เรื่องประกันของค่ายนิกร เค้ามอบให้ NIKs ดูแล
ราคาจึงออกมาค่อนข้างสูง-สูงมากในบางรายการ
แต่กล้่อง Digital ของผม คือ COOLPIX4500 เคยปุ่มซูมเสีย
เพราะไปกระแทกกับหินตอนปีนลงจากดอยเชียงดาว ค่าเปลี่ยน
เล่นไปสี่พันกว่าๆ แต่ก็ต้องเปลี่ยน (มูลค่ากล้องตอนนั้น 24000) - สมัยนั้นมีแต่ D1 ซื้อไม่ไหวจริงๆ
Nikon D70 ตอนนี้ชัตเตอร์เสีย แต่ไม่ซ่อม เพราะกดไปแสนกว่ารูป
NikonD200-300 ยังไม่เสียเลยครับ เคยเปลี่ยนแต่ยางหุ้มกล้อง
ซึ่งราคาก็ไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่
คือมันสูงมาตั้งแต่คุณพ่อผมเล่น Nikon FE2 เมื่อ 2530 แล้วครับ
แต่สมัยนั้น ซ่อมตามร้านกันเองแบบไม่แคร์สื่อ เพราะเทคโนโลยีซับซ้อนน้อยมากๆ
เลยไม่สนเรื่องศูนย์กัน
จนกระทั่งเข้่าสู่ยุค AUTO FOCUS นั่นแหละ ร้านทั่วไปเลยซ่อมไม่ไหว ถ้าอาการหนักๆ
แต่ตอนนี้เข้าสู่ยุค DIGITAL ที่มีความซับซ้อนทั้งด้านกลไล ด้านซอฟต์แวร์ ฯลฯ
เจ้าไหน ที่เจ้าของค่ายมาทำเอง (เหมือนรถยนต์) มันก็เลยดีกว่าไปโดยปริยาย
อันนี้ก็รอแต่ Nikon จะลุยมาทำเอง ประกันสินค้าหรือะไรๆก็จะดีขึ้น(หรือเปล่า?)
เพราะตอนนี้ นิคส์ ก็ทำตลาดเองอย่างไม่ค่อยมีปัญหาด้านยอดขาย
ปัจจุบัน ผมก็ยังใช้ NIKON อยู่ ยังไม่เปลี่ยน
เพราะส่วนตัวชอบ Controller และ Handling ของนิคอน
มันให้ฟิลลลิ่งคล้ายๆกับกล้องฟิล์ม ยุค Nikon 801s และ 90x
อีกอย่างคือ ความรู้สึก ในสมัยที่นิคอน เปลี่ยนมาใช้เลนส์ AutoFocus
เค้ายังออกแบบให้เลนส์รุ่นโบราณ มาใช้กับกล้อง AUTO ได้
ในขณะที่ canon ทิ้งเมาท์ FD หรือ Minolta Pentax ก็ทิ้งเมาท์เดิมของตน
ก็มี Nikon นี่แหละ ที่มีแคมเปญว่า "ไม่ลืมเพื่อนเก่า" ทำให้ยอดขาย
ในช่วงแรกๆ ดีกว่าเพื่อนพอสมควร
แต่พอต่อมา เมื่อถึงยุค EOS5 และ EOS1 นั่นแหละ ก็ทำให้รู้ว่า การที่
Nikon ไม่ทิ้งเพื่อนเก่า จึงทำให้การพัฒนาด้านความเร็วของการfocus ล้าหลังกว่าเพื่อน
เราจึงไม่ค่อยเห็นช่างภาพกีฬาใช้ Nikon F4 ในขณะที่ เราเห็นเลนส์ขาวของ Canon อยู่เต็มสนาม
แต่ถึงที่บ้านจะใช้ Nikon กันทั้งครอบครัว แต่ในยุคนี้
ผมก็รับ 5D เข้ามาใช้งานด้วยแล้วครับ ซึ่งข้อดีก็มีเยอะ แต่ข้อเสียก็มีเยอะ
ข้อดีเห็นๆคือ ราคาถูกกว่า และคุณภาพที่ใกล้กัน
แต่หลักๆแหละ จะซื้อกล้องซักตัว ไม่ต่างกับซื้อรถยนต์ซักคัน ที่ต้องไปลองๆจับๆถือๆก่อน
มันมีเรื่องจุกจิกที่ต้องทำการบ้านเยอะเหมือนกันนะ
เช่น ผมจะติดเรื่องปุ่ม ปิด เปิด ของ canon ที่ต้องใช้หัวแม่โป้งยืดๆฝืนๆมาปิดๆเปิดๆ
ในขณะที่ Nikon สามารถ ใช้นิ้วชี้เขี่ย เปิดปิดและกดชัตดตอร์ได้ทันที
และการประกอบ และ Build Quality รุ่นล่างๆ ที่ยังสู้ Nikon ไม่ได้
ไปลองก่อนแหละครับ ชอบอันไหน เอาอันนั้น
** ข้อเสีย สำหรับ SONY NEX-5 สำหรับผม มีข้อเดียวที่ใหญ่โตที่สุดคือ
ไม่มีปุ่มเปลี่ยน ISO โดยเวลาจะเปลี่ยนเราต้องเข้าเมนู ซึ่งทำให้การถ่ายรูป
ขาดความสนุกไปบ้าง แต่ mode ISO AUTO ก็พบว่าใช้ได้ดีเหมือนกันครับ
ตอนนี้ น้องชายผมก็ใช้เป็นกล้อง snap ไปแล้ว