รถผมอายุกี่ปีครับ คำตอบคือ 22 ปี ผมบอกแล้วครับว่า เมื่อมันถึงเวลาซ่อม ทุกอย่างที่จะเสียหนักๆ มันเสียตอนเข้าอายุ 10 ปี
เกียร์รถผมตอนรถ 15 ปี วิ่ง 3 แสนกว่าโล
เครื่องผมทำเสียเอง เกียร์พังแล้ว เข้า safe mode ฝืนขับต่อ พอถึงบ้านจอดนาน ผมอยู่ ตวจ.รอช่างมาซ่อม ไม่ได้ใช้รถ ปั๊มฯก็พัง ตอนนั้นปี 2554
หน้าปัด1 เสียตอนอายุ 13 ปี หน้าปัด2 เสียตอนรถอายุ 20 ปี ผมได้บอกไปแล้วว่า ทุกอย่าง มันมีเวลาและอายุของมัน
พอผมซ่อมจนจบแล้ว ผมก็ขับมาเป็นปีๆ บำรุงตามระยะทั่วไป ไม่เคยขึ้นรถสไลด์
แบบนี้ผมถือว่าไม่จุกจิกครับ เพราะ ผมเคยเจอที่ จุกจิก กว่านี้ คือ Land Rover Range Rover 4.6 HSE P38
เจอ A4 B5 ไป สำหรับผม ไม่จุกจิกเลยครับ ไฟฟ้าก็ไม่เคยรวน มีรวนก็เวลาแบตใกล้หมดแค่นั้น
คนใช้โฟล์ค ออดี้ จะเข้าใจว่าใช้ประมานนี้ไม่จุกจิกหรอก แต่ถ้าคนไม่เคยใช้รถยุโรปมาก่อน หรือใช้รถญี่ปุ่นเป็นหลักจะคิดว่าจุกจิกครับ คือหลายคนคาดหวังให้มันเป็นแบบโตโยต้า ฮอนด้า ที่ขับๆอย่างเดียว จะเสียก็แค่พวกช่วงล่างที่ซ่อมตามระยะทาง ระบบไฟอย่าให้มันเป็นปัญหา แต่รถยุโรปแทบทุกรุ่นนี้ไม่ใช่แบบนั้นครับ จอไมล์รถยุโรปยุค90นีก็เริ่มดิจิตัลกันหมดแล้ว ผมเห็นจอเสียแทบทุกคันถ้าจะเปลี่ยนถึง2ครั้งผมว่าไม่ใช่เรื่องแปลก ฝั่งญี่ปุ่นยุคนั้นทำจอไมล์ดิจิตัลอย่าง 929 ตอนนั้นก็จุกจิกพอกัน มาวันนี้ก็เสียกันหมด แต่ที่ออดี้มันแย่กว่าก็พวกภายในที่เหนียวกรอบแตกตามอายุเพราะใช้วัสดุรีไซเคิล
และก็เทคโนโลยีเกียร์triptonic ตอนนั้นที่ก้าวหน้าไปกว่าชาวบ้านเค้าแล้วมันไม่ค่อยทนเหมือนเกียร์ออโต้4จังหวะทั่วไป จากการสันนิษฐานของผม ด้วยความที่ในยุโรปคนนิยมเกียร์ธรรมดามากกว่าเลยไม่ได้ทดสอบถึงความทนทานของเกียร์เท่าที่ควรหละมั้ง
สรุปโดยรวม Audi เทคโนโลยีการพัฒนารถก้าวไกลกว่ารถหลายรุ่น ออพชั่นดีๆใส่มาเต็ม แต่ความทนทานผมว่าทนสู้รถญี่ปุ่นทั่วไปไม่ได้ ผมว่ามาแนวBMW หลัง5ปีจะเริ่มมีมาให้ซ่อม ถ้าใช้รถไม่นานรับสภาพราคาขายต่อ กับ การซ่อมบำรุงได้ มีอู่นอกที่พอจะรู้จัก มีรถสำรองอยู่บ้าง ก็เล่นได้ครับ
ตามนี้เลยครับ ผมจับมือสองยุโรปคันแรกก็ A4B5 เลย แล้วตามมาด้วย A6C5 2 คัน ที่ซื้อไม่ใช่อะไรหรอกนะครับ ยอมรับตรงๆเลย ว่าค่าตัวมือสองมันถูกกว่า Benz BMW มาก มากจนน่าจูงใจ
แต่ใช้ไปซ่อมไป ปีนึงคันล่ะก็เกือบแสน มีคันที่ใช้ประจำก็ C5 นี่วิ่งปีล่ะ 5 หมื่น ซ่อมปีนึงไม่เคยต่ำกว่า แสนสองหมื่นบาทเลยครับ ผมเปลี่ยนหมดทุกอย่างแล้ว แรคพวงมาลัย ท่อไอน้ำมัน กล่อง ABS กล่อง Central Lock ซ่อมกลอนประตูหวาน พัดลมไฟฟ้า ปั้มเบนซิน บูชคานหลัง อีกเยอะแยะมากมาย นี่ยังไม่รวมบูรณะภายในที่ต้องบอกตรงๆว่าใช้วัสดุ "แย่" กว่า E39 เยอะมาก
มากเจ็บหนักสุดตอนขายครับ ใช้ต่อก็เบื่อซ่อมแล้ว บ้านก็อยู่ไกลจากอู่ จะ Setup จะ A8 จะ สวนผัก ผมไปมาหมดแล้วครับ จะขายต่อก็ราคายังไม่พอไปดาว์นรถใหม่ญี่ปุ่นป้ายแดงเลยครับ
สุดท้ายขายไปได้ มาใช้ E60 วิ่งไปสามแสนแล้ว บอกตรงๆเลย ดีกว่า Audi เยอะครับ จุกจิกน้อยกว่าเยอะ เจ้า W140 สองคันที่บ้านยังจุกจิกน้อยกว่า Audi เลยครับ
นี่คนใช้จริงนะครับ ไปเช็คใน AudiClubThailand ก็ได้ครับ ผ่านมาแล้ว 3 คัน บอกเลย สี่ห่วง คงไม่ได้ซื้อใช้อีกแล้วครับ