Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Deaw ที่ ตุลาคม 27, 2019, 09:02:30

หัวข้อ: CX5 skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Deaw ที่ ตุลาคม 27, 2019, 09:02:30
CX5 เครื่องยนต์ skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) ที่กำลังจะมา
จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม ใครพอมีข้อมูลบ้างครับ
หัวข้อ: Re: CX5 skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: bodin ที่ ตุลาคม 27, 2019, 09:37:45
ทางค่ายหมดปัญญาแล้วครับ แก้ได้คงทำไปแล้ว
หัวข้อ: Re: CX5 skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: HLRx ที่ ตุลาคม 27, 2019, 09:49:32
ปรับปรุงใหม่ถ้ายังแก้ไม่ได้ ผมว่าคงจะไม่มีวัวปน แล้วล่ะ
หัวข้อ: Re: CX5 skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Tien.W ที่ ตุลาคม 27, 2019, 09:51:06
จริงๆตัว Gen 2 ก็ยังไม่เคยเจอใครน้ำดันนะ
หัวข้อ: Re: CX5 skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Arnan_td ที่ ตุลาคม 27, 2019, 10:14:28
จริงๆตัว Gen 2 ก็ยังไม่เคยเจอใครน้ำดันนะ

ตัวล่าสุดไหมครับ
หัวข้อ: Re: CX5 skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: tvc597 ที่ ตุลาคม 27, 2019, 10:18:31
ยังไม่มีใครยืนยันได้จนกว่ารถจะวิ่งไป เกินกว่า 80,000 - 120,000 กิโลเมตรแล้วครับ และทางมาสด้าเองก็ไม่เคยออกมาบอกว่าได้แก้ปัญหาแล้ว แก้ปัญหาอย่างไร และถ้าเกิดปัญหาอีกจะทำอย่างไร หรือจะนิ่งเงียบทำเป็นไม่เห็นปัญหา ซ่อมไปให้พ้นๆระยะประกัน ที่เหลือตัวใครตัวมันเหมือนกับรถ Gen 1 ครับ
นี่ยังไม่รวมปัษหาอะหลั่ยแพงโคตรๆ
ลูกปืนล้อหน้า ข้างละ 14,000 ราคาเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้วนะครับไม่รู้แก้ไขหรือยัง
แบตเตอรี่ เมื่อก่อนลูกละ 10,000 กว่าบาท (ข้างนอก 4,000 บาท) แถมเปลี่ยนนอกศูนย์ไม่รับประกันระบบอื่นต่อเนื่องไปด้วย เช่น I Stop และระบบไฟฟ้า ตอนนี้ลดลงมาเหลือประมาณ 6,000 บาทครับ
ปั๊มหัวฉีด คอมมอนเรียล 60,000 กว่าครับ ฯลฯ เอาเท่าที่จำได้แล้วกันนะ
เปิดตัวรุ่นใหม่เห็นมีออกมาเชียรกันยกใหญ่ ลองดูได้ครับ ไม่ลองไม่รู้ ไม่เจ็บเองไม่จำครับ
ส่วนผมคงจะลากันไม่ช้านี้ เพราะตอนนี้ไม่เคยได้เข้าศูนย์ตอนครบกำหนดเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเลย (ทุก 10,000 กิโล) เพราะมันนีปัญหาให้ต้องวิ่งเข้าศูนย์ก่อนทุกทีไป
อาศัยศูนย์เป็นที่ล้างรถ แต่ค่าล้างรถแพงมากๆทุกที
 :'( :'( :'( :'( :'(
หัวข้อ: Re: CX5 skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Volta ที่ ตุลาคม 27, 2019, 10:38:39
ปรับปรุงใหม่จะหายดันไหม ไม่รู้ครับ
- ต้องดูว่าระบบรีเจ็นยังใช้แบบเดิมอยู่หรือเปล่า ถ้ายังใช้แบบเดิม ฉีดน้ำมันดีเซลไปในห้องเผาไหม้ในจังหวะคาย ก็ต้องไปดูอีกว่าเขาปรับปรุงความทนทานชิ้นส่วนของเครื่องยนต์มาดีแค่ไหน
- Gen.2 ดันไปแล้ว 2 คัน แต่ได้เปลี่ยนเครื่องและปิดข่าวกันสุดฤิทธิ์
- Gen.1 กำลังต่อสู้กันในชั้นศาล เพราะดันซ้ำ 2-3 รอบ และไม่มีหลักประกันว่าหลังจาก 1.8 แสนโลแล้วจะทำยังไงต่อ
- ถึงไม่ดัน แต่คุณรับนโยบายประหลาดๆได้ไหม เช่น น้ำมันเกียร์ไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายตลอดอายุเกียร์ ถ้าลูกค้าอยากเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ ต้องเซ็นยินยอมว่าค่ายรถไม่ต้องรับผิดชอบหากเกียร์พัง
- ถึงไม่ดัน แต่คุณรับได้ไหม ค่าแรงแพง 700-900 ต่อชั่วโมง(แต่ละศูนย์ไม่เท่ากัน), ค่าอะไหล่ไม่ถูกเหมือนรถยี่ปุ่นทั่วไป คุณลองสืบราคาดูละกันจะได้รู้ว่ามันแพงแค่ไหน

- ข้อสุดท้าย คุณลองดูความรับผิดชอบของค่ายรถต่อลูกค้าเก่าๆดู ว่าดูแลดีแค่ไหนเวลาเกิดปัญหา
หัวข้อ: Re: CX5 skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: HLRx ที่ ตุลาคม 27, 2019, 10:59:22
ปรับปรุงใหม่จะหายดันไหม ไม่รู้ครับ
- ต้องดูว่าระบบรีเจ็นยังใช้แบบเดิมอยู่หรือเปล่า ถ้ายังใช้แบบเดิม ฉีดน้ำมันดีเซลไปในห้องเผาไหม้ในจังหวะคาย ก็ต้องไปดูอีกว่าเขาปรับปรุงความทนทานชิ้นส่วนของเครื่องยนต์มาดีแค่ไหน
- Gen.2 ดันไปแล้ว 2 คัน แต่ได้เปลี่ยนเครื่องและปิดข่าวกันสุดฤิทธิ์
- Gen.1 กำลังต่อสู้กันในชั้นศาล เพราะดันซ้ำ 2-3 รอบ และไม่มีหลักประกันว่าหลังจาก 1.8 แสนโลแล้วจะทำยังไงต่อ
- ถึงไม่ดัน แต่คุณรับนโยบายประหลาดๆได้ไหม เช่น น้ำมันเกียร์ไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายตลอดอายุเกียร์ ถ้าลูกค้าอยากเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ ต้องเซ็นยินยอมว่าค่ายรถไม่ต้องรับผิดชอบหากเกียร์พัง
- ถึงไม่ดัน แต่คุณรับได้ไหม ค่าแรงแพง 700-900 ต่อชั่วโมง(แต่ละศูนย์ไม่เท่ากัน), ค่าอะไหล่ไม่ถูกเหมือนรถยี่ปุ่นทั่วไป คุณลองสืบราคาดูละกันจะได้รู้ว่ามันแพงแค่ไหน

- ข้อสุดท้าย คุณลองดูความรับผิดชอบของค่ายรถต่อลูกค้าเก่าๆดู ว่าดูแลดีแค่ไหนเวลาเกิดปัญหา
  ผมใช้ BT-50 Pro มีข้อมูลมาแชร์ 2 เรื่อง
- ผมให้ศูนย์เปลี่ยน นม.เกียร์ ทุกๆ 1 แสน กม.ไม่เห็นจะอิดออดไร รีบทำให้เลย ตอนครบ 2 แสน ศูนย์เป็นคน เสนอผมให้เปลี่ยนซะงั้น
- คิดเหมือนกันว่า อะไหล่มาสด้าต้องแพง เลยไปซื้อของคู่แฝด อ่ะจ๊าก แพงกว่าซะงั้น ใส่เกียร์ถอยล้อฟรีออกจากศูนย์ฟอร์ดแทบไม่ทัน 555
หัวข้อ: Re: CX5 skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: MUK ที่ ตุลาคม 27, 2019, 11:03:13
ผมคาดว่าจะดันแรงกว่าเดิมเพราะมาเป็นคู่ครับ มีทางเดียวคือรีบใช้แล้วรีบขายก่อน แสนโล
หัวข้อ: Re: CX5 skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Arnan_td ที่ ตุลาคม 27, 2019, 11:06:27
GEN 2 ผมว่าที่ไม่ดันนี่ไม่น่าจะจริง ตอนนี้เอาเฉพาะคนรู้จัก
มีดัน มีดับ มีเกียร์พัง มีลูกปืนแตก
หัวข้อ: Re: CX5 skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: tvc597 ที่ ตุลาคม 27, 2019, 12:03:00
เขาคุยกันเรื่อง CX-5 นะครับมันเกี่ยบวอะไรกับ BT-50 รถมันคนละประเภทกันเลย การดูแลก็ไม่เหมือนกัน BT-50 คุณอยากจะเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุก 5000 กิโลศูนย์ก็ยินดีทำให้ครับ แต่ CX - 5   มันคนละเรื่องกันครับเขาอยากให้ใช้ให้มันพังๆมั้งครับถึงไม่ยอมให้เปลี่ยน
ท่านที่คิดว่ารีบใช้แล้วรีบขายทิ้งก่อนมันจะพังรับได้กับราคาขายมือสองได้ไหมครับ รถ 1,700,000 เหลือ 600,000 นี่ในกรณีที่ยังไม่เคยเปลี่ยนเครื่องนะ ถ้าเปลี่ยนเครื่องแล้ว 400,000 ยังหาคนรับยากเลยครับ
ลองดูได้รับ ไม่ลองไม่รู้ ไม่เจ็บไม่จำครับ
 :'( :'( :'( :'( :'(
หัวข้อ: Re: CX5 skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Arado_kung ที่ ตุลาคม 27, 2019, 12:15:43
จริงๆตัว Gen 2 ก็ยังไม่เคยเจอใครน้ำดันนะ
ในมาเลเจอน้ำดันกันไปหลายคันล่ะครับ CX-5 ดีเซล Gen2 เนี่ย
หัวข้อ: Re: CX5 skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: karavek ที่ ตุลาคม 27, 2019, 14:07:21
เป็นค่ายที่แปลกดีครับ ไม่ค่อยยอมสื่อสาร ว่าคิดหรือมีวิธีแก้ปัญหายังไงบ้าง ผลเป็นยังไง
หัวข้อ: Re: CX5 skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: holahola66 ที่ ตุลาคม 27, 2019, 15:18:58
เขาคุยกันเรื่อง CX-5 นะครับมันเกี่ยบวอะไรกับ BT-50 รถมันคนละประเภทกันเลย การดูแลก็ไม่เหมือนกัน BT-50 คุณอยากจะเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุก 5000 กิโลศูนย์ก็ยินดีทำให้ครับ แต่ CX - 5   มันคนละเรื่องกันครับเขาอยากให้ใช้ให้มันพังๆมั้งครับถึงไม่ยอมให้เปลี่ยน
ท่านที่คิดว่ารีบใช้แล้วรีบขายทิ้งก่อนมันจะพังรับได้กับราคาขายมือสองได้ไหมครับ รถ 1,700,000 เหลือ 600,000 นี่ในกรณีที่ยังไม่เคยเปลี่ยนเครื่องนะ ถ้าเปลี่ยนเครื่องแล้ว 400,000 ยังหาคนรับยากเลยครับ
ลองดูได้รับ ไม่ลองไม่รู้ ไม่เจ็บไม่จำครับ
 :'( :'( :'( :'( :'(

Agree
หัวข้อ: Re: CX5 skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: r0u0g0e0k ที่ ตุลาคม 27, 2019, 15:21:51
รอหน้าไหม่ที่ตื่นตาไม่เชื่อว่ามีปัญหาไปจับจองครับ เเล้วตอนเจอปัญหาก็เเอบขายทิ้งเงียบๆ เเบบเขินๆ

 หน้าเก่าๆที่โดนมาเเล้วเข็ดทุกราย
หัวข้อ: Re: CX5 skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Tien.W ที่ ตุลาคม 27, 2019, 16:57:24
พอดีส่องๆในคลับ เห็นแต่ Gen 1 ที่ดันน่ะครับ

ถ้า Gen 2 ดันด้วย ก็สยองล่ะครับ แก้ไข ไม่ได้ แต่ยังปล่อยขายให้ลูกค้ารับกรรม นโยบายสุดจริงๆ
หัวข้อ: Re: CX5 skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: HLRx ที่ ตุลาคม 27, 2019, 20:54:38
Oop !!!  แค่มาแชร์งานบริการของ มาสด้า ที่ได้ประสบพบมาจริง ซึ่งอาจไม่ถูกใจกองแช่งบ้าง อย่าโกรธกันนะครับ
- เกียร์ ของ BT-50 ตามสเปคก็ไม่ต้องเปลี่ยน นม.เกียร์นะครับ แต่ผมสั่งให้เปลี่ยนที่ 1 แสน กม.ก็ไม่เห็นศูนย์จะว่าไร จ่ายตังค์เอง นักเลงพอ ศูนย์ใหนจะกล้าปฏิเสธ
- ส่วนอะไหล่ก็ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น ไม่ได้แพงเว่อวัง กว่าค่ายญี่ปุ่น เพราะผมใช้ Space wagon มาก่อนหน้านี้ ยังพอจำราคาอะไหล่ได้บ้าง
แต่ CX5  2.5 ตัวใหม่นี่ ถ้าตั้งราคามาเกิน 1.8 ล้าน ก็คงขายได้ ซัก 10 - 20 คัน/เดือน ล่ะมั้ง  เอาแรงไปใหน เกิน 90 ก็โดน พลซุ่มยิง ส่งใบสั่งมาเพียบแล้ว
หัวข้อ: Re: CX5 skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Automotive Innovations ที่ ตุลาคม 27, 2019, 21:23:04
เค้าเรียกว่ามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นครับ จะไปว่าเค้าทำไมหละครับ บอร์ดรถยนต์ครับไม่ใช่บอร์ดมาสด้า โอเค๊
หัวข้อ: Re: CX5 skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Arnan_td ที่ ตุลาคม 27, 2019, 22:51:30
ผมแค่เคยเข้าไปใช้อยู่รอบนึง ลาขาดครับแบรนด์นี้ เข้าใจเลยว่าทำไมแบรนด์เจ้าตลาดเขาถึงไม่ต้องขยับตัวไปให้มัน พรีเมี่ยมอะไร เพราะชีวิตจริงมันเหมือยเจอผู้หญิงสวยๆ เห่อแค่ตอนแรกๆ ปรากฏมันก็สู้คนที่เรียบๆแต่พร้อมจะเป็นแม่ของลูกไปได้หรอกครับ หวังว่าจะเห็นภาพ
หัวข้อ: Re: CX5 skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Hadoken Shoryuken ที่ ตุลาคม 28, 2019, 00:45:25
ถ้าระบบการทำงาน DPF ยังเหมือนเดิม
ถือว่ายังไม่ได้ปรับปรุงแก้ไข
เพราะปัญหาคือการออกแบบที่ผิดพลาด ไม่ได้ทดสอบกับการขับขี่ในเมืองที่รถติดๆแบบ กทม.
หัวข้อ: Re: CX5 skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: neung23 ที่ ตุลาคม 28, 2019, 00:49:44
ผมแค่เคยเข้าไปใช้อยู่รอบนึง ลาขาดครับแบรนด์นี้ เข้าใจเลยว่าทำไมแบรนด์เจ้าตลาดเขาถึงไม่ต้องขยับตัวไปให้มัน พรีเมี่ยมอะไร เพราะชีวิตจริงมันเหมือยเจอผู้หญิงสวยๆ เห่อแค่ตอนแรกๆ ปรากฏมันก็สู้คนที่เรียบๆแต่พร้อมจะเป็นแม่ของลูกไปได้หรอกครับ หวังว่าจะเห็นภาพ

+1 คับบ เคยออก cx-3 ป้ายแดง เจอช่วงล่างดัง แก้แม่มตั้งแต่ป้ายแดงยันผ่อนครบปี แก้ไม่หาย เคลมก็ยากเรือหายอ้างสารพัดขั้นตอนสารเพ เบ้าพัง แร็คดัง ยางรองสปริง คาลิปเปอร์เบรค แพหน้า  ไม่ถึงปีวิ่งไป2หมื่นโล ขายทิ้งขาดทุนไปเกือบ4แสน

"เข็ด" ผมยังแค่เรื่องติ๊งต๊อง ไม่ใช่ปัญหาแบบรถต้องจอดสนิทค่าซ่อมหลักแสนแบบน้ำดันยังเครียดเลยคับ
หัวข้อ: Re: CX5 skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: r0u0g0e0k ที่ ตุลาคม 28, 2019, 03:58:52
Oop !!!  แค่มาแชร์งานบริการของ มาสด้า ที่ได้ประสบพบมาจริง ซึ่งอาจไม่ถูกใจกองแช่งบ้าง อย่าโกรธกันนะครับ
- เกียร์ ของ BT-50 ตามสเปคก็ไม่ต้องเปลี่ยน นม.เกียร์นะครับ แต่ผมสั่งให้เปลี่ยนที่ 1 แสน กม.ก็ไม่เห็นศูนย์จะว่าไร จ่ายตังค์เอง นักเลงพอ ศูนย์ใหนจะกล้าปฏิเสธ
- ส่วนอะไหล่ก็ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น ไม่ได้แพงเว่อวัง กว่าค่ายญี่ปุ่น เพราะผมใช้ Space wagon มาก่อนหน้านี้ ยังพอจำราคาอะไหล่ได้บ้าง
แต่ CX5  2.5 ตัวใหม่นี่ ถ้าตั้งราคามาเกิน 1.8 ล้าน ก็คงขายได้ ซัก 10 - 20 คัน/เดือน ล่ะมั้ง  เอาแรงไปใหน เกิน 90 ก็โดน พลซุ่มยิง ส่งใบสั่งมาเพียบแล้ว

คุณเทียบผิดครับ  คุณใช้ bt50 เเต่ไปเทียบค่าอะไหล่กับสเปซวากอน  จริงๆคุณต้องไปเทียบกับ วีโก้ ดีเเม้ค ไทรทัน ครับ   อีกทั้งกระบะ เป็นรถเพื่อการพานิชย์ ราคาอะไหล่เเต่ละค่ายย่อมเน้นให้ไม่เเพงโดด ไม่งั้นบริษัทห้างร้านเอาไปวิ่งขนของวิ่งงาน เจอค่าซ่อมเเพง ๆคงลาขาด

ถ้าคุนลองใช้ ตัวอื่น  เเล้วลองอ่านราคาค่าอะไหล่ที่เม้นบน เค้าเเจ้งไว้สิครับ ที่เม้นบนลงไว้นี่ยังไม่ครบนะครับ มีอีกหลายตัวที่ราคาเสียวๆ

ลางเนื้อชอบลางยาครับ

ใครไม่เคยใช้ หรือเคยใช้เเล้วไม่รู้สึกติดขัด ก็ไม่ว่ากัน ถือว่าโชคดี

เเต่คนที่เคยใช้เเล้วเจอปัญหาไม่จบ เจอบริการที่ไม่โอเค ก็ย่อมเเสดงออกในทางไม่พอใจเป็นสิ่งปกติ

จะให้มานั่งชื่นชมทั้งที่ไม่ถูกใจมันก็ไม่ใช่เรื่อง
หัวข้อ: Re: CX5 skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: DiKiBoyZ ที่ ตุลาคม 28, 2019, 09:42:05
น้ำดัน ไม่เกี่ยวกับเทอร์โบ ลูกเดียว หรือ สองลูก

ดังนั้น คิดว่าแก้ปัญหาได้ไหมครับ

หัวข้อ: Re: CX5 skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: PC CK ที่ ตุลาคม 28, 2019, 11:08:38
ไม่รู้ว่าจะดันมั้ยนะครับ แต่น่าจะดัน555
ส่วนตัวผมโอเคกับศูนย์บริการที่จังหวัดผมเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่นๆ
ตอนนี้จะเปลี่ยนcx5เป็นคัยอื่นเลยหนักใจมากอยู่ เพราะศูนย์บริการของเจ้าตลาดเล่นผมไว้เยอะเหมือนกัน
เมื่อเทียบกับค่าแรงต่างๆแล้วมันก็ไม่ได้แพงเท่าไรเมื่อเทียบกับราคารถที่ซื้อมา
เรื่องแบตหรือยางที่เปลี่ยนตอนแรก บอกเลยว่าแพงกว่ารถญี่ปุ่นคนอื่นๆที่มีในบ้านมาก ถึงแม้ตอนนี้จะรถราคามาเยอะปต่ก้แพงกว่าอยู่ดีครับ
สุดท้ายขึ้นอยู่กับความพอใจแต่ละคับครับ ผมออกรถปี2014 1670000ตอนนี้ไปตีเต๊นท์ได้530000ปีที่แล้วได้600000 ว่าจะรีบปล่อยก่อนดีกว่าแล้วใช้คันอื่นในบ้านไปก่อน แล้วค่อยซื้อคันอื่นมาทดแทนหลังดูสถานการณ์เศรษฐกิจอีกทีครับ
ปล.อย่าบอกผมเลยว่าเศรษฐกิจดีครับ ผมคุยกับแม่ค้าชาวไร่ เค้านั่งบ่นกันทุกวัน ถึงแม้ผมจะไม่ได้ผลกระทบมาโดยตรงแต่ก็แอบเสียวครับ :( :( :(
หัวข้อ: Re: CX5 skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: arton ที่ ตุลาคม 28, 2019, 11:36:23
ส่วนตัว ถ้าไม่เปลี่ยนระบบการกำจัดเขม่า คิดว่า การดูแลคงต้องเข้มข้นแบบเดิมเหมือนทั้ง gen1 และ gen2 ครับ ส่วนดันหรือไม่ ตอบไม่ได้  ถ้าดูแลไม่ถูกต้อง การเสื่อมสภาพมาไว ก็ เข้าอีหรอบเดิมครับ ส่วนของผม gen1 MC สบายดี วิ่งยังไม่ถึงแสนโล ส่องเข้าไปดูท่อ ดูระบบต่างๆ ยังสะอาด ใส ๆ รับได้กับค่าแรง ค่าอะไหล่ไม่ได้สูงเกินไป ถ้าเทียบกับเจ้าตลาด ยกเว้น อุปกรณ์ส่วนพิเศษซึ่งไม่ได้เสียบ่อย (ทำประกัน MAP เลยครับ)

หัวข้อ: Re: CX5 skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: ^Yimm@^ ที่ ตุลาคม 28, 2019, 11:57:06
Oop !!!  แค่มาแชร์งานบริการของ มาสด้า ที่ได้ประสบพบมาจริง ซึ่งอาจไม่ถูกใจกองแช่งบ้าง อย่าโกรธกันนะครับ
- เกียร์ ของ BT-50 ตามสเปคก็ไม่ต้องเปลี่ยน นม.เกียร์นะครับ แต่ผมสั่งให้เปลี่ยนที่ 1 แสน กม.ก็ไม่เห็นศูนย์จะว่าไร จ่ายตังค์เอง นักเลงพอ ศูนย์ใหนจะกล้าปฏิเสธ
- ส่วนอะไหล่ก็ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น ไม่ได้แพงเว่อวัง กว่าค่ายญี่ปุ่น เพราะผมใช้ Space wagon มาก่อนหน้านี้ ยังพอจำราคาอะไหล่ได้บ้าง
แต่ CX5  2.5 ตัวใหม่นี่ ถ้าตั้งราคามาเกิน 1.8 ล้าน ก็คงขายได้ ซัก 10 - 20 คัน/เดือน ล่ะมั้ง  เอาแรงไปใหน เกิน 90 ก็โดน พลซุ่มยิง ส่งใบสั่งมาเพียบแล้ว

คือนโยบายที่Mazdaทำกับรถคนละรุ่นมันต่างกันครับ BTก็อย่างCX-5ก็อย่าง เรื่องน้ำมันเกียร์BTคุณจะเปลี่ยนที่กี่โลเขาก็ยอม แต่CX-5มันตามที่เขาแจ้งจริงๆคือมีการให้เซ็นต์เอกสารจริงๆ เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับกองแช่งหรือเชียร์เลยครับ ส่วนอะไหล่คุณจะเทียบยังไงก็ตามข้างบนนั่นแหละครับ
หัวข้อ: Re: CX5 skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: ^Yimm@^ ที่ ตุลาคม 28, 2019, 12:01:02
จริงๆตัว Gen 2 ก็ยังไม่เคยเจอใครน้ำดันนะ
ในมาเลเจอน้ำดันกันไปหลายคันล่ะครับ CX-5 ดีเซล Gen2 เนี่ย

เป็นข่าวร้ายจริงๆถ้ายังเป็นอยู่อีก ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่แก้ให้จบๆก่อนขาย รถน่าใช้แท้ๆ
หัวข้อ: Re: CX5 skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: AT ที่ ตุลาคม 28, 2019, 13:11:02
Oop !!!  แค่มาแชร์งานบริการของ มาสด้า ที่ได้ประสบพบมาจริง ซึ่งอาจไม่ถูกใจกองแช่งบ้าง อย่าโกรธกันนะครับ
- เกียร์ ของ BT-50 ตามสเปคก็ไม่ต้องเปลี่ยน นม.เกียร์นะครับ แต่ผมสั่งให้เปลี่ยนที่ 1 แสน กม.ก็ไม่เห็นศูนย์จะว่าไร จ่ายตังค์เอง นักเลงพอ ศูนย์ใหนจะกล้าปฏิเสธ
- ส่วนอะไหล่ก็ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น ไม่ได้แพงเว่อวัง กว่าค่ายญี่ปุ่น เพราะผมใช้ Space wagon มาก่อนหน้านี้ ยังพอจำราคาอะไหล่ได้บ้าง
แต่ CX5  2.5 ตัวใหม่นี่ ถ้าตั้งราคามาเกิน 1.8 ล้าน ก็คงขายได้ ซัก 10 - 20 คัน/เดือน ล่ะมั้ง  เอาแรงไปใหน เกิน 90 ก็โดน พลซุ่มยิง ส่งใบสั่งมาเพียบแล้ว

คือนโยบายที่Mazdaทำกับรถคนละรุ่นมันต่างกันครับ BTก็อย่างCX-5ก็อย่าง เรื่องน้ำมันเกียร์BTคุณจะเปลี่ยนที่กี่โลเขาก็ยอม แต่CX-5มันตามที่เขาแจ้งจริงๆคือมีการให้เซ็นต์เอกสารจริงๆ เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับกองแช่งหรือเชียร์เลยครับ ส่วนอะไหล่คุณจะเทียบยังไงก็ตามข้างบนนั่นแหละครับ

เป็นนโยบายเลยหรอครับ เห็นพี่ที่บริษัทแกขับไปถ่ายน้ำมันเกียร์มาหมดไป 3 พันกว่าๆ ไม่เห็น0จะว่าอะไร แกว่าวิ่งครบ 6หมื่นโล
หัวข้อ: Re: CX5 skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Sammy_ ที่ ตุลาคม 28, 2019, 13:19:50
จริงๆตัว Gen 2 ก็ยังไม่เคยเจอใครน้ำดันนะ
ในมาเลเจอน้ำดันกันไปหลายคันล่ะครับ CX-5 ดีเซล Gen2 เนี่ย

เป็นข่าวร้ายจริงๆถ้ายังเป็นอยู่อีก ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่แก้ให้จบๆก่อนขาย รถน่าใช้แท้ๆ
ในคลับเมื่อวันก่อนก็เพิ่งสอบถามปัญหาเรื่องน้ำดันครับ เป็น CX5 Gen2 สรุปเคสนั่นได้เปลี่ยนเครื่อง
น่าเสร้านะครับที่ Mazda ไม่พยามที่จะแก้ปัญหาให้กับลูกค้า ซึ่งมันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
หัวข้อ: Re: CX5 skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Sammy_ ที่ ตุลาคม 28, 2019, 13:22:26
Oop !!!  แค่มาแชร์งานบริการของ มาสด้า ที่ได้ประสบพบมาจริง ซึ่งอาจไม่ถูกใจกองแช่งบ้าง อย่าโกรธกันนะครับ
- เกียร์ ของ BT-50 ตามสเปคก็ไม่ต้องเปลี่ยน นม.เกียร์นะครับ แต่ผมสั่งให้เปลี่ยนที่ 1 แสน กม.ก็ไม่เห็นศูนย์จะว่าไร จ่ายตังค์เอง นักเลงพอ ศูนย์ใหนจะกล้าปฏิเสธ
- ส่วนอะไหล่ก็ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น ไม่ได้แพงเว่อวัง กว่าค่ายญี่ปุ่น เพราะผมใช้ Space wagon มาก่อนหน้านี้ ยังพอจำราคาอะไหล่ได้บ้าง
แต่ CX5  2.5 ตัวใหม่นี่ ถ้าตั้งราคามาเกิน 1.8 ล้าน ก็คงขายได้ ซัก 10 - 20 คัน/เดือน ล่ะมั้ง  เอาแรงไปใหน เกิน 90 ก็โดน พลซุ่มยิง ส่งใบสั่งมาเพียบแล้ว

คือนโยบายที่Mazdaทำกับรถคนละรุ่นมันต่างกันครับ BTก็อย่างCX-5ก็อย่าง เรื่องน้ำมันเกียร์BTคุณจะเปลี่ยนที่กี่โลเขาก็ยอม แต่CX-5มันตามที่เขาแจ้งจริงๆคือมีการให้เซ็นต์เอกสารจริงๆ เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับกองแช่งหรือเชียร์เลยครับ ส่วนอะไหล่คุณจะเทียบยังไงก็ตามข้างบนนั่นแหละครับ

เป็นนโยบายเลยหรอครับ เห็นพี่ที่บริษัทแกขับไปถ่ายน้ำมันเกียร์มาหมดไป 3 พันกว่าๆ ไม่เห็น0จะว่าอะไร แกว่าวิ่งครบ 6หมื่นโล
สำหรับผมนะ ผมว่ามันเป็นนโยบายนะ เพราะว่า ศูนย์ ส่วนใหญ่เค้าทำแบบนั่น แต่จะมี 0 ไม่กี่ที่ ที่เขาเข้าใจปัญหา สามารถให้ ลูกค้าเปลี่ยน้ำมันเกียร์ได้ก่อนกำหนด
หัวข้อ: Re: CX5 skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: ^Yimm@^ ที่ ตุลาคม 28, 2019, 13:45:55
Oop !!!  แค่มาแชร์งานบริการของ มาสด้า ที่ได้ประสบพบมาจริง ซึ่งอาจไม่ถูกใจกองแช่งบ้าง อย่าโกรธกันนะครับ
- เกียร์ ของ BT-50 ตามสเปคก็ไม่ต้องเปลี่ยน นม.เกียร์นะครับ แต่ผมสั่งให้เปลี่ยนที่ 1 แสน กม.ก็ไม่เห็นศูนย์จะว่าไร จ่ายตังค์เอง นักเลงพอ ศูนย์ใหนจะกล้าปฏิเสธ
- ส่วนอะไหล่ก็ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น ไม่ได้แพงเว่อวัง กว่าค่ายญี่ปุ่น เพราะผมใช้ Space wagon มาก่อนหน้านี้ ยังพอจำราคาอะไหล่ได้บ้าง
แต่ CX5  2.5 ตัวใหม่นี่ ถ้าตั้งราคามาเกิน 1.8 ล้าน ก็คงขายได้ ซัก 10 - 20 คัน/เดือน ล่ะมั้ง  เอาแรงไปใหน เกิน 90 ก็โดน พลซุ่มยิง ส่งใบสั่งมาเพียบแล้ว

คือนโยบายที่Mazdaทำกับรถคนละรุ่นมันต่างกันครับ BTก็อย่างCX-5ก็อย่าง เรื่องน้ำมันเกียร์BTคุณจะเปลี่ยนที่กี่โลเขาก็ยอม แต่CX-5มันตามที่เขาแจ้งจริงๆคือมีการให้เซ็นต์เอกสารจริงๆ เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับกองแช่งหรือเชียร์เลยครับ ส่วนอะไหล่คุณจะเทียบยังไงก็ตามข้างบนนั่นแหละครับ

เป็นนโยบายเลยหรอครับ เห็นพี่ที่บริษัทแกขับไปถ่ายน้ำมันเกียร์มาหมดไป 3 พันกว่าๆ ไม่เห็น0จะว่าอะไร แกว่าวิ่งครบ 6หมื่นโล

ผมอาจจะเข้าใจผิดเองครับ น่าจะเป็นที่ศูนย์นั้นครับ ขออภัยครับ
หัวข้อ: Re: CX5 skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: AT ที่ ตุลาคม 28, 2019, 14:40:54
Oop !!!  แค่มาแชร์งานบริการของ มาสด้า ที่ได้ประสบพบมาจริง ซึ่งอาจไม่ถูกใจกองแช่งบ้าง อย่าโกรธกันนะครับ
- เกียร์ ของ BT-50 ตามสเปคก็ไม่ต้องเปลี่ยน นม.เกียร์นะครับ แต่ผมสั่งให้เปลี่ยนที่ 1 แสน กม.ก็ไม่เห็นศูนย์จะว่าไร จ่ายตังค์เอง นักเลงพอ ศูนย์ใหนจะกล้าปฏิเสธ
- ส่วนอะไหล่ก็ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น ไม่ได้แพงเว่อวัง กว่าค่ายญี่ปุ่น เพราะผมใช้ Space wagon มาก่อนหน้านี้ ยังพอจำราคาอะไหล่ได้บ้าง
แต่ CX5  2.5 ตัวใหม่นี่ ถ้าตั้งราคามาเกิน 1.8 ล้าน ก็คงขายได้ ซัก 10 - 20 คัน/เดือน ล่ะมั้ง  เอาแรงไปใหน เกิน 90 ก็โดน พลซุ่มยิง ส่งใบสั่งมาเพียบแล้ว

คือนโยบายที่Mazdaทำกับรถคนละรุ่นมันต่างกันครับ BTก็อย่างCX-5ก็อย่าง เรื่องน้ำมันเกียร์BTคุณจะเปลี่ยนที่กี่โลเขาก็ยอม แต่CX-5มันตามที่เขาแจ้งจริงๆคือมีการให้เซ็นต์เอกสารจริงๆ เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับกองแช่งหรือเชียร์เลยครับ ส่วนอะไหล่คุณจะเทียบยังไงก็ตามข้างบนนั่นแหละครับ

เป็นนโยบายเลยหรอครับ เห็นพี่ที่บริษัทแกขับไปถ่ายน้ำมันเกียร์มาหมดไป 3 พันกว่าๆ ไม่เห็น0จะว่าอะไร แกว่าวิ่งครบ 6หมื่นโล
สำหรับผมนะ ผมว่ามันเป็นนโยบายนะ เพราะว่า ศูนย์ ส่วนใหญ่เค้าทำแบบนั่น แต่จะมี 0 ไม่กี่ที่ ที่เขาเข้าใจปัญหา สามารถให้ ลูกค้าเปลี่ยน้ำมันเกียร์ได้ก่อนกำหนด

ลองไปถามพี่แกมาครับ ตามความเห็นของพี่แกนะ แกว่ามันก็เป็นระยะการบำรุงรักษา เหมือนรอบการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เราจะเปลี่ยนก่อนหลังก็ได้ ถ้าคนรักรถเขาจะไม่รอครบกำหนด เพราะสภาพอากาศเมืองไทย เรื่องเป็นนโยบายแกไม่ทราบ
>> อันนี้ลองถามจากผู้ใช้ดูครับ
หัวข้อ: Re: CX5 skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: extreme ที่ ตุลาคม 28, 2019, 20:34:06
ก็ ฟังตามๆมา ก็พูดกันไปตามๆกัน ส่วนใหญ่จะไมไ่ด้ใช้จริงน่ะครับ
ทุก ยี่ห้อมันก็มีปัญหาหมดน่ะครับ อยู่ที่ว่า คนหมั่นเยอะก็ จะขยายความต่อไปเรื่อยๆให้ใหญ่โต
.
ของผม mazda2 sky ดีเซล ล็อตแรกเลย ออก เดือน 01/2015
ไม่เคยมีปัญหาอะไรเลยสักอย่าง ตอนนี้ เกินแสนโลแล้ว
ยังไม่เคยมีปัญหา ยังไม่เคยเครมอะไรนะครับ  (แต่อีกหน่อยไม่ทราบ แต่หวังว่าจะไม่มีปัญหาต่อไป)
เดือนแรกที่ออก 22-24 โล/ลิตร ณ.ตอนนี้ก็ 22-24โลลิตร(ขับ เหยียบตลอด)  อัตราเร่งก็เหมือนๆเดิมครับ
.
แค่ ระวังอย่างเดียวคือ เวลา DPF ทำงาน จะไม่จอดก่อนครับ จะขับไปจนเผาเขม่าเสร็จ ค่อยจอดดับเครื่อง
และด้วยการขับของผมคือ เหยียบบ่อย ไม่วิ่งที่ความเร็วคงที่ช้าๆนานๆ +ขับต่างจังหวัด  เลยอาจจะเป็นส่วนที่ทำให้ ดีเชลของมาศด้าไม่มีปัญหา
.
เรื่องน้ำมันเกียร์ พอถึงระยะ 40000โล แรก ผมก็บอกให้ศูนย์เปลี่ยนให้ ศูนย์ก็เปลี่ยนให้ไม่ได้ว่าอะไรนะครับ แล้วผมก็เปลี่ยนอีกทีตอน 80000โล
และเปลี่ยน อีกตอน 100000โล เพราะรถไปลุยน้ำท่วมมา ศูนย์ก็เปลี่ยนให้ตลอดนะครับ
.
แต่ติอย่างเดียวคือ มันนั่งไม่สบาย ขับนานๆปวดตูด เมื้อยเอว
ประทับใจเรื่องประหยัดครับ เมื่อก่อนใช้ city อยู่สระบุรีไปเที่ยวเชียงใหม่ 3วัน2คืน ขึ้น 3-4 ดอย ค่าน้ำมัน 7-8พัน
มาใช้ m2 เส้นทางเดียวกัน เวลาเหมือนกัน เหยียบตลอดเส้นทาง ค่านำ้มันถูกเวอร์ ที่ 2000 บาทจบทริป


หัวข้อ: Re: CX5 skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: Amnaj ที่ ตุลาคม 29, 2019, 07:22:36
คนจะซื้อ คงต้องไปตัดระบบบำบัดไอเสียออกเอง เพราะมันเป็นที่การออกแบบ 0 จะมาแก้ไขให้ได้ไง
หัวข้อ: Re: CX5 skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: V221 ที่ ตุลาคม 29, 2019, 07:43:16
ไม่แน่ใจว่ามาจากDPFทำงานบ่อยเพราะรถวิ่งติดๆเป็นประจำหรือไม่ ถ้าซื้อมาแล้วน่าจะเติมดีเซลยูโร5เป็นประจำจะได้ตัดความสงสัยไปดีกว่า ส่วนในมาเลเซียน้ำมันดีเซลยังมีSulphurสูงกว่าบ้านเราด้วยซ้ำครับ
https://www.fuelsandlubes.com/malaysia-postpones-euro-4m-implementation-january-2020/
หัวข้อ: Re: CX5 skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ ตุลาคม 29, 2019, 11:06:01
หลังการขาย ต้องปรับปรุงด่วนเลย พวกผู้เฒ่า น่าจะวางมือได้แล้ว หรืออย่างน้อยก็รับฟังเด็กรุ่นใหม่กันบ้าง
หัวข้อ: Re: CX5 skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: shikimaru ที่ ตุลาคม 29, 2019, 20:38:04
ฮา คนอวยจริงๆ เทียบไม่ตรงรุ่นงี้ อีกคนมาบอกไม่มีปัญหา แต่ในคลับร้องกันระงม แล้วรถอะไรระบบทำงานต้องรอให้มันทำงานเสร็จ สรุปจอดถึงบ้านแล้วระบบทำงาน ต้องไปวนเล่นหมู่บ้านหรือที่อื่นก่อนรอบนึงค่อยมาจอดเหรอครับ

ฟังตามๆกันมา นั่นคือฟังในคลับไอรุ่นที่มันเป็นปัยหานั่นแหละ! ถ้าเขายังโพสว่ามันมีปัญหา แสดงว่ามันมีปัญหา แล้วนโยบายบ้าบอคอแตกแต่ละอย่างที่มาสด้า+ศูนย์ทำออกมาให้เห็น และอะไหล่แต่ละอย่างแทบจะบอกได้ว่า ไม่ต่างกับ mg ผมขอบายละกันครับ รถใช้งานมันจะยุ่งยากอะไรขนาดนั้น จากตอนแรก cx5 ออกใหม่ๆนี่ผมเชียทุกคนที่หา suv ตอนนี้บอกเลย อยู่ให้ห่าง ยิ่งเห็นทำแบบนี้ ยิ่งแนะนำทุกคนว่าอย่าไปแตะ
หัวข้อ: Re: CX5 skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: tvc597 ที่ ตุลาคม 29, 2019, 22:42:56
          ท่านที่บอกว่าต้องเติม Premium Diesel ตลอดถึงจะไม่ดัน ผมอยากจะถามว่าใครเป็นคนกำหนดครับว่าต้องเติม Premium Diesel มาสด้าไม่เคยออกมาประกาศนะครับว่า CX-5 Diesel ต้องเติม Premium Diesel เท่านั้นแล้วคนที่เติมแต่ Premium Diesel ก็ดันมาแล้วทั้งนั้น ผมก็อยากให้ มาสด้าออกมาประกาศเลยครับว่า CX-5 Diesel ต้องเติม Premium Diesel เท่านั้นแล้วดูซิว่าจะขายได้กี่คัน ผมยังไม่เห็นมีรถดีเซลยี่ห้อไหนเลยที่บอกว่ารถเขาเติมได้แต่ Premium Diesel เท่านั้นไม่อย่างนั้นพัง เขาไปกันถึง B-10 B-20 กันแล้วครับหนักกว่า B-5 B-7 อีกครับ Premium หรือ ไม่ Premium ก็พังทั้งนั้นครับช้าหรือเร็วเท่านั้น หรือให้มันไปพังหลังหมดประกันแล้ว และมาสด้าก็ไม่รับผิดชอบด้วย คิดเอาแล้วกันครับ
          อีกเรื่องคือการ ReGen ผมละนับถือท่านที่ขับรถถึงบ้านแล้วเครื่อง ReGen จะออกไปวิ่งรถจนกว่าเครื่องจะ ReGen เสร็จ ผมเคยวิ่ง กทม - เชียงราย กลางคืน นะครับวิ่งทางยาว ความเร็ว ไม่ต่ำกว่า 120 ตียาวตลอดย้ำนะครับว่ากลางคืนดึก (ไม่ต้องกลัวกล้อง) ซึ่งโดยปกติเครื่องควรจะ ReGen ไปตามปกติ และไม่ควรมีปัญหากับ DPF เลยเพราะใช้รอบเครื่องยนต์สูงอยู่ตลอดทาง แต่ผมเจอไฟ DPF ติด บนเขาระหว่างลำปางไปพะเยา เวลาประมาณ ตี2 ท่านที่เคยวิ่งเส้นนี้จะทราบดีว่าทางช่วงนั้น จะเป็นทางบนเขาบางช่วงมีทำทาง นานๆจะมีรถวิ่งสวนมาซักคันเจอปิกอัพ เจ้าถิ่นแซงมาอย่างดีใจรีบเหยียบตามติดไปทันที ไม่สนแล้วว่าไฟอะไรจะติด พังเป็นพังแล้วไม่จอดดูด้วย ถึงพะเยาจอดนอนปั๊มเช้าค่อยเอาเข้าศูนย์ ที่เล่ามายาวเพื่อจะบอกว่า เครื่องมันมีปัญหาทั้งระบบแหละ ReGen ปกติ วิ่งรถไม่ติดใช้รอบเครื่องสูงตลอด DPF ก็ยังมีปัญหา ReGen ทีก็จะมีน้ำมันดีเซลไหลลงไปผสมกับน้ำมันเครื่องที่ เดี๋ยวระดับน้ำมันเครื่องในอ่างก็จะสูงจนเลยจุดที่กำหนดไว้และคุณภาพของน้ำมันเครื่องที่โดนน้ำมันดีเซลลงไปผสมจะเสื่อมสภาพไปขนาดไหนลองคิดดูแล้วกันครับ น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพเครื่องยนต์ก็จะมีการสึกหรอสูงเมื่อไหร่มันก็พังครับ เร็วหรือช้า อยู่ในระยะประกันหรือหมดประกันแล้วเลือกกันเอาละกันครับ
         ท่านที่ออกมาเชียร์ๆออกมาอวยกันก็รีบๆซื้อมาใช้กันนะครับมาสด้าต้องการลูกค้าอย่างท่านนะครับ
หัวข้อ: Re: CX5 skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: r0u0g0e0k ที่ ตุลาคม 30, 2019, 00:55:07
ยังยืนยันนะครับ ท่านใดใช้ดีใช้เเล้วเเฮปปี้ ก็ดีใจด้วยครับ

เเต่คนที่ใช้เเล้วเจอปัญหา ใช้เเล้วเจ็บ มีตัวตนจริงเจ็บจริงครับ ไม่ใช่มโน หรือไปฟังตามๆกันมาเเน่ๆ

 บางคนเป็นกองเชียมาก่อนด้วยซ้ำ พอมาเจอกับตัวเองถึงเข้าใจ
หัวข้อ: Re: CX5 skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: extreme ที่ ตุลาคม 30, 2019, 01:08:56
          ท่านที่บอกว่าต้องเติม Premium Diesel ตลอดถึงจะไม่ดัน ผมอยากจะถามว่าใครเป็นคนกำหนดครับว่าต้องเติม Premium Diesel มาสด้าไม่เคยออกมาประกาศนะครับว่า CX-5 Diesel ต้องเติม Premium Diesel เท่านั้นแล้วคนที่เติมแต่ Premium Diesel ก็ดันมาแล้วทั้งนั้น ผมก็อยากให้ มาสด้าออกมาประกาศเลยครับว่า CX-5 Diesel ต้องเติม Premium Diesel เท่านั้นแล้วดูซิว่าจะขายได้กี่คัน ผมยังไม่เห็นมีรถดีเซลยี่ห้อไหนเลยที่บอกว่ารถเขาเติมได้แต่ Premium Diesel เท่านั้นไม่อย่างนั้นพัง เขาไปกันถึง B-10 B-20 กันแล้วครับหนักกว่า B-5 B-7 อีกครับ Premium หรือ ไม่ Premium ก็พังทั้งนั้นครับช้าหรือเร็วเท่านั้น หรือให้มันไปพังหลังหมดประกันแล้ว และมาสด้าก็ไม่รับผิดชอบด้วย คิดเอาแล้วกันครับ
          อีกเรื่องคือการ ReGen ผมละนับถือท่านที่ขับรถถึงบ้านแล้วเครื่อง ReGen จะออกไปวิ่งรถจนกว่าเครื่องจะ ReGen เสร็จ ผมเคยวิ่ง กทม - เชียงราย กลางคืน นะครับวิ่งทางยาว ความเร็ว ไม่ต่ำกว่า 120 ตียาวตลอดย้ำนะครับว่ากลางคืนดึก (ไม่ต้องกลัวกล้อง) ซึ่งโดยปกติเครื่องควรจะ ReGen ไปตามปกติ และไม่ควรมีปัญหากับ DPF เลยเพราะใช้รอบเครื่องยนต์สูงอยู่ตลอดทาง แต่ผมเจอไฟ DPF ติด บนเขาระหว่างลำปางไปพะเยา เวลาประมาณ ตี2 ท่านที่เคยวิ่งเส้นนี้จะทราบดีว่าทางช่วงนั้น จะเป็นทางบนเขาบางช่วงมีทำทาง นานๆจะมีรถวิ่งสวนมาซักคันเจอปิกอัพ เจ้าถิ่นแซงมาอย่างดีใจรีบเหยียบตามติดไปทันที ไม่สนแล้วว่าไฟอะไรจะติด พังเป็นพังแล้วไม่จอดดูด้วย ถึงพะเยาจอดนอนปั๊มเช้าค่อยเอาเข้าศูนย์ ที่เล่ามายาวเพื่อจะบอกว่า เครื่องมันมีปัญหาทั้งระบบแหละ ReGen ปกติ วิ่งรถไม่ติดใช้รอบเครื่องสูงตลอด DPF ก็ยังมีปัญหา ReGen ทีก็จะมีน้ำมันดีเซลไหลลงไปผสมกับน้ำมันเครื่องที่ เดี๋ยวระดับน้ำมันเครื่องในอ่างก็จะสูงจนเลยจุดที่กำหนดไว้และคุณภาพของน้ำมันเครื่องที่โดนน้ำมันดีเซลลงไปผสมจะเสื่อมสภาพไปขนาดไหนลองคิดดูแล้วกันครับ น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพเครื่องยนต์ก็จะมีการสึกหรอสูงเมื่อไหร่มันก็พังครับ เร็วหรือช้า อยู่ในระยะประกันหรือหมดประกันแล้วเลือกกันเอาละกันครับ
         ท่านที่ออกมาเชียร์ๆออกมาอวยกันก็รีบๆซื้อมาใช้กันนะครับมาสด้าต้องการลูกค้าอย่างท่านนะครับ

มองกลางสิครับท่าน รถทุกยี่ห้อ ผมเห็นก็มีปัญหาหมดน่ะครับ อยู่ที่ว่ายี่ห้อไหนคนหมั่นเยอะกว่ากัน
.
ส่วนเรื่องdpf ที่เวลาเผา เขม่า ที่บางครั้งมันดันมาเผาตอนถึงบ้านแล้ว ผมต้องยอมขับต่ออีกหน่อย  มันไม่ได้ขึ้นบ่อยๆนะครับ
มันจะเกิดขึ้น เมื่อ กรองเขม่าเริ่มตัน +กับรถตรวจสอบได้ว่า ใช้ความเร็วมาระยะนึงแล้ว ที่ไม่ใช้ ขับๆ-จอดๆ เมื่อเข้าเงื่อนไข dpf ก็เผา
.
ต่อเรื่อง dpf ต่อ รถบ้าอะไรเรื่องมาก ต้องรอให้เผาให้เสร็จก่อน  จริงๆ บางครั้งผมรีบก็ดับเลยจอดเลย เวลาstrat มาเข้าเงื่ิอนไขที่ว่ามันก็เผาต่อครับ
เพียงแต่ ไม่ควรทำบ่อยๆ ----->เรื่องน้ำมันไหลลงอ่างน้ำมันเครื่อง  นานไปอาจจะเจอน้ำดันก็ได้
***อันนี้คือข้อเสีย ที่บางท่านอาจจะยอมรับไม่ได้  แต่มันก็มีข้อดีจนยอมรับข้อเสียอันนี้ได้
 อย่าง M2 ขับแบบผม ได้ เฉลี่ย 22-24 โล/ลิตรตลอด  ซึ่งไม่มียี่ห้อไหนให้ได้  ในขัณะที่ขับแบบเดียวกัน City ผมได้ 12-13 โล/ลิตร เท่านั้น
ยังไม่รวมว่า M2 แรงกว่า ขับนิ่งกว่า มั่นใจกว่าที่ความเร็วสูง  ***   (ซึ่งเรื่องประหยัด อันนี้สำคัญมากสำหรับผม)
.
ส่วนคนที่ใช้เอง เจอปัญหาจริงๆก็เสียใจด้วยครับ ผมแค่มาแชร์ ในส่วนของผมเท่านั้น ไม่อยากให้แอนตี้เกินเหตุครับ ให้ค่ายเล็กค่ายน้อยได้ ผุดได้เกิดบ้าง ไม่งั้นค่ายเจ้าตลาดจะไม่มีการพัฒนา
.
***แต่ถ้าสิ่งที่ผม พิมพ์มา ทำให้บางรบกวนบางท่านหรือทำให้บางท่านไม่สบายใจ ผมขออภัย ไว้ล่วงหน้านะครับ***
หัวข้อ: Re: CX5 skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: StruckleP ที่ ตุลาคม 30, 2019, 17:25:12
          ท่านที่บอกว่าต้องเติม Premium Diesel ตลอดถึงจะไม่ดัน ผมอยากจะถามว่าใครเป็นคนกำหนดครับว่าต้องเติม Premium Diesel มาสด้าไม่เคยออกมาประกาศนะครับว่า CX-5 Diesel ต้องเติม Premium Diesel เท่านั้นแล้วคนที่เติมแต่ Premium Diesel ก็ดันมาแล้วทั้งนั้น ผมก็อยากให้ มาสด้าออกมาประกาศเลยครับว่า CX-5 Diesel ต้องเติม Premium Diesel เท่านั้นแล้วดูซิว่าจะขายได้กี่คัน ผมยังไม่เห็นมีรถดีเซลยี่ห้อไหนเลยที่บอกว่ารถเขาเติมได้แต่ Premium Diesel เท่านั้นไม่อย่างนั้นพัง เขาไปกันถึง B-10 B-20 กันแล้วครับหนักกว่า B-5 B-7 อีกครับ Premium หรือ ไม่ Premium ก็พังทั้งนั้นครับช้าหรือเร็วเท่านั้น หรือให้มันไปพังหลังหมดประกันแล้ว และมาสด้าก็ไม่รับผิดชอบด้วย คิดเอาแล้วกันครับ
          อีกเรื่องคือการ ReGen ผมละนับถือท่านที่ขับรถถึงบ้านแล้วเครื่อง ReGen จะออกไปวิ่งรถจนกว่าเครื่องจะ ReGen เสร็จ ผมเคยวิ่ง กทม - เชียงราย กลางคืน นะครับวิ่งทางยาว ความเร็ว ไม่ต่ำกว่า 120 ตียาวตลอดย้ำนะครับว่ากลางคืนดึก (ไม่ต้องกลัวกล้อง) ซึ่งโดยปกติเครื่องควรจะ ReGen ไปตามปกติ และไม่ควรมีปัญหากับ DPF เลยเพราะใช้รอบเครื่องยนต์สูงอยู่ตลอดทาง แต่ผมเจอไฟ DPF ติด บนเขาระหว่างลำปางไปพะเยา เวลาประมาณ ตี2 ท่านที่เคยวิ่งเส้นนี้จะทราบดีว่าทางช่วงนั้น จะเป็นทางบนเขาบางช่วงมีทำทาง นานๆจะมีรถวิ่งสวนมาซักคันเจอปิกอัพ เจ้าถิ่นแซงมาอย่างดีใจรีบเหยียบตามติดไปทันที ไม่สนแล้วว่าไฟอะไรจะติด พังเป็นพังแล้วไม่จอดดูด้วย ถึงพะเยาจอดนอนปั๊มเช้าค่อยเอาเข้าศูนย์ ที่เล่ามายาวเพื่อจะบอกว่า เครื่องมันมีปัญหาทั้งระบบแหละ ReGen ปกติ วิ่งรถไม่ติดใช้รอบเครื่องสูงตลอด DPF ก็ยังมีปัญหา ReGen ทีก็จะมีน้ำมันดีเซลไหลลงไปผสมกับน้ำมันเครื่องที่ เดี๋ยวระดับน้ำมันเครื่องในอ่างก็จะสูงจนเลยจุดที่กำหนดไว้และคุณภาพของน้ำมันเครื่องที่โดนน้ำมันดีเซลลงไปผสมจะเสื่อมสภาพไปขนาดไหนลองคิดดูแล้วกันครับ น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพเครื่องยนต์ก็จะมีการสึกหรอสูงเมื่อไหร่มันก็พังครับ เร็วหรือช้า อยู่ในระยะประกันหรือหมดประกันแล้วเลือกกันเอาละกันครับ
         ท่านที่ออกมาเชียร์ๆออกมาอวยกันก็รีบๆซื้อมาใช้กันนะครับมาสด้าต้องการลูกค้าอย่างท่านนะครับ

มองกลางสิครับท่าน รถทุกยี่ห้อ ผมเห็นก็มีปัญหาหมดน่ะครับ อยู่ที่ว่ายี่ห้อไหนคนหมั่นเยอะกว่ากัน
.
ส่วนเรื่องdpf ที่เวลาเผา เขม่า ที่บางครั้งมันดันมาเผาตอนถึงบ้านแล้ว ผมต้องยอมขับต่ออีกหน่อย  มันไม่ได้ขึ้นบ่อยๆนะครับ
มันจะเกิดขึ้น เมื่อ กรองเขม่าเริ่มตัน +กับรถตรวจสอบได้ว่า ใช้ความเร็วมาระยะนึงแล้ว ที่ไม่ใช้ ขับๆ-จอดๆ เมื่อเข้าเงื่อนไข dpf ก็เผา
.
ต่อเรื่อง dpf ต่อ รถบ้าอะไรเรื่องมาก ต้องรอให้เผาให้เสร็จก่อน  จริงๆ บางครั้งผมรีบก็ดับเลยจอดเลย เวลาstrat มาเข้าเงื่ิอนไขที่ว่ามันก็เผาต่อครับ
เพียงแต่ ไม่ควรทำบ่อยๆ ----->เรื่องน้ำมันไหลลงอ่างน้ำมันเครื่อง  นานไปอาจจะเจอน้ำดันก็ได้
***อันนี้คือข้อเสีย ที่บางท่านอาจจะยอมรับไม่ได้  แต่มันก็มีข้อดีจนยอมรับข้อเสียอันนี้ได้
 อย่าง M2 ขับแบบผม ได้ เฉลี่ย 22-24 โล/ลิตรตลอด  ซึ่งไม่มียี่ห้อไหนให้ได้  ในขัณะที่ขับแบบเดียวกัน City ผมได้ 12-13 โล/ลิตร เท่านั้น
ยังไม่รวมว่า M2 แรงกว่า ขับนิ่งกว่า มั่นใจกว่าที่ความเร็วสูง  ***   (ซึ่งเรื่องประหยัด อันนี้สำคัญมากสำหรับผม)
.
ส่วนคนที่ใช้เอง เจอปัญหาจริงๆก็เสียใจด้วยครับ ผมแค่มาแชร์ ในส่วนของผมเท่านั้น ไม่อยากให้แอนตี้เกินเหตุครับ ให้ค่ายเล็กค่ายน้อยได้ ผุดได้เกิดบ้าง ไม่งั้นค่ายเจ้าตลาดจะไม่มีการพัฒนา
.
***แต่ถ้าสิ่งที่ผม พิมพ์มา ทำให้บางรบกวนบางท่านหรือทำให้บางท่านไม่สบายใจ ผมขออภัย ไว้ล่วงหน้านะครับ***


คือถ้ามาถึงบ้านแล้วต้องเผาเขม่าต่ออีกผมไม่โอเคแล้วนะทำไมตอนแรกไม่แจ้งตั้งแต่ตอนซื้อ
// เรื่องยาวฟังหน่อยล้ะกัน//
ก่อนหน้านี้ผมเป็น FC Mazda มีตั้งแต่ 2 diesel , cx3 2.0 sp ป้าใช้ 2.2 Diesel
mazda 2 ผมวิ่งไปกลับที่ทำงานตลอดจนอยู่ดีๆวันหนึ่งเครื่องสั่นเร่งไม่ขึ้นก็เข้าศูนย์แก้ปัญหาไป บอกว่าผมไม่เติมพรีเมี่ยมจนต้องเอาบิลมายืนยันตลอดว่าเติมพรีเมี่ยมตลอด
CX3 มีปัยหาจุกจิกมากตั้งแต่พวงมาลัย ช่วงล่างล้อซ้ายเข้าศูนย์ไป 7-8 รอบใน 3 เดือนแก้ไม่หาย ตอนนี้ขายไปแล้ว
ของป้า 2.2 Diesel ไปน้ำดันตรง3 แยกจากนราจะไปถนนสุรวงศ์  ผมต้องขับรถไปรับป้าแล้วรอรถยกมา

ถ้าต้องเอามาเผาเขม่าบ่อยๆสำหรับ Mazda2 ผมไม่โอเคเลยนะบ้านผมอยู่สาทรล้ะมาบอกว่าให้หาเวลาขับไปที่อื่นบ้างไกลๆ วิ่งออกข้างนอกบ้าง สาทรนะออกไปก็ติด นี่ขนาดมีเอาวิ่งไปฟารฺมกุ้งที่ มหาชัยก็ยังเป็นตอนนี้เตรียมจะขายแล้วไม่ไหว ผมตั้งใจซื้อมาสด้ามาสำรองใช้ ในบ้าน เผื่อวันไหนที่ Audi A1 มันมีปัญหาตอนนี้คือพังก่อน A1 อีก // CX3 ก็ขายแล้วเปลี่ยนเป็น CHR 

ปัญหามีหมดแหละครับการ Take Action นี่อีกเรื่องนึงเลยต้องบอกว่าสอบไม่ผ่านมากๆ ถ้าบ้านไม่มีรถหลายคันนี่บอกเลยนะว่าปัญหาใหญ่มาก
หัวข้อ: Re: CX5 skyactiv-D 2.2 ตัวปรับปรุงใหม่ (twin turbo) จะสามารถแก้ปัญหาน้ำดันได้ไหม
เริ่มหัวข้อโดย: extreme ที่ ตุลาคม 31, 2019, 00:17:35
          ท่านที่บอกว่าต้องเติม Premium Diesel ตลอดถึงจะไม่ดัน ผมอยากจะถามว่าใครเป็นคนกำหนดครับว่าต้องเติม Premium Diesel มาสด้าไม่เคยออกมาประกาศนะครับว่า CX-5 Diesel ต้องเติม Premium Diesel เท่านั้นแล้วคนที่เติมแต่ Premium Diesel ก็ดันมาแล้วทั้งนั้น ผมก็อยากให้ มาสด้าออกมาประกาศเลยครับว่า CX-5 Diesel ต้องเติม Premium Diesel เท่านั้นแล้วดูซิว่าจะขายได้กี่คัน ผมยังไม่เห็นมีรถดีเซลยี่ห้อไหนเลยที่บอกว่ารถเขาเติมได้แต่ Premium Diesel เท่านั้นไม่อย่างนั้นพัง เขาไปกันถึง B-10 B-20 กันแล้วครับหนักกว่า B-5 B-7 อีกครับ Premium หรือ ไม่ Premium ก็พังทั้งนั้นครับช้าหรือเร็วเท่านั้น หรือให้มันไปพังหลังหมดประกันแล้ว และมาสด้าก็ไม่รับผิดชอบด้วย คิดเอาแล้วกันครับ
          อีกเรื่องคือการ ReGen ผมละนับถือท่านที่ขับรถถึงบ้านแล้วเครื่อง ReGen จะออกไปวิ่งรถจนกว่าเครื่องจะ ReGen เสร็จ ผมเคยวิ่ง กทม - เชียงราย กลางคืน นะครับวิ่งทางยาว ความเร็ว ไม่ต่ำกว่า 120 ตียาวตลอดย้ำนะครับว่ากลางคืนดึก (ไม่ต้องกลัวกล้อง) ซึ่งโดยปกติเครื่องควรจะ ReGen ไปตามปกติ และไม่ควรมีปัญหากับ DPF เลยเพราะใช้รอบเครื่องยนต์สูงอยู่ตลอดทาง แต่ผมเจอไฟ DPF ติด บนเขาระหว่างลำปางไปพะเยา เวลาประมาณ ตี2 ท่านที่เคยวิ่งเส้นนี้จะทราบดีว่าทางช่วงนั้น จะเป็นทางบนเขาบางช่วงมีทำทาง นานๆจะมีรถวิ่งสวนมาซักคันเจอปิกอัพ เจ้าถิ่นแซงมาอย่างดีใจรีบเหยียบตามติดไปทันที ไม่สนแล้วว่าไฟอะไรจะติด พังเป็นพังแล้วไม่จอดดูด้วย ถึงพะเยาจอดนอนปั๊มเช้าค่อยเอาเข้าศูนย์ ที่เล่ามายาวเพื่อจะบอกว่า เครื่องมันมีปัญหาทั้งระบบแหละ ReGen ปกติ วิ่งรถไม่ติดใช้รอบเครื่องสูงตลอด DPF ก็ยังมีปัญหา ReGen ทีก็จะมีน้ำมันดีเซลไหลลงไปผสมกับน้ำมันเครื่องที่ เดี๋ยวระดับน้ำมันเครื่องในอ่างก็จะสูงจนเลยจุดที่กำหนดไว้และคุณภาพของน้ำมันเครื่องที่โดนน้ำมันดีเซลลงไปผสมจะเสื่อมสภาพไปขนาดไหนลองคิดดูแล้วกันครับ น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพเครื่องยนต์ก็จะมีการสึกหรอสูงเมื่อไหร่มันก็พังครับ เร็วหรือช้า อยู่ในระยะประกันหรือหมดประกันแล้วเลือกกันเอาละกันครับ
         ท่านที่ออกมาเชียร์ๆออกมาอวยกันก็รีบๆซื้อมาใช้กันนะครับมาสด้าต้องการลูกค้าอย่างท่านนะครับ

มองกลางสิครับท่าน รถทุกยี่ห้อ ผมเห็นก็มีปัญหาหมดน่ะครับ อยู่ที่ว่ายี่ห้อไหนคนหมั่นเยอะกว่ากัน
.
ส่วนเรื่องdpf ที่เวลาเผา เขม่า ที่บางครั้งมันดันมาเผาตอนถึงบ้านแล้ว ผมต้องยอมขับต่ออีกหน่อย  มันไม่ได้ขึ้นบ่อยๆนะครับ
มันจะเกิดขึ้น เมื่อ กรองเขม่าเริ่มตัน +กับรถตรวจสอบได้ว่า ใช้ความเร็วมาระยะนึงแล้ว ที่ไม่ใช้ ขับๆ-จอดๆ เมื่อเข้าเงื่อนไข dpf ก็เผา
.
ต่อเรื่อง dpf ต่อ รถบ้าอะไรเรื่องมาก ต้องรอให้เผาให้เสร็จก่อน  จริงๆ บางครั้งผมรีบก็ดับเลยจอดเลย เวลาstrat มาเข้าเงื่ิอนไขที่ว่ามันก็เผาต่อครับ
เพียงแต่ ไม่ควรทำบ่อยๆ ----->เรื่องน้ำมันไหลลงอ่างน้ำมันเครื่อง  นานไปอาจจะเจอน้ำดันก็ได้
***อันนี้คือข้อเสีย ที่บางท่านอาจจะยอมรับไม่ได้  แต่มันก็มีข้อดีจนยอมรับข้อเสียอันนี้ได้
 อย่าง M2 ขับแบบผม ได้ เฉลี่ย 22-24 โล/ลิตรตลอด  ซึ่งไม่มียี่ห้อไหนให้ได้  ในขัณะที่ขับแบบเดียวกัน City ผมได้ 12-13 โล/ลิตร เท่านั้น
ยังไม่รวมว่า M2 แรงกว่า ขับนิ่งกว่า มั่นใจกว่าที่ความเร็วสูง  ***   (ซึ่งเรื่องประหยัด อันนี้สำคัญมากสำหรับผม)
.
ส่วนคนที่ใช้เอง เจอปัญหาจริงๆก็เสียใจด้วยครับ ผมแค่มาแชร์ ในส่วนของผมเท่านั้น ไม่อยากให้แอนตี้เกินเหตุครับ ให้ค่ายเล็กค่ายน้อยได้ ผุดได้เกิดบ้าง ไม่งั้นค่ายเจ้าตลาดจะไม่มีการพัฒนา
.
***แต่ถ้าสิ่งที่ผม พิมพ์มา ทำให้บางรบกวนบางท่านหรือทำให้บางท่านไม่สบายใจ ผมขออภัย ไว้ล่วงหน้านะครับ***


คือถ้ามาถึงบ้านแล้วต้องเผาเขม่าต่ออีกผมไม่โอเคแล้วนะทำไมตอนแรกไม่แจ้งตั้งแต่ตอนซื้อ
// เรื่องยาวฟังหน่อยล้ะกัน//
ก่อนหน้านี้ผมเป็น FC Mazda มีตั้งแต่ 2 diesel , cx3 2.0 sp ป้าใช้ 2.2 Diesel
mazda 2 ผมวิ่งไปกลับที่ทำงานตลอดจนอยู่ดีๆวันหนึ่งเครื่องสั่นเร่งไม่ขึ้นก็เข้าศูนย์แก้ปัญหาไป บอกว่าผมไม่เติมพรีเมี่ยมจนต้องเอาบิลมายืนยันตลอดว่าเติมพรีเมี่ยมตลอด
CX3 มีปัยหาจุกจิกมากตั้งแต่พวงมาลัย ช่วงล่างล้อซ้ายเข้าศูนย์ไป 7-8 รอบใน 3 เดือนแก้ไม่หาย ตอนนี้ขายไปแล้ว
ของป้า 2.2 Diesel ไปน้ำดันตรง3 แยกจากนราจะไปถนนสุรวงศ์  ผมต้องขับรถไปรับป้าแล้วรอรถยกมา

ถ้าต้องเอามาเผาเขม่าบ่อยๆสำหรับ Mazda2 ผมไม่โอเคเลยนะบ้านผมอยู่สาทรล้ะมาบอกว่าให้หาเวลาขับไปที่อื่นบ้างไกลๆ วิ่งออกข้างนอกบ้าง สาทรนะออกไปก็ติด นี่ขนาดมีเอาวิ่งไปฟารฺมกุ้งที่ มหาชัยก็ยังเป็นตอนนี้เตรียมจะขายแล้วไม่ไหว ผมตั้งใจซื้อมาสด้ามาสำรองใช้ ในบ้าน เผื่อวันไหนที่ Audi A1 มันมีปัญหาตอนนี้คือพังก่อน A1 อีก // CX3 ก็ขายแล้วเปลี่ยนเป็น CHR 

ปัญหามีหมดแหละครับการ Take Action นี่อีกเรื่องนึงเลยต้องบอกว่าสอบไม่ผ่านมากๆ ถ้าบ้านไม่มีรถหลายคันนี่บอกเลยนะว่าปัญหาใหญ่มาก

มีเหตุผลครับ มาสด้า ควรจะแจ้งเรื่อง การใช้งานให้ชัดเจน  แต่ถ้ามาสด้าแจ้งว่า ต้องเผาเขม่าให้เสร็จก่อนถึงจะจอดได้  แบบนี้คงเสียยอดบานตะไท
เอาจริงๆ ถ้าบ้านผมอยู่กรุงเทพ คงรับไมไ่ด้เหมือนกัน แต่ด้วยลักษณะที่กรุงเทพต้องเจอรถติดตลอด มันเป็นไปไมไ่ด้เลยเรื่องเผาให้เสร็จ
ซึ่งการจะให้เผาเร็วที่สุด ก็ใช้เวลาน้อยที่สุดคือ 10นาที โดยเข้าเกียร์M รักษาให้รอบที่2000รอบ
ซึ่งนานๆทีผม เขากรุงเทพที เวลาเผาเขม่าก็ไม่เสร้จ ต้องติดไว้ก่อน  ต้องมาเผาตอนออกมาแล้วต่ออีกทุกที
.

แต่บังเอิญโชคดีที่ผมอยู่ต่างจังหวัด (ไม่ใช่ในตัวเมืองด้วย) เลยรับได้กับเงื่อนไข ทีี่เรื่องมาก โดยแลกมากลับการปรับหยัดน้ำมันที่มากกว่า ยี่ห้ออื่นมาก 
อันที่จริงถ้า มาสด้า ไม่ใส่DPF มาซะ คงไม่ค่อยมีปัญหานี้ แต่ถ้าไม่ใส่มาก็ คงไม่ผ่านมาตรฐานไอเสีย
แต่ผมก็ เคยได้ยินว่า BMW ดีเชล ก็มี dpf เหมือนกัน เจอรถติดบ่อยก็มีปัญหาเหมือนกัน อันนี้ได้ฟังมาไม่ทราบว่า จริงเท็จอย่างไร