อะไรบ้างที่ทำให้รถยุโรป มีสมรรถนะช่วงล่างดีกว่ารถบ้านจากญี่ปุ่น บ้างครับ

RERFz

เท่าที่ลองนึกๆดู น่าจะ
- โช๊คอัพ
- ระบบกับสะเทือน
- ดีไซน์การกระจายน้ำหนักแต่ละล้อ

แล้วถ้าเกิด เรานำ โช๊คอัพ พวกรถยุโรป BMW / BENZ มาใส่รถบ้านจากญี่ปุ่น
จะช่วยเพิ่มสมรรถนะ ได้สูงขึ้น ไล่(ห่างๆ)รถยุโรป ได้บ้างไหมครับ
แบบดีขึ้นกว่าเดิม จากโช็คโรงงานเลย



Alcatraz

อะไรบ้างที่ทำให้รถยุโรป มีสมรรถนะช่วงล่างดีกว่ารถบ้านจากญี่ปุ่น

- ง่ายๆเลย ราคา ถ้าอยากหาความต่างระหว่างรถญี่ปุ่นและยุโรป ทำไมไม่ลองเทียบกับช่วงราคาเดียวกัน
ไม่ต้องไปญี่ปุ่นหรือยุโรปหรอกเอาแค่ทำไม มาชถึงเกาะถนนไม่เท่าแคมรี่ คำตอบเดียวกันเลย


แล้วถ้าเกิด เรานำ โช๊คอัพ พวกรถยุโรป BMW / BENZ มาใส่รถบ้านจากญี่ปุ่น
จะช่วยเพิ่มสมรรถนะ ได้สูงขึ้น ไล่(ห่างๆ)รถยุโรป ได้บ้างไหมครับ

- โช๊คอัพเป็นแค่ส่วนประกอบส่วนนึง มันมีหลายปัจจัย ตั้งแต่การออกแบบ ค่าไดนามิค การลู่ลม ความกว้างยาวของฐานล้อ ระบบขับเคลื่อน
แต่ไม่ใช่อยู่ๆไปถอดโช๊คบีเอ็มมาใส่ซีวิคแล้วจะเกาะเท่าอันนี้ไม่ใช่ละ แค่เอาซีรี่ย์ 5 มาใส่ 3 ก็ไม่ได้แล้ว มีแค่บางรุ่นที่ใช้พื้นฐานการออกแบบเดียวกันอย่าง A class กับ CLA ที่อาจใช้โช๊คอัพร่วมกันได้ แต่ลองสังเกตุดูว่าทั้ง 2 รุ่น ใช้โช๊คอัพเหมือนกันแต่การขับขี่ยังต่างกันอยู่ดี



Slipknot`

มันจะใส่กันได้หรอครับอันนี้ไม่แน่ใจ แต่ถึงใส่ได้ผมว่ามันก็ยังห่างชั้นอยู่เหมือนเดิมนะ

คำว่าช่วงล่างมันมีหลายอย่างที่สัมพันธ์กัน ไม่ใช่แค่ช็อกอัพ+สปริง




jaesz

รถยุโรป ไม่ได้ขับดีกว่ารถญี่ปุ่นทุกคัน

การรวมตัวกันอย่างเหมาะสมของชิ้นส่วนช่วงล่างที่ดี มีองศา องค์ประกอบในตำแหน่งทีถูกต้อง อาศัยความรู้พื้นฐานที่พิสูจน์แล้ว เรียกว่า suspension geometryครับ

ไม่ใช่เอาโช็คสปริงจัดลงไปก็ทำให้รคันนึงขับดีขึ้น



NONT4477

รถอย่าง BMW จะค่อนข้างซีเรียสกับการกระจายน้ำหนักครับ
อย่าง e60 ชิ้นส่วนตัวถังด้านหน้าทำจากอลูมิเนียม รวมถึงชิ้นส่วนช่วงล่างเพื่อลด Unsprung weight (ขออ้างถึง e60 เพราะมีบอกในโบรชัวร์)
ยิ่งพวก 6Series แก้มหน้านี่เล่นใช้พลาสติกกันเลย
รวมไปถึงตำแหน่งวางเครื่องที่พยายามจะวางให้ เยื้องมาทางด้านหลังของเพลาหน้า เพื่อกระจายน้ำหนัก
Top Gear's Biggest FAN!!! (IN MY House)
I'm NAC1701  ^ ^



ichok

ชนิดและวัสดุของช่วงล่าง=จุดยึดเยอะๆก็หนึบเยอะและซ่อมเยอะ
บาลานซ์=ยุโรปมักขับหลังและบาลานซ์ดี ...รึเปล่า เห็นgoftขับหน้าก็ขับดี
จุดศูนย์ถ่วงต่ำ=รถมันเตี้ยมากก็เกาะมากขึ้น ผมเคยใช้E36  เดิมๆยังเตี้ยมาก รถบ้านญี่ปุ่นผมว่าจุดศูนย์ถ่วงยังไม่ต่ำมาก
น้ำหนักตัวรถ(รึเปล่า)=แต่เดี๋ยวนี้ไม่รู้รถยุโรปดูเหมือนเบาขึ้น เคยใช้E39 รู้สึกตัวรถมันหนักมากและรู้สึกมันเกาะถนนเพราะน้ำหนักตัวด้วยส่วนหนึ่ง แต่ไม่ทั้งหมดเพราะไม่งั้นสิบล้อขนดินคงเกาะกว่า แฮะๆ




Pan Paitoonpong

- การเซ็ตน้ำหนักพวงมาลัย
- โช้ค..ซึ่งไม่ใช่แค่แข็งหรือ่อนยังไงแต่ดีไซน์มาเข้าชุดกับสปริงและคำนวณวิถีของการยุบและยืดมาอย่างดี
- สำคัญที่สุดส่วนหนึ่งคือการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ ที่ไม่ใช่แค่ลู่ลม แต่คิดมาอย่างดีว่าตรงไหนลมไหลผ่าน ตรงไหนลมกด ตรงไหน Negative pressure ตรงไหน Positive pressure

รถที่ซิมเปิ้ลที่สุดในแง่นี้คันนึงคือ VW Golf/Vento Mk3. ซึ่งการกระจายน้ำหนักไม่ได้ดีเลิศ ใช้ระบบขับหน้า ใช้ล้อเล็กแค่ 185/60/14 น้ำหนักตัวเบาแค่ 1,130 ก.ก. และโช้คจากโรงงานมานุ่มมากลองขย่มดูได้ แล้วทำไมรถพวกนี้วิ่ง 160-170 นิ่งและมั่นมาก เดินทางไกลไม่เหนื่อยเลย?

ผมว่ารถยุโรปยุคก่อนการลดต้นทุนนั้นใส่ใจเรื่องอากาศพลศาสตร์มาก เอาทุกอย่างไปเทตรงนั้นจนต้นทุนการพัฒนามันสูง ในยุคหลังๆจึงหันมาทำแบบรถญี่ปุ่นคือ "เล่นที่โช้คกับสปริง" มากขึ้น และ "เล่นกับแอโร่ฯ" น้อยลง
- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8



soklong

แล้วพวก. Camry. Teana. Accord.   ขับสัก 150-160.  น่ากลัวกว่า
Bmw 3.   หรือ. Bm C  มากไหม่ครับ



joe560-4

ถ้าญี่ปุ่นตั้งใจทำให้มันดี มันก็ดีได้เหมือนกันนะ ดูอย่าง gtr r35 แรงมากแถมเกาะสุดๆ



raygun

.
.
.
ยุโรปถนนมันยาวครับ ขับถึงกันได้หมด คุณสามารถขับรถจากอิตาลี
ไปถึงเยอรมันได้เลย เพราะฉะนั้นเรื่องช่วงล่างเค้าเน้นกันมานานกว่าญี่ปุ่นเยอะ
เพราะคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ใช้รถแต่ในเมืองกันซะเยอะ เค้าถึงเน้นรถคันเล็กประหยัดๆ
ส่วนนึงเป็นเพราะค่าผ่านทางด่วนระหว่างเมืองมันโหดมาก
ขึ้นรถไฟไปคุ้มกว่า เลยไม่ค่อยมีใครใช้รถขับกันทางไกลๆ ไม่เหมือนยุโรป

ความเห็นส่วนตัว BM เด่นมากๆเรื่องการกระจายน้ำหนักและเค้าเน้นสุดๆ
ไปดูได้เกือบทุกรุ่น วางเครื่องจะทะลุเข้าไปในห้องโดยสารอยู่แล้ว
ส่วน MB ผมว่าเค้าเน้นเรื่องแอร์โรไดนามิคที่สุดแล้วตอนนี้ เพราะได้ทั้งเรื่อง
การทรงตัว ความเร็ว และประหยัดเชื้อเพลิง และก็ทำได้ดีมากๆ
ดูอย่าง CLA (แอร์โร่ดีที่สุดในโลก) หรือ W205 ที่ยอมให้เบาะหลังนั่งสบายน้อยลง
เพื่อมาเน้นเรื่องนี้อย่างจริงจังมากๆ



Monn

แล้วพวก. Camry. Teana. Accord.   ขับสัก 150-160.  น่ากลัวกว่า
Bmw 3.   หรือ. Bm C  มากไหม่ครับ

Accord ผม 140 ต้องเหลือบมอง พร้อมถอน เปลี่ยนโช๊คแล้วนะ

Bmw ผมเหยียบแบบลืมดู ไม่รู้สึก มองอีกที 170 รีบถอนเพราะตกใจ แต่มันนิ่งมาก

ยิ่งหากวิ่งแนวมุด การทรงตัวมันคนละเรื่องเลยอะ
S3 - F30
X1 - E84



prokhall

รถญี่ปุ่น มี ดับเบิ้ลวิชโบน กับ มัลติลิ้ง แล้วจบครับ แต่ละยี่ห้อไปปรับตั้งให้นุ่มสบายให้แข็งรถไม่โยนเวลาเข้าโค้ง แต่พื้นๆแล้วก็เหมือนกันครับ
รถยุโรป มีเหมือนกันแต่ไม่จบครับ มีอะไรที่ซับซ้อนเพิ่มกว่ามากครับ มันได้ทั้งนุ่มและไม่โยนเวลาเข้าโค้ง



keanetona

แล้วพวก. Camry. Teana. Accord.   ขับสัก 150-160.  น่ากลัวกว่า
Bmw 3.   หรือ. Bm C  มากไหม่ครับ

เมื่อเทียบ E28 ตอนที่ผมขับนั่นก็อายุ10กว่าปีละ กด160ยังนิ่งๆ เทียบกับ ACV30 กดไป130ก็เสียวๆ และลองสาดโค้งเดียวกัน E28 นิ่งๆ แต่ ACV30 เสียวมาก



TorTy

ถ้าเทียบชนตาม segment จริงๆผมว่าไม่ได้ต่างอะไรมากนะครับเดี๋ยวนี้
คนส่วนใหญ่พอเทียบกับรถยุโรปไปเอา audi bmw benz มาเทียบมันก็เลยดูต่างพอสมควร
รถญี่ปุ่นเอารถตลาดมาเทียบถ้าเทียบ premium ด้วยกันไม่ได้ทิ้งอะไรกันมากเลย



Carrera

ผมเริ่มสงสัยว่า ถ้าเอาพวกรถญี่ปุ่นบ้านๆ หรือเก่าๆ (Impreza GC) ที่พื้นฐานดีระดับนึง ไปทำแบบสุดๆ  ...จะได้เท่าหรือดีกว่าไหมนะ (ไม่พูดถึงงบ  เอาความเป็นไปได้)

เช่นใส่โช๊คดีๆ Ohlins (เคยได้ยินว่า Ohlins หนึบแต่ไม่เด้ง) สปริงดีๆ  ปีกนกอลู ติด Rigid Collar Spot + ค้ำตัวถังเสริมความแข็งแรง  คำนวณดีๆ  เพิ่มหน้ายาง  ฐานล้อ  ลดน้ำหนักตัวถัง(คาร์บอนไฟเบอร์) +ล้อ Forge ยางหน้ากว้าง    ใส่สปอยเลอร์ ปิดแผ่นใต้ท้องเสริมแอโร่ไดนามิกแล้ว  เซตพวงมาลัยดีๆ  เป็นขับสี่แบบ Subaru อะไรแบบนี้ (ไม่นับเรื่องเสียงรบกวน)

เผื่อจะมีใครแบบรักรถรุ่นนั้นจริงๆลงทุนทำทั้งหมด  ผมเลยสงสัยว่ามันเป็นไปได้หรือเปล่า 

ตอนแรกนึกภาพ Juke R แต่คิดไปคิดมาไม่นับดีกว่าเพราะรายนั้นคือ GTR เอาฝาครอบ Juke มาวางทับเฉยๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 07, 2014, 17:07:09 โดย Butterzai »



h22a

เทียบที่ผมใช้อยู่สองคันละกันนะครับ
320i กับ Camry Hybrid 2012

ช่วงลงคอสะพานมอร์เตอร์เวย์ ใกล้เคียงกันมากครับ โดยที่ Camry จะรู้สึกกระแทกน้อยกว่า น่าจะเพราะช่วงยุบอาจจะมากกว่า 320i

โค้งยาวๆบนมอร์เตอร์เวย์ 320i นิ่งกว่า10-20%(เทียบจากความรู้สึก)

ขับเร็วมุดๆ(120+) Camry จะโคลงกว่า 320i ประมาณ 15% โดยที่ผมตั้งสมมุติฐานว่า Camry ใต้ท้องมันสูงกว่า 320i และการกระจายน้ำหนักหน้า:หลัง ยังสู้ 320i ไม่ได้

ทั้งสองคัน ช่วงล่างเดิมๆหมดครับยกเว้นยาง Camry เปลี่ยนจาก 215-55R17 เป็น 215-50R17 เพราะยาง Pilot Sport3 มันไม่มีขนาดตามมาตรฐานรถ(ผมได้ชดเชยความเร็วแล้วในการเทียบกัน)