ผู้เขียน หัวข้อ: Ecocar VS Watering Car  (อ่าน 15973 ครั้ง)

ออฟไลน์ chatcharwarn

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 488
  • เหยียบคลัช ยัดเกียร์ โว้วววววววว.......
Re: Ecocar VS Watering Car
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: เมษายน 22, 2011, 21:58:43 »
หลับได้ไงกลางวันแสกๆ????

เคยได้ยินมาว่า ถ้าพุ่งชนจนรถเสีย เข็มความเร็วจะค้างตามนั้นหรือเปล่าครับ? ต้องลองตรวจสอบดู
แต่ก็ถือว่าดีทีเดียวครับที่รอดมาได้ คาดเข็มขัดนิรภัยถูกต้องแล้ว

ผมเคยมาแล้วครับ...

กับรถคันนึงที่บ้าน(Vigo 3.0E) ซึ่งก็ขายซากไปแล้ว...

กำลังรีบกลับบ้านครับ หลังจากทำงาน ไม่ได้นอน2คืนเต็มๆ
ตอนนั้นวิ่งมา100 แล้วถอนคันเร่ง แล้วก็วูบหลับไปเลย(แบบ สับปงกน่ะครับ)
สะดุ้งอีกที ก็เห็นท้ายรถคันข้างหน้า(Mighty X) ที่จอดอยู่ข้างทาง
ผมก็กดเบรคเต็มตีน... เสียงเอี๊ยดลั่น(ไม่มีABS, ไม่มีAirbag, ไม่ได้คาดBelt) หักขวา...

ด้านซ้ายหน้าของรถผมซัดกับท้ายด้านขวาของMighty X เต็มๆ

จากจุดที่ผมวูบหลับ จนถึงท้ายรถ Mighty X ประมาณ30-40เมตร
พอชนปุ๊บ รถMighty X กระเด็นขึ้นฟุตบาทริมถนนไปอีกเกือบๆ 10เมตร ชนต้นไม้ข้างทาง แล้วเด้งไหลกลับมาจอดบนถนนเหมือนเดิม
รถผมเอง พอชนปุ๊บ ล้อล๊อคตาย ไถลจากเลนซ้ายสุด มาจอดที่เลนขวาสุด(ถนน 4เลน ไม่มีเกาะกลาง) รอยเบรคลากเป็นทางจนถึงจุดที่จอด

สภาพรถก็เละพอๆ กับเจ้าMarch นี่แหละครับ แต่เสาA ไม่มีปัญหา ประตูเปิด-ปิดได้ปกติ มีแค่เก๊ะ(ช่องเก็บของข้างล่าง) กระเด็นหลุดออกมา ส่วนคอนโซลที่เหลือเหมือนเดิม เข็มความเร็ว 0 วัดรอบ 0 ครับ

ส่วนห้องเครื่อง หม้อน้ำ แบต อะไรก็ตามที่เหนือซุ้มล้อฝั่งคนนั่ง กระจาย... ส่วนเครื่องยังOK

ตัวผมเองไม่ได้คาดBelt ก็กลิ้งอยู่ในรถครับ ช้ำตามตัว(คอ, หลัง, สะโพก) ปากแตก และก็เป็นแผลที่หน้าผากนิดนึง

ปล.ตอนที่ชน แล้วฝากระโปรงทิ่มใส่กระจก ทำให้กระจกร้าวทั้งบาน รู้สึกเหมือนมี"ผง" เหมือนเศษละอองกระจกเล็กๆ ฟุ้งออกมาใส่หน้าเลย
ซึ่งนี่ก็เป็นภาพสุดท้ายก่อนจะหมดสติไป... ครับ

นี่ล่ะนะครับปัญหาพวกชอบจอดขวางเกะกะข้างทางบนถนนซึ่งมีไว้วิ่ง แต่ถือว่าใช้ได้นะครับที่ไม่สาหัส แล้วตอนหมดสตินี่รู้สึกยังไงอ่ะครับ

หลับครับ ไม่รู้สึกอะไรเลย

พอตื่นขึ้นมาก็ งงๆ (ได้ยินเสียงจากข้างนอกเลยว่า ตายยังๆ) เดินจากรถ งงๆ ซักพักก็เริ่มรู้สึกระบมตามตัว เห็นสภาพรถก็แทบล้มทั้งยืนครับ...  :'( :'( :'(

ออฟไลน์ LimitedEdition

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,410
Re: Ecocar VS Watering Car
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: เมษายน 22, 2011, 22:04:55 »
เรียนคุณ Zardus

ผมนำข้อมูลมาให้ชมครับ ขออภัยที่หา 405 ไม่ได้ แต่คิดว่า 406 คงจะปลอดภัยกว่าแน่นอน
แล้วจะได้หมดข้อกังขาว่า ถ้าวันนั้นคุณขับ March ก็คงจะดีเสียยิ่งกว่า

แล้วกรุณางดใช้ภาษาที่เสียดสีท่านอื่นด้วยนะครับ
ที่นี่เราให้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ดังนั้นกรุณารับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
และตอบด้วยภาษาที่สร้างสรรค์ด้วย ไม่ใช่ว่าใครก็ตามที่ไม่เห็นด้วยกับคุณจะต้องเป็นสาวกของรถประเภทนั้นเสมอไป

ออฟไลน์ tyong

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 244
Re: Ecocar VS Watering Car
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: เมษายน 22, 2011, 22:27:22 »
เยี่ยมจริงๆครับ น้องมีนา :)
2019-now: BMW 320D G20
2018-now: MB C250 Coupe AMG
2017-2019: MB GLA200 Urban
2014-2018: BMW F30 328i M Sport
2012-2017: Mini Cooper S R56 look 2

ออฟไลน์ Satanic za'

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,073
Re: Ecocar VS Watering Car
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: เมษายน 22, 2011, 22:32:55 »
เรียนคุณ Zardus

ผมนำข้อมูลมาให้ชมครับ ขออภัยที่หา 405 ไม่ได้ แต่คิดว่า 406 คงจะปลอดภัยกว่าแน่นอน
แล้วจะได้หมดข้อกังขาว่า ถ้าวันนั้นคุณขับ March ก็คงจะดีเสียยิ่งกว่า

แล้วกรุณางดใช้ภาษาที่เสียดสีท่านอื่นด้วยนะครับ
ที่นี่เราให้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ดังนั้นกรุณารับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
และตอบด้วยภาษาที่สร้างสรรค์ด้วย ไม่ใช่ว่าใครก็ตามที่ไม่เห็นด้วยกับคุณจะต้องเป็นสาวกของรถประเภทนั้นเสมอไป

ชัดมาก ขอบคุณมากครับ

ออฟไลน์ YIM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,015
  • ไม่น่ารัก เราไม่มอง!!
    • อีเมล์
Re: Ecocar VS Watering Car
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: เมษายน 22, 2011, 22:35:22 »
น่าจะได้ 4 ดาวอยู่หรอกครับ โครงสร้างห้องโดยสารเสียหายนิดเดียวเอง

ขอบคุณครับ
JDM เท่านั้น จะครองโลก!

ออฟไลน์ benley

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 405
Re: Ecocar VS Watering Car
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: เมษายน 22, 2011, 22:37:26 »
จริงๆผมจะสื่อว่า รถอะไรก็แล้วแต่ ชนที่ 100 มันก็ไม่เหลือหลอกครับ ที่คุณบอกว่า ปลอดภัยผมว่าไม่ได้ชนที่ 100

เพราะ รถ เกือบทุกคันที่เทสการชน มันเทสกันที่ความเร็วแค่ 60 เท่าไหรผมจำไม่ได้ ลองsearch ดูครับ

เห็นว่ามาจากการวิจัยเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ทุกคนจะเหยีบเบรค และ ความเร็วจะลดลงมา เร็วมาก 50% มั้ง เช่นวิ่งมา 120 เหยีบเบรคจมมิด

ความเร็วจะเหลือ 60 ใน แค่ไม่กี่วิ ผมก็อ่านๆมาจาก คุณ Jimmy อะละแต่จำไม่ได้ละที่ไหน เพราะฉะนั้นต่อให้เป็นรถเทพขนาดไหน

เมื่อชนเกินกว่า ที่เค้าเทสๆ กันมันก็ยากที่จะบอกว่าปลอดภัยทั้งนั้นละครับ

ท่าทางจะใช้ Eco Car ใช่ไหม๊น่ะ :o

ผมไม่รู้หรอกนะว่า Goft กับ 405 ใครแข็งกว่ากัน
แต่ถ้าชนที่ความเร็ว 100 ก็คงเป็นแบบนี้แหละ หรือมากกว่า
และไม่ใช่แค่เฉพาะแว่น ที่จะหลุดอย่างเดียวหรอกครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 22, 2011, 22:46:18 โดย benley »

ออฟไลน์ FlavorWheel

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 345
Re: Ecocar VS Watering Car
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: เมษายน 22, 2011, 22:40:17 »
หลับได้ไงกลางวันแสกๆ????

เคยได้ยินมาว่า ถ้าพุ่งชนจนรถเสีย เข็มความเร็วจะค้างตามนั้นหรือเปล่าครับ? ต้องลองตรวจสอบดู
แต่ก็ถือว่าดีทีเดียวครับที่รอดมาได้ คาดเข็มขัดนิรภัยถูกต้องแล้ว

ทางคนขับ March  มียาติดตัวมาด้วย ต้อนที่ผมขอเค้าถ่ายรูปในรถก็มี ซองซิปใส่ยาของโรงพยายบาล
เป็น พวก แก้แพ้แก้อักเสพ น่ะครับ ไม่ได้ อ่านมาก พอเห็นเลย รีบไปบอก คนขับ ว่ายังมีซองยาตก อยู่
ที่วางเท้าคนขับ เหลืออยู่น่ะครับ


หลับในจริงๆครับ เท่าที่ถามจาก พี่เค้ามา
ยิ่ง บ่ายๆ ที่แดดแรงๆ เพิ่งทานข้าวมาไม่นาน แล้วโดนแอร์เย็นๆส่อง  ความเสี่ยงสูงมากๆครับ (ผมก็เคย)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 22, 2011, 23:12:13 โดย FlavorWheel »
รถที่ผ่านมือ มีแต่คนบอกว่า Thumbs Down

'97 Soluna AL50 _'03 Camry ACV30 2.4Q _05'VIGO 3.0 D-cab ECTi
94' Volvo 460 GLT Sold  93' Corolla  AE101 4Auto Sold

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,041
Re: Ecocar VS Watering Car
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: เมษายน 22, 2011, 23:33:08 »
หลับได้ไงกลางวันแสกๆ????

เคยได้ยินมาว่า ถ้าพุ่งชนจนรถเสีย เข็มความเร็วจะค้างตามนั้นหรือเปล่าครับ? ต้องลองตรวจสอบดู
แต่ก็ถือว่าดีทีเดียวครับที่รอดมาได้ คาดเข็มขัดนิรภัยถูกต้องแล้ว

ทางคนขับ March  มียาติดตัวมาด้วย ต้อนที่ผมขอเค้าถ่ายรูปในรถก็มี ซองซิปใส่ยาของโรงพยายบาล
เป็น พวก แก้แพ้แก้อักเสพ น่ะครับ ไม่ได้ อ่านมาก พอเห็นเลย รีบไปบอก คนขับ ว่ายังมีซองยาตก อยู่
ที่วางเท้าคนขับ เหลืออยู่น่ะครับ


หลับในจริงๆครับ เท่าที่ถามจาก พี่เค้ามา
ยิ่ง บ่ายๆ ที่แดดแรงๆ เพิ่งทานข้าวมาไม่นาน แล้วโดนแอร์เย็นๆส่อง  ความเสี่ยงสูงมากๆครับ (ผมก็เคย)
ยาพวกนี้มักจะบอกนะครับว่าถ้ามีฤทธิ์ให้ง่วง ไม่ควรขับรถ ดังนั้นถ้ากินใหม่ๆไม่ขับดีกว่าครับ

ออฟไลน์ YIM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,015
  • ไม่น่ารัก เราไม่มอง!!
    • อีเมล์
Re: Ecocar VS Watering Car
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: เมษายน 23, 2011, 00:00:09 »
ยาแก้แพ้กลุ่ม Anthistamine ใน generation แรกทุกตัว ทำให้ง่วงได้ครับ ไม่ว่าจะเป็น Chlorpheniramine, Dyphenhydramine (Dramamine), Dimenhydrinate, Hydroxyzine (Atarax ตัวนี้ง่วงมากเป็นพิเศษ ขนาด 25 mg ใช้ระงับประสาทได้)

ทางแก้คือ

- ถ้าต้องขับรถ ให้เลี่ยงยาพวกนี้ซะ
- ถ้าจำเป็นให้ไปใช้ยาที่ gen สูงๆ ขึ้น เช่น Cetirizine (Zyrtec), Loratadine (Clarityne), Fexofenadine (Telfast) ซึ่งจะมีโอกาสง่วงน้อยหน่อย แต่ขอเสียคือจะแพงกว่า และลดน้ำมูกได้ไม่ดีครับ
JDM เท่านั้น จะครองโลก!

ออฟไลน์ 2C-T

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 118
Re: Ecocar VS Watering Car
« ตอบกลับ #39 เมื่อ: เมษายน 23, 2011, 09:40:27 »
อยู่ที่มุมการชนด้วยครับถึงจะมาไม่เร็วมากแต่ถ้าไปชนในจุดที่อ่อนที่สุดของรถก็จะเสียหายได้มาก

ดูจากรูปรถไปชนกับคานท้ายรถบรรทุกที่อยู่สูงกว่าก็จะยุบไปค่อนข้างเยอะดีที่มาไม่เร็วมากเลยปลอดภัยครับ
แค่ถ้ามารซ์คันนี้ไปชนท้ายรถเก๋งด้วยกันห้องโดยสารจะดูดีกว่านี้เยอะครับเพราะจะกระจายแรงการชนไปให้รถคันหน้า

ออฟไลน์ jones

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 940
Re: Ecocar VS Watering Car
« ตอบกลับ #40 เมื่อ: เมษายน 23, 2011, 11:15:03 »
เหงแบบนี้แล้วดูน่าใช้ขึ้นมานะนี่
ผู้ชายลัลล๊า อิอิอิ

ออฟไลน์ Zardus

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 293
Re: Ecocar VS Watering Car
« ตอบกลับ #41 เมื่อ: เมษายน 23, 2011, 11:26:53 »
จริงๆผมจะสื่อว่า รถอะไรก็แล้วแต่ ชนที่ 100 มันก็ไม่เหลือหลอกครับ ที่คุณบอกว่า ปลอดภัยผมว่าไม่ได้ชนที่ 100

เพราะ รถ เกือบทุกคันที่เทสการชน มันเทสกันที่ความเร็วแค่ 60 เท่าไหรผมจำไม่ได้ ลองsearch ดูครับ

เห็นว่ามาจากการวิจัยเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ทุกคนจะเหยีบเบรค และ ความเร็วจะลดลงมา เร็วมาก 50% มั้ง เช่นวิ่งมา 120 เหยีบเบรคจมมิด

ความเร็วจะเหลือ 60 ใน แค่ไม่กี่วิ ผมก็อ่านๆมาจาก คุณ Jimmy อะละแต่จำไม่ได้ละที่ไหน เพราะฉะนั้นต่อให้เป็นรถเทพขนาดไหน

เมื่อชนเกินกว่า ที่เค้าเทสๆ กันมันก็ยากที่จะบอกว่าปลอดภัยทั้งนั้นละครับ

ท่าทางจะใช้ Eco Car ใช่ไหม๊น่ะ :o

ผิดแล้วครับผมไม่ได้ใช้ Eco Car ครับ เพียงแต่ไม่อยากให้เข้าใจผิดเรื่องที่เรายังไม่รู้นะครับ

ลองหาอ่านเยอะๆนะครับบทความในเวปเนี้ยมีดีหลายๆเลย

โอเคครับ จะลองศึกษาดูครับ
บุหรี่ เป็นภัยต่อสังคม

เราจะเป็นฮีโร่

ดูด ให้มันหมดโลกไปซะ

ออฟไลน์ delete

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,963
    • อีเมล์
Re: Ecocar VS Watering Car
« ตอบกลับ #42 เมื่อ: เมษายน 23, 2011, 15:16:18 »
หลับได้ไงกลางวันแสกๆ????

เคยได้ยินมาว่า ถ้าพุ่งชนจนรถเสีย เข็มความเร็วจะค้างตามนั้นหรือเปล่าครับ? ต้องลองตรวจสอบดู
แต่ก็ถือว่าดีทีเดียวครับที่รอดมาได้ คาดเข็มขัดนิรภัยถูกต้องแล้ว

ผมเคยมาแล้วครับ...

กับรถคันนึงที่บ้าน(Vigo 3.0E) ซึ่งก็ขายซากไปแล้ว...

กำลังรีบกลับบ้านครับ หลังจากทำงาน ไม่ได้นอน2คืนเต็มๆ
ตอนนั้นวิ่งมา100 แล้วถอนคันเร่ง แล้วก็วูบหลับไปเลย(แบบ สับปงกน่ะครับ)
สะดุ้งอีกที ก็เห็นท้ายรถคันข้างหน้า(Mighty X) ที่จอดอยู่ข้างทาง
ผมก็กดเบรคเต็มตีน... เสียงเอี๊ยดลั่น(ไม่มีABS, ไม่มีAirbag, ไม่ได้คาดBelt) หักขวา...

ด้านซ้ายหน้าของรถผมซัดกับท้ายด้านขวาของMighty X เต็มๆ

จากจุดที่ผมวูบหลับ จนถึงท้ายรถ Mighty X ประมาณ30-40เมตร
พอชนปุ๊บ รถMighty X กระเด็นขึ้นฟุตบาทริมถนนไปอีกเกือบๆ 10เมตร ชนต้นไม้ข้างทาง แล้วเด้งไหลกลับมาจอดบนถนนเหมือนเดิม
รถผมเอง พอชนปุ๊บ ล้อล๊อคตาย ไถลจากเลนซ้ายสุด มาจอดที่เลนขวาสุด(ถนน 4เลน ไม่มีเกาะกลาง) รอยเบรคลากเป็นทางจนถึงจุดที่จอด

สภาพรถก็เละพอๆ กับเจ้าMarch นี่แหละครับ แต่เสาA ไม่มีปัญหา ประตูเปิด-ปิดได้ปกติ มีแค่เก๊ะ(ช่องเก็บของข้างล่าง) กระเด็นหลุดออกมา ส่วนคอนโซลที่เหลือเหมือนเดิม เข็มความเร็ว 0 วัดรอบ 0 ครับ

ส่วนห้องเครื่อง หม้อน้ำ แบต อะไรก็ตามที่เหนือซุ้มล้อฝั่งคนนั่ง กระจาย... ส่วนเครื่องยังOK

ตัวผมเองไม่ได้คาดBelt ก็กลิ้งอยู่ในรถครับ ช้ำตามตัว(คอ, หลัง, สะโพก) ปากแตก และก็เป็นแผลที่หน้าผากนิดนึง

ปล.ตอนที่ชน แล้วฝากระโปรงทิ่มใส่กระจก ทำให้กระจกร้าวทั้งบาน รู้สึกเหมือนมี"ผง" เหมือนเศษละอองกระจกเล็กๆ ฟุ้งออกมาใส่หน้าเลย
ซึ่งนี่ก็เป็นภาพสุดท้ายก่อนจะหมดสติไป... ครับ

นี่ล่ะนะครับปัญหาพวกชอบจอดขวางเกะกะข้างทางบนถนนซึ่งมีไว้วิ่ง แต่ถือว่าใช้ได้นะครับที่ไม่สาหัส แล้วตอนหมดสตินี่รู้สึกยังไงอ่ะครับ

หลับครับ ไม่รู้สึกอะไรเลย

พอตื่นขึ้นมาก็ งงๆ (ได้ยินเสียงจากข้างนอกเลยว่า ตายยังๆ) เดินจากรถ งงๆ ซักพักก็เริ่มรู้สึกระบมตามตัว เห็นสภาพรถก็แทบล้มทั้งยืนครับ...  :'( :'( :'(

พี่เขยผมก็เคยโดนกระบะหลับในเสยท้าย ตอนสี่โมงเย็นครับ
ถนนสี่เลน พี่ผมวิ่งซ้าย ขับ80 ใช้ exior 1.6
เจอสตราด้า พี่แกดันตูดรถพี่ผมลงร่องกลางถนน เหวี่ยงไปฟาดต้นไม้
สตราด้าแค่กันชนหลุด ส่วนรถพี่ผมหน้ายับล้อหลุด ท้านเยิน หลังคายุบ ดีแก๊สไม่ะเบิด พี่ผมคาดเข็มขัดเลยไม่เป็นอะไรแค่เศษกระจกบาด หน้าแดงๆเพราะถุงลม
ราคารถ ณ ตอนนั้นสองแสนกว่า เจอค่าซ่อมแสนเจ็ด ซวยสุดๆ ไม่ได้ไปทำอะไรใคร แต่ต้องเปลี่ยนรถใหม่

ยังไงก็ขอเตือนสติท่านทั้งหลาย ระวังเรื่องหลับในด้วย แม้จะตอนกลางวันก็ตาม

ออฟไลน์ TorTy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,992
Re: Ecocar VS Watering Car
« ตอบกลับ #43 เมื่อ: เมษายน 23, 2011, 17:27:40 »
ถึงจะชนหน้าเต็มซับแรงเต็มที่แต่ได้ขนาดนี้ก็okแล้วรถเล็กขนาดนี้ ;D

ออฟไลน์ H.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,896
    • อีเมล์
Re: Ecocar VS Watering Car
« ตอบกลับ #44 เมื่อ: เมษายน 24, 2011, 03:41:52 »
จากภาพ เอาฝั่งคนนั่งเข้าปะทะ
ถ้ามีผู้โดยสารมาด้วยอาจจะมีคนบาดเจ็บได้เหมือนกันนะครับ

อย่างว่าแหละ หลับใน ถ้าเบรคก่อนคงไม่ยับเยินขนาดนี้
H.

ออฟไลน์ BMW :D

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 134
    • อีเมล์
Re: Ecocar VS Watering Car
« ตอบกลับ #45 เมื่อ: เมษายน 24, 2011, 12:37:12 »
โอ้วมาร์ช
รถในฝัน

โอ้วโน่วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
pajero sport

ออฟไลน์ bankkrab

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 7
    • อีเมล์
Re: Ecocar VS Watering Car
« ตอบกลับ #46 เมื่อ: เมษายน 24, 2011, 13:45:26 »
เรียนคุณ Zardus

ผมนำข้อมูลมาให้ชมครับ ขออภัยที่หา 405 ไม่ได้ แต่คิดว่า 406 คงจะปลอดภัยกว่าแน่นอน
แล้วจะได้หมดข้อกังขาว่า ถ้าวันนั้นคุณขับ March ก็คงจะดีเสียยิ่งกว่า

แล้วกรุณางดใช้ภาษาที่เสียดสีท่านอื่นด้วยนะครับ
ที่นี่เราให้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ดังนั้นกรุณารับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
และตอบด้วยภาษาที่สร้างสรรค์ด้วย ไม่ใช่ว่าใครก็ตามที่ไม่เห็นด้วยกับคุณจะต้องเป็นสาวกของรถประเภทนั้นเสมอไป


+1 ครับ ชอบข้อมูลที่หามาเปรียบกันให้ดู

หวังว่าหลายคนคงจะเลิกหลงรถตัวเองว่าปลอดภัยที่สุด ดีที่สุด รถข้าเจ๋งที่สุด...ไม่ใช่นะครับ รถอะไรก็ตายครับถ้าขับประมาท

คนเราถ้าขับประมาท ขับเท่าไหร่ก็ตายได้ครับ แนะนำว่าขับทั่วๆไป 90-120 ก็พอในทางไกล

ถ้าขับ 140-200 นี่ผมว่าระวังถึงแค่สองที่นะครับ วัด กับ โรงพยาบาล : )
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 24, 2011, 19:34:48 โดย bankkrab »