พอดีใช้ E33 อยู่ จะตอบเท่าที่รู้ละกันครับ และจากประสบการณ์ตัวเอง
ของผมเป็นตัว 2.0 GLSi เท่าที่ใช้มา ผมว่าก็เป็นรถที่แข็ง และนิ่งมากที่สุกคันนึง เอาเป็นว่า รถผมสนิมเริ่มเกาะแล้ว ก็ยังกด 150 แบบนิ่งๆ ได้ก็แล้วกัน (แต่หลังๆ ไม่กล้ากด เพราะยางที่ใช้ไม่ค่อยดีแล้ว หลังๆ ขอ 130 พอ) เรื่องการเข้าโค้ง ผมว่าดีกว่ารถรุ่นใหม่ หลายๆ คันแน่นอน อย่างน้อยก็น่าจะดีกว่า Jazz GD, Altis E140,
ของเล่นที่ให้มา ถือว่าเยอะดี (เมื่อเทียบกับยุคนั้น) มีกระจกพับไฟฟ้า ปัดน้ำฝนหลัง (อันนี้รถ 4 ประตูสมัยนี้ ถ้าไม่ได้มาจากญี่ปุ่นไม่มีหรอก Cefiro A31, A32 ยังไม่มีเลย) แต่วิทยุอย่าไปคิดมาก เพราะของติดรถ เป็น Cassette ของ Panasonic ธรรมดาๆ
ปัญหาของรถรุ่นนี้ เท่าที่เจอ คือเรื่องความร้อน คือระบบระบายความร้อน พวกรังผึ้งพวกนี้ ในความรู้สึกผม มันไม่ค่อยทน
Thermosensor ของแอร์ รถรุ่นนี้ มันจะพิลึกกว่าชาวบ้านนิดนึง คือหมุนเลือกอุณหภูมิที่ต้องการไม่ได้! มีแต่ปุ่ม 3 ระดับคือ ปิด ปานกลาง และเปิดเต็มที่ พอมันเก่ามากๆ มันจะเอ๋อ ไม่ทำงานบ้าง อะไรบ้าง ตอนนี้ผมเลยต้องพ่วง Thermo แบบมือหมุนเข้าไปอีกอัน ไม่งั้นแอร์ไม่ตัด น้ำแข็งอุดช่องแอร์แน่ๆ
อ้อ อีกอย่าง รถรุ่นนี้ (และ Mitsubishi ในยุค 90 ที่ใช้เครื่อง 4G โดยทั่วไป) ลิ้นปีกผีเสื้อไม่ทนเท่าไร เรื่องสั่นเรื่องดับ ขอให้บอก (ถ้าไม่ซ่อม)
อืมม ตอนนี้เท่าที่นึกออกก็มีเท่านี้
อ้อ อีกอย่าง อะไหล่หลายชิ้น หายากเหมือนกัน คราวก่อน ชิปจุดระเบิดเสีย จอดทิ้งเป็นอาทิตย์เลย (แต่ถ้าอยู่กทม. ไม่น่ามีปัญหา)
ส่วนอันนี้ความเห็นส่วนตัวครับ
เป็นผม ผมจะตัด 626 ทิ้งก่อนเลย เพราะรถเหลือวิ่งน่าจะน้อยมากแล้ว อะไหล่น่าจะหายากพอสมควร
ต่อมา E33-U12 จำนวนรถน่าจะเหลือพอๆ กัน ในกรณี U12 ผมไม่แน่ใจ แต่ E33 ส่วนใหญ่ น่าจะโดนยกเปลี่ยนเป็น 4G63T ไปเยอะแล้ว เพราะฉะนั้น เครื่องเดิม ยิ่งเป็นตัว SOHC แบบของผม อะไหล่น่าจะเริ่มหายาก ถ้าจะเล่นก็ซื้อมาขับๆ ไป พังก็ยกเครื่องใหม่ซะ ก็จบครับ
แต่ถ้าเป็นผม ผมจะเลือก T171 นะครับ เพราะซ่อมง่าย รถยังมีวิ่งเยอะพอควร อะไหล่น่าจะหาง่ายกว่าเพื่อน ส่วน Accord ก็น่าจะหาอะไหล่ง่าย แต่ผมไม่แน่ใจว่า ค่าซ่อมจะต่างกับ Corona ไหม