำมันที่อืดและซดนี่ละ ให้ 3บาทต่อโลเลยนะ
1โล ต่างกัน 2.5บาท
1แสนโล ซึ่งเป็นระยะใกล้ที่รถจะหมดสภาพ ประหยัด 2.5แสน .... แล้วค่าตัวต่างกันเท่าไหร่ ราคาขายต่อจะต่างกันไหม? ถ้าบังคับให้เลือกแค่ ZS/ZS EV ถ้ามีรถคันเดียวเชื่อว่าหลายคนยังจะจิ้มตัวน้ำมันในฐานะที่มันยังไปไกลๆได้สะดวกกว่านะ....ZS EV ถึงต้องทำราคาลงมาขนาดนี้ไงครับ ผมว่าคน CP น่าจะคิดแล้วว่าถ้ามากกว่านี้จอดฝุ่นจับแน่ๆ
เหมือนที่คุณแพนเขียนในบทความรถไฮบริดทั้งหลายละครับ คิดถึงค่าตัวกับค่าที่ประหยัด จะคุ้มไหม
มันไม่ได้เหมาะกับทุกคนนะครับ ถ้าบอกว่าใช้แต่ในเมือง(ด้วยระยะการชาร์ท) ก็เสียข้อดีที่ดีกว่าตัวน้ำมันในแง่อัตราเร่งไป และการที่ระยะทางต่อการชาร์ทยังไม่เยอะนัก การใช้ให้คุ้ม 3หมื่นโลต่อปีขึ้นไปก็ค่อนข้างยากหน่อยครับ
................
ถามว่ามีคนเหมาะกับมันไหม พอมีครับ แต่ไม่ถึงกับอวยว่าต้องมาใช้กันนะ
ถ้ากำลังทรัพย์พร้อม จะซื้อ Leaf หรือ Kona ก็แล้วแต่ท่านเลยครับ ผมแค่ยกตัวอย่างว่ารถไฟฟ้ามันวิ่งได้ประมาณนี้ครับ
ที่ยกตัวอย่า ZS EV เพราะยี่ห้ออื่นมันไม่มีกลุ่มผู้ใช้ แต่ MG มันคนรอซื้อเยอะ แล้วท่านจะให้ผมเอาข้อมูลจากไหนล่ะครับ
ไม่ใช่ว่าอวย MG นะครับ แต่ผมอวย EV ครับ
ส่วนท่านที่ไม่พร้อมด้านกำลังทรัพย์ ต่อให้ท่านไม่ซื้อก็ไม่มีปัญหาครับ แต่อยากให้ร่วมด้วยช่วยกันสนับสนุนให้รถยนต์พลังงานทางเลือกเกิดในไทย ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อมทางอากาศและพลังงานครับ ตอนนี้ทุกอย่างยังเป็นแค่ช่วงเริ่มต้น
มองเผินๆ พลังงานไฟฟ้าเรายังใช้เองไม่พอ สถานีชาร์จยังไม่มี รถไฟฟ้ายังราคาจัดว่าสูงอยู่ ซึ่งต้องการการสนับสนุนภาคประชาชนเพื่อให้เกิดการพัฒนาได้
แต่ถ้าหลายท่านออกมาร่วมด้วยช่วยกันต่อต้าน การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่คงเกิดยากครับ ฝากให้คิดกันนิดนึงครับ
ผมขี่จักรยานไปทำงานครับ คิดมานานมากแล้วด้วย(ลองตาม คห. เก่าๆผมก็ได้ครับ) เจ้า 2 ดีเซลผมจอดแหมะอยู่กับบ้าน ซื้อมาจอดไม่ต่างกับเจ้าของเวป
มองจากสายอนุรักษ์จัดๆ เลยนะครับ ไม่เลือกค่ายด้วย ไม่ว่า ลีฟหรือฮุนได ผมว่าก็ยังไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่
รถที่วิ่งระยะแค่ในเมือง แล้วเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล มันแทบไม่ได้ตอบอะไรเลยในเรื่องมลพิษ ถ้าเป็นรถเมล์ไฟฟ้า รถขนส่ง รถสำหรับคน"จำเป็น" ผมสนับสนุนนะ
ถ้าสนับสนุนเรื่องลดมลภาวะจริงๆ ต้องสนับสนุนระบบขนส่งมวลชน ไม่ใช่รถส่วนบุคคลครับ เรากำลังหลงทางอยู่
เพราะปัจจุบัน หรืออนาคตก็ตามที ไฟฟ้าจากพลังงานทางเลือกยังน้อยอยู่มาก โรงไฟฟ้าถ่านหินจ่อจะสร้างอยู่ ไฟฟ้าจากเพื่อนบ้าน เช่นเขื่อนในลาวก็ทำลายสภาพแวดล้อมไปเยอะเช่นกันครับ
และถ้าจะถามกลับว่า ก็รถ EV มันไม่ดีเหรอ ไม่ปล่อยมลพิษ ใช่นะ แต่ ณ ตอนนี้ มันเหมือนเอามลพิษคนกรุงเทพ ไปโยนให้คนที่อื่น
ภาคใต้ กำลังไฟเกินจะใช้ แต่กำลังจะสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน เพราะต้องเอาไฟมาสำรองให้คนกรุง
แบตเตอรี่กำจัดอย่างไร คนที่เชียร์ตอนนี้ใครตอบได้ชัดเจนบ้างครับ และบางทีผมคิดว่า ถ้ารถสันดาปไปสุดทาง เช่นใช้ E100 ได้ระดับประหยัด 20โลลิตร ก็ไม่แน่ว่าอันไหนจะสร้างมลพิษมากกว่ากันครับ
............................................
บางทีก็รู้สึกนะ คนขับ"รถยนต์ส่วนบุคคล"แล้วชอบอ้างตัวเองว่ารักโลก .... คนธรรมดาขึ้นรถเมล์ รถไฟฟ้า เขารักมากกว่าแต่ไม่แสดงออกนะ
ส่วนที่ตอบด้านบน ผมมองจากมุมคนใช้รถทั่วไปมากกว่าครับ ถ้า EV ชุดแรกๆ ไม่ประสบความสำเร็จ ชุดที่ตามมาก็จะมีคำถามมากมายเช่นกันครับ
ให้มีคำตอบเรื่องแบตเตอรรี่ และไฟฟ้าที่ไม่ทำลายสภาวะแวดล้อม ส่วนตอนนี้ภาครัฐอย่าไปหลงกับตรงนี้มาก สิ่งที่ควรทำคือ"ลด-รถ"มากกว่าครับ
ขอตอบทีละประเด็นนะครับ
1. ถ้าคุณขี่จักรยานไปทำงานได้ ก็ดีครับ แต่ก็มีหลายท่านที่ทำแบบนั้นไม่ได้ ทั้งในเรื่องระยะทางและความปลอดภัย อาจจะไม่เหมาะกับหลายๆคน อย่างบางครั้งผมต้องขับไปประชุมงาน 50 กว่าโล ทั้งออกสมุทรสาครหรือออกบูรพาวิถี รถบรรทุกวิ่งเยอะ ขี่จักรยานน่าจะอายุไม่ยืนครับ ขนาดนักปั่นระดับโลกก็เอาชีวิตมาทิ้งที่นี่เยอะแล้ว หรือแค่จะไปโกดังสินค้าของตัวเองก็ 20 กว่าโลแล้ว ไม่สามารถขี่จักรยานได้จริงๆ
2. ผมสนับสนุนการขนส่งในเชิงพาณิชย์และขนส่งมวลชนให้เป็นระบบไฟฟ้าด้วยเหมือนกันครับ เรื่องนี้ภาครัฐควรสนับสนุนจริงจัง เพราะรถเมล์บ้านเราส่วนมากมาตรฐานยูโร 2 เก่ามากๆ ควันดำเยอะมาก แต่ตรวจสอบไม่เคยเจอ
ซึ่งทั้งนี้รถยนต์นั่งอาจจะไม่ได้เป็นส่วนสำคัญ แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นครับ เหมือนกับประกายไฟเล็กๆ ที่ทำให้เห็นความเป็นไปได้
ตอนผมเรียนมหาลัย มหาลัยก็มีรถเมลไฟฟ้ารับส่ง ซึ่งมีข้อจำกัดด้านระยะวิ่งและการทำความเร็วค่อนข้างมาก แต่นั่นก็สิบกว่าปีแล้ว คิดว่าตอนนี้ถ้าภาครัฐเริ่มส่งเสริมก็คงทำได้ แต่เบื้องต้นอาจจะนำเข้าจากจีน (อีกแล้ว) มาก่อนครับ ที่นำเข้ามาแล้วก็มีควายทอง แต่เหมือนจะไม่เกิด ไม่รู้ทำไม
3. ยังไงแนวโน้มการใช้พลังงานไฟฟ้าของประเทศไทยก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ครับ รัฐต้องสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้าให้ได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง สุดท้ายถ้าภาคใต้ไฟดับบ่อยๆ เดี๋ยวเขาก็หาทางออกกันได้เองครับ ทุกวันนี้มันยังไม่ดับ เลยยังไม่เห็นความจำเป็น ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปตามบริบทและสถานการณ์
4. แบตเตอรี่ตอนนี้ยังไม่มีแนวทางการกำจัด เพราะยังมี Demand ที่ไม่มากพอ แต่ทางภาครัฐได้เริ่มออกกฏหมายและตั้งเป้าหมายในการสร้างโรงงานกำจัดแบตเตอรี่แล้วครับ มันก็เป็นไปตามขั้นตอนของมัน
ตั้งโรงงานทีหลายร้อยล้าน ถ้าไม่มีขยะมาให้กำจัด โรงงานก็เจ๊งกันหมดครับ
5. E100 ทำมาคนไทยก็ไม่เติมครับ สาเหตุคือน้ำมันถูกกว่า
เอทานอลถึงแม้ว่าอ้อยจะราคาตกต่ำ แต่กระบวนการผลิตมันมีต้นทุน ซึ่งไทยยังไม่สามารถทำให้ถูกจัดๆ ได้ ดังนั้น E100 ถ้าจะให้คนเติมก็ต้องถูกกว่า แก๊สโซฮอล 95 อย่างน้อยครึ่งนึง ซึ่งรัฐต้องอุ้มตรงนี้เยอะมาก
แค่ราคา E85 ยังไม่คุ้มพอที่จะทำให้คนหันมาเติมเลยครับเพราะทุกวันนี้ E20 คุ้มกว่า วิ่งได้ไกลกว่า
คืออย่าว่าแต่อุ้มเลยครับ ทุกวันนี้ก็เล็งจะขึ้นภาษีน้ำมันกันแล้ว
6. การที่คุณสนับสนุนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ผมสนับสนุนและชื่นชมครับ แต่การที่บอกว่า คนขึ้นรถเมล์ รถไฟฟ้ารักสิ่งแวดล้อมมากกว่าแต่ไม่พูดก็มี อันนี้ผมว่าฟังดูจับแพะชนแกะ การเชื่อมโยงค่อนข้าง Invalid ครับ
การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ก็เปรียบเหมือนการทำบุญในศาสนาครับ บางคนมีกำลังทำได้มาก ก็ดี บางคนมีกำลังน้อย ทำน้อยก็ดีกว่าไม่ทำ แต่ไม่ใช่บอกว่าคนทำน้อยเป็นคนไม่ดี อันนี้ผมว่าไม่ถูกต้องนัก