รู้สึกกันไหม ว่ารถสมัยนี้ เหมือนราคาจะถูกลงครับ

r0u0g0e0k

ต้องเทียบเป็นรุ่นๆคันๆไปครับ อย่างกระบะ ผมว่าเเพงขึ้นมากเลย เเต่ออพชั่นก็มากตาม



เเต่ถ้าเก๋งเล็ก จำได้เลย บ้านผมถอยซีวิคตัวเตารีดมาปี 91-92  ราคา5เเสน กลางๆ-ปลาย  เบาะหนังเทียม กระจกมือหมุน ไม่เซนทรัลล้อค

  ในปัจจุบัน ถ้าผมเอางบนี้ (5เเสนปลายๆ) มาหารถใช้ผมจะใด้ วีออส ยาริส มาสด้า 2 รุ่นล่าง หรือเพิ่มนิด ก็ได้ ซิตี้ +เเจ้ส รุ่นล่างๆ ซึ่งพื้นที่ใช้สอยภายใน สะดวกกกว่า ซีวิคในยุค 92ด้วยซ้ำ เเถม มีกระจกไฟฟ้า เซนทรัลล้อค  พิกัดเครื่องก็เป็น 1,500 cc เท่ากัน อันนี้นับว่า คุ้มค่ากว่าสมัยก่อนมากครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 28, 2012, 02:10:13 โดย r0u0g0e0k »



SignifeR

ที่แน่ๆ แต่ก่อนรถป้ายแดงซื้อยากนะ ต้องมีเงินดาวน์ก้อนใหญ่ๆ ถึงจะออกรถได้ ข้อจำกัดเยอะมาก
แต่เดี๋ยวนี้ มีเงินหลักหมื่นก็ดาวน์รถได้แล้ว


ตรงนี้หรือเปล่า ? ที่ทำให้คนรู้สึกรถถูกลง เหตุผลคือ ครอบครองได้ง่ายขึ้น โดยมีปัจจัยอื่นๆ มากระตุ้นต่อมอยากเยอะแยะ

ส่วนตัวไม่เคยใช้ความรู้สึกในการวัด...แค่ใช้ความรักในการครอบครอง(ดราม่าอีกแระ...)
In Garage Subaru Impreza GDG WRX  y2008 // Nissan March 1.2E y2011



superden

ก็ไม่ถุกนะครับ เพียงแต่เพิ่มออฟชั่นมากขึ้นเลยดูเหมือนถูก และมีeco car มากระตุ้นตลาดรถราคาต่ำ แต่ความจริงสมัยก่อน รถราคา4แสน ก็มีขายกัน เช่น opel  corsa สี่แสนกว่า ก็พอๆกับมิราจเลย  ผมว่ารถมีแววจะแพงขึ้นมากกว่าครับ อีกหน่อยคงต่ำสุด5แสนขึ้นไป 4แสนคงหายาก(หมายถึงรถนั่งขนาดเล็กนะครับ)



firstime911

แพงขึ้นเยอะมากเลยครับ ไม่ได้ถูกเลย
ลองเทียบ cc แรงม้า และหรือ รุ่นดูสิครับ
รถรุ่นเดียวกัน สมัยก่อน ราคา ถูกกว่าครึ่ง
พอเงินบาทปรับราคา รถก็แพงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
พอเงินบาทปรับลง รถไม่ได้ลงตามมา... ยังคงแพงเหมือนเดิม



Ji.Cl.

ถ้ามองที่ปลายทางคือผู้บริโภค มองยังไงๆ ก็ถูกลงนะครับ อย่าเทียบแค่จำนวนเงินสิครับ เทียบด้วยว่าค่าของเงินตอนนั้นเป็นยังไง

เงินล้านตอนนี้กับเงินล้านเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ค่าไม่เท่ากัน มูลค่าที่เท่าเดิม คิดเป็นบาทจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ปีนึงประมาณ 3% (ในความคิดผม)

คือ 100 บาทเมื่อปีที่แล้ว=103 บาทโดยประมาณในปีนี้

แล้วผมยกตัวอย่างเช่น City 1.3EXi เปิดตัวมาราคา 448,000 บาท ในปี 1996

คิดค่าเงินเฟ้อปีละ 3 เปอร์เซนต์ ดอกทบต้นมา 16 ปี จะได้ว่า 448,000 ตอนนั้น = 719,000 ตอนนี้

ซึ่งเท่ากับราคา City 1.5SV ตัวท็อปพอดี



แปลว่าเราซื้อ City 1.3 ใน "มูลค่า" ที่เท่ากับ City ตัวท็อปปัจจุบัน เพียงแค่เป็นคนละช่วงเวลา

แต่เราได้รถที่ใหญ่ขึ้น เบาะผ้าเต็มคันไม่ใช่หนังเทียมปน กระจกไฟฟ้า 4 บานไม่ใช่แค่คู่หน้า

เครื่อง 1.5VTEC ไม่ใช่ 1.3PGM-FI เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีดไม่ใช่ 4

ระบบความปลอดภัยรอบคันไม่ใช่ไม่มีแม้แต่ ABS ฯลฯ ทั้งหมดนี้ "มูลค่า" เท่ากัน



ถ้าไม่มองโครงสร้างภาษี ไม่นับเรื่องดาวน์ต่ำยั่วกิเลส ทั้งหมดทั้งปวง ผมว่า "ราคา" แพงขึ้น ไม่เถียงครับ

แต่ "มูลค่า" มันถูกลงต่างหาก



MoO Cnoe

มันก็ตอบยากนะครับ สำหรับคำถามนี้
ยกตัวอย่างเช่น อุปกรณ์ติดรถยนต์ ชิ้้นสำคัญคือ

วิทยุ สมัยก่อนรถที่ใช้วิทยุเล่นซีดีได้ เครื่องราคาประมาณ 20,000 บาท ราคาขาย 388,000
รถสมัยนี้ติดวิทยุเล่นซีดีได้ เครื่องราคาประมาณ 3,500 บาท ราคาขาย 550,000

มันต้องเทียบหลายๆอย่างเลยล่ะครับ เทียบแค่มูลค่ารถ+ออฟชั่นไม่ได้แน่ๆ
ต้นทุนสินค้าเทคโนโลยีมันถูกลง กำไรมากขึ้น ไปโปะกับส่วนอื่นๆ ถัวไปถัวมา
สรุปสุดท้ายแล้ว บริษัทรถกำไรมากขึ้น แต่ผู้บริโภคซื้อรถมูลค่าเท่าเดิม แต่คุณภาพดีขึ้น

พิมพ์ไปพิมพ์มาก็งงเองเหมือนกันครับ 555



SignifeR

อย่าลืมดอกเบี้ยเงินผ่อนรถในสมัยก่อนด้วยนะครับ แพงกว่านี้เยอะเลย

In Garage Subaru Impreza GDG WRX  y2008 // Nissan March 1.2E y2011