อ่านแล้วคิดตาม ก็ติดตลกพอควร ..
แบนรถสันดาปในอีก 13ปีข้างหน้า ...
-พลังงานไฟฟ้าในยุโรปมีพร้อมยัง ปัจจุบันแค่แบนรัสเซียเรื่องพลังงานยังชักหน้าไม่ถึงหลังอยู่เลย
-พวกแร่ที่ทำแบตฯเช่น แร่ธาตุ ลิเธียม โคบอลต์ นิกเกิ้ล และแมงกานีส มีมากในเอเซียและส่วนใหญ่มาจากจีน
-ส่วนประกอบหลักของแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน เช่น. ขั้วไฟฟ้า ขั้วแคโทด แอโนด (Anode) ผู้ผลิตเกือบทั้งหมดอยู่ในเอเชีย และส่วนใหญ่อยู่ในจีน
ยุโรปแน่ใจหรือว่าจะเดินทางนี้ ถ้าวันนึงเกิดเหตุการที่ คว่ำบาตรเศรษฐกิจ อเมริกาสั่งให้แบนจีนรัสเซียเข้ามาอีก ตัวเองไหวป่าว ...
อเมริกาเค้ายังไม่ทำแบบนี้เลย เพราะเค้ารู้ว่ามันเสี่ยงน่ะ ...
ราคาของแร่ลิเทียมเพิ่มสูงขึ้นกว่า 2 เท่าในเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ส่วนโคบอลต์ราคาสูงขึ้นกว่า 3 เท่าในเวลา 3 ปี การแย่งชิงทรัพยากรธรรมชาติที่นำมาผลิตแบตเตอรี่รถยนต์มีแต่จะเข้มข้นขึ้น และหากในอนาคตยังไม่มีเทคโนโลยีการผลิตแบตเตอรี่แบบใหม่ ราคาของแร่ทั้งสองคงไม่มีแนวโน้มลดลงแน่ และมันอาจจะแพงกว่าน้ำมันในที่สุด
ป.ล.อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะครับ ถูกผิดอย่างไร คุยกันแต่อย่าด่ากันนะครับ
เรื่องพลังงานไฟฟ้าในยุโรป ที่มาเพิ่มการใช้ก๊าซจากรัสเซียส่วนนึงก็มาจากเรื่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ฟุคุชิม่า ทำให้คน Panic และกดดันรัฐให้เลิกใช้ ตอนนี้น่าจะเป็นโอกาสที่ดีในการนำกลับมาใช้ครับ อย่างสวีเดนนี่ก็ไม่พึ่งก๊าซจากรัสเซียเลย ใช้แต่ Nuclear กับ Renewable
Lithium แหล่งใหญ่สุด 3 อันดับโลกอยู่ใน ชิลี ออสเตรเลีย อาร์เจนตินาครับ
Cobalt นี่แหล่งใหญ่อยู่ในคองโก แบบนำประเทศอันดับสองอย่างรัสเซียไปเป็นสิบเท่าเลย
แหล่งแร่ต่างๆจริงๆก็มีหลายสื่อนำเสนอที่ต่างออกไป ซึ่งข้อมูลที่ผมมี ก็อ่านจากการสืบค้นส่วนนึง ..
ถ้าแร่ต่างๆมีมากใน 3 ประเทศ เช่นชิลี ออสเตรเลีย และอาเจนติน่า แต่ปัจจุบัน ผู้ผลิตแบตเตอรรี่ที่ให้ที่สุดของโลกก็ยังอยู่ในเอเซีย (ข้อมุลตามภาพจาก google )
ดังนั้นประเทศที่มีแร่ ก็ต้องส่งแร่ไปยังประเทศผู้ผลิตถ้าตัวเองยังไม่มีเทคโนโลยีที่จะทำ .. เพราะเช่นนั้น เทสล่า รวมถึงแบรนด์รถยนต์ใหญ่ๆที่ตั้งเป้าผลิตรถไฟฟ้า ถึงแห่ไปสร้างโรงงานที่จีน ก็เพราะแหล่งผลิตแบตอยู่ที่นั่น
และถ้าวันนึง คว่ำบาตรทางการค้าล่ะ .. วันนึงสหรัฐฯสั่งให้ EU ร่วมกันแบนจีน แบบที่แบนรัสเซียล่ะ
ถ้า EU ยังเป็นเด็กน้อยเดินตามอเมริกาอยู่แบบนี้ บอกเลยว่าเสี่ยงมาก