การเซตความนุ่มของช่วงล่าง เกี่ยวข้องกับน้ำหนักรถด้วยไหมครับ

Thanyanon

ขอถามหน่อยครับ การเซตความนุ่มของช่วงล่าง เกี่ยวข้องกับน้ำหนักรถด้วยไหมครับ

อย่างเช่น altis กับ camry  ที่ camry ช่วงล่างนุ่มกว่า เป็นเพราะน้ำหนักรถหนักกว่ารึเปล่าคับ

แต่พอมาคิดอีกประเด็นนึงคือ camry รถหนักกว่า สปริงก็ต้องมีค่าk มากกว่าเพื่อรับน้ำหนักไม่ใช่หรอคับ  และพอสปริงแข็งกว่า โช้คก็ต้องหนืดกว่าเพื่อรั้งสปริงใช่มั้ยครับ  พอมาคิดแบบนี้มันเลยดูเหมือนว่า camryช่วงล่างน่าจะแข็งกว่า  แต่ทำไมที่จริงแล้วcamry ถึงนุ่มกว่าอะคับ

ขอบคุณครับ



kez

 นำ้หนักรถ เป็นปัจจัยในการคำนวน

 ค่า k สปริง ค่าการ rebound ของโช้ค กับเบอร์นำ้มันในโช้ค



flat6

เป็นปัจจัย แต่ไม่ได้แปลว่ารถหนักกว่าต้องนุ่มกว่า หรือ แข็งกว่าครับ
เบื่อเด็กน้อยพึ่งมีรถ



morphling14

น้ำหนักเหนือสปริง, ค่า K สปริง, ความหนืดในการยุบ/ยืด, แก้มยางแข็ง/อ่อน (น่าจะมีมากกว่านี้อีก)  น่าจะมีความเกี่ยวพันกันหมดครับ

รถคันเดิมเปลี่ยนยางที่แก้มนุ่มขึ้นผมเจออาการแก้มยางเต้นยิกๆๆ จนต้องเพิ่มลมยางให้แข็งเพื่อลดการเต้นของแก้มยาง



renew

น้ำหนักมากใด้เปรียบกว่า ทำให้นุ่มง่ายกว่า

   รถคันเดียวกันสังเกต เวลาคนนั่งเต็มทุกที่นั่งจะนุ่มและเกาะดีกว่าตอนมีคนขับคนเดียว



zapdos191

เกี่ยวครับ โดยตรงเลย

จริงๆมันมีสูตรเลยนะครับ อัตราส่วนระหว่าง น้ำหนักเหนือสปริง (Sprung weight) หารด้วยค่า น้ำหนักใต้สปริง (Unsprung weight) ยิ่งค่าต่างกันมาก ยิ่งนุ่มครับ

ส่วนค่า K สปริงจะบอกว่า รถสองคัน คันนึง K มากกว่าอีกคันแล้วจะแข็งกว่า ก็ไม่ถูกครับ เพราะมันต้องดูน้ำหนักที่กดด้วย ถ้าน้ำเยอะยังไงก็ต้องใช้ K spring เยอะเพื่อรับน้ำหนักรถครับ ส่วนนุ่มไม่นุ่มก็ดูว่าน้ำหนักที่สปริงรับไว้มันเหมาะกันหรือเปล่าอีกทีครับ

ส่วนที่เหลือก็การเซทความหนืดของโช้ค การจัดเรียงวาล์วในโช้ค ลักษณะของช่วงล่าง และอื่นๆอีกครับ
-------- Toyota Vios 2003 --------
-------- Subaru WRX STi 2015 --------
-------- Honda Jazz GK5 --------
-------- BMW G20 330i --------
-------- Subaru Impreza WRX STi 2008 (GRF) --------
-------- Subaru Forester XT (SJG) MC --------



Thanyanon

ขอบคุณทุกท่านครับ



onbit40





อันนี้ละเอียดมาก



HeadEgg

น้ำหนักมากใด้เปรียบกว่า ทำให้นุ่มง่ายกว่า

   รถคันเดียวกันสังเกต เวลาคนนั่งเต็มทุกที่นั่งจะนุ่มและเกาะดีกว่าตอนมีคนขับคนเดียว
จริงง ของผมนี่ขับคนเดียวขึ้นลูกระนาด ล้อหลังขึ้นทีเด้งมาก
ถ้านั่งครบ 4 คนนี่ อย่างนุ่มม งงเลย
EK 1996 - D16Y4 AT



YenChar

รถกระบะนี่ยิ่งชัดเลย รถเปล่าๆนี่ดีดเด้งสุดๆ
เปลี่ยนโช๊คก็ไม่ได้ช่วยให้มันนิ่มขึ้น แค่หน่วงแรงดีดลง แต่ยังเด้งๆดีดๆเหมือนเดิม
พอจับน้ำหนักถ่วงท้ายซัก 200 โล นุ่มขึ้นเป็นกอง จบแบบงงๆ



SETTHASART

รถกระบะนี่ยิ่งชัดเลย รถเปล่าๆนี่ดีดเด้งสุดๆ เปลี่ยนโช๊คก็ไม่ได้ช่วยให้มันนิ่มขึ้น แค่หน่วงแรงดีดลง แต่ยังเด้งๆดีดๆเหมือนเดิม พอจับน้ำหนักถ่วงท้ายซัก 200 โล นุ่มขึ้นเป็นกอง จบแบบงงๆ
ดีดน้อยลงแต่ก็ยังแข็งๆตามประสาแหนบครับ ผมก็ถ่วง 200kg ชีวิตดีขึ้นเป็นกอง



Thanyanon

ขอบคุณทุกท่านครับ



zorara

ตัวอย่างคือ
รถคันเก่าผม New City หลังติดแก๊สนี่นิ่มย้วยเลยครับ
น้ำหนักถังแก๊ส ถังเปล่า 40 + แก๊สเต็มถัง 20 รวมกันก็ราวๆ 60 กิโล
พอย้วยมากๆทำให้การขับขี่ แย่ลงด้วย เลยต้องเปลี่ยนสปริงหลังเป็นรุ่น City CNG + โช๊ค KYB New SR

สรุปคือ ปรับค่า K สปริงให้รับกับน้ำหนักรถ และโช๊คให้แข็งขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับสปริง
ถึงจะได้การขับขี่แบบเดิมกลับมา ดีกว่าเดิมด้วยซ้ำครับ

พอเห็นภาพไหมครับ



DiKiBoyZ

ส่วนตัวแยกเรื่อง ความนุ่ม กับ น้ำหนักรถ ออกจาก (จริงอยู่ตอนที่เขาออกแบบหรือคำนวณค่า K ต้องเอาน้ำหนักมาเกี่ยว)

เพราะรถน้ำหนักน้อย ก็มีทั้งช่วงหนุ่ม นุ่ม และ แข็ง

เช่นเดียวกัน รถน้ำหนักเยอะ ก็มีทั้งช่วงล่าง นุ่ม และ แข็ง เหมือนกัน

ดังนั้น ถ้ามองว่า สปริง ที่ทำเพื่อรถรุ่นนั้นๆ (ที่เรียกว่า ตรงรุ่น) เขาคำนวณค่า K ที่จะรองรับน้ำหนักของรถคันนั้นๆ อยู่แล้ว อยู่ที่เลือกว่า จะเอาแบบนุ่ม และ แบบแข็ง ต่างหาก

นอกซะจาก
เอา spring ของรถที่น้ำหนักเยอะกว่า ไปใส่รถที่น้ำหนักน้อยกว่า ผลลัพธ์คือแข็งเกินไป
หรือ
เอา spring รถที่มีน้ำหนักน้อยกว่า ไปใส่รถที่น้ำหนักเยอะกว่า  ผลลัพธ์คือ สปริงยุบตัวมากกว่าปกติ

ส่วนเรื่องกระเด้งกระดอน หรือ เอารถขณะยุบๆ เด้งๆ ในตอนรถวิ่ง ไม่พูดถึง เพราะอันนั้นหน้าที่ของโช้ค

คหสต.



Thanyanon

ขอบคุณทุกท่านครับ