ขออนุญาตตอบนะครับ
ก่อนอื่น ต้องขอออกตัวก่อนว่า เป็นผู้ใช้รถ แต่ไม่ได้มีความรู้ความชำนาญเกี่ยวกับรถแต่อย่างใด (เป็นแค่ขับกับล้างก็ดีแล้วล่ะโยม
) และขอตอบแบบตามความคิดตัวเอง ซึ่งผู้อื่นอาจเห็นด้วยหรือไม่ก็ได้ และหากไม่เหมาะสม ให้ผู้ดูแล ดำเนินการตามสมควรได้เลยครับ
ก่อนอื่นเลย ถ้ามองในแง่กฏหมาย แน่นอนครับว่า เด็กอายุ ต่ำกว่า 18 ปี ย่อมไม่ได้รับสิทธิให้ทำใบขับขี่รถยนต์ นั่นแปลว่า ไม่ได้รับสิทธิให้ทำการขับขี่รถยนต์ด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นตัดไปได้เลยครับ ว่าจะใช้รถอะไรดี ใช้จักรยาน มอเตอร์ไซค์ รถเมล์ รถสองแถว รถตุ๊กๆ ไปก่อนก็แล้วกัน
แล้วคนอายุ 19-20 ล่ะ? ถ้าในประสบการณ์ผม เพื่อนๆผมครึ่งต่อครึ่ง ใช้รถต่างขนาดกันโดยสิ้นเชิง คือ
ครึ่งนึงนิยมรถเล็ก เช่น โซลูน่า วิออส แจซ ยาริส ซึ่งมีข้อดีคือหาที่จอดง่าย ขับคล่องตัว ราคาไม่แพงมาก กินน้ำมันน้อย(ผมเองก็ใช้วีออส และชอบที่สุดคือหาที่จอดง่าย นี่แหละครับ เพราะผมเป็นคนที่ขับรถเดินหน้าไม่เคยชน แต่ถ้าขับถอยหลังนี่ อาราธณาพระมาแทบหมดองค์การพุทธศาสนาแห่งประเทศไทยเลยครับ พับผ่าสิ!
)
ส่วนอีกครึ่ง นิยมรถใหญ่ขึ้นมาเลย ประเภท คัมรี แอคคอร์ด ซีอาร์วี พวกนี้คือ มีทักษะการหาที่จอดชั้นเทพ เพราะรถของเขาหาที่จอดยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้างสรรพสินค้าและมหาวิทยาลัย และส่วนมาก ผู้ใช้งานจะมีฐานะดีกว่ากลุ่มแรก เพราะรถราคาแพง กินน้ำมันมากกว่า แต่ก็มีข้อดีคือ สามารถไปกันได้หลายคนกว่า และมีความปลอดภัยมากกว่า ในการขับทางไกล ครับ ผมเอง ก็เคยใช้ คัมรี และแอดคอร์ดอยู่บ้างเหมือนกัน ชอบครับ ไปไหนทีขนเพื่อนไปยกแก๊ง แต่ประทานโทษ เวลาถอยจอด ต้องให้ผู้ชำนาญการการถอย (ซึ่งจะกล่าวถึงต่อไป)เป็นคนถอยทุกทีซิเอ้า ไม่งั้นล่ะก็ ไม่ได้ไปเท่ยวไหนหรอก โทรเรียกประกันมาได้ตั้งแต่ตอนคิดจะถอยแล้ว
ส่วนรถขนาดกลางนั้นน้อยคนนักที่จะใช้ครับ ในคณะผม เห็นอยู่ไม่เกิน 5 คัน ในนั้น ก็มี เบนซ์ ซี 200 คอมเพรสเซอร์ของแฟนผมอยู่ด้วย 1 คัน ซึ่งแฟนผมชอบบังคับให้ขับให้ แต่ผมไม่อยากขับเลย ให้ตายสิ ก็อย่างที่บอก เวลาขับเดินหน้าไม่เท่าไร แต่เวลาถอย แค่เจ้าคันนี้ ก็เหมือนใหญ่เกินไปซะแล้ว แต่แฟนผมเค้าก็บอกว่า ไม่ต้องคิดมาก รถเค้าก็เหมือนรถผม ดีมาก จะได้เอาไปจำนำ!
เอาล่ะ ทีนี้หลังจากที่ผมพาออกอ่าวออกทะเลไปหาปลาวาฬกันแล้ว ขอกลับมาเรื่องเด็กอายุ 15-17 อีกก็แล้วกัน เรื่องรถครับ ไม่ใช่เรื่องอย่างอื่น พี่จิมมี่ไม่ต้องน้ำลายไหล นะครับ
ในแง่กฏหมาย ผมได้พูดไปแล้ว แล้วในแง่ความเป็นจริงและประสบการณ์ที่ผมพบมาล่ะ ครับ
จริงอยู่ ที่ว่ากฏหมายเป็นห่วงเยาวชนของชาติ เนื่องจากยังอยู่ในวัยคึกคะนองและบางครั้งขาดสติยั้งคิด
แต่ก็เป็นความจริงที่ว่า เด็กอายุ (บางที่ต่ำกว่า)15-17 ปีบางคนมีทักษะ และมารยาทในการขับขี่ดีกว่าหลายๆคนที่มีใบขับขี่เสียอีก เริ่มที่ตัวผม ซึ่งขับรถตั้งแต่อายุ 16 ปี ถึงแม้ว่าจะเป็นคนที่มีทักษะการขับขี่ที่แย่ที่สุดในกลุ่มเพื่อน แต่ก็ยังไม่เคยทำความเดือดร้อนให้ใครแต่อย่างใด นอกจากกระถางต้นไม้ที่บ้าน และสีของเสาในลานจอดรถที่ห้างเดอะมอลล์ ไม่เคยประสบอุบัติเหตุบนท้องถนน แต่ไม่ใช่แค่นี้ครับ เพื่อนรุ่นน้องผมคนหนึ่ง สามารถขับยานพาหนะมีล้อได้ทุกประเภท ที่ล้ออยู่ติดกับพื้น และขับได้ดีเสียด้วย มาตั้งแต่อายุ 14 และเพื่อนรุ่นน้องคนนี้ แหละครับ ที่ผมให้เขาเป็น ผู้เชี่ยวชาญการถอย เสมอ เวลาผมไปไหนกับเขา (จริงๆแล้ว ส่วนมาก ถ้าไปกับเขา ผมมักนั่งเป็นคุณชายให้เขาขับตั้งแต่ต้นเลยมากกว่า
) เพื่อนคนนี้ ตอนนี้ยานพาหนะ มีล้อมาแล้วหลายอย่าง ในงานจริง เช่น ขับรถกะบะเอากับข้าวที่แม่ทำไปขายไปร้าน ขับรถหกล้อเพื่อบันทุกข้าวของเครื่องใช้ตอนที่เพื่อนอีกคนย้ายบ้าน ไม่นับขับขี่มอเตอร์ไซค์และรถยนต์ไปธุระหรือให้เพื่อนๆและพ่อแม่นั่งแทบจะทุกวัน ตั้งแต่ที่เขาขับรถวันแรกจนถึงปัจจุบัน ไม่เคยประสบอุบัติเหตุเลยแม้แต่ครั้งเดียว และเขาก็ขับได้ดีด้วยนะครับ ไม่ใช่ช้าเป็นเต่ากัดยางแบบผม
ตรงกันข้าม ผู้ใหญ่ที่มีใบขับขี่แล้วเสียอีกที่บางครั้ง ขับขี่ราวกับกลัวไม่เกิดอุบัติเหตุ เช่นชอบเมาแล้วขับ หรือขับปาดซ้ายป่ายขวา ขับจี้ก้น ขับเบียดแบบกวนบาทา ขับแข่งกันบนถนน ฯลฯ ทำให้เกิดความอันตรายและความหวาดเสียวบนท้องถนนอย่างยิ่ง
ผมจึงเห็นว่า แท้จริงแล้ว อายุ ไม่ได้บอกอะไรเรามากมายเลย มันแล้วแต่นิสัยถาวร และการได้รับการศึกษาอบรมสั่งสอนของแต่ละคนมากกว่าครับ ใบขับขี่ ก็เหมือน ป.4 ปืนนั่นแหละ จำกัดอายุได้ จำกัดความประพฤติยาก มันก็เลยมีปัญหาทั้งรถทั้งปืนอยู่เต็มบ้านเต็มเมืองอยู่ในปัจจุบันนี่ไงล่ะครับ
อ้าว สรุปว่าเขาให้พูดเรื่องรถไปถึงไหนเนี่ย ออกอ่าวออกทะเลอีกแล้ว เอาเป็นว่า ถ้ายังไม่โดนท่านผู้ดูแลรำคาญตา วันไหนมีเรื่องไหนที่พอจะคุยด้วยได้บ้าง ผมก็จะมาโม้ให้ฟังอีกแล้วกัน
ขอบคุณทุกความเห็นครับ