สรุปแล้วรถเล็กก็ไม่ปลอดภัยเท่ารถใหญ่

nakung

Re: สรุปแล้วรถเล็กก็ไม่ปลอดภัยเท่ารถใหญ่
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: มกราคม 11, 2017, 16:41:59 »
รัฐสนับสนุนให้ใช้รถเล็กไม่ใช่หรือ

กระบะรวยจริงถึงซื้อได้เหมือนต่างประเทศก็ดี
กระบะเพื่อการพานิชย์ก็ใช้ในการพานิชย์เท่านั้น



delete

Re: สรุปแล้วรถเล็กก็ไม่ปลอดภัยเท่ารถใหญ่
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: มกราคม 11, 2017, 17:08:50 »
งั้นแนะนำ กระบะ 4 ประตู แล้วแต่ชอบ ขับ4 ไปเลยเผื่อลุย
ติดกันชนARB หน้าหลัง เผื่อมีใครชน หรือชนใคร
ฟิล์มนิรภัย กันทุบกระจก
กันขโมย 3ชั้น 3 ระบบ 3ยี่ห้อ ติดไว้ถ่วงเวลาโจร
ติดสน็อกเกิล ยาง 32 เผื่อไว้ลุยน้ำ
น่าจะปลอดภัยเพียงพอ(รึยัง)

ขำๆนะครับ 555



Re: สรุปแล้วรถเล็กก็ไม่ปลอดภัยเท่ารถใหญ่
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: มกราคม 11, 2017, 17:09:24 »
ถูกต้องครับ

รถเล็ก ถูกออกแบบมาให้ใช้ในเมือง การชนในเมืองอย่างมากก็แค่กันชนบุบ เพราะขับกันไม่เร็วมาก

การที่รถเล็กไปชนกับรถใหญ่  มันก็เป็นเรื่องหลักฟิสิกส์ล้วนๆที่รถเล็กยับแน่นอน



Dark Overlord

Re: สรุปแล้วรถเล็กก็ไม่ปลอดภัยเท่ารถใหญ่
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: มกราคม 11, 2017, 17:22:59 »
สำหรับผมนะ รถเล็กรถใหญ่ มีตังเท่าไหร่ก็ซื้อเท่านั้น

มองในแง่ดี ผมว่า รถเล็ก เราก็ขับระวังหน่อย ขับทางไกลก็อย่าขับเร็ว

หูตาว่องไวให้มาก อะไรเสี่ยงก็เลี่ยง

ถ้าให้ดีมีตังเพิ่มก็ซื้อกระบะสี่ประตูเพิ่มดีกว่าคับ

มีรถสองคันเป็น eco or 1.5 คันหนึ่ง กับกระบะสี่ประตู หรือ PPV อีกคัน ใช้งานได้ครบในงบ ล้านถึงสองล้านครับ

ดีครับ ครบรอบด้านดี



J_Serie5

Re: สรุปแล้วรถเล็กก็ไม่ปลอดภัยเท่ารถใหญ่
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: มกราคม 11, 2017, 17:38:42 »
ถ้าเงินเหลือเป็นผมจะเลือกขับ premium mid size sedan ขึ้นไปครับ เช่น benz e class , bmw serie5 เพราะเคยอยู่วงการแพทย์เจอคนไข้อุบัติเหตุบาดเจ็บ พิการ เสียชีวิตมาเยอะ ดังนั้นรถที่ใช้ผมจะคิดเผื่ออุบัติเหตุร้ายแรงไว้เสมอ รถที่ผมใช้อยู่ถึงจะอายุมาก แต่ความปลอดภัย อัตราเร่งและการเกาะถนนดีกว่ารถราคา 2 ล้าน+ ที่ขายกันตอนนี้ซะอีก ที่ยังใช้อยู่เพราะชอบอัตราเร่ง การเกาะถนน ขับแล้วรู้สึกปลอดภัย และ " limit สูงเมื่อเทียบกับรถเดิมๆทั่วไป เวลาฉุกเฉินไว้ใจได้ "

ผมเองรอดตายมาได้นับครั้งไม่ถ้วนก็เพราะ premium mid size sedan + modify นี่ล่ะครับ ถ้าเป็นรถญี่ปุ่นระดับไม่เกิน2ล้านเจอเหตุฉุกเฉินแต่ละครั้งผมตายไปนานแล้วครับ ดังนั้นจะขับรถระยะทางใกล้หรือไกล ผมยอมขับรถใหญ่ดีกว่าครับ เพราะ " อุบัติเหตุไม่เลือกเวลาและสถานที่ " และคนรอบข้างที่ผมรู้จักแต่ละคนรอดตายจากอุบัติเหตุมาได้เพราะรถยุโรปทั้งนั้นครับ

ผมเองถ้าจะซื้อรถซักคันต้องตอบโจทย์ตามนี้ครับ ( ข้อ1 สำคัญมากที่สุด ไล่ไปเรื่อยๆ )
1. ความปลอดภัยของตัวรถ
2. อัตราเร่ง
3. การเกาะถนน
4. ภาพลักษณ์
5. ราคาอะไหล่

ผมไปอ่านใน link ของ จขกท มา สรุปใจความสำคัญหลักมีดังนี้ รถใหญ่และมีน้ำหนักมากปลอดภัยกว่ารถเล็กที่มีน้ำหนักเบากว่า
Size and weight affect injury likelihood in all kinds of crashes. In a collision involving two vehicles that differ in size and weight, the people in the smaller, lighter vehicle will be at a disadvantage. The bigger, heavier vehicle will push the smaller, lighter one backward during the impact. This means there will be less force on the occupants of the heavier vehicle and more on the people in the lighter vehicle. Greater force means greater risk, so the likelihood of injury goes up in the smaller, lighter vehicle.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 11, 2017, 17:54:58 โดย J_Serie5 »



koko86

Re: สรุปแล้วรถเล็กก็ไม่ปลอดภัยเท่ารถใหญ่
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: มกราคม 11, 2017, 18:52:54 »
ขอบคุณ  จขกท  สำหรับ ข้อมูลดีๆครับ
ตอนแรกไม่คิดว่าจะมีผลมากมายขนาดนี้

สรุปคือ ncap กี่ดาวๆ นี่ได้ประโยชน์ตอนขับชนกำแพง หรือวัตถุคงที่เท่านั้น
ถ้าชนกันแบบนี้เสียเปรียบเห็นๆ



Poppuri

Re: สรุปแล้วรถเล็กก็ไม่ปลอดภัยเท่ารถใหญ่
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: มกราคม 11, 2017, 19:23:36 »
ถ้าภาครวมผมเห็นด้วยนะคับ แต่สำหรับผมเองก็คงมีแนวโน้มว่าจะซื้อ Eco car ขับไปต่างจังหวัดอยู่ดี

คือเรื่องของเรื่องมันอยู่ที่ "งบ" ล้วนๆ
- ถ้างบไม่อั้น ที่บ้านมีลานจอดรถเหลือเฟือ จะซื้อรถกี่คันก็ได้ จะซื้อรถแพงขนาดไหนก็ได้
- ถ้างบไม่อั้น แต่ต้องเลือกซื้อรถได้คันเดียว ผมว่าก็ควรซื้อรถที่ดี
- แต่ถ้างบจำกัด ที่จอดรถน้อย อันนี้ผมมองว่ายังไงหวยต้องออกรถเล็กอยู่แล้ว ที่เหลือก็อยู่ที่ระบบความปลอดภัยแล้วหละที่เราต้องพิจารณา พิจารณาโครงสร้างตัวรถเป็นหลัก แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ "สติ" กับ "ฝีมือ" ถ้าขับสัก 100 หรือ 110 ผมว่ามันเป็นความเร็วที่เหมาสมสำหรับเดินทางไกลแล้ว ไม่ช้าเกินไป และก็ผมว่าอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ อุบัติเหตุก็จะลงลงไปมากแล้วหละคับ

ขนาด ผมว่า B segment นี่ก็ยังโอเค แต่หลายคนอาจจะไม่ชอบเพราะขับแล้ว"เหนื่อย" ก็คงไป C segment ก็ดูน่าจะโอเคดี แต่ผมว่าที่เหมาะจริงๆน่าจะรถยกสูงแหละคับ555+ เพราะตัวอันตรายจริงๆผมว่าส่วนใหญ่เป็นกระบะ ถ้าความสูงไกล้เคียงกันก็น่าจะลดโอกาสการเกย/การปีน/มุดได้ แถมมีข้อได้เปรียบเรื่องถนนคุณภาพ(เนิน)สูง หลุมลึก จั้มคอสะพานระดับที่แม้แต่รถยกสูงยังจั้มจนยางลงไปสีกับตัวถังได้ หรืออาจจะเจอออฟโร๊ดบ้าง(เพราะทำถนนใหม่) ลูกระนาดที่แบบ"จะสูงไปไหน" พบได้ตามทางหลวงชนบททั่วไป...

คือพูดง่ายๆอะบางที่ออกแบบยังกะให้รถกระบะขับอย่างเดียว ถ้าเป็นรถใหญ่หรือยกสูงจะได้เปรียบ ขับง่ายขึ้นเยอะ



Impulse

Re: สรุปแล้วรถเล็กก็ไม่ปลอดภัยเท่ารถใหญ่
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: มกราคม 11, 2017, 19:37:33 »
มีสถิติที่มองอีกด้านออกไปของ consumer reportครับ

http://www.consumerreports.org/cro/news/2015/12/cheap-cars-you-shouldn-t-get-your-teen-driver-for-the-holidays/index.htm

ถ้าบวกกันยังไง ใหญ่กว่าก็ดีกว่าแน่นอน
แต่พวกรถยกสูงตัวใหญ่หนัก เสียหลักง่ายกว่าคุมยากกว่า




jaesz

Re: สรุปแล้วรถเล็กก็ไม่ปลอดภัยเท่ารถใหญ่
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: มกราคม 11, 2017, 19:42:57 »
มีสถิติที่มองอีกด้านออกไปของ consumer reportครับ

http://www.consumerreports.org/cro/news/2015/12/cheap-cars-you-shouldn-t-get-your-teen-driver-for-the-holidays/index.htm

ถ้าบวกกันยังไง ใหญ่กว่าก็ดีกว่าแน่นอน
แต่พวกรถยกสูงตัวใหญ่หนัก เสียหลักง่ายกว่าคุมยากกว่า

เคยอ่านเหมือนกันครับ

,ผมเน้นขับไม่เกิน100 ใช้ D seg น่าจะพอคุมได้ดีกว่า SUVในรีพอร์ทนั่นอยู่หลายขุมนะครับ



Dark Overlord

Re: สรุปแล้วรถเล็กก็ไม่ปลอดภัยเท่ารถใหญ่
« ตอบกลับ #39 เมื่อ: มกราคม 11, 2017, 20:32:47 »
ถ้าภาครวมผมเห็นด้วยนะคับ แต่สำหรับผมเองก็คงมีแนวโน้มว่าจะซื้อ Eco car ขับไปต่างจังหวัดอยู่ดี

คือเรื่องของเรื่องมันอยู่ที่ "งบ" ล้วนๆ
- ถ้างบไม่อั้น ที่บ้านมีลานจอดรถเหลือเฟือ จะซื้อรถกี่คันก็ได้ จะซื้อรถแพงขนาดไหนก็ได้
- ถ้างบไม่อั้น แต่ต้องเลือกซื้อรถได้คันเดียว ผมว่าก็ควรซื้อรถที่ดี
- แต่ถ้างบจำกัด ที่จอดรถน้อย อันนี้ผมมองว่ายังไงหวยต้องออกรถเล็กอยู่แล้ว ที่เหลือก็อยู่ที่ระบบความปลอดภัยแล้วหละที่เราต้องพิจารณา พิจารณาโครงสร้างตัวรถเป็นหลัก แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ "สติ" กับ "ฝีมือ" ถ้าขับสัก 100 หรือ 110 ผมว่ามันเป็นความเร็วที่เหมาสมสำหรับเดินทางไกลแล้ว ไม่ช้าเกินไป และก็ผมว่าอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ อุบัติเหตุก็จะลงลงไปมากแล้วหละคับ

ขนาด ผมว่า B segment นี่ก็ยังโอเค แต่หลายคนอาจจะไม่ชอบเพราะขับแล้ว"เหนื่อย" ก็คงไป C segment ก็ดูน่าจะโอเคดี แต่ผมว่าที่เหมาะจริงๆน่าจะรถยกสูงแหละคับ555+ เพราะตัวอันตรายจริงๆผมว่าส่วนใหญ่เป็นกระบะ ถ้าความสูงไกล้เคียงกันก็น่าจะลดโอกาสการเกย/การปีน/มุดได้ แถมมีข้อได้เปรียบเรื่องถนนคุณภาพ(เนิน)สูง หลุมลึก จั้มคอสะพานระดับที่แม้แต่รถยกสูงยังจั้มจนยางลงไปสีกับตัวถังได้ หรืออาจจะเจอออฟโร๊ดบ้าง(เพราะทำถนนใหม่) ลูกระนาดที่แบบ"จะสูงไปไหน" พบได้ตามทางหลวงชนบททั่วไป...

คือพูดง่ายๆอะบางที่ออกแบบยังกะให้รถกระบะขับอย่างเดียว ถ้าเป็นรถใหญ่หรือยกสูงจะได้เปรียบ ขับง่ายขึ้นเยอะ

ผมว่าไม่ใช่ว่าอีโค่คาร์จะไปต่างจังหวัดไม่ได้เลยซะทีเดียวครับ
มีงบเท่าไหร่ก็เท่านั้น อันนี้เห็นด้วยและเป็นเรื่องสำคัญ
สำหรับผมถ้าอุ่นใจหน่อยก็ Yaris เพราะใหญ่และเป็นญาติ Vios
ผมว่าเราขับแบบไม่ประมาทดีที่สุดครับ ตอนนั้นผมก็ซวย ยอมรับว่าซวยมาก



scotch_fillet

Re: สรุปแล้วรถเล็กก็ไม่ปลอดภัยเท่ารถใหญ่
« ตอบกลับ #40 เมื่อ: มกราคม 11, 2017, 23:25:00 »
แล้ว Mini Cooper ล่ะครับ?
ถือว่าไม่ค่อนปลอดภัยด้วยไหม?



AWD17

Re: สรุปแล้วรถเล็กก็ไม่ปลอดภัยเท่ารถใหญ่
« ตอบกลับ #41 เมื่อ: มกราคม 12, 2017, 00:00:37 »
เพื่อชีวิตคนในครอบครัว ผมว่าผมเลือกไม่ผิด
Suv body onframe หนาๆ
น้ำหนักรถ 2600 (รวมอุปกรณ์ที่ติดเพิ่มไป)
กิโล เครื่องโต
ระบบขับสี่ฟูลทาม
Disc break 4 ล้อ
ระบบ active safety จัดเต็ม
Mazda 323 (sold)
Honda Civic 98 (sold)
Isuzu มังกร ตัวไฟซีน่อน 4x4 (sold)
Honda Accord G8 2.4  mom
Chevrolet colorado cab 2.5 brother
Ford Ranger 2012 wildtrak 3.2 - me
Honda Civic 2012  - me
Honda Jazz 2008 Sv - me
Ford Everest 3.2 + (fox suspension)
Toyota Hilux Revo 2.8 j plus



Slipknot`

Re: สรุปแล้วรถเล็กก็ไม่ปลอดภัยเท่ารถใหญ่
« ตอบกลับ #42 เมื่อ: มกราคม 12, 2017, 02:03:02 »
ใหญ่กว่ายังไงก็ได้เปรียบอยู่แล้วเรื่องปกติ
ผมถึงไม่ค่อยอยากได้รถเล็กๆเท่าไหร่ อย่างน้อยๆก็ขอประมาณC segmentขึ้นไป



SM.

Re: สรุปแล้วรถเล็กก็ไม่ปลอดภัยเท่ารถใหญ่
« ตอบกลับ #43 เมื่อ: มกราคม 12, 2017, 07:05:46 »
รถเล็ก ใช้งานในเมืองเหมาะที่สุด ถ้าจะชน ก็ไม่เสี่ยงเท่า เพราะใช้ความเร็วได้ไม่มากนัก



S6

Re: สรุปแล้วรถเล็กก็ไม่ปลอดภัยเท่ารถใหญ่
« ตอบกลับ #44 เมื่อ: มกราคม 12, 2017, 09:13:19 »
เพิ่งบวกท้ายรถพ่วงมาตอนปีใหม่ โชคดีรถเราหน้ายาวหน่อยเสียบไปเกือบถึงกระจกหน้า ลองเอามาวัดระยะเสียบเทียบกับ Jazz มันแทบจะเลยหน้าเราไปเลย



tubtup

Re: สรุปแล้วรถเล็กก็ไม่ปลอดภัยเท่ารถใหญ่
« ตอบกลับ #45 เมื่อ: มกราคม 12, 2017, 11:17:47 »
ผมใช้รถเล็ก ถ้าถามว่าอยากใช้รถใหญ่หรือเปล่าก็อยากครับ แต่ด้วยเงื่อนไขต่างๆ ก็เลยใช้รถเล็กต่อไป
ส่วนเดินทางต่างจังหวัด ถ้าไม่ได้ทำงาน ผมจับกุญแจมอไซด์อย่างเดียวเลยครับ เอาสะดวก รวดเร็ว แต่ก็เซฟตี้ที่สุดเท่าที่จะทำได้

คิดอย่างเดียว ถ้าเจอเหตุการณ์ ที่คิดว่าเสี่ยง นั้นคือเสี่ยงแล้ว ก็ลดความเร็ว ใช้ความเร็วให้เหมาะสมกับสถานการณ์นั้นๆ

ส่วนอะไรที่คาดไม่ถึง ก็ทำอะไรไม่ได้ครับ คนเราเมื่อถึงคราว หกล้มก็ตายได้ครับ เพราะคิดมาก คงไม่ต้องออกจากบ้าน จิตตกไปเปล่าๆครับ



2k

Re: สรุปแล้วรถเล็กก็ไม่ปลอดภัยเท่ารถใหญ่
« ตอบกลับ #46 เมื่อ: มกราคม 12, 2017, 12:10:25 »
ถ้าเอ่ยถึงมินิแล้วต้องพิจารณาต่อว่ารถที่มาชนมินินั้นมีน้ำนักที่มากกว่ามินิเท่าไหร่? เป็นรถญี่ปุ่นหรือรถยุโรป? เพราะว่าโครงของมินิเค้าก็ใส่ความแข็งมาให้เพื่อรองรับการขับขี่ช่วงล่างที่เอาใจคนขอบขับรถด้วยสิ  :-X
หมาเฝ้าบ้านแจกฟรีจ้า www.dogfindhome.com




tvm

Re: สรุปแล้วรถเล็กก็ไม่ปลอดภัยเท่ารถใหญ่
« ตอบกลับ #47 เมื่อ: มกราคม 12, 2017, 12:42:36 »
ผมว่ามันก็ตามต้นทุนของแต่ละรถล่ะ แต่ละยี่ห้ออยู่ดีครับ
และก็ขึ้นกับความจำเป็นของแต่ละคน



neutrino

Re: สรุปแล้วรถเล็กก็ไม่ปลอดภัยเท่ารถใหญ่
« ตอบกลับ #48 เมื่อ: มกราคม 14, 2017, 18:32:09 »
ใครจะว่ายังไงผมไม่สนใจ สำหรับผม ถ้าตังค์ถึง ผมเลือกเจ้าเทือกเขา เพราะ
1.คันใหญ่
2.ถุงลมรอบคัน(บางกรณี ถ้าไม่มีม่านถุงลมด้านข้างโดนชนข้าง มีสิทธิ์คอหักได้)
3.เรื่องขายต่อราคาตก,ศูนย์บริการผมมองว่าไม่สำคัญเท่าความปลอดภัยในชีวิต



bingoman

Re: สรุปแล้วรถเล็กก็ไม่ปลอดภัยเท่ารถใหญ่
« ตอบกลับ #49 เมื่อ: มกราคม 15, 2017, 14:06:29 »
แสดงว่าคนซื้อMini Cooperไม่กลัว หรือไม่ก็ยอมรับได้

Mini Cooper เป็นรถเล็ก แต่น้ำหนักไม่น้อยนะครับ

คันเท่า March แต่น้ำหนักเท่า Sylphy, CIvic  ก็คือประมาณ 1200 kg +-