ผมมองว่าคอนเซปของ Honda นั้นเค้าต้องการทำรถออกมาโดยเน้น
1. การ Design ที่โฉบเฉียบแบบมีลายเส้นสไตร์ Honda
2. การประหยัดน้ำมัน
3. เน้นความปลอดภัย
4. วัสดุที่ใช้มีราคาถูก(common กับรุ่นอื่นให้มากที่สุด) แต่คุณภาพสูง สามารถรีไซเคิลได้
5. การขับขี่ที่สนุก เร้าใจ คล่องตัว
แต่มุมมองของคนซื้อรถนั้น เน้น
1. Option (กลายเป็นตัวสำคัญอันดับหนึ่งไปแล้ว)
2. คุณภาพในการประกอบ
3. รูปร่างหน้าตา
Honda อาจจะสอบตกเรื่อง Option แต่ถ้ามองในมุมความปลอดภัยนั้น ไม่แพ้ใครแน่ๆ
ผมว่าคนที่คิดเรื่องข้อเสียเรื่อง Option ควรจะไปลองขับดูก่อนไหม ว่าชอบรึเปล่า แล้วค่อยตัดสิน
ผมคิดว่า Option คงจะตามมาหลังจากนี้ เพื่อกระตุ้นตลาด ตอนนี้พวก Produt Planing คงปวดหัวไม่น้อย
1. การ Design ที่โฉบเฉียบแบบมีลายเส้นสไตร์ Honda ----------> อันนี้ไม่ได้ลงทุนอะไรเพิ่มเป็นพิเศษ
2. การประหยัดน้ำมัน ----------> อันนี้เป็นลักษณะเครื่องเค้าอยู่แล้ว ไม่ได้ลงทุนอะไรเพิ่มเป็นพิเศษ
3. เน้นความปลอดภัย ----------> อันนี้ ใส่ Airbag 2 ลูก กับ ABS EBD ทุกรุ่น เพราะ eco car ที่เหลือจะมาเป็น B segment ทั้งหมด ตัวถัง Brio สู้ไม่ได้
4. วัสดุที่ใช้มีราคาถูก(common กับรุ่นอื่นให้มากที่สุด) แต่คุณภาพสูง สามารถรีไซเคิลได้ ----------> อันนี้เรื่องปกติ ค่ายไหนๆ ก็ทำ
5. การขับขี่ที่สนุก เร้าใจ คล่องตัว ----------> set มาให้ดีๆ เรื่องง่ายๆ ไม่ต้องลงทุนอะไร
สรุปถ้าข้อดีคือตามที่คุณ watanachai19 ว่าก็แสดงว่า Honda ยังไม่ยอมลงทุนอะไร ให้กับ Brio รุ่นนี้เลยอยู่ดีครับ ในขณะที่ Nissan ยอมนั่นยอมนี่
เพื่อให้ March พอจะออกมาสู้ในท้องตลาดได้
ประเด็นก็คือ ถ้าคู่แข่งอื่นส่งรถ A segment มาลง eco car เจ้า Brio จะดูสู้ได้สูสีกว่านี้ครับ
หรือ
ถ้าในเมื่อ Honda พอมองเลาๆ ได้แล้วว่าทุกๆ ค่ายจะส่ง B car มาลง eco car Honda สามารถเลือกทำได้สองอย่าง
1) คงแผนเดิมไว้ ออก Brio เป็น A segment เล็กกว่า แต่อัด option จุใจกว่าคู่แข่งออกมา เพื่อไม่ให้ตัวถังกระทบ Jazz และยังสู้คู่แข่ง eco car ได้
2) เปลี่ยนแผนทำรถ B car ออกมาอีกรุ่น ที่มีขนาดเล็กกว่า Jazz อย่างเห็นได้ชัด ยกตัวอย่าง size ขนาด Swift รุ่นที่เพิ่งตกรุ่นในตลาดโลก ลักษณะตัวถังและขนาด
ยังเล็กกว่า Jazz แต่สู้กับ eco car ที่เป็น eco car จากค่ายอื่นได้สบายๆ