Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: NS ที่ กรกฎาคม 07, 2016, 10:33:56
-
ใช้งานจริง ให้ความรู้สึกที่ต่างกันไหมครับ อัตราเร่ง ความต่อเนื่อง ความสนุก
-
ต่างครับ ต่างกันทั้งอัตราเร่ง ความสนุก..
Paddle Shift ทำได้เพียงเปลี่ยนเกียร์ตามที่เราสั่ง แต่บางครั้งก็สั่งไม่ได้ตามสั่ง
อัตราเร่งต่าง เพราะยังไงๆมันก็ส่งกำลังผ่านทอร์คคอนเวอร์เตอร์อยู่ดี
ความสนุกต่าง เพราะอารมณ์สับเกียร์แล้วปล่อยคลัชมันสนุกกว่าเหยียบคันเร่งแล้วโยกคันเกียร์
ความต่อเนื่องผมว่า Padlle Shift ทำได้ดีกว่าด้วย
ตัวเลขอัตราเร่งที่ทำออกมาแล้วดีกว่าเกียร์ MT เพราะมันต่อเนื่องนี่แหล่ะ
MT ต้องอยู่ที่ฝีมือการ Shift เกียร์ด้วย
มีดีต่างกันครับ อยู่ที่ใครจะชอบแบบไหนมากกว่าแค่นั้น
เพียงแต่ตัวเลือก MT ในรถยนต์นั่งเริ่มมีน้อยขึ้นทุกที..
-
Paddle shift ต่อเกียร์เนียนกว่า ไม่ค่อยกระตุก
แต่ความสนุก ไม่เท่า MT
-
Paddle shift ทำให้ลากรอบได้ตามจังหวะการขับมากขึ้น แต่ยังคงความสบายแบบ AT ความสนุกมากน้อยขึ้นอยู่กับความฉลาดเกียร์
MT กำลังเครื่องลงล้อได้มากกว่า AT ความแรงจะแรงกว่าเล็กน้อย(สมัยก่อนแรงต่างกันเยอะเพราะ AT ยังไม่ได้ดีเหมือนปัจจุบัน) สับเกียร์แม่นและเร็วจะสนุกกว่า Paddle shift (ขึ้นอยู่กับความคล่องในการเข้าเกียร์)
-
กระตุกไม่กระตุกอยู่ที่ฝีมือ พวกมือใหม่ถึงไม่ค่อยชอบ MT เพราะขับไม่เป็นกัน ไม่ว่าจะการปล่อยคลัช การสับเกียร์ ช้าบ้าง เลียคลัชท์บ้าง
-
เน้นขับสนุกไง MT ก็เหนือกว่าครับ
ขาซ้ายได้ขยับ มือซ้ายได้สับเกียร์ สนุกกว่าใช้นิ้วกดเป็นไหนๆ
-
เน้นขับสนุกไง MT ก็เหนือกว่าครับ
ขาซ้ายได้ขยับ มือซ้ายได้สับเกียร์ สนุกกว่าใช้นิ้วกดเป็นไหนๆ
มันสนุกอยู่ครับ อย่างมันเลย แต่...เคยเจอรถติด ช่วงกีฬาสีใน กรุงเทพเนี่ย หายสนุกเลยครับ
-
เรียก Trip tonic ได้ไหม
AT เปลี่ยนเกียร์ได้ เร็วกว่า MT
ปัจจับัน ผมยกให้ triptronic เหนือกว่า ในแง่การใช้งาน และประสิทธิภาพ ไม่ใช่ อารมณ์ครับ
-
เรียก Trip tonic ได้ไหม
AT เปลี่ยนเกียร์ได้ เร็วกว่า MT
ปัจจับัน ผมยกให้ triptronic เหนือกว่า ในแง่การใช้งาน และประสิทธิภาพ ไม่ใช่ อารมณ์ครับ
+1 ครับ แต่ความมันส์ผมให้ M/T ครับ ชอบเปลี่ยนทีละ 2 เกียร์ประจำครับ จาก 5 ไป 3 เร่งแซง และอัดไป 4 และ 5 แล้วก็วนไป 3 ใหม่
-
เรียก Trip tonic ได้ไหม
AT เปลี่ยนเกียร์ได้ เร็วกว่า MT
ปัจจับัน ผมยกให้ triptronic เหนือกว่า ในแง่การใช้งาน และประสิทธิภาพ ไม่ใช่ อารมณ์ครับ
+1 ครับ แต่ความมันส์ผมให้ M/T ครับ ชอบเปลี่ยนทีละ 2 เกียร์ประจำครับ จาก 5 ไป 3 เร่งแซง และอัดไป 4 และ 5 แล้วก็วนไป 3 ใหม่
ผมก็ มี MT นึงคัน ขับใกล้ ถนนโล่ง สนุกสนานครับ ข้ามเกียร์ เช่นกัน มันส์ดี แต่จับเวลาจริงๆ ช้ากว่า Triptronic เยอะอะ ....
คันหน้าผมขอ Triptronic 3.0 Turbo ครับ
-
ผมชอบ MT มากกว่าครับ
ตอนแรกคิดว่าแพดเดิ้ลจะแทนความชอบนั้นได้
แต่มันไม่ชอบเลยอะ (แต่ก็ใช้นะ ใช้บ่อยมากครับ)
-
อ่านความเห็นของเพื่อนสมาชิกหลายท่านแล้ว ทำใหผมคิดถึงตอนเอา e34 ไปเล่น bucket ต่างๆในการแข่งควอเตอร์ไมล์เลย
สุโค่ย ซ้อมชิฟท์เกียร์กันมันเลย
เป็นสมัยนี้เหรอ ทอคคอนเวอร์เตอร์พังแน่
-
ถ้า paddle shift มันไม่หน่วงก็สนุกดีครับ แต่คงไม่มันส์เท่า M/T ::)
-
MT สิครับ สับสนุกกว่าเยอะ
-
ความต่อเนื่อง Paddle shift เนียนกว่าแน่นอนครับ
ผมไม่ใช่พวกขาซิ่งขาแรงอะไร ที่ผมชอบ mt เพราะรู้สึกว่ามันได้ใช้ฝีมือมากกว่า ควบคุมรถมากกว่า เปลี่ยนเกียร์ยังไงให้มันเนียน ศิลปะการเลียคลัชท์ ออกตัวบนทางชันต้องใช้เบรกมือช่วย รถทุกวันนี้คลัชท์ตื้นคันเกียร์สั้น พวกกระบะแรงบิดระดับ 400 กันทั้งนั้น ยิ่งขับง่ายเข้าไปใหญ่ เหมือนเป็นศิลปะแขนงนึงเลยครับ ยังมีเรื่องที่ at ไม่มีทางทำได้(ถึงทำก็เสี่ยงจะพังเอาง่ายๆ) เช่นการเบิ้ลเครื่องพอหอมปากหอมคอขณะล้อยังหมุน หรือการปล่อยเกียร์ว่างให้รถไหลเอื่อยๆขณะที่ถนนโล่งๆบรรยากาศดีๆ นอกจากนี้ยังช่วยลดปัญหาคนยืมรถอีกด้วยครับ
-
วัดประสิทธิภาพจริงๆ ผมว่าถ้าไม่ใช่มือชิฟต์ระดับเซียน สับยังไงก็แพ้ออโต้รุ่นใหม่ๆสมัยนี้
แต่ถ้าพูดถึงความรู้สึกสนุก mtมันสนุกตรงที่ได้ใช้ขาซ้ายกับมือซ้ายนี่แหละครับ
ได้รถที่ช่วงชิฟต์สั้นๆแน่นๆนี่สนุกกว่ากดแพดเดิ้ลชิฟต์เยอะ
-
ความต่อเนื่อง ความเนียน paddle shift ที่เกียร์ฉลาด เหนือกว่า mt อยู่พอตัวครับ
แต่ความสนุก ไม่มีสิ่งใดทดแทน mt ได้อีกแล้ว มันคือ ideal driving machine ที่ค่อยๆ ล้มหายตายจากพวกเราไปทีละนิด
-
ถ้าเรื่องอารมณ์ผมว่ายังไงก็ MT มันชินไม้ชินมือกว่า สนุกตรงได้เปลี่ยนเกียร์นี่เหละ ><
-
MT สนุกกว่าแน่ๆครับ แต่ถ้าความง่ายในการใช้งานก็ Paddle Shift นั่นแหละ
เกียร์ธรรมดา ถ้าสมมติเป็นเบนซินด้วยยิ่งแล้วใหญ่ ถ้าสับเกียร์ไม่ถูกจังหวะ เช่นสับที่รอบ 2600 รอบเครื่องเกียร์ต่อไปจะหล่นฮวบไปอยู่ในโซนที่เครื่องไม่มีแรง
แต่ Paddle Shift มันมากับเกียร์ออโต้ที่ส่วนมากทดเกียร์มาให้เร่งได้ต่อเนื่องกว่า MT อยู่ละ
-
MT มันเป็นข้อจำกัดของจักรกลเมื่อร้อยกว่าปีอะคับ คนสร้างเขาก็ไม่ได้อยากได้มันเป็นแบบนั้นหรอก เพียงแต่มันไม่มีทางเลือกอื่น ณ เวลานั้น มันก็เลยต้องมีหลายเกียร์เพื่อถ่ายทอดกำลัง มีจังหวะครัชจับเผื่อเปลี่ยนผ่านชุดเกียร์.... เปลียนจังหวะไม่ดี เกียร์ไม่เข้า.... เปลี่ยนเร็วไป เครื่องรอบไม่ถึง รถไม่มีแรง กินน้ำมัน ...เปลี่ยนช้าไป รอบเกินช่วง power band ไปแล้ว รถก็วิ่งได้ไม่เร็ว กินน้ำมัน
การสับเกียร์มันเลยเป็นสกิล ....ที่ขาซิ่งฝึกหัดกัน
แต่ยุคนี้เกียร์ออโต้ + paddle shift ทำให้ได้หมด จะให้เปลี่ยนเกียร์ตอน max torque หรืออะไรก็แล้วแต่ .... Tiptronic หรือระบบใหม่ ๆ เขาก็สร้างมาเพื่อลดข้อเสียของ MT รถ hypercar รุ่นใหม่ ๆ เขาก็ไม่ใช้ MT กันแล้ว รวมถึงพวกรถแข่ง แม้กระทั่ง F1 ก็ไม่ได้ใช้
MT มันไม่เหลืออะไรมาให้สู้แล้วอะคับ .... ยิ่งผ่านช่วงอายุนี้ไป ก็คงเหลือไม่กี่คนที่ขับ MT เป็น และมันไม่เกี่ยวว่าเก่งหรือไม่เก่ง เพียงแต่ technology มันไม่ใช่แล้วอะคับ มันก็เหมือนกันมียุคนึง มีสอบพิมพ์ดีด มีโรงเรียนสอนพิมพ์ดีด สมัยนี้มันหายไปหมดแล้ว ....ครั้นจะมาบอกว่า จดหมายมันต้องพิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์ดีดซิ ถึงจะได้อารมณ์ คนพิมพ์ไม่เป็นแล้วจะไม่เก่ง มันก็คงไม่ใช่อะคับ
-
ชอบทั้งสองแบบมากกว่า CVT Unlocked ครับ
แต่ขับไอแบบหลังมากที่สุดซะงั้น
-
MT มันเป็นข้อจำกัดของจักรกลเมื่อร้อยกว่าปีอะคับ คนสร้างเขาก็ไม่ได้อยากได้มันเป็นแบบนั้นหรอก เพียงแต่มันไม่มีทางเลือกอื่น ณ เวลานั้น มันก็เลยต้องมีหลายเกียร์เพื่อถ่ายทอดกำลัง มีจังหวะครัชจับเผื่อเปลี่ยนผ่านชุดเกียร์.... เปลียนจังหวะไม่ดี เกียร์ไม่เข้า.... เปลี่ยนเร็วไป เครื่องรอบไม่ถึง รถไม่มีแรง กินน้ำมัน ...เปลี่ยนช้าไป รอบเกินช่วง power band ไปแล้ว รถก็วิ่งได้ไม่เร็ว กินน้ำมัน
การสับเกียร์มันเลยเป็นสกิล ....ที่ขาซิ่งฝึกหัดกัน
แต่ยุคนี้เกียร์ออโต้ + paddle shift ทำให้ได้หมด จะให้เปลี่ยนเกียร์ตอน max torque หรืออะไรก็แล้วแต่ .... Tiptronic หรือระบบใหม่ ๆ เขาก็สร้างมาเพื่อลดข้อเสียของ MT รถ hypercar รุ่นใหม่ ๆ เขาก็ไม่ใช้ MT กันแล้ว รวมถึงพวกรถแข่ง แม้กระทั่ง F1 ก็ไม่ได้ใช้
MT มันไม่เหลืออะไรมาให้สู้แล้วอะคับ .... ยิ่งผ่านช่วงอายุนี้ไป ก็คงเหลือไม่กี่คนที่ขับ MT เป็น และมันไม่เกี่ยวว่าเก่งหรือไม่เก่ง เพียงแต่ technology มันไม่ใช่แล้วอะคับ มันก็เหมือนกันมียุคนึง มีสอบพิมพ์ดีด มีโรงเรียนสอนพิมพ์ดีด สมัยนี้มันหายไปหมดแล้ว ....ครั้นจะมาบอกว่า จดหมายมันต้องพิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์ดีดซิ ถึงจะได้อารมณ์ คนพิมพ์ไม่เป็นแล้วจะไม่เก่ง มันก็คงไม่ใช่อะคับ
เห็นด้วยกับความเห็นนี้มากๆครับ
แต่ก็ต้องเข้าใจว่าบางคนเค้าก็อยู่ในโลกแบบนั้นแหละครับ
เหมือนคนแก่ๆที่ไม่ชอบย้ายบ้าน อารมณ์เดียวกัน
ประมาณว่าของใช้ต่างๆในยุคของฉันดีที่สุด ต่อให้มันไม่ดี
ก็จะเอาด้าน emotional มาบอกว่ามันดีอยู่ดี พูดยากครับ
-
มีเรื่องนึงที่เกียร์ออโต้ ไม่ว่าระบบไหนก็ทำไม่ได้ครับ
คือเวลาถอยรถลงเนิน ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์ครับ ::) ::) ::) ::) ;D ;D ;D ;D ;D
เห็นมะ จะมาสู้ M/T ได้ไงกัน 555
-
ผมเบื่อเกียร์ออโต้ ตรงที่มันพังง่ายนี่แหละ
อ่อนแอเหลือเกิน
จะค่อย ๆ ขับเพราะกลัวเกียร์พัง อันนี้ก็ไม่สนุก ถูกไหมครับ
-
Mtสิมันส์ของแท้ยิ่งได้ดูหนังฝรั่งสมันก่อนที่ขับคาดิแลคกวดกันระหว่างตำรวจกับพระเอกหรือไม่ก็โจร จะชอบมีฉากสับคันเร่งให้เอาไปเลียนแบบอยู่เรื่อย ไม่กลัวพังครับเพราะซ่อมถูก บ้านเมืองเปลี่ยนยุครถก็ต้องตอบสนองผู้ใช้ในเมืองมากขึ้นใช้mtมีหวังเส้นเลือดขอดทึ่ขาซ้าย
-
MT มันเป็นข้อจำกัดของจักรกลเมื่อร้อยกว่าปีอะคับ คนสร้างเขาก็ไม่ได้อยากได้มันเป็นแบบนั้นหรอก เพียงแต่มันไม่มีทางเลือกอื่น ณ เวลานั้น มันก็เลยต้องมีหลายเกียร์เพื่อถ่ายทอดกำลัง มีจังหวะครัชจับเผื่อเปลี่ยนผ่านชุดเกียร์.... เปลียนจังหวะไม่ดี เกียร์ไม่เข้า.... เปลี่ยนเร็วไป เครื่องรอบไม่ถึง รถไม่มีแรง กินน้ำมัน ...เปลี่ยนช้าไป รอบเกินช่วง power band ไปแล้ว รถก็วิ่งได้ไม่เร็ว กินน้ำมัน
การสับเกียร์มันเลยเป็นสกิล ....ที่ขาซิ่งฝึกหัดกัน
แต่ยุคนี้เกียร์ออโต้ + paddle shift ทำให้ได้หมด จะให้เปลี่ยนเกียร์ตอน max torque หรืออะไรก็แล้วแต่ .... Tiptronic หรือระบบใหม่ ๆ เขาก็สร้างมาเพื่อลดข้อเสียของ MT รถ hypercar รุ่นใหม่ ๆ เขาก็ไม่ใช้ MT กันแล้ว รวมถึงพวกรถแข่ง แม้กระทั่ง F1 ก็ไม่ได้ใช้
MT มันไม่เหลืออะไรมาให้สู้แล้วอะคับ .... ยิ่งผ่านช่วงอายุนี้ไป ก็คงเหลือไม่กี่คนที่ขับ MT เป็น และมันไม่เกี่ยวว่าเก่งหรือไม่เก่ง เพียงแต่ technology มันไม่ใช่แล้วอะคับ มันก็เหมือนกันมียุคนึง มีสอบพิมพ์ดีด มีโรงเรียนสอนพิมพ์ดีด สมัยนี้มันหายไปหมดแล้ว ....ครั้นจะมาบอกว่า จดหมายมันต้องพิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์ดีดซิ ถึงจะได้อารมณ์ คนพิมพ์ไม่เป็นแล้วจะไม่เก่ง มันก็คงไม่ใช่อะคับ
เห็นด้วยกับความเห็นนี้มากๆครับ
แต่ก็ต้องเข้าใจว่าบางคนเค้าก็อยู่ในโลกแบบนั้นแหละครับ
เหมือนคนแก่ๆที่ไม่ชอบย้ายบ้าน อารมณ์เดียวกัน
ประมาณว่าของใช้ต่างๆในยุคของฉันดีที่สุด ต่อให้มันไม่ดี
ก็จะเอาด้าน emotional มาบอกว่ามันดีอยู่ดี พูดยากครับ
ถ้าเที่ยบในแง่ที่ต้องการดึงพลังออกมาให้มากที่สุดยังไงเกียร์ auto ก็ดีกว่า แต่ในแง่สไตล์การขับขี่ผมว่า m/t มันปรับให้เป็นสไตล์ของเราได้ง่ายกว่า เพราะอยู่ที่มือและเท้าของเราล้วนๆ อยากออกตัวแรงช้าได้หมดอยู่ที่เรา ไปลองมาหลายตัวในราคาที่รับได้ ก็ยังไม่เจอที่โดนใจ แต่ก็ต้องทำใจเพราะยังไงโลกมันก็ไป auto กันหมดแล้ว
-
MT มันเป็นข้อจำกัดของจักรกลเมื่อร้อยกว่าปีอะคับ คนสร้างเขาก็ไม่ได้อยากได้มันเป็นแบบนั้นหรอก เพียงแต่มันไม่มีทางเลือกอื่น ณ เวลานั้น มันก็เลยต้องมีหลายเกียร์เพื่อถ่ายทอดกำลัง มีจังหวะครัชจับเผื่อเปลี่ยนผ่านชุดเกียร์.... เปลียนจังหวะไม่ดี เกียร์ไม่เข้า.... เปลี่ยนเร็วไป เครื่องรอบไม่ถึง รถไม่มีแรง กินน้ำมัน ...เปลี่ยนช้าไป รอบเกินช่วง power band ไปแล้ว รถก็วิ่งได้ไม่เร็ว กินน้ำมัน
การสับเกียร์มันเลยเป็นสกิล ....ที่ขาซิ่งฝึกหัดกัน
แต่ยุคนี้เกียร์ออโต้ + paddle shift ทำให้ได้หมด จะให้เปลี่ยนเกียร์ตอน max torque หรืออะไรก็แล้วแต่ .... Tiptronic หรือระบบใหม่ ๆ เขาก็สร้างมาเพื่อลดข้อเสียของ MT รถ hypercar รุ่นใหม่ ๆ เขาก็ไม่ใช้ MT กันแล้ว รวมถึงพวกรถแข่ง แม้กระทั่ง F1 ก็ไม่ได้ใช้
MT มันไม่เหลืออะไรมาให้สู้แล้วอะคับ .... ยิ่งผ่านช่วงอายุนี้ไป ก็คงเหลือไม่กี่คนที่ขับ MT เป็น และมันไม่เกี่ยวว่าเก่งหรือไม่เก่ง เพียงแต่ technology มันไม่ใช่แล้วอะคับ มันก็เหมือนกันมียุคนึง มีสอบพิมพ์ดีด มีโรงเรียนสอนพิมพ์ดีด สมัยนี้มันหายไปหมดแล้ว ....ครั้นจะมาบอกว่า จดหมายมันต้องพิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์ดีดซิ ถึงจะได้อารมณ์ คนพิมพ์ไม่เป็นแล้วจะไม่เก่ง มันก็คงไม่ใช่อะคับ
ชัดเจนครับ
-
ถ้าคำว่าความรู้สึกมันความหมายคล้ายกับคำว่า อารมณ์ แน่นอนว่ามันให้ได้ไม่เหมือน แต่ก็ต้องยอมรับว่าถ้าด้านสมรรถนะหลายๆออโต้ทำได้ดีกว่าแบบมานั่งสับเอง
เกียร์ m/t ในรถเก๋งเดี๋ยวผมมองว่าเป็นของเล่นชิ้นนึงไปแล้ว มันให้ความสนุก ความเร้าใจที่เกียร์ธรรมดาให้ไม่ได้ แต่ให้มาใช้งานใช้ชีวิตด้วยตลอดก็ไม่ไหวอยู่ดี แต่เพราะไม่ได้ใช้ตลอดจึงสามารถทำให้แต่งรถได้แบบสะใจสุดๆ ไม่ต้องมานั่งพะวงเรื่องๆต่างๆ อยากทำท่อให้ดัง ปรับโช้คแข็งปัก ก็ทำได้ไม่มีปัญหาอะไร
ทุกวันนี้ผมยอมซื้อรถ cvt ใช้เพราะยังมี m/t ให้ใช้อีกคันนี่แหละ ถ้าไม่มียังไงก็ไม่มีทางซื้อรถ cvt ใช้ ต่อให้สวยหรือขับดีแค่ไหนก็ตาม
-
คนละเรื่องเลยครับ
MT นั่นคือคุณจับโยกเฟืองเกียร์ตามใจคุณเลยครับ
ไม่มีอะไรมาขวางคุณกับ Machine เลยครับ
คิดดูเอาละกันครับ ว่ารถที่ขายในยุโรป มีพวก DCT แล้ว
ยังต้องมี MT ขาย เพราะว่าคนที่ชอบมันยังเยอะอยู่มากครับ
-
เอกลักษณ์ของ mt อีกเรื่องที่ยังไม่มีใครตอบ คือมันข้ามเกียร์ได้ครับ เช่น 2 >> 4 >> 6 ไม่ก็ 6 >> 4 หรือ 6 >> N ไหลเข้าจอดเลย
-
AT มีจุดแข็งอย่างหนึ่งคือ ออกตัวบนทางลาดชั้นได้โดยเครื่องไม่ดับ
คือถ้ารถติดบนคอสะพานชันๆ ถ้าเป็น MT รถมักจะไหลถอยหลัง
แล้วคนขับก็ต้องเร่งเครื่อง เลี้ยงคลัชท์ช่วย จังหวะปล่อยเบรค+เหยียบคันเร่ง+คลัชท์ ต้องสัมพันธ์กัน
แถมเสียงเครื่องดังกระหึ่มโหยหวนยังกะชิ้นส่วนจะกระจายออกมา :(
ถ้าถอยหลังขึ้นเนินล้อก็จะฟรีทิ้งอีกต่างหาก คนขับต้องชำนาญระดับหนึ่งพอสมควร
ต่างจาก AT ที่แค่แตะคันเร่งนิดหน่อยก็เคลื่อนที่ไปได้ ยิ่งมี Hill start assist ยิ่งสบาย ;)
-
คนละเรื่องเลยครับ
MT นั่นคือคุณจับโยกเฟืองเกียร์ตามใจคุณเลยครับ
ไม่มีอะไรมาขวางคุณกับ Machine เลยครับ
คิดดูเอาละกันครับ ว่ารถที่ขายในยุโรป มีพวก DCT แล้ว
ยังต้องมี MT ขาย เพราะว่าคนที่ชอบมันยังเยอะอยู่มากครับ
จริงครับ เพราะนี่คือเมืองไทย และยิ่งเป็นกรุงเทพฯด้วย
คนขายเขาไม่คุ้ม เลยไม่เอามาขาย โดยเฉพาะ c segment
8แสนกว่า-ล้านต้นๆ ยังต้องมาขยับทีละนิดๆ เช่นตอนรถติด และฝนตก
เหยียบครัช>ใส่เกียร์1>เลี้ยงคันเร่ง>ถอนครัชเบาๆ>รถไหล>เหยียบเบรค>เหยียบครัช>ใส่เกียร์ว่าง>เหยียบเบรค
ถ้าซัก 2 ชม พอไหวในวัย30+ แต่เก่แบบ 40+บางทีมันก็นะ
โกคารทแบบเข็นสตาร์ท มันส์สุด ไม่มีเกียร์ เครื่องติดล้อหมุนเลย
เป็นความรู้สึกที่เยี่ยมที่สุดของการบังคับรถให้พุ่งไปข้างหน้าแล้ว 8)
-
คนละเรื่องเลยครับ
MT นั่นคือคุณจับโยกเฟืองเกียร์ตามใจคุณเลยครับ
ไม่มีอะไรมาขวางคุณกับ Machine เลยครับ
คิดดูเอาละกันครับ ว่ารถที่ขายในยุโรป มีพวก DCT แล้ว
ยังต้องมี MT ขาย เพราะว่าคนที่ชอบมันยังเยอะอยู่มากครับ
จริงครับ เพราะนี่คือเมืองไทย และยิ่งเป็นกรุงเทพฯด้วย
คนขายเขาไม่คุ้ม เลยไม่เอามาขาย โดยเฉพาะ c segment
8แสนกว่า-ล้านต้นๆ ยังต้องมาขยับทีละนิดๆ เช่นตอนรถติด และฝนตก
เหยียบครัช>ใส่เกียร์1>เลี้ยงคันเร่ง>ถอนครัชเบาๆ>รถไหล>เหยียบเบรค>เหยียบครัช>ใส่เกียร์ว่าง>เหยียบเบรค
ถ้าซัก 2 ชม พอไหวในวัย30+ แต่เก่แบบ 40+บางทีมันก็นะ
โกคารทแบบเข็นสตาร์ท มันส์สุด ไม่มีเกียร์ เครื่องติดล้อหมุนเลย
เป็นความรู้สึกที่เยี่ยมที่สุดของการบังคับรถให้พุ่งไปข้างหน้าแล้ว 8)
ไปอยู่ที่ไหนมา โกคาร์ท ไม่มีเกียร์เนี่ย
https://www.youtube.com/watch?v=BZDwL2xuzkU (https://www.youtube.com/watch?v=BZDwL2xuzkU)
-
ถ้ารถบ้านๆ ผมว่าM/t ยังดีกว่า ก้ามปู แต่ถ้า sport car, premium car, d-sec รุ่นใหม่ๆ คงต้องยอม เพราะทุกอย่างใช้ ECUที่คำนวนมามากว่ารถบ้านๆหมดแล้ว
เทคโนโลยี เปลี่ยน แต่อารมณ์สัมผัสไม่เปลี่ยน ถ้าขาซ้ายยังมีแรงมือซ้ายยังไม่ขาด ยังไงก็M/t
อย่างนั้นไป ตจว. กระบะบ้านๆ ขับเข้าป่าเข้าสวน ยังเป็น M/t ส่วนใหญ่ กระโดนขึ้นรถไปขับได้เลย มันเป็น skill ติดตัวไปจนตาย
-
เกียร์ออโต้เทพๆ ยกตัวอย่าง PDK , DSG ผมเลือก Auto นะ
แต่ถ้าพวก Auto Torque Converter หรือ CVT ผมขับ MT ดีกว่า
-
อารมณ์ยังไงก็ MT ละครับ
แต่เดี๋ยวนี้AT เทพๆโคตรเยอะ ผมเลือกATเทพๆ
-
ผมว่ายังไง mt ก็ขับมันส์กว่าครับ