คิดว่า รถยนต์กระบะ จะมี ดีเซล หรือ เบนซิน ไปอีกประมาณกี่ปี?

DiKiBoyZ

เพื่อนๆ สมช. คิดว่าเทรนของรถยนต์กระบะโลก(รวมไทยด้วย) จะมีเครื่องยนต์ ดีเซล หรือ เบนซิน ไปอีกประมาณกี่ปี?

ก่อนที่จะถูก replace ด้วย hybrid แบบเต็มๆ หรือ อาจจะไฟ ev เลย

ส่วนตัว เหมือนว่า ปัจจุบันมันกระโดดค่อนข้างเร็วมากในเรื่องเทคโนโลยี รวมไปถึงเครื่องยนต์ด้วย อาจจะไม่เกิน 10 ปีข้างหน้านี้ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในวงการรถยนต์กระบะครั้งใหญ่(หรือป่าว)?



bingoman

กระบะดีเซล คงมีไปเรื่อยๆ ไม่มีสิ้นสุดครับ

แต่กระบะเบนซิน ผมคิดว่าเป็นไปได้ที่จะกลายเป็นกระบะแก๊ส กระบะไฮบริดนะ เพราะกระบะเบนซินมันกินน้ำมันและสมรรถนะนับวันมันจะยิ่งด้อยลง เพราะดีเซลมีแต่แรงขึ้น  แต่เบนซินถ้าจะให้แรงก็ต้องพ่วงเทอร์โบหรือไฟฟ้า ซึ่งราคาก็จะแพง ต้นทุนสูง และความทนทานจะต่ำลง อาจจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นกระบะเบนซินแบบมีตัวช่วยเพิ่ม



Smith686

     ถึงแม้รถกระบะไฟฟ้าจะออกมาขาย  แต่คนที่ใช้รถยนต์กระบะดีเซลหรือเบนซิลอยู่แล้ว  ก็คงใช้ต่อไปจนกว่าจะพังหรือไม่คุ้มค่าที่จะใช้ต่อไป  แต่คิดว่าภายใน 10 ปีคงมีรถยนต์กระบะไฟฟ้าออกมาขายแล้วและค่าบำรุงรักษาของรถยนต์กระบะไฟฟ้าน่าจะต่ำกว่ารถยนต์กระบะดีเซลหรือเบนซิลมาก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 06, 2018, 18:04:42 โดย Smith686 »



kez

  ในไทย เป็น10 ปี



pjs6306

ดูจากเก๋งสิครับไม่เกิดสักที​ ที่เปิดตัวมาขายก็อย่างที่เห็นๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 06, 2018, 14:12:33 โดย pjs6306 »



pladaek

กระบะดีเซลมีไปอีกนานเลยล่ะครับ
ไม่ต้องไปมองตลาดโลกมากนักถ้าเป็นรถกระบะ
เพราะกระบะเมืองไทยคืออันดับต้นๆของโลกแล้ว
งานวิจัยและพัฒนาของกระบะส่วนใหญ่ใช้ข้อมูลจากเมืองไทยนี่แหล่ะ

แต่กระบะเบนซิลนี่สิ เริ่มสูญพันธุ์
ในเรื่องอนาคตอาจจะเป็นเรื่องของกระบะไฮบริด เบนซิล+ไฟฟ้า ก็เป็นได้..
ไม่ได้ขับรถเพื่อทำเวลาที่ดีที่สุด.. แต่ขับรถเพื่อเจอช่วงเวลาที่ดีที่สุด..



whoami

เคยมีข่าวว่าจะมีกระบะค่ายใหญ่ในไทย ทำไฮบริด

แต่ก็ยังเงียบ เพราะงั้นกระบะดีเซลคงอยู่ต่อไปอีกนานมากๆครับ



Altima

กระบะเบนซินจะมีอีก 50+ ปี

กระบะดีเซลอีก20ก็หายแล้วครับ ประเทศไทยจะทำตามeurope ในการแบนรถดีเซล



Tien.W

กระบะดีเซล เชื่อว่า ยังอยู่อีกนาน

เอาเบนซินมาใช้ กินน้ำมันกว่า ดีเซลมากมาย ต้องจับติดแก๊สสถานเดียว ซึ่งถ้า ราคาน้ำมัน ยังอยู่ ณ ปัจจุบัน เบนซิน ในกระบะก็จะค่อยสูญพันธุ์ไปเรื่อย

แต่ถ้า น้ำมันดีดมาอีก เบนซินก็อาจจะกลับมา

ส่วนรถไฮบริด รถไฟฟ้า ผมว่า ยากที่จะมาในกระบะ ... รถขนของ รถคนงานใช้ รถทำมาหากิน ค่าซ่อมต้องถูกสุด ใครก็ต้องซ่อมได้ ไม่ต้องเข้าศูนย์ ซึ่งรถไฮบริด มันไม่ตอบโจทย์ ยกเว้น จะออกมาในรูป PPV หรูๆ รุ่น Top เจ้าของขับเอง ก็อีกเรื่องครับ แต่กระบะตอนเดียว ตามตลาดไท ไม่มีทางครับ



SETTHASART

ถ้าดูจากวัฒนธรรมการใช้กระบะของบ้านเรา รถดีเซล/เบนวิน น่าจะอยู่ไปอีกนาน เพราะใช้กันสมบุกสมบัน ลุยน้ำลุยโคลนกันทั้งนั้น กระบะไฮบริด/ไฟฟ้า น่าจะเกิดในบ้านเรายากครับ ยกเว้นในกลุ่มลูกค้าระดับหรูหรือเสี่ยภูธรที่ไม่ได้ใช้งานหนักอะไรมากมายและมีตังดูแลรักษา ซึ่งคนกลุ่มนี้ก็เป็นกลุ่มเล็กๆของตลาดกระบะบ้านเรา



Nonlamer

เชื่อว่าอีกนานครับ



RockmanJilly005

กระบะดีเซล เชื่อว่า ยังอยู่อีกนาน

เอาเบนซินมาใช้ กินน้ำมันกว่า ดีเซลมากมาย ต้องจับติดแก๊สสถานเดียว ซึ่งถ้า ราคาน้ำมัน ยังอยู่ ณ ปัจจุบัน เบนซิน ในกระบะก็จะค่อยสูญพันธุ์ไปเรื่อย

แต่ถ้า น้ำมันดีดมาอีก เบนซินก็อาจจะกลับมา

ส่วนรถไฮบริด รถไฟฟ้า ผมว่า ยากที่จะมาในกระบะ ... รถขนของ รถคนงานใช้ รถทำมาหากิน ค่าซ่อมต้องถูกสุด ใครก็ต้องซ่อมได้ ไม่ต้องเข้าศูนย์ ซึ่งรถไฮบริด มันไม่ตอบโจทย์ ยกเว้น จะออกมาในรูป PPV หรูๆ รุ่น Top เจ้าของขับเอง ก็อีกเรื่องครับ แต่กระบะตอนเดียว ตามตลาดไท ไม่มีทางครับ

ตามนี้ครับ



lay

รถใหม่  ...คิดว่าอีก15ปีครับ  คิดว่าถึงตอนนั้นรถใช้ ถ่าน อาจได้เปรียบแล้ว...(ถ้าดูจากสถานะการณ์ปัจจุบัน อาจจะดูอืดๆ ติดขัดปํญหามากมาย โดยเฉพาะเรื่องแบต)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 06, 2018, 17:09:07 โดย lay »



koko86

ผมมองว่าเทคโนโลยี เปลี่ยนเร็ว
อนาคตอีกหน่อย ชาร์จเร็วขึ้น สถานีมีมากขึ้นทั่วถึงขึ้น
5 ปี รถกระบะev เริ่มมีให้เห็น
10ปี แพร่หลาย
15ปี ปริมาณกระบะev จะมากกว่าดีเซล

ที่คิดแบบนี้เพราะผมคิดว่าเรื่องโลกร้อนเป็นเรื่องที่ซีเรียส และน้ำท่วมจังหวัดที่ระดับใกล้ๆน้ำทะเลเป็นเรื่องที่น่าจะเกิดขึ้นจริงใน10ปี ถึงตอนนั้นกระแสการลดco2น่าจะมาแรงมากๆจนเลิกใช้รถน้ำมันกันไปเอง

https://www.channelnewsasia.com/news/asia/asia-s-future-cities-can-bangkok-turn-back-the-rising-tide-and-s-7612754
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 06, 2018, 17:31:46 โดย koko86 »



Darkart

กระบะดีเซล ยังอยู่อีกนาน
กระบะระบบแบบไฟและไฮบริด แต่ละค่าย คงซุ้มทำอยู่แล้วครับ
ผู้ไม่มีแผลเป็น คือ ผู้ไม่มีประสบการณ์



youngbear

 8) 8) 8)....ตามกระแสโลก เดาว่า 5-8 ปี จบครับ :-X



Smith686

กระบะดีเซล เชื่อว่า ยังอยู่อีกนาน

เอาเบนซินมาใช้ กินน้ำมันกว่า ดีเซลมากมาย ต้องจับติดแก๊สสถานเดียว ซึ่งถ้า ราคาน้ำมัน ยังอยู่ ณ ปัจจุบัน เบนซิน ในกระบะก็จะค่อยสูญพันธุ์ไปเรื่อย

แต่ถ้า น้ำมันดีดมาอีก เบนซินก็อาจจะกลับมา

ส่วนรถไฮบริด รถไฟฟ้า ผมว่า ยากที่จะมาในกระบะ ... รถขนของ รถคนงานใช้ รถทำมาหากิน ค่าซ่อมต้องถูกสุด ใครก็ต้องซ่อมได้ ไม่ต้องเข้าศูนย์ ซึ่งรถไฮบริด มันไม่ตอบโจทย์ ยกเว้น จะออกมาในรูป PPV หรูๆ รุ่น Top เจ้าของขับเอง ก็อีกเรื่องครับ แต่กระบะตอนเดียว ตามตลาดไท ไม่มีทางครับ

    ผมคิดตรงกันข้ามนะ  รถไฟฟ้าต่างหากทีจุกจิกน้อยกว่ารถที่ใช้เครื่องยนต์  รถไฟ้าใช้มอเตอร์ไฟฟ้าที่เสียยาก ซ่อมง่าย กว่าเครื่องยนต์ของรถยนต์เยอะ  ไม่มีเกียร์  ไม่มีระบบระบายความร้อน  ไม่มีระบบระบายไอเสีย  ไมีมีระบบไอดี  เทอร์โบ



BN`

กระบะในตลาดโลกผมไม่สามารถคาดการณ์ได้ครับว่าจะเป็นไปในทิศทางไหน

แต่สำหรับตลาดในไทย ผมคิดว่าอาจจะมีการ Downsizing และใส่ Turbo เข้าไปแทนครับ

เพราะตอนนี้กระบะ Hybrid หรือ EV อาจจะยังไม่เหมาะกับการใช้งานในไทยครับ

เพราะหลายบริษัทใช้รถกระบะวิ่งส่งของวันนึงเป็นร้อยๆโล คงจะไม่มีเวลามารอชาร์จไฟแน่นอนครับ

แต่ถ้าหาก Nissan นำเทคโนโลยี e-power ใส่กระบะแล้วนำมาขาย บางทีอาจจะเวิร์คก็ได้ครับ



SM.

บ้านเราอีกนานครับ เมืองนอกอาจจะเปลี่ยนก่อน ส่วนเครื่องที่ยังผลิตไม่คุ้ม ก็ส่งมาขายบ้านเรา  ::) ::) ::) ::) ::)



MUK

เมื่อแบตราคาถูก หรือ  เมื่อเสื่อมสภาพ เปลี่ยนในราคาถูกมากๆ แต่ปัจจุบังถึงจะถูกลงก็ยังแพงครับ



Koong

กระบะเบนซินจะมีอีก 50+ ปี

กระบะดีเซลอีก20ก็หายแล้วครับ ประเทศไทยจะทำตามeurope ในการแบนรถดีเซล

ผมว่ายุโรปเขาก็ไม่ได้แบนดีเซลทั้งหมดนะ.  เขาน่าจะแบนเฉพาะในรถเก๋ง เพราะมันไม่จำเป็นต้องใช้ดีเซลก็ได้  แต่พวกรถบรรทุก พวกกระบะ จะแบนให้ไปใช้เบนซินก็คงไม่เหมาะสมนัก



flybigbear

น่าจะอีกนานพอสมควร ถ้าจะแบนกระบะดีเซลตอนนั้น พวกรุ่นอายุ 30อัพ จะอยู่ถึงไหม



natty ib-cm

ในไทยอีกอย่างน้อย 20ปี



Smith686

ผมมองว่าเทคโนโลยี เปลี่ยนเร็ว
อนาคตอีกหน่อย ชาร์จเร็วขึ้น สถานีมีมากขึ้นทั่วถึงขึ้น
5 ปี รถกระบะev เริ่มมีให้เห็น
10ปี แพร่หลาย
15ปี ปริมาณกระบะev จะมากกว่าดีเซล

ที่คิดแบบนี้เพราะผมคิดว่าเรื่องโลกร้อนเป็นเรื่องที่ซีเรียส และน้ำท่วมจังหวัดที่ระดับใกล้ๆน้ำทะเลเป็นเรื่องที่น่าจะเกิดขึ้นจริงใน10ปี ถึงตอนนั้นกระแสการลดco2น่าจะมาแรงมากๆจนเลิกใช้รถน้ำมันกันไปเอง

https://www.channelnewsasia.com/news/asia/asia-s-future-cities-can-bangkok-turn-back-the-rising-tide-and-s-7612754

    ผมก็คิดแบบนี้  ผมคิดว่าภายใน 5 ปีรถไฟฟ้าจะแพร่หลาย  ราคาจับต้องได้  ตอนนี้ผมไม่คิดจะซื้อรถยนต์คันใหม่ เพราะเป็นช่วงท้ายๆของรถยนต์แล้ว  รออีกสัก 5 ปี แล้วข้ามไปซื้อรถไฟฟ้าเลยดีกว่า  รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ขณะนี้ใช้ไปสัก 5-10 ปีคงขายต่อยากเพราะคนจะหันไปซื้อรถไฟฟ้ากันแล้ว  รถที่ใช้เครื่องยนต์จะกลายเป็นของโบราณ  ไม่ต่างจากโทรศัพท์แบบกดปุ่มกับ Smart Phone



DiKiBoyZ

กระบะดีเซล เชื่อว่า ยังอยู่อีกนาน

เอาเบนซินมาใช้ กินน้ำมันกว่า ดีเซลมากมาย ต้องจับติดแก๊สสถานเดียว ซึ่งถ้า ราคาน้ำมัน ยังอยู่ ณ ปัจจุบัน เบนซิน ในกระบะก็จะค่อยสูญพันธุ์ไปเรื่อย

แต่ถ้า น้ำมันดีดมาอีก เบนซินก็อาจจะกลับมา

ส่วนรถไฮบริด รถไฟฟ้า ผมว่า ยากที่จะมาในกระบะ ... รถขนของ รถคนงานใช้ รถทำมาหากิน ค่าซ่อมต้องถูกสุด ใครก็ต้องซ่อมได้ ไม่ต้องเข้าศูนย์ ซึ่งรถไฮบริด มันไม่ตอบโจทย์ ยกเว้น จะออกมาในรูป PPV หรูๆ รุ่น Top เจ้าของขับเอง ก็อีกเรื่องครับ แต่กระบะตอนเดียว ตามตลาดไท ไม่มีทางครับ

    ผมคิดตรงกันข้ามนะ  รถไฟฟ้าต่างหากทีจุกจิกน้อยกว่ารถที่ใช้เครื่องยนต์  รถไฟ้าใช้มอเตอร์ไฟฟ้าที่เสียยาก ซ่อมง่าย กว่าเครื่องยนต์ของรถยนต์เยอะ  ไม่มีเกียร์  ไม่มีระบบระบายความร้อน  ไม่มีระบบระบายไอเสีย  ไมีมีระบบไอดี  เทอร์โบ

โดยส่วนตัว ผมคิดเหมือนกันกับคุณ Smith686 นะครับ

ถ้าเอาเทคโนโลยีรถไฟฟ้า หรือ EV ผมว่ามันไม่มีอะไรซับซ้อนเลยนะครับ มันง่ายกว่าเครื่องยนต์เยอเลย มีแต่มอเตอร์ vs แบตเตอรี่ เท่านั้นเอง ขนาดมอเตอร์ทั่วไป มีปัญหา ช๊อต หรือ ไหม้ เขายังเอามาซ่อม มาพันทองแดงใหม่ ก็ใช้งานต่อได้เลย แต่พอเป็นเครื่องยนต์ ต้องมีชิ้นสุด โน่น นี่ นั้น เยอะไปหมด

ผมว่า คนกลัว หรือ ยังไม่กล้า เพราะรถ EV มันยังไม่ค่อยผ่านมือช่าง และยังไม่จริงจังทางการตลาด และราคายังสูงอยู่ เลยมองว่าซับซ้อนหรือมองว่าไม่ใช่เรื่องง่าย และส่วนหนึ่งผมเป็นระบบไฟฟ้าภายในรถและออฟชั่นต่างๆ ที่มันซับซ้อน คนละส่วนกับระบบขับเคลื่อนมากกว่า

ผมเลยคิดว่า ถ้าวงการช่าง เขาได้ลงมาคลุกคลีกับรถ EV เหมือนที่ทำรถเครื่องยนต์ทุกวันนี้ ผมว่าเขาจะดีใจซะด้วยซ้ำมันซ่อมในส่วนของระบบขับเคลื่อนง่ายกว่าเครื่องยนต์

ผมเคยคิดว่า ถ้ามีการปล่อยรถ EV ในราคาไม่แพง ออกมาในตลาดเยอะๆ เมื่อไหร่ รถกระบะก็จะต้องปรับตัวไปด้วย



udon

คงมีไปเรื่อยๆ แหละครับ จนกว่าจะมีสิ่งที่ดีกว่ามาแทนที่